ตอนที่ 120 คนสวยเสียใจแล้ว ยังจะไม่ไปปลอบใจอีก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 120 คนสวยเสียใจแล้ว ยังจะไม่ไปปลอบใจอีก
ต๭นที่ 120 คนสวยเสียใจแล้ว ยังจะไม่ไปปลอบใจอีก นึกถึงตอนแรก ที่เธอไล่ตามหานรชัย เพราะว่านรชัยมักจะดึงดูดพวกผู้หญิงให้มาเจ๊าะแจ๊ะข้างๆซึ่งเธอเห็นมาเยอะแล้ว สำหรับยัยธารีคนนี้ จะต้องไม่มาดีแน่นอน แล้วการที่มากระพริบตาใส่ทาวัตคนเดียวคืออะไร? ยังมองเขาไม่พอหรือไง? “คุณแซวเกินไปนะ ผมเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน จะมีน้องสาวได้ไง” พอธรรศได้ยินจึงรีบปฏิเสธ แล้วหันไปมองธารีอีกรอบแล้วส่ายหัว เหมือนกับจะพูดว่า คนแบบนี้จะมาอยู่บ้านเดียวกับกูได้ยังไง?! เมื่อธารีได้ยินพวกเขาพูดแบบนี้ ก็เริ่มชักสีหน้า เธอไม่คิดว่าธรรศจะมาวิจารณ์หน้าตาของเธอแบบไม่เกรงใจกันแบบนี้ ก่อนที่เธอจะมาที่นี่เธอได้ใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการแต่งหน้า แล้วจะมาโดนพวกเขาดูถูกอย่างนี้? แต่จริงๆแล้ว ธรรศไม่ได้มีเจตนาไม่ดี เพียงแค่พูดตรงๆ คนที่สนิทกับเขาก็จะชินกับการพูดจาของเขา แต่สิ่งที่ธารีได้ยินมานั้น ถือเป็นการตั้งใจด่าเธอ ธารีหันไปหาทาวัต แล้วก็รีบก้มหน้าลง บรรยากาศเริ่มตึงเครียด วรินทรเริ่มรู้สึกไม่สบายใจก็วางไพ่ลงบนโต๊ะ แล้วไปเขย่าแขนของธาวัตว่า “เฮ้ย คนสวยกำลังเศร้า ไม่ไปปลอบใจหน่อยหรอ?” ทาวัตหันไปมองอย่างสงสัย จ้องมองไปโดยไม่พูดจา ท่าทางยังคงเย็นชา เหมือนกับจะสื่อให้เธอรู้สิ่งที่จะถาม “คุณแน่ใจหรอ?” วรินทรกัดฟัน เริ่มรู้สึกลังเลและสับสน ถ้าเกิดทาวัตไปหาธารีจริงๆ ก็เท่ากับว่าเธอได้แพ้แล้วสิ พูดอีกอย่างก็คือ เธอไม่อยากให้ทาวัตไปช่วยธารี “ผมรู้แล้ว” ทาวัตตอบรับสิ่งที่เธอพยายามจะสื่อ เขายิ้มมุมปาก แล้วหันไปมองธารีที่กำลังรู้สึกผิด จึงหันไปบอกจันทร์ทราว่า “จันทร์ทรา คุณธารีคงเหนื่อยละ ส่งเขากลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ” ธารีเงยหน้าขึ้นมาแบบงงๆ มองไปที่ทาวัตอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน น้ำตาเริ่มซึมที่มุมตา นี่เขากำลังไล่เธอไป? เพราะคำพูดประโยคเดียวของวรินทร เขาก็จำใจไล่เธอให้ไปจากที่นี่? นี่เท่ากับเป็นการตบหน้าเธอไม่มีผิด “ทาวัต......” ธารียังอยากจะพูดอะไรอีกซักหน่อย เธอยังไม่บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในคืนนี้ เธอจะจากไปอย่างนี้ไม่ได้ “ธารี” น้ำเสียงเข้มๆของทาวัตพูดดักคอธารี ด้วยสายตาที่ดำสนิททั้งสองข้าง ทำให้คนไม่อาจเอื้อมถึง “กลับไปเถอะ” แค่ประโยคเดียว ก็ชัดเจนพอแล้ว แต่เมื่อเห็นทาวัตยังคงไว้หน้าธารี เขาไม่ได้ออกปากไล่เธอไป แถมยังให้เกียรติ์อีก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่หาดูได้ยากมาก ธารีดึงชายเสื้อของตัวเองขึ้น เธอรู้สึกไม่พอใจที่ภาพลักษณ์ของตนเองได้ถูกทำลายลง แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก “โอเค ถ้างั้นอย่าลืมมาหาฉันนะ” ธารียิ้มให้ทาวัต ก่อนจะบอกลา แล้วก็ให้จันทร์ทราเข็นรถเข็นไปจากที่นี่ พอหันหลังไป สีหน้าของธารีก็เปลี่ยนไปทันที ในสายตาของเธอเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น เธอแค้นมาก จนทำให้เธอดิ้นไม่หยุด เธอมองไปที่คนๆนั้น ถ้าจะต้องต่อสู้เธอก็พร้อมสู้! “ตอนนี้ขาดไปหนึ่งคน คาร่ามาแทนเถอะ” พอธารีไป ธรรศก็หันไปพูดกับคาร่า ส่วนก็วรินทรมาเล่นแทนไม่ได้ เพราะทักษะการเล่นไพ่ของเธอนั้น เธอต้องแพ้แน่นอน ซึ่งเขาทนดูต่อไปไม่ไหว “รอเดี๋ยว” ทาวัตพูดออกมา เมื่อสายตาของเขาได้มองไปที่ประภาพที่กำลังนั่งเงียบๆอยู่โต๊ะข้างๆซึ่งเขาได้มาถึงก่อนทาวัตจะมา “ให้เขามาแทน” เมื่อรู้ตัวว่าโดนมอง ประภาพที่นั่งจิบไวน์อยู่โต๊ะข้างๆก็เงยหน้ามามองพวกเขา แล้วก็ยิ้มตอบรับตามมารยาท “ประภาพ คุณก็อยู่นี่หรอ รีบมาเล่นไพ่เร็ว” วรินทรไม่รู้ว่าประภาพมานั่งตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่อย่างไรก็ตามก็น่าจะนั่งมาพักนึงแล้ว เพราะดูจากแก้วไวน์ก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว “โอเค” ประภาพยิ้มตอบรับ ยิ่งเป็นคำขอของวรินทรแล้ว เขาก็ไม่เคยปฏิเสธ ตอนนี้ที่นี่กลายเป็นสมรภูมิของชายสี่คน วรินทรนั่งอยู่ข้างๆทาวัต ตรงหน้ามีนรชัย ธรรศ และ ประภาพ ในใจคิดว่าสามรุมหนึ่ง ไม่ใช่แค่เธอแพ้อย่างราบคาบ แต่ดูๆแล้วทาวัตก็คงจะแพ้ด้วย แต่เรื่องที่น่าตกใจก็เกิดขึ้น วรินทรมองไปที่ไพ่ในมือของทาวัต เมื่อเห็นไพ่ที่เธอแยกความแตกต่างไม่ออกพอมันมาอยู่ในมือของทาวัตกลับชนะทุกตรา ในใจก็รู้สึกไม่ยุติธรรมเลย! ทำไมอ่ะ! ไพ่พวกนี้เห็นชัดๆว่าเหมือนกันหมด ทำไมถึงเลือกปฏิบัติล่ะ? พอมาอยู่ในมือเธอต้องแพ้ตลอด ถ้าจะพูดว่าชนะได้อย่างเทพ เธอก็คงพูดได้ว่าแพ้อย่างเทพ....... ทำไมเมื่อไปอยู่ในมือของทาวัตจึงชนะได้ทุกตรา? นี่กำลังจะบอกเธอว่า หลังจากนี้อย่าซี้ซั้ววางไพ่ไม่งั้นจะทำให้ทั้งบ้านแพ้สินะ? เมื่อเดิมพันมากขึ้น ดูเหมือนกระเป๋าของธรรศกับนรชัยกับบัตรทองของประภาพก็มาอยู่ที่ด้านหน้าของทาวัต วรินทรได้แต่กลืนน้ำลาย ทาวัตนี้เป็นเซียนจริงๆ ถ้าเธอชนะสักหนึ่งตรา จะต้องดีใจจนบ้าแน่ๆ วรินทร ศักดิ์ศรีของเธอล่ะ วรินทรก็ปล่อยผมอย่างสง่างาม คิดถึงศักดิ์ศรีแล้ว มันคืออะไร? กินได้มั๊ย? เมื่อเทียบกับความบ้าของธรรศ ประภาพกับนรชัยก็ดูสงบขึ้นมาก เมื่อเห็นทาวัตชนะ ก็ทำได้แค่วางบัตรลงบนถาดแล้วเล่นต่อไป ธรรศก็หน้าบึ้งเมื่อจะต้องเอาบัตรใบสุดท้ายไปวางไว้ตรงหน้าของทาวัต วางไพ่ลงบนโต๊ะ แล้วทำได้แค่โวยวายบนโต๊ะ “ไม่เอาแล้วไม่เอาแล้ว ถ้าเล่นอีกบ้านของผมคงไม่เหลือแล้ว” พูดง่ายๆก็คือ ถ้ารักชีวิต ก็ควรจะห่างไกลการพนัน โดยเฉพาะการเล่นพนันกับทาวัต “หรอ? ทำไมฉันแพ้ไม่เป็น?” ทาวัตก็ยักคิ้ว แล้วรวมกระเป๋าตังค์กับบัตรเครดิตมารวมไว้ตรงหน้าวรินทร “เก็บให้ดี” เงิน! ตาทั้งสองข้างของวรินทรก็เป็นประกายขึ้น แต่ต้องอดทนแรงปรารถนาที่จะเอาของพวกนี้มาใส่ในกระเป๋ากางเกง “ให้ฉันหรอ?” “ใครบอกล่ะ แค่จะเก็บไว้ที่คุณเฉยๆ” ทาวัตก็ก่ายหน้าผาก จะให้ตายยังไงก็ไม่ยอมชดใช้สิ่งที่วรินทรแพ้เดิมพันไปเมื่อกี้เลยมาเอาคืนจากธรรศและนรชัยแทน “มาอยู่ในมือฉันแล้วยังคิดจะเอากลับอีกหรอ?” วรินทรมองไปที่เขา แล้วส่ายหัวราวกับคนไข้ที่น่าสงสาร จากนั้นก็เอาเงินในกระเป๋าหยิบออกมาใส่กระเป๋าตังค์ของตัวเอง แล้วก็เอาบัตรสีทองพวกนั้นมาใส่ไว้ในช่องใส่บัตรในกระเป๋าตังค์ ราวกับเป็นเศรษฐีมือใหม่ กระเป๋าตังค์ที่แบนๆอยู่เมื่อกี้ก็แน่นขึ้นมา ดูๆแล้ววรินทรกำลังอารมณ์ดี ประภาพก็สงสัย ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นหวานซึ้งขนาดนี้แล้วหรอ? “ดนตรีเปิดแล้ว พี่ครับ รีบพาวรินไปเต้นรำเถอะ เขารอคุณเปิดฟลอร์อยู่นะ” เมื่อธรรศได้ยินเสียงดนตรี ก็รีบพูดขึ้นมา คืนนี้ทาวัตจะต้องเลือกคู่เต้นรำเพื่อเปิดงาน เพราะยังไงวันนี้พวกเขาก็ไปไหนไม่ได้อยู่ดี เลี้ยงดู “วริน” เยี่ยงชีพ มันไม่คุ้มที่จะมาขู่เข็ญเอาเงินเพื่อนของพวกเขา จะแอบไปก็ไม่ได้ ทาวัตก็ค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย เมื่อเห็นวรินทรกำลังจ้องที่กระเป๋าตังค์ของตัวเองอย่างมีความสุข แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงจูงมือแธอไปที่กลางฟลอร์เต้นรำ แสงไฟได้มืดลง ถ้าหากได้สังเกตดีๆ ก็จะพบว่าบริเวณรอบๆนอกจากจะมีนักข่าวบันเทิงสองสามคนแล้ว ก็ไม่เห็นพวกนักข่าวที่ไร้มารยาทจากบริษัทเล็กอีกต่อไป ล้วนแต่เป็นฝีมือของปกเกศทั้งนั้น 
已经是最新一章了
加载中