ตอนที่18 เคียดแค้นชิงชัง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่18 เคียดแค้นชิงชัง
ต๭นที่18 เคียดแค้นชิงชัง เฉินเฮ่าที่เคียดแค้นชิงชังอย่างยิ่งมองยังเหลียงซีน ในอกเต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธออกมา ที่เสี้ยววินาทีก็สามารถติดเป็นไฟขึ้นได้ “เจ้านี้ช่างเป็นสตรีที่เหี้ยมโหด วันนี้ข้าจะต้องระบายความแค้นด้วยการฆ่าเจ้าให้ได้” เขาโบกมือ ให้บ่าวที่อยู่ด้านหลังเดินเข้ามา ชูแส้ขึ้นสูง ออกแรงอย่างสุดกำลังตีลงไปที่ด้านหลังของเหลียงซีน ในคืนที่เงียบสงบไร้เสียงนี้ เหลียงซีนรองรับการทรมานที่ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา แต่ว่านางก็กัดฟันพูดกับตนเองว่า ยิ่งอยู่ในเวลาเช่นนี้ นางยิ่งจะตายไม่ได้ นางรู้ว่าชีวิตนั้นเหมือนสิ่งของที่ดูอ่อนแอ ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด นางมองเห็นความเป็นความตายที่จางหายไปแล้ว นางจะต้องมีชีวิตต่อไป เพียงมีชีวิตอยู่ ก็จะสามารถแก้แค้นได้ “เพี๊ยะ เพี๊ยะ...”แส้ฟาดลงทีแล้วที่เล่ากระหน่ำลงไปในเนื้อ ผิวหนังเปิดออก หลังครบสามสิบแส้ ทั่วร่างกายของเหลียงซีนเต็มไปด้วยเลือด บนร่างกายทั้งตัวไม่มีบริเวณที่ดีเลย เหลือเพียงใบหน้าที่งามหยาดเยิ้มเท่านั้น และดวงตาคู่นั้นที่มืดมิดหนาวเย็นยิ่งกว่านรก เฉินเฮ่าเดินไปที่นางอย่างช้าๆ ภายในสายตาล้วมเต็มไปด้วยความเกลียดชัง“เจ้าวางใจ ข้ายังไว้ชีวิตที่ด้อยค่าของเจ้า ทุกวันทรมานเจ้าหนึ่งครั้ง ให้เจ้าอยู่ก็เหมือนตาย” หลังเอ่ยจบ เขาก็เหวี่ยงชายเสื้อออกจากที่นี่ไป เหลือไว้เพียงไม่กี่ประโยคที่เอ่ยกับบ่าวที่เฝ้าดูอยู่ที่นี่ ฉนฮัวและชิวยั่วน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบเชียบ ฟุบหมอบไปจนถึงที่เท้าของเหลียงซีน เอ่ยอย่างสะอึกสะอื้น“พระสนม ท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” เหลียงซีนที่ยังสัมผัสได้ถึงลมหายใจ กัดฟันแน่น“พวกเจ้าวางใจ ข้าไม่ทำให้ตนเองที่ยังไม่รับรู้อะไรเช่นนี้แล้วต้องตายไป เรื่องเย็นวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ” “พระสนม พอท่านออกไปแล้ว พวกเราทั้งสองคนก็เฝ้าอยู่ที่ประตูข้าง รอท่านกลับมา แต่ว่าคนในตึกล่ออินพูดกันว่าพระชายารองกินอาหารเย็นที่มีพิษเข้าไป ฝ้ายพูดว่าท่านเป็นคนทำ ท่านอ๋องจึงโกรธจนอดกลั้นไม่ไหว ทุบตีเฆี่ยนตีพวกเราอย่างหนัก และยังเอ่ยว่าจะเอาชีวิตท่านอีกด้วย” “สิ่งนี้ไม่ผิด” เหลียงซีนหัวเราะออกมาเบา ๆ ชิวยั่วไม่เข้าใจ “พระสนม อะไรไม่ผิดเจ้าคะ” นางเพียงส่ายหน้า ไม่ยอมพูดให้มากความ“พวกเจ้าสองคนกลับไปก่อน ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนข้ารับการลงโทษ” “พระสนม แม้ว่าจะต้องตาย พวกเราก็จะตายไปกับท่าน ขอร้องท่าน อย่าให้พวกเรารีบไปเลยเจ้าคะ”ฉนฮัวและชิวยั่วโผเข้ามาคุกเข่าลงที่พื้นพร้อมกัน เพื่อวิงวอน มองพวกนางสองคนที่เป็นเช่นนั้นแล้ว เหลียงซีนก็ไม่พูดอะไรออกมา ในใจกลับคิดอย่างเงียบๆว่าตนเองควรจะปลีกตัวออกมาอย่างไร หากยังคิดหาทางออกไม่ได้ ตนเองก็คงต้องหนาวเย็นอยู่ที่นี่แล้ว แต่ว่า นางจะมีวิธีอะไรกัน เวลาเที่ยงคืน ฝนเม็ดใหญ่ ซ่า ซ่า ซ่า ตกลงมา ตกกระหน่ำลงมาจนถึงร่างกายของเหลียงซีน ซึมเข้าไปในบาดแผลของนาง เจ็บจนนางสั่นออกมาไม่หยุด นางคล้ายกับคิดถึงคืนที่ฝนตกคืนหนึ่งเมื่อห้าปีก่อนหน้านี้ขึ้นมา ที่ก็เจ็บปวดเช่นนี้เช่นกัน มีฝนที่เทลงมาปานฟ้ารั่วเช่นกัน นางบนยอดเขาซานพิสูจน์ศพ ศพที่พิสูจน์คือพ่อแม่ของนาง แต่ตอนนั้นมีเพียงในใจที่เจ็บปวด ตอนนี้กลับมีร่างกายที่เจ็บปวดด้วย หลังจากนั้นตน อะไรที่เจ็บล้วนไม่อาจเรียกว่าทำให้เจ็บ อะไรที่บาดเจ็บล้วนเทียบกับการบาดเจ็บในวันนั้นไม่ได้ วันคืนอันมืดมิดที่ต้องเสียพ่อแม่ไป นางล้วนแข็งแรงข้ามผ่านมาได้ บาดเจ็บแค่นี้เรียกว่าอะไร สติของนางยิ่งผ่านไปยิ่งเลอะเลือน โอนเอนไม่มั่นคง แสงสีขาวปรากฏออกมาต่อหน้าต่อตาของนาง ระหว่างที่ใจลอย ร่างสีดำหนึ่งก็ปรากฏมาที่ด้านหน้าของนาง “สตรีผู้นี้ เถรตรงเสียจริง ล้วนพูดแล้วว่าข้าสามารถช่วยเจ้าได้ จะต้องลงมือเองให้ได้ สุดท้ายก็ต้องใช้ชีวิตของเจ้าเอง เป็นเช่นนี้คุ้มค่าแล้วหรือ” นี้เป็นเสียงที่แห้งทุ้มต่ำนั้นอีกแล้ว คนที่ลึกลับผู้นั้นในครั้งก่อนปรากฏตัวออกมาอีกแล้ว เหลียงซีนลืมตาขึ้นอย่างลำบาก ใช้แรงเฮือกสุดท้ายของตนเอ่ยขึ้น“ความแค้นและบัญชีเลือดบนร่างกายของเจ้า ข้าช่วยเจ้าเอาคืนแล้ว เจ้าดีใจหรือไม่” “ช่างเถอะ เจ้าไม่มีวันเข้าใจ...” หลังจากที่นางพูดจบ สติทั้งหมดที่มีก็หายไป คนชุดดำลึกลับจับที่ใบหน้าของนางอย่างเวทนาสงสาร บ่นพึมพำออกมาเหมือนกับไม่มีอะไร“บังเอิญพบกันคือโชคชะตาอย่างหนึ่ง ไม่ต้องสนใจว่าเมื่อก่อนรู้จักกันหรือไม่” เมื่อน้ำเสียงของเขาเพิ่งเอ่ยจบลง ช่วงเวลาที่ฉับพลันนั้น ด้านหลังก็มีเสียงฝีเท้าที่ดูยุ่งเหยิงดังออกมา เฉินเฮ่าที่สวมชุดที่ขึ้นจากผ้าไหมสีน้ำเงิน เห็นได้ชัดเจนว่าเมื่ออยู่ใต้แสงจันทร์ยิ่งเพิ่มความเยือกเย็นขึ้น “ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัวออกมา อยู่ในตำหนักของข้านานเช่นนี้ ต้องการใช้ชีวิตมาชำระคืน”เฉินเฮ่าเย็นชาเพ่งมองไปยังด้านหน้าของคนชุดดำ “ท่านอ๋องเซง เสื่อมใสมานาน ได้ยินมาว่าท่านคือหนึ่งในยอดนายพล วันนี้นับเป็นวาสนาที่ได้พบ ตายไปก็ไม่เสียดาย”คนลึกลับนั้นมีกิริยาท่าทางที่สง่าผ่าเผย ยิ้มหวานออกมา “คำพูดนี้ เจ้าเก็บไว้พูดกับยมบาลเถอะ ทหารจับตัวเขามา ข้าต้องการเห็นว่าผู้ใดช่างกล้ามาสอดแนมในตำหนักอ๋องเซง” เฉินเฮ่าเพิ่งเอ่ยจบลง ต้นและกล้ายอดฝีมือข้างกายทั้งสองคนก็เหาะขึ้นไป ประกบซ้ายขวาอยู่ด้านข้างของคนชุดดำเพื่อยับยั้ง แต่ว่า คนชุดดำวิทยายุทธแกร่งกล้า ทั้งสองคนล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ประเดี๋ยวเดียวก็ถูกโจมตีจนแทบสลบที่พื้น เฉินเฮ่าเห็นเหตุการณเป็นเช่นนั้น จึงใช้วิชาตัวเบาเหาะขึ้นไปทันที ปะทะกับคนชุดดำในคืนที่มืดมิด วิทยายุทธกำลังภายในของทั้งสองคนหนึ่งหยินหนึ่งหยาง ซ้ายขวาวนเวียน สองฝ่ามือสุดท้ายที่ตั้งรับกัน ทำให้ทั้งสองคนล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส “วิทยายุทธ์ของชายแดนมหัศจรรย์มาก” เฉินเฮ่ากัดฟัน เพ่งเล็งไปยังเขาที่ปลีกตัวออกไปตกอยู่ในสายตาของตน ฝนตกที่ตกหนักลงก็ปรอย ๆ ค่อย ๆ หยุดลง เสียงอึกทึกครึกโครมเมื่อกี้นี้ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทั่วทั้งตำหนักอ๋องเซงคล้ายกับถูกความมืดมิดกลืนกินเข้าไป เงียบสงบอย่างประหลาดใจ 
已经是最新一章了
加载中