ตอนที่101 ผมสามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่คุณ ทำให้ต่อจากนี้คุณไม่ไปจากผม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่101 ผมสามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่คุณ ทำให้ต่อจากนี้คุณไม่ไปจากผม
ต๭นที่101 ผมสามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่คุณ ทำให้ต่อจากนี้คุณไม่ไปจากผม ไม่กี่วันหลังจากนั้น ฉันล้วนอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านกรีนเฮ้าส์ของดนุนัย ที่ทำให้ฉันประหลาดใจคือ แม้ดนุนัยจะบังคับให้ฉันนอนกับเขา แต่กลับไม่ได้ทำอะไรฉัน ตอนที่ดนุนัยไปทำงาน คนใช้ก็อยู่ที่ห้อง ฉันไม่เรียกพวกเขาก็จะไม่ออกมา ฉันก็ตรวจดูความเรียบร้อยทั้งนอกและในห้องนอนของเขา ก็ไม่พบร่องรอยที่แสดงว่าจิณณาเคยมาที่นี่ หรือว่า จิณณาปรากฏตัวไม่กี่ครั้ง ล้วนไม่ได้มาบ้านดนุนัยเลยสักครั้ง? เธอไปบ้านของใครกันแน่นะ? แน่ใจว่าเธอไม่ได้มาบ้านดนุนัย ฉันก็ตัดสินใจว่าตอนกลางวันจะออกไปเดินเล่นและหางานทำด้วย แม้จะถึงเดือนมีนาคมแล้ว แต่อากาศยังหนาวเย็นเล็กน้อย ฮิตเตอร์ในบ้านกลับหยุดทำงาน หมกตัวอยู่นานก็ หนาวสั่น เช้าวันนั้น ฉันตื่นนอนรอให้ดนุนัยออกจากบ้าน แต่ชายหนุ่มทานอาหารเช้าเสร็จก็นั่งในบ้านอย่างไม่คาดคิด เหมือนไม่คิดจะไปเลยสักนิด “คุณไม่ไปทำงานหรือคะ? ” ฉันนั่งที่ด้านตรงข้ามของโต๊ะกินข้าว ถามเขา ชายหนุ่มใช้กระดาษชำระซับมุมปากอย่างสง่างาม มองฉัน พูดกับฉันด้วยสีหน้าอ่อนโยนที่คาดไม่ถึงว่า“วัน หยุดสุดสัปดาห์ วันนี้ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณ” อยู่เป็นเพื่อนฉัน? “อืม ทานข้าวเสร็จก็พาคุณออกไปเที่ยวเล่น” ดนุนัยพูดยิ้มๆ “ออกไปเที่ยวเล่น?”ฉันมองดนุนัย เกิดสงสัยส่วนหนึ่ง“ไปไหนคะ?” “ความลับ ” ท่าทางลับๆล่อๆชุดหนึ่งของชายหนุ่ม บางทีฉันในช่วงนี้รักษาสภาพระวังตัวกับดนุนัยมาตลอด เขาทำกับฉันแบบนี้ ทำให้ฉันกลับรู้สึกว่าไม่สมควรเล็ก น้อย แต่ฉันไม่ได้พูดมาก ที่จริงแล้วเป็นคู่รัก ก็ต้องมีท่าทางของคู่รัก ฉันทานข้าวเสร็จ เปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งตัว แต่งหน้าอ่อนๆ ตอนที่ออกไป ชายหนุ่มแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังนั่งดื่มชาบนโซฟา เห็นฉันออกมา พิจารณาฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่ครู่หนึ่ง พูดด้วยท่าทางชื่นชมเล็กน้อย“สวยมาก” ฉันไม่ได้ตอบสนอง เพราะฉันรู้ตัวเองดีอยู่แล้ว ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสวยอะไร ดนุนัยขับรถ พาฉันไปยังสนามบินส่วนตัวแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากเขตเมืองดรัล ตอนที่พวกเราเดินเข้าไปทางอาคารผู้โดยสาร เห็นเครื่องบินหลายลำจอดอยู่ในลานบิน ด้านบนวาดสัญลักษณ์ที่ แตกต่างกันออกไป แค่ดูก็รู้ว่ามาจากคนละบริษัทกัน ดนุนัยพาฉันไปยังข้างเครื่องบินขนาดกลางลำหนึ่ง ฉันมองแว็บเดียวก็จำได้ว่าด้านบนเป็นโลโก้ของบริษัทนภา กรุ๊ปจำกัด “พวกเราจะไปต่างประเทศหรือคะ? ” ฉันประหลาดใจเล็กน้อย ไปไหนยังต้องนั่งเครื่องบิน ดนุนัยพยักหน้า อธิบายกับฉันว่า“แต่ไปไม่ค่อยไกลนักหรอก ไปแล้วคุณก็จะรู้เอง” แม้ฉันจะอยากถามต่อ แต่ฉันก็เข้าใจแล้ว ถ้าดนุนัยอยากขายฉัน แม้ฉันจะถามให้ถึงที่สุดจนรู้แน่ชัดแล้ว ก็ไม่มี ประโยชน์อะไร นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้นั่งเครื่องบินส่วนตัว ในห้องโดยสารเครื่องบินกว้างขวางขนาดนี้ มีเพียงไม่กี่ที่นั่ง ยังมี โทรทัศน์ขนาดยักษ์เครื่องหนึ่ง ด้านหลังมีห้องอาบน้ำ ยังมีห้องนอนสำหรับใช้ส่วนตัวให้นอนได้ ฉันวนรอบในเครื่องบินหนึ่งรอบ หลังจากนั้นนั่งบนเก้าอี้นอนตัวหนึ่งอย่างพอใจยิ่ง มองเพดานเหม่อลอย ดนุนัยเดินมาถึงข้างกายฉัน ก้มหน้ามองฉัน ลึกซึ้งจริงจัง“คิดอะไรอยู่? ” “คิดเรื่องจิณณา” ฉันมองไปทางเขา ตอบกลับ ชายหนุ่มฟังคำตอบของฉัน ประหลาดใจเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด ไม่รอให้เขาพูด ฉันอธิบายก่อน“ในที่สุดฉันก็เข้าใจเธอ และผู้หญิงพวกนั้นคิดทุกวิถีทางเพื่อจะได้แต่งงานกับ คนร่ำรวยประเภทนี้อย่างพวกคุณ นั่งบนยานพาหนะแบบนี้ แม้จะไปที่ไหน ก็จะไม่รู้สึกทรมานล่ะมั้ง” แม้บ้านจันทร์พานิชย์ก็มีเงิน แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่สามารถซื้อเครื่องบินส่วนตัวได้ ดนุนัยนั่งลงบนแขนเก้าอี้ตรงที่ฉันนั่ง นิ้วมือเรียวยาวแหวกผมสั้นของฉันอย่างแผ่วเบา“ก็บอกแล้วว่าทำให้ของ ธรรมดากลายเป็นของดีมีระดับนั้นทำได้ง่าย แต่ทำให้ของดีมีระดับกลายเป็นของธรรมดานั้นทำได้ยาก หลังจาก นั้นผมสามารถให้ของที่ดีที่สุดแก่คุณ ทำให้ต่อจากนี้คุณไม่ไปจากผม” “งั้นฉันก็แค่ไม่ไปจากเงินของคุณ” “ไม่ไปจากเงินก็ได้” คำพูดของเขาทำให้ฉันอึ้งไปสักพัก ฉันมองดนุนัยอย่างตั้งใจ พลันรู้สึกว่าความรู้สึกประทับใจที่ฉันมีต่อเขาเลือน รางไม่ชัดอยู่ส่วนหนึ่ง เขาเคยเป็นที่รักแห่งสวรรค์ผู้อยู่ที่สูง ฉันรักเขา ชื่นชมเขา เรื่องมากมายที่เกิดขึ้นในภายหลัง ฉันก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนเย่อหยิ่งชอบอวดตัว ฉันเกลียดชังเขา แต่ในตอนนี้เขาเผชิญหน้ากับฉัน ที่แสดงออกมากลับเป็นความนอบน้อมถ่อมตัว ดนุนัยมองฉันที่กำลังเหม่อลอย ใบหน้าหล่อเก๋ช่างดูดีอะไรเช่นนี้ ริมฝีปากมันวาวยกทำมุมโค้งที่สง่างาม ถามฉัน ว่า“เป็นอะไรไป? ถูกผมทำให้หลงใหลแล้ว?” “เปล่าค่ะ”ฉันหน้าแดงโดยไม่ทราบสาเหตุ หันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง พูดอย่างไม่เป็นธรรมชาติว่า“งั้น คุณก็ต้องมีเงินไปตลอดถึงจะทำได้” “วางใจได้เลย ผมสามารถมีเงินไปตลอด สรรหาให้คุณเป็นดั่งราชินีไปตลอด” เขาไม่ได้พูดว่าเจ้าหญิง แต่พูดว่าราชินี ไม่รู้เป็นเพราะฉันโง่เขลา หรือเป็นเพราะอะไร ดนุนัยมักจะสะกิดส่วนที่อ่อนไหวที่สุดในใจฉันได้โดยต้องออกแรง เลย ทำให้ความเกลียดชังที่เก็บสะสมทีละน้อยของฉัน ในช่วงที่ไม่ได้ระวังถูกเขาใช้ไปเกินครึ่ง ไม่นานเครื่องบินก็ทะยานขึ้น ฉันก็นั่งบนเก้าอี้นอนหลับไปแล้ว ตอนที่ตื่นมาอีกที นอกหน้าต่างหมื่นลี้ไร้เมฆ เป็นท้องทะเลสีน้ำเงินไกลสุดลูกหูลูกตา “ตื่นแล้วหรือ?”เสียงของดนุนัยดังขึ้นข้างหู ฉันหันหน้าไป ก็เห็นชายหนุ่มนั่งข้างฉันบนเก้าอี้นอน ในมือถือ หนังสือพิมพ์การเงินฉบับหนึ่ง แต่บนโต๊ะด้านหน้าเขา มีหนังสือพิมพ์หลายฉบับวางซ้อนกันเป็นปึกอยู่แล้ว “ที่นี่ที่ไหน? ”ฉันนวดดวงตา ถามเขาอย่างสะลึมสะลือ “ใกล้จะถึงแล้ว ไม่นานคุณก็จะรู้แล้ว” ดนุนัยตอบกลับ เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ไม่นานเครื่องบินก็ลดระดับลงที่สนามบินแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นพวกเราก็เปลี่ยนไปนั่งเรือยอร์ชลำหนึ่ง จึงจะลงไปถึงบนเกาะแห่งหนึ่ง ไม่ว่าสนามบินเมื่อครู่นี้ หรือว่าเกาะแห่งนี้ อากาศล้วนอบอุ่นยิ่ง ฉันถือเสื้อตัวนอกไว้ในมือ ชุดแซกที่อยู่ด้านใน ทำให้ฉันรู้สึกร้อนขึ้นมาบ้างแล้ว “ที่นี่...” “เกาะที่ผมซื้อไว้ช่วงก่อน รู้ว่าคุณอยู่บ้านไม่ชอบอากาศหนาว ดังนั้นจึงพาคุณมาพักผ่อน” ดนุนัยพูดไปพลาง เอื้อมมือมาทางฉันไปพลาง เหลือบมองรองเท้าส้นสูงใต้เท้าของฉันอยู่ครู่หนึ่ง พูดว่า“ทราย บนเกาะนี้ก่อนหน้านี้ผมให้คนดูแลเกาะกวาดให้เรียบร้อยแล้ว ละเอียดเรียบเนียนยิ่ง คุณสามารถเดินเท้าเปล่า ได้” ที่จริงแล้ว รองเท้าส้นสูงไม่เหมาะที่จะเดินบนทราย ฉันเตะรองเท้าส้นสูงไปอีกทาง เปลือยเท้าเดินบนทราย เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ ทรายของที่นี่ ละเอียดเรียบเนียน อ่อนนุ่มอย่างยิ่ง “ตอนนี้ที่นี่เป็นช่วงเย็นแล้ว แสงแดดกำลังดี ไม่แรงจนเกินไป” ดนุนัยมองฉันเดินไปตามแนวชายหาด ดึงฉันไว้ในพริบตาเดียว“อย่าเพิ่งไป ไปทานข้าวก่อน จากนั้นผมจะเดิน เล่นเป็นเพื่อนคุณ” “ค่ะ” ฉันพยักหน้า เกาะแห่งนี้ไม่ใหญ่ มีพื้นที่ประมาณสองเท่ากว่าๆของหมู่บ้านกรีนเฮ้าส์ทั้งชุมชน ภัตตาคารของเกาะตั้งอยู่ริมชายหาด ทัศนียภาพเช่นนี้งดงามยิ่งเสียจริง หลังจากทานข้าวเสร็จ ดนุนัยพาฉันไปยังห้องพัก เปลี่ยนเป็นเขาที่เตรียมเสื้อผ้าดีๆให้ฉันล่วงหน้า ฉันพลิกหาไปเรื่อยๆ กลับพบว่าด้านในนี้ไม่ใช่บิกินี กับเป็นเสื้อกันแดดกึ่งโปร่งใส “เสื้อผ้าพวกนี้...” ตอนที่ฉันกำลังหยิบเสื้อบิกินีตัวหนึ่งถามดนุนัย ก็ถูกชายหนุ่มกอดจากด้านหลัง ชายหนุ่มจูบเหนือศีรษะฉันอย่างแผ่วเบาสักพัก ใช้น้ำเสียงกำกวมพูดว่า“ที่นี่นอกจากคนดูแลเกาะ ก็มีแค่ผม ดังนั้นคุณใส่เถอะ คุณสวมชุดนี้มีแค่ผมคนเดียวที่เห็น” 
已经是最新一章了
加载中