ตอนที่ 181 คำสุดท้ายก่อนตาย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 181 คำสุดท้ายก่อนตาย
ต๭นที่ 181 คำสุดท้ายก่อนตาย สองตาของหลี่เฉินเย่นเบิกกว้าง จ้องมองนางราวกับจ้องปีศาจ ทันใดนั้นก็ปะทุเสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่ง "เหลวไหล ผู้หญิงร้ายกาจอย่างเจ้า ข้าไม่ควรพาลงเขามาตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ควรจะจบกับเจ้าตั้งแต่ตอนที่ฝังอาจารย์ไปก่อนหน้านี้เสียด้วยซ้ำ" ฉ่ายเวินมองเขาอย่างสงสาร จากนั้นก็ส่ายหน้าพลางส่งเสียงจุ๊ปาก "ศิษย์พี่ แน่นอนว่าท่านพ่อข้าตายเพราะท่าน ไม่ว่าท่านจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ในตอนแรกที่ท่านจะลงเขา ข้าขอให้ท่านพาข้าลงเขามาด้วย แต่ท่านไม่ยอม บอกว่าท่านพ่อข้าอยู่บนเขาตัวคนเดียวอย่างอ้างว้าง จะให้ข้าอยู่บนเขาให้ได้ แต่ท่านไม่รู้ว่าใจข้าอยากไปกับท่านมากเพียงใด ในเมื่อท่านคิดว่าท่านพ่อข้าต้องการคนอยู่เป็นเพื่อน งั้นก็ได้ ข้าก็เลยส่งเขาไปอยู่กับศิษย์พี่หญิง แบบนั้น พวกเขาจะสามารถพบเจอกันได้ที่อีกโลกหนึ่ง พวกเขาจะได้ไม่อ้างว้างเดียวดาย พวกเขาจะได้อยู่บนผืนได้คอยคุ้มครองพวกเรา" ตอนนั้นหลี่เฉินเย่นจะลงเขา เพราะสำเร็จวิชาแล้ว แน่นอนว่าฉ่ายเวินโวยวายอยากตามเขาลงเขามาด้วย ทว่าเขาห้ามไว้ อาจารย์มีบุตรสาวเพียงคนเดียว ในคราแรกเขาคิดว่าชิงเอ๋อหนีตามอานุ่ยเกอไปแล้ว และเขาก็ต้องลงเขาไป หากแม้แต่ฉ่ายเวินตามเขาลงเขาไปด้วยล่ะก็ อาชจารย์ต้องอยู่อย่างอ้างเปล่าเปลี่ยวในเขามากเป็นแน่ ดังนั้น เขาจึงคัดค้านคำขอของฉ่ายเวินอย่างเด็ดขาด แต่เขานึกไม่ถึงเลยว่าเพียงเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แม้แต่บิดาของตนเองนางก็ไม่ปล่อยไว้ สังหารบิดาและศิษย์พี่หญิง เขาคิดว่าศิษย์น้องคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนเรียบง่ายมาตลอด แท้จริงแล้วเป็นคนที่โหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้เอง เขาส่ายหน้า ไม่อาจจะประจันหน้ากับฉ่ายเวินที่เป็นเช่นนี้ได้ เขารู้ถึงความสิ้นหวังจากกันบึ้งในใจดี ทุกสิ่งอย่างที่ฉ่ายเวินทำล้วนเป็นเพราะเขาทั้งสิ้น อาจารย์ ชิงเอ๋อ โหร่วยเฟย รวมถึงเฉินอวี่จู๋ล้วนตายเพราะเขาทั้งนั้น เขานั่งลงบนพื้น ใช้สายตาคุกรุ่นจ้องมองฉ่ายเวิน "เจ้าว่ามา เล่าเรื่องที่เจ้าทำทั้งหมดออกมา จะได้จากไปอย่างสงบ และทำให้คนที่ยังอยู่รู้สึกเสียใจ" ฉ่ายเวินเอามือกุมหัวใจ กายสั่นเล็กน้อย นางพูดเสียงเบา "ความจริงแล้ว ข้าก็ไม่อยากลงมือกับท่านพ่อ แต่เขาไม่ช่วยข้า ข้าบอกว่าจะลงเขา บอกว่าจะแต่งกับศิษย์พี่ อยากให้เขาช่วยออกปากสั่ง เพราะข้ารู้ว่าหากท่านพ่อออกปากให้ท่านแต่งกับข้า ท่านต้องทำตามอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ยอม เขาบอกว่าชะตาของท่านสูงส่งเกินกว่านจะบรรยายได้ และท่านมีภรรยาที่ชะตาลิขิตเอาไว้แล้ว แต่ข้าไม่ยอม ข้าอยากอยู่เคียงข้างท่าน ข้ารู้ว่าหากเขาตายแล้ว ท่านต้องพาข้าไปด้วย ไม่อาจทิ้งข้าไปบนเขาเพียงลำพัง ดังนั้น ข้าจึงใช้เวลาสิบวัน ค่อย ๆ วางยาลงในอาหารของเขาทีละนิด ต่อมาข้าก็ใช้พิษชนิดนี้กับเฉินอวี่จู๋ พิษชนิดนี้มีชื่อว่าอาวุโสหมื่นปี เพียงแค่ข้าควบคุมปริมาณพิษ คนที่โดนพิษก็จะเพียงแค่อ่อนแอเท่านั้น ไม่มีทางตายเด็ดขาด พิษชนิดนี้ข้าปรุงขึ้นเองกับมือ แม้แต่ท่านพ่อก็ไม่รู้ แน่นอนว่าพวกท่านก็ไม่มีทางรู้เช่นกัน พิษชนิดนี้จะสร้างหนอนกาฝากในร่างกาย จากนั้นก็จะดูดเลือดภายในร่างกายคนจนค่อย ๆ สูญเสียเลือดไปจำนวนมาก สุดท้ายข้าก็แค่วางยาเป็นครั้งสุดท้ายอีกครั้ง เพื่อให้หนอนกาฝากปั่นป่วนจนดูเหมือนป่วยกะทันหันและส่อเค้าให้เห็นสัญญาณแห่งการตาย ข้าคิดว่าท่านพ่อไม่รู้มาตลอด แต่แท้จริงแล้วเขารู้ ทั้งยังทิ้งจดหมายเช่นนี้ไว้ให้หนึ่งฉบับ ศิษย์พี่ ท่านดูสิ ฝีมือการวางยาของข้าเหนือกว่าท่านพ่อแล้ว ท่าภูมิใจในตัวข้าหรือไม่ เขารู้ว่าเขาถูกพิษแล้ว แต่เขาแก้ไขอะไรไม่ได้ เขาไร้วิธีในการขจัดพิษ ครั้งนึ่งชาวเจียงหูเคยมอบให้ฉายาเซียนพิษให้แก่เขา แต่ว่าท่านไม่คิดว่าข้ายอดเยี่ยมกว่าเขาหรอกหรือ" ฉ่ายเวินพูดพร่ำไปมา สติก็ยิ่งเลอะเลือนขึ้นไปทุกที พูดจาสะเปะสะปะไปมา จากนั้นก็พูดอีกว่า "ความจริงข้าก็ตัดใจวางยาเขาครั้งสุดท้ายไม่ลง แต่เขาดันเอ่ยเรื่องที่ท่านจะลงเขาขึ้นมาก่อน เห็นได้ชัดว่าเขามองข้ามความคิดของข้า ข้าเกลียดเขา เกลียดเขามาก ข้าเป็นลูกสาวเขา ทำไมเขาถึงไม่ช่วยข้า ฉะนั้น ข้าเลยวางยาครั้งสุดท้าย ข้าหลบอยู่หลังประตูมองเขาครวญครางอย่างทุกข์ทรมาน ข้าเหมือนกับว่าเห็นหนอนพวกนั้นกัดแทะเลือดเนื้อของเขา เจาะเข้าไปถึงไขกระดูก ชอนไชไปทั่วร่างของเขา พอเจาะเข้าไปถึงอวัยวะภายใน เขาก็กระอักเลือด เลือดที่กระอักลงบนพื้นไม่มีการเกาะกันจนแข็งตัว เพราะข้ารู้ว่าหนอนกาฝากพวกนั้นอยู่ในเลือดนั่น มันดิ้นพล่านไม่หยุด เพียงแต่พวกเรามองไม่เห็นก็เท่านั้น ด้วยเหตุนี้เอง วันถัดมาเขาก็ใกล้ตายแล้ว เขาจับมือของท่าน ฝากฝังข้าไว้กับท่าน ข้ารู้ว่าเป้าหมายของข้าบรรลุแล้ว พอเขาเขาตายแบบนั้น ใจของข้าก็เสียใจมากเช่นกัน ข้าร้องไห้เสียใจอย่างยิ่ง ศิษย์พี่ ท่านพ่อข้าตายแล้ว ตายไปแบบนี้ เขาน่าสงสารยิ่ง ข้ากลายเป็นเด็กกำพร้าแล้ว..." หลี่เฉินเย่นหลุบตาลง น้ำตาแห่งความขมขื่นกลิ้งลงมาจากหางตาของเขา เขาอ้าปากกว้าง สูดหายใจเข้าลึก เสียงครวญครางแห่งความขมขื่นตีตื้นขึ้นมาจากลำคอเขา เขาสะกดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ ในหัวคิดถึงภาพหลังจากอาจารย์ตาย ฉ่ายเวินกอดเขาร้องไห้อย่างเศร้าโศก พูดว่าบนโลกนี้ไม่เหลือญาติมิตรที่ไหนอีกแล้ว ตอนนั้นเขาจับมือนางไว้ ให้นางลงเขามากับเขาด้วยกัน ชั่วชีวิตนี้ของเขาจะดูแลนางเหมือนเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของตน ต่อจากนั้นพอกลับถึงเมืองหลวง ก็ใช้เวลาถึงสองเดือนเต็มถึงทำให้ฉ่ายเวินกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เขาคิดมาตลอดว่าฉ่ายเวินมีความรู้สึกที่ดีต่ออาจารย์มาก เวลาผ่านไปสองสามเดือนแล้วก็ยังไม่อาจลืมเลือนไปจากใจได้ เขาช่างเป็นคนที่โง่ที่สุดในโลก! ชูเซี่ยยากจะซ่อนความตกใจผวาเอาไว้ได้ พอได้ยินฉ่ายเวินสาธยายความเจ็บปวดรวดร้าวครั้งสุดท้ายของบิดาเธอแล้ว นางไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมบนโลกนี้ถึงได้มีเด็กสาวที่จิตใจโหดเหี้ยมขนาดนี้ได้ ในช่วงเวลาที่บิดาของตนกำลังดิ้นรนอยู่ระหว่างความเป็นกับความตายแท้ ๆ ทว่านางกลับแอบซ่อนอยู่ข้างนอกด้านหลังประตู ทั้งยังกระหยิ่มยิ้มย่อง คิดว่าตนเหนือเหนือชั้นกว่าบิดาของตน นี่มันคนหรือหมาป่ากันแน่ ไม่สิ หากนางเป็นหมาป่า ก็ยังเป็นการดูหมิ่นหมาป่าเสียอีก หลี่เฉินเย่นยับยั้งความเจ็บปวดชิงชังและความโกรธแค้นในใจเอาไว้แล้วถามอีกครั้ง "แล้วชิงเอ๋อล่ะ ทำไมเจ้าถึงต้องฆ่านาง" ฉ่ายเวินแสยะยิ้มมุมปาก กล่าวเสียงเบา "ไม่ใช่ว่าท่านรู้ชัดอยู่แล้วหรอกหรือ ท่านไม่รู้ว่าข้าชอบท่านมานานมากแล้ว แต่กลับวิ่งมาบอกกับข้าว่าท่านชอบนาง เพราะนางสวยกว่าข้าอย่างนั้นหรือ ท่านจะชอบนางก็ช่างเถอะ แต่นางรู้อยู่แล้วว่าข้าชอบท่าน กลับวิ่งโร่มาบอกข้าว่าชอบท่านเช่นกัน แล้วข้าจะให้อภัยนางได้อย่างไร สำหรับอานุ่ยเกอ นั่นเป็นความโชคร้ายของเขาเอง เขาไม่ควรปรากฏตัวออกมา เขาเป็นหนึ่งในคนที่ข้าเคยฆ่า เป็นคนที่ไร้ความผิดที่สุด ข้ารู้สึกผิดกับเขามาตลอด อยากเอ่ยคำขอโทษกับเขามาก ตกจากหน้าผาสูงตั้งขนาดนั้น แน่นอนว่าต้องร่างแหลกแหลกละเอียดแน่ เขาไม่สมควรตายเลย!" ดวงตาของฉ่ายเวินพลันมีน้ำตาเอ่อคลอเต็มเย้า จากนั้นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นหยาดน้ำตาหยดย้อยลงมาจากหางตา นางมองหลี่เฉินเย่น จากนั้นก็มองชูเซี่ยอีกครั้งแล้วถอนหายใจออกมายาวเฮือก "พูดออกมาก็ดีเหมือนกัน ค่ำคืนอันแสนยาวนานผ่านพ้นไปอย่างเชื่องช้า ข้ามักจะฝันเห็นพี่อานุ่ยเกอมาวงเอาชีวิตข้ายู่บ่อย ๆ ศิษย์พี่ ข้ารู้ว่าท่านให้อภัยข้าไม่ลง ข้าไม่อยากพูดคำพูดจำพวกเสียใจอะไร แต่แน่นอนว่าในใจของข้านั้นเสียใจมาก ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่มีผู้หญิงเข้าใกล้ท่าน ข้าก็แทบจะเป็นบ้า ข้าเอาแต่คิดว่าท่านเป็นของข้า ไม่ว่าใครหน้าไหนก็แย่งท่านไปไม่ได้ทั้งนั้น การที่ได้เจอท่าน นับว่าเป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของข้าแล้ว" หลี่เฉินเย่นพูดอย่างเย็นชา "ขอบใจสำหรับการให้เกียรติของเจ้า การที่ได้เจอเจ้านับว่าเป็นโชคร้ายที่สุดในชีวิตข้า!" ฉ่ายเวินยิ้มอย่างโศกเศร้าเปล่าเปลี่ยว ยันกายลุกขึ้นแล้วเอ่ยถาม "พวกท่านใกล้จะแต่งงานกันแล้วใช่หรือไม่ หากข้าตายแล้ว พวกท่านก็จะได้อยู่ด้วยกันไปจนชั่วชีวิตแล้วล่ะ และไม่ต้องกลัวว่าถูกคนจับแยกอีกต่อไป ท่านบอกว่านางเป็นฮองเฮาเพียงหนึ่งเดียวของท่าน แต่ท่านรู้ไหมว่าข้าอิจฉานางมาเท่าไหร่ ชูเซี่ยช่างที่เป็นหญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกเสียจริง" หลี่เฉินเย่นเงยหน้ามองชูเซี่ย ชูเซี่ยก็มองเขาเช่นกัน สิ่งที่เรียกว่าความสุข หากต้องจ่ายด้วยชีวิตคนมากมายขนาดนี้ แบบนี้ยังเรียกว่าความสุขอยู่อีกหรือ หลี่เฉินเย่นพูดเน้นย้ำทีละคำ "ไม่ผิดหรอก เจ้าได้อยู่ใต้พิภพยมโลก มองดูข้ากับชูเซี่ยครองรักกันไปเป็นหมื่นปี" ฉ่ายเวินอย่างเศร้าสร้อยเปล่าเปลี่ยว "ชูเซี่ย ข้าพยายามทำทุกวิธีทางแล้วก็ยังกำจัดนางไม่ได้ ตอนที่อยู่นอกวัง ข้าเห็นนางกับฮ่องเต้พระองค์ก่อนโต้เถียงกัน ข้ามองจากพระพักตร์ของฮ่องเต้พระองค์ก่อนก็เห็นว่าพิษของเขาใกล้จะกำเริบแล้ว ดังนั้น ข้าก็เลยพ่นพิษเข้าไปข้างใน ให้พิษที่เขาโดนก่อนหน้านี้กำเริบ จากนั้นก็เข้าไปในห้องฆ่าเขาแล้วป้ายสีชูเซี่ย แต่เพราะมีท่าน สุดท้ายนางก็ยังไม่ตายอยู่ดี ข้าป้ายหนองฝีดาษไว้บนเสื้อผ้าของเชียนซาน เพื่อให้นางติดเชื้อฝีดาษ เดิมทีคิดว่าจะสามารถส่งนางไปยังเกาะที่ใช้กักกันคนไข้ที่ติดโรคทรพิษได้ ผลสุดท้าย แม้แต่โรคทรพิษนางก็ยังรักษาตัวจนหายดีได้ ตอนนั้นข้าอยากจะถามว่านางเป็นคนหรือผีกันแน่ ข้ามีใจที่ซื่อสัตย์ภักดีต่อท่านจนฆ่าเด็กในท้องของโหร่วยเฟย แต่ข้าอยากจะบอกกับท่าน ว่าโหร่วยเฟยสมควรตายแล้ว ตอนนั้นนางผลักข้าลงทะเลสาบแล้วป้ายสีให้หลิวหยิงหลง ถึงนางไปก็ยังสาสมแก่บาปกรรมที่ทำเอาไว้ ตายไปอย่างไม่สาสมกับความผิด! ข้าพยายามใช้ความคิดควบคุมทุกสิ่งอย่างเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ถูกพบเห็นอยู่ดี เรื่องทั้งหมดหลุดไปจากการควบคุมของข้า ศิษย์พี่ ข้าเองก็เหนื่อยแล้ว ถึงเวลาที่ต้องหลุดพ้นแล้วล่ะ" ตอนที่หลี่เฉินเย่นได้ยินนางพูดว่าสังหารฮ่องเต้พระองค์ก่อนแล้วใส่ร้ายชูเซี่ยนั้น เขาก็ตกใจจนสะดุ้ง เห็นได้ชัดว่าตอนนั้นนางติดตามเขากลับเมืองหลวง ต่อมาก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่แห่งหนใด เขาไม่เคยสงสัยนางเลยแม้แต่นิด เขาตกใจสะดุ้งโหยง ขนลุกขนพองไปทั้งร่าง ความกลัวซัดสาดเข้ามาในใจ จากนั้นก็ไหลเวียนไปทั่วทั้งอวัยวะภายใน นางน่ากลัวเกินไปแล้ว ไม่เหมือนกับศิษย์น้องที่เรียบง่ายในความทรงจำของเขาเลย นางเหมือนกับปีศาจ ปีศาจที่ชั่วร้าย แต่ใครจะนึกเล่าว่าศิษย์น้องหญิงตัวน้อยที่อยู่เคียงข้างเขาและเชื่อฟังเขามาเสมอ จะกลายเป็นปีศาจร้ายเช่นนี้ได้เล่า เขาส่ายหน้า มุมปากฉีกยิ้มอย่างขมขื่น "ถึงข้าจะไม่ได้ฆ่าเสด็จพ่อเองกับมือ แต่เขากลับตายเพราะข้า ฉ่ายเวิน เจ้าถึงกับเอาข้าวางไว้ในที่ที่ไม่อาจหวนกลับคืนได้!" ฉ่ายเวินมองเขาอย่างลุ่มหลง ยื่นมือกวักเรียกเขาเบา ๆ "ศิษย์พี่ ท่านมานี่สิ ข้ายังมีอีกอย่างที่อยากจะบอกท่าน คำพูดนี้ ข้าไม่เคยพูดกับใครมาก่อน ตอนนี้ข้าใกล้จะตายแล้ว ข้าคิดว่า...ควรจะพูดมันกับท่าน" หลี่เฉินเย่นพูดอย่างเย็นชา "เรื่องสกปรกที่เจ้าทำ ข้าไม่อยากฟังมันอีกแม้แต่คำเดียว หุบปากเสีย!" ใบหน้าของฉ่ายเวินมีท่าทีแปลกไป นางพูดเสียงเบา "เรื่องนี้เกี่ยวกับชื่อเสียงของท่านพ่อ ท่านจำต้องรู้ สิ่งนี้ข้าค้นพบมันโดยบังเอิญ มันฝังใจข้ามาตลอด ท่านมานี่สิ ข้าจะกระซิบบอกกับท่าน!" หลี่เฉินเย่นลังเลสักพัก แม้เขาจะรังเกียจฉ่ายเวิน แต่หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาจารย์ เขาก็ยังอยากที่จะรู้ เขาพูดอย่างเยือกเย็น "ได้ ข้าจะลองฟังในสิ่งที่เจ้าพูด" พูดจบ เขาก็ก้าวเข้าไปแล้วค้อมกายลงเงี่ยหูฟัง ชูเซี่ยมองเห็นความสุขที่ฉายขึ้นมาบนหน้าฉ่ายเวิน ในใจพลันบังเกิดความสังหรณ์ใจที่ไม่เป็นมงคลฉายวาบขึ้นมา ฉ่ายเวินอิงแอบอยู่ข้างหูของหลี่เฉินเย่นแล้วพูดเสียงเบา "ศิษย์พี่ ในที่สุดเราก็ได้อยู่ด้วยกันเสียที!" "ไม่นะ!" ชูเซี่ยพลันตะโกนลั่นแล้วพลันสาวเท้าเข้าไปผลักหลี่เฉินเย่นออก มีดสั้นแทงเข้าไปในหัวใจนาง เลือดไหลพุ่งออกมาสาดเข้าที่ใบหน้าไร้วิญญาณของฉ่ายเวิน หลี่เฉินเย่นกรีดร้องด้วยความโศกเศร้า ขณะที่มือหนึ่งโอบกอดชูเซี่ย ฝ่ามืออีกข้างก็โจมตีเข้าที่หน้าผากฉ่ายเวิน สมองของฉ่ายเวินกระเซ้นสาด เนื่องด้วยถูกสังหารในทันที ตอนที่ตายสองตาเบิกโพลงเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขากอดชูเซี่ยเอาไว้ ร่างของชูเซี่ยค่อย ๆ ทรุดลง เขาคุกเข่าลงกับพื้น จิตใจว้าวุ่นไปหมด จากนั้นก็หันไปตะโกนด้วยใจที่แตกสลาย "ใครก็ได้ ไปตามหมอหลวงที!" คนที่รออยู่ข้างนอกพอได้ยินเสียงตะโกนของหลี่เฉินเย่นก็รีบพุ่งเข้ามาทันที หว่านเหนียงกับเชียนซานที่เฝ้าอยู่ข้างนอกเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็ตกใจจนสติหลุด ตรงหน้าอกของชูเซี่ยมีมีดสั้นปักอยู่ เลือดไหลออกมาไม่หยุด หลี่เฉินเย่นสกัดจุดอย่างง่ายให้นาง แต่ก็ไม่ได้ผล เลือดยังไม่หยุดไหลอยู่ดี หมอหลวงมาถึงอย่างรวดเร็ว หลี่เฉินเย่นโอบกอดชูเซี่ยแน่น พูดกับหมอหลวงอย่างลนลาน "เร็วเข้า รีบห้ามเลือดให้นางเร็ว เร็วสิ!" เขาตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด ยื่นมือไปดึงเสื้อหมอหลวงให้เขารียรักษาชูเซี่ย เชียนซานกับหว่านเหนียงคุกเข่าร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ข้าง ๆ ทว่าก็ทำอะไรไม่ได้
已经是最新一章了
加载中