ตอนที่66 เป็นคุณนายตระกูลสุทรรศน์รังสสี ก็ไม่ได้ทุกข์ทรมานทั้งหมดใช่มั้ย
1/
ตอนที่66 เป็นคุณนายตระกูลสุทรรศน์รังสสี ก็ไม่ได้ทุกข์ทรมานทั้งหมดใช่มั้ย
สยบรักประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่66 เป็นคุณนายตระกูลสุทรรศน์รังสสี ก็ไม่ได้ทุกข์ทรมานทั้งหมดใช่มั้ย
ตนที่66 เป็นคุณนายตระกูลสุทรรศน์รังสสี ก็ไม่ได้ทุกข์ทรมานทั้งหมดใช่มั้ย? “ เป็นไปไม่ได้ ” พอฉันเปิดปาก ดนุนัยปฏิเสธทันควัน โดยไม่คิดเลยสักนิด เรื่องนี้ฉันคิดได้ตั้งนานแล้ว ถ้าเขาอยากปล่อยฉันไปง่ายๆแบบนี้ ก็ต้องตกลงตั้งนานแล้ว แต่ครั้งนี้ฉันเตรียมตัวมาดี ฉันหยิบมือถือตัวเองขึ้นมา เดินไปถึงหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เข้าแอพบันทึกเสียงในมือถือ จากนั้นวางไว้ข้างบน ไม่พูดพล่าม กดเปิดเสียงบันทึกที่ห้องทำงานของจิณณาเมื่อครู่นี้โดยพลัน ใช่แล้ว ตอนที่ฉันเข้าไป ก็เปิดฟังก์ชั่นบันทึกเสียงในมือถือ คนฉลาดแบบนี้อย่างดนุนัย ท่าทีนี้ของจิณณา ท่าทีที่เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธออย่างแน่นอน ฉันมองใบหน้านิ่งของดนุนัย หลุบรูม่านตาต่ำ พูดช้าๆ “ ประธานดนุนัย ฉันเป็นเหมือนนกพิราบครองรังนกกางเขนคุณไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของฉันแบบนี้ฉันเข้าใจ ถ้าเรื่องนี้คนที่ได้รับความทุกข์ทรมานมีแค่ฉันคนเดียว งั้นฉันยอมแล้ว แต่จิณณาเพื่อให้ได้เป็นคุณนายตระกูลสุทรรศน์รังสสีดึงผู้บริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว ” “ ทุกข์ทรทาน? ” ดนุนัยได้ยินคำนี้ เดินมาถึงตรงหน้าฉันทีละก้าว “ ในสายตาของคุณ เป็นคุณนายตระกูลสุทรรศน์รังสสีเป็นความทุกข์ทรมานงั้นหรือ? ” บนใบหน้าไม่มีการแสดงสีหน้าใดๆ ในรูม่านตาสีดำกลับเป็นเหมือนคลื่นโหมกระหน่ำที่ทำให้คนตกใจเกลียดชัง! “ ไม่ใช่หรือคะ? คุณรักจิณณา ฉันแต่งงานกับคุณ ทั้งที่คนสามคนล้วนไม่มีความสุข คุณกลับไม่ยอมปล่อยมือ ก็ไม่ใช่เพราะอยากทรมานฉันหรือ? ” “ เหอะๆๆ ” ดนุนัยพลันหัวเราะขึ้นมา เสียงหัวเราะนั่น ไม่ใช่เสียงหัวเราะที่มีความสุข ยังทำให้ฉันรู้สึกเหงื่อแตกตัวเย็น! เขายกมือ นิ้วมือเรียวยาวบีบคางฉันไว้โดยตรง เก็บรอยยิ้มไว้ “ ต้องการจะหย่าหรือ? อย่างนั้นก็ตั้งใจปรนนิบัติผม จนกว่าผมจะนอนกับคุณพอแล้ว ก็หย่าได้ ” “ ดนุนัย คุณมันไม่มีโลจิก! เธอฆ่าคนแล้ว! คุณเข้าใจมั้ย เธอฆ่าคนแล้ว! ” ฉันดึงมือเขาออกรวดเดียว จะโดนผู้ชายคนนี้ทำให้โกรธจนเป็นบ้าแล้วจริงๆ แต่ทว่า ดนุนัยกลับกดฉันไว้บนโต๊ะทำงานโดยตรง จากนั้นทั้งร่างก็กดลงมา พูดว่า “ ผมบอกไปแล้ว นอนพอแล้ว จึงจะหย่าได้ ” ว่าแล้ว ก็เริ่มดำเนินการกระทำขั้นต่อไป ฉันอยากขัดขืน แต่ชายหนุ่มใช้มือเดียวควบคุมมือทั้งสองข้างของฉันไว้ “ คุณบ้าไปแล้วหรือ นี่มันห้องทำงานนะ! ” ฉันตะโกนลั่น! แต่ทว่า ดนุนัยกลับไม่สนใจเลยสักนิด ริมฝีปากประทับที่ใบหูของฉัน พูดว่า “ นี่เป็นอาณาเขตของผม คนของผมล้วนเข้าใจดี ” ตลอดช่วงสาย ฉันโดนดนุนัยกดอยู่บนโต๊ะทำงาน ยอมให้เขาระบาย เมื่อเสร็จแล้ว ดนุนัยลุกขึ้นจัดเสื้อผ้า ฉันนอนแผ่บนโต๊ะทำงาน เหม่อมองเพดาน ในความสัมพันธ์รักสามเศร้าส่วนนี้ ผู้แพ้ มีแค่ฉันคนเดียว “ เหอะๆๆ ” เสียงเคาะประตูเบาๆช่วงหนึ่งแว่วมาจากปากประตู ฉันตกใจจนรีบลุกขึ้นมา หันหลังให้ประตู กลัวว่าคนที่ปากประตูจะผลักประตูเข้ามา ที่จริงแล้วเสื้อผ้าบนร่างของฉันโดนดนุนัยดึงจนขาดรุ่งริ่ง แม้คลุมตัวก็ลำบากเล็กน้อย ดนุนัยจัดเสื้อผ้าคร่าวๆสักพัก ไปที่ประตู ไม่นานหยิบกระสอบไม่กี่ใบเข้ามา ยื่นให้ฉัน ฉันมองแว็บหนึ่งข้างในเป็นเสื้อผ้าชุดหนึ่ง ยังมีเซ็ตบ็อกซ์อุปกรณ์บำรุงผิวกล่องหนึ่ง เขาให้ฉันไปอาบน้ำในห้องเลานจ์ที่เป็นห้องในห้องทำงาน ฉันเปิดประตู(บาน)ที่อยู่ด้านในห้องทำงาน เดิมทีนึกว่าด้านในมีเพียงห้องน้ำหนึ่งห้อง กลับพบว่าที่ตัวเองคิดง่ายเกินไปแล้ว ด้านในพูดได้ว่าเป็นอพาร์ทเม้นท์ขนาดเล็กหลังหนึ่ง มีห้องรับแขก มีห้องนอน ยังมีห้องครัวแบบเปิดโล่งห้องหนึ่ง และห้องอาบน้ำ ฉันอาบน้ำเสร็จ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เพราะกีฬารุนแรงเมื่อครู่นี้ ทั้งร่างขาล้วนอ่อนแรงแล้ว ฉันนั่งบนเตียง อยากพักผ่อนสักพัก กรอกตาไปด้านข้างเล็กน้อย มองเห็นบนผ้าคลุมสีขาวจัด ผมยาวสีน้ำตาลแดงเส้นหนึ่งแผ่นิ่งอยู่ตรงนั้น ช่วงเวลานั้น ใจฉันเจ็บแสบอย่างบอกไม่ถูก ก็เดาได้ว่านี่เป็นผมของใคร แม้ฉันเข้าใจ จิณณากับดนุนัยทั้งสองชอบพอกัน เกิดอะไรขึ้นที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ฉันก็ออกจากเตียงหลังนั้นเหมือนหลีกหนีโรคระบาดยังจะดีกว่า ฉันกำลังจะออกไป ดนุนัยผลักประตูเข้ามา ฉันตกใจจนถอยหลังไปหนึ่งก้าว หลังจากนั้นจึงรู้ว่า ชายหนุ่มแค่อยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเท่านั้น ฉันหลบรออยู่ด้านข้าง ไม่นาน ดนุนัยก็จัดการตัวเองเสร็จ พอออกมาแล้ว เดินมาใกล้ฉัน พูดว่า “ หิวหรือยัง ไปเถอะ ผมพาคุณไปทานข้าว ” บนร่างชายหนุ่มยังส่งกลิ่นเจลอาบน้ำอ่อนๆ หอมมากๆ “ ไม่ต้อง... ” “ ทานที่โรงอาหารบริษัทนี่แหละ ” ฉันกำลังจะอยากปฏิเสธ ก็ถูกชายหนุ่มพูดแทรก ดึงมือฉัน ไม่สนใจการต่อต้านของฉันโดยสิ้นเชิงก็พาฉันออกจากห้องทำงานไป พอออกไป ปรวันกับเลขาไม่กี่คนของเขาก็ล้วนอยู่ด้านนอก โดยเฉพาะเลขาไม่กี่คนนั้น เห็นจับมือกันอยู่ด้านนอก ในดวงตาก็ใกล้จะมีไฟลุกขึ้น แต่ดนุนัยเมินเฉยโดยไม่คาดคิด ลากฉันก็เข้าไปในลิฟต์ “ ปล่อยฉัน ” เข้าไปในลิฟต์แล้ว ฉันก็ดิ้นรนต่อไป แต่ชายหนุ่มเพียงมองเลขชั้นในลิฟต์ โดยไม่ตอบฉันสักนิด จนกระทั่งลิฟต์มาถึงชั้นสาม ชั้นสามเป็นชั้นล็อบบี้ของบริษัทนภากรุ๊ปจำกัด เขาพาฉันข้ามผ่านร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ก้าวเข้าห้องอาหารพนักงานโดยตรง สมแล้วที่เป็นจุดให้บริการอาหาร พวกพนักงานเดินเข้าเดินออก สายตาทุกคู่ล้วนถูกดนุนัย และฉันที่อยู่ด้านหลังดึงดูด ข้างหูฉันดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย— “ ประธานดนุนัย ภรรยาท่านประธาน สวัสดีตอนเที่ยงค่ะ ” “ ว๊าว นี่ใครกัน? ภรรยาท่านประธานหรือนี่? ” “ พระเจ้า ท่านประธานพาภรรยามาทานข้าวที่ห้องอาหารอย่างคาดไม่ถึงหรือนี่? ” ภรรยาท่านประธานสี่คำเข้าที่ข้างหูฉันเต็มๆ... ตลอดทางที่เดินมา แม้กระทั่งทำให้ฉัน(รู้สึก)ไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย เขาพาฉันมุ่งหน้าเดินไปถึงโต๊ะตัวหน้าสุดที่ตั้งอยู่โดดๆ มีบริกรเปิดประตูให้พวกเรา เขาพาฉันเข้าไป นั่งอยู่ที่นั่น ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ ทีละอย่างๆ ล้วนเป็นอาหารที่ฉันชอบทาน ฉันมองเขาด้วยความสงสัย ดนุนัยมองฉันแล้วพูดว่า “ ผมถามคุณย่าของคุณแล้ว ท่านพูดว่าคุณชอบทานอาหารเหล่าพวกนี้ ” ถามชยานีแล้ว ฉันมองอาหารทั้งโต๊ะ สงสัยอยู่เต็มตา ไม่กล้าซาบซึ้งใจ ใจฉันเพื่อไม่ให้ถูกดนุนัยทำร้าย สร้างกำแพงสูงขึ้นมาแล้ว แต่กำแพงสูงนี้โอนเอนเกินทน ฉันกลัวว่า(ถ้า)ซาบซึ้งใจครั้งหนึ่งจะทำให้กำแพงสูงลูกนี้พังทลายลง เผยความรู้สึกของฉันต่อหน้าเขา อย่างนั้นแล้ว เขาก็สามารถทำร้ายฉันได้โดยที่ไม่ต้องออกแรงเลย ดนุนัยคีบซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานชิ้นหนึ่งขึ้นมา ทานเสร็จก็ขมวดคิ้ว “ คุณก็ชอบทานแต่อาหารที่หวานแบบนี้หรือ? ” “ ... ” “ ชิมดู เชฟของที่นี่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเชฟภัตตาคารมิชลินเลย ” “ ... ” ฉันมองดนุนัย เงียบไปนานมาก นานจึงจะถามว่า “ ทำไมหรือคะ? ” เขาดีกับฉัน ทำให้กลัว ดนุนัยคีบอาหารเองกินเองไม่กี่คำ จึงเงยหน้า สายตาลึกซึ้งมองฉัน ผ่านไปราวๆไม่กี่วินาที จึงพูดว่า “ เป็นคุณนายตระกูลสุทรรศน์รังสสี ก็ไม่ได้ทุกข์ทรมานทั้งหมดใช่มั้ย? ” ใช่ นี่เป็นคำตอบในใจฉัน ก็สมมุติว่าตอนนี้ก็ไม่ใช่ แต่ฉันไม่กล้าซาบซึ้งใจ ไม่กล้ายอมรับ ฉันกลัวว่าพอเส้นกั้นของฉันปลดลง สิ่งที่ต้อนรับฉันคือการทำร้ายที่ไม่มีที่สิ้นสุด “ ไม่ใช่ ทั้งหมดล้วนเป็นความทุกข์ทรมาน แค่อยู่ข้างกายคุณ อย่างนั้นแล้วเรื่องทั้งหมดล้วนเป็นความทุกข์ทรมาน ” ฉันพูดชัดถ้อยชัดคำ ฉันเห็นมือที่ดนุนัยถือตะเกียบออกแรง ตามมาด้วยเสียงเพลี้ยะ ตะเกียบไม้ไผ่คู่หนึ่งหักลงตามเสียง ครู่ต่อมา ดนุนัยโยนตะเกียบที่หักแล้วคู่นั้นทิ้งไป ออกจากห้องอาหารโดยไม่หันหน้ากลับมา ทั้งที่ฉันพูดคำที่ทำร้ายเขาไปแล้ว แต่ใจฉันเจ็บเหลือเกิน... ฉันมองอาหารที่ฉันชอบกินทั้งโต๊ะ กลับขอบตาแดงแล้ว
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่66 เป็นคุณนายตระกูลสุทรรศน์รังสสี ก็ไม่ได้ทุกข์ทรมานทั้งหมดใช่มั้ย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A