ตอนที่ 63 ห่างกันมาก
1/
ตอนที่ 63 ห่างกันมาก
ชายาเจ้าเล่ห์ เจ้าอย่าหนี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 63 ห่างกันมาก
ตนที่ 63 ห่างกันมาก หลังจากกลับเมืองหลวง ฮ่องเต้ทรงสั่งให้ยกเลิกงานที่เกี่ยวข้องกับการล่าสัตว์ทั้งหมด งานล่าสัตว์ของทุกปีถือเป็นงานรื่นเริง แต่ว่าในปีนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น เริ่มจากเรื่องของเซี่ยวี่เสวียน จากนั้นก็มาเป็นเรื่องขององค์ชาย หมอหลวงรักษาอยู่หลายวัน สุดท้ายก็ยอมแพ้ ช่วงล่างของเหว่ยเฉินถูกแทงอาการสาหัสมาก ถึงแม้จะสามารถรักษาสิ่งนั้นไว้ได้ แต่ก็ไม่สามารถร่วมห้องกับใครได้อีก เซี่ยวี่เสวียนถูกหย่ากลับมาอยู่ที่จวน ก็กลายเป็นบ้าตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ช่วงล่างเน่าเฟะ หมอหลวงแต่ละคนต่างบอกว่าจนปัญญา เพียงช่วงเวลาสั้นๆ คนที่เคยโอหังหยิ่งผยองกลับไม่เหลือแม้แต่สภาพความเป็นคน บรรยากาศของจวนตระกูลเซี่ยอึมครึมมาก นางเฉินซื่อใช้น้ำตาล้างหน้าทุกวัน บ่าวไพร่ทำงานต่างตั้งสติและระวังมากขึ้น พวกเขากลัวว่าเกิดทำอะไรพลาดขึ้นมาก็จะถูกโบย แต่เรื่องพวกนี้ในสายตาของเซี่ยอีอีก็แค่ความหวาดระแวงของตัวนางเฉินซื่อเองทั้งนั้น คนๆหนึ่งที่หลอกใช้ชายคนรักที่โตมาด้วยกันเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองได้ ทิ้งลูกชายแท้ๆตัวเอง นางจะมีความเมตตาได้ยังไง ตอนนี้นางก็แค่สูญเสียลูกสาวไป บางที่ที่นางกำลังเสียใจอยู่อาจจะไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง แต่อาจจะเสียใจเพราะกำลังสูญเสียความสุขสบายความมั่งมีก็เป็นได้ หลายวันต่อมา จู่ๆในเมืองหลวงก็มีกลุ่มชาวยุทธเข้ามาหลายคน ราชสำนักจึงต้องระวังเป็นพิเศษ แต่ว่าเมื่อตรวจสอบหลายวัน ก็ไม่พบคนกลุ่มนี้ทำอะไร หลังจากนั้นไม่กี่วัน พวกเขาก็ออกจากเมืองไปอย่างเงียบๆ เมื่อเหว่ยหมิงพอจะมีวันว่าง แต่กลับไม่พบแม้แต่เงาของเซี่ยอีอีเลย บ่าวไพร่ของตระกูลเซี่ยบอกว่านางไม่ได้กลับมาที่จวนหลายวันแล้ว เขาถึงได้รู้ว่า ไม่เพียงแค่เซี่ยอีอีเท่านั้น แม้แต่เซี่ยวี่ซื่อกับเซี่ยเฉินวี่หลังจากลงเขามาก็ไม่ได้เข้าวังหลวงอีกเลย เขาพยายมค้นหานาง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้แม้แต่ข่าวคราวของเซี่ยอีอีเลย แต่ว่าสองวันถัดมา เด็กแสบสองคนก็ปรากฏตัวขึ้น เมื่อเห็นเด็กสองคนนั้นนั่นแสดงว่าเซี่ยอีอียังไม่ได้ไปไหน แต่เมืองหลวงใหญ่ขนาดนี้ นางหายไปไหนตั้งหลายวัน? ตอนนี้เพิ่งจะมีความคืบหน้าในความสัมพันธ์ แต่นางกลับมาหายตัวไปอีก เมื่อเป็นแบบนี้เหว่ยหมิงจะยอมแพ้ง่ายๆได้ยังไง เขาเข้าวังหลวงไปเพื่อสอบถามเด็กน้อยสองคนนั้น แต่ไม่รู้ทำไม เซี่ยวี่ซื่อที่มักจะเข้าหาเขาตลอดเวลากับทำตัวห่างเหินกับเขา ถามอะไรก็ไม่รู้ท่าเดียว ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมพูดความจริงกับเขา แม้แต่เซี่ยวี่ซื่อก็ไม่ยอมพูดความจริงกับเขา ยิ่งไม่ต้องหวังว่าเซี่ยเฉินวี่จะบอก เห็นหน้าเย็นชาเล็กๆนั่น คำตอบมันก็ชัดเจนที่ว่า ‘เจ้าไม่ต้องมาถามอะไรทั้งนั้น ข้าไม่รู้อะไรเลย’ เหว่ยหมิงจนปัญญากับเด็กสองคนนั้น ทำได้แค่ให้จางหายช่วยออกหน้าให้ เขาพาเด็กสองคนนั้นหนีเรียน ไปสนามฝึก แล้วก็ไปในสถานที่ที่ไม่ควรไป เพื่อซื้อใจพวกเขาสองคน อีพิ่นเก๋อ เมื่อเห็นเด็กสองคนเดินเข้ามาในร้าน สีหน้าของเสี่ยวเอ้อที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มในคร่าแรกก็หุบขึ้นทันควัน จางหายเห็นดังนั้นก็รู้ว่าทำไม เด็กแสบสองคนก็เดินเข้าไปแบบไม่เกรงใจ จางหายก็มองไปที่เสี่ยวเอ้อแล้วพูดว่า: “ไม่ต้องกลัว วันนี้ข้าเป็นคนจ่ายเอง พวกเขาไม่กินอะไรเกินเลยหรอก” เซี่ยวี่ซื่อจำได้ว่าที่นี่มีอาหารหลายอย่างที่รสชาติใช้ได้ เมื่อเห็นเสี่ยวเอ้อของร้านระมัดระวังตัวมาก นางก็ยิ้ม แต่ก็ไม่พูดอะไร เด็กน้อยสองคนวางแขนไว้บนโต๊ะ เซี่ยวี่ซื่อมองไปที่จางหายแล้วพูดว่า: “ท่านอาจาง วันนี้ท่านมาช่วยพูดแทนท่านอาหน้ายักษ์คนนั้นใช่ไหม?” ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ จางหายยังไม่ได้พูดถึงเหว่ยหมิงเลยแม้แต่คำเดียว แต่ว่าเป้าหมายของเขา ด้วยความฉลาดของเด็กสองคนนี้ถ้าจะเดาถูกก็ไม่แปลก แต่ว่า ในเมื่อพวกเขาเดาได้แล้ว ยังจะพาเขาไปทรมานทั้งวันอีก ใจชะมัด “สาวน้อยเจ้าพูดแบบนี้ เจ้าเห็นข้าเป็นคนยังไงกัน?” จางหายยิ้ม เขาไม่อยากเสียเวลาไปแล้วทั้งวันแต่กลับไม่ได้อะไรเลย “หรือว่าไม่ใช่ล่ะ?” เซี่ยเฉินวี่พูดสั้นๆหนึ่งคำ จางหายรู้สึกรู้จะเอาไงต่อดี “ก็ ก็ไม่ใช่น่ะสิ ข้าก็แค่อยากพาพวกเจ้าไปเที่ยวเล่นก็เท่านั้น เจ้าดูเด็กที่อยู่แต่ในวังหลวงพวกนั้นสิ บ้าๆบอๆทั้งนั้น ข้าไม่อยากให้เจ้ากลายเป็นแบบนั้น” เมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยเฉินวี่ไม่มีท่าทีอะไร แต่ใช้สายตาเยือกเย็นของเขาจ้องไปที่จางหาย สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ว่าเขาก็ยังไว้หน้าอยู่บ้าง ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่ว่าสีหน้าของจางหายก็ปิดอะไรไม่ค่อยมิด “ท่านอาจาง ทำไมท่านไม่พาพี่เฉียนหลิงมาด้วยล่ะ?” เซี่ยวี่ซื่อทำตาโตๆ ถามด้วยความใสซื่อ เบี่ยงประเด็นมาจนได้ จางหายรีบจิบชากลบความตกใจ เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็วางถ้วยชาลง แล้วถามด้วยความแปลกใจว่า: “ทำไมพวกเจ้าเรียกข้าว่าท่าอา แต่เรียกแม่นางหยางว่าพี่ล่ะ? พวกเจ้าเรียกแบบนี้ ข้ากับนางก็กลายเป็นคนละรุ่นกันน่ะสิ!” บรรยากาศเงียบไป เด็กสองคนมองหน้ากัน เซี่ยเฉินวี่พยักหน้า เหมือนจะเข้าใจ “ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ต่อไปเราก็จะเรียกนางว่าท่านน้าเฉียนหลิงก็แล้วกัน จะได้ไม่มีใครเข้าใจผิดว่าท่านเป็นวัวแก่กินหญ้าอ่อน” “เห้อ!” คำพูดสะเทือนฟ้าทลายดินแบบนี้ จางหายเกือบจะสำลักน้ำลายตาย เขาโชคดีที่ยังไม่ได้ดื่มน้ำเข้าไป ไม่งั้น ‘ชีวิต’ เขาก็คงต้องมองให้ยมบาลไปแล้ว “ข้าเมื่อไหร่กัน .......” พูดยังไม่ทันจบ จางหายก็หยุด มองไปที่เด็กสองคน เขาก็รู้สึกว่าไม่อธิบายแล้วดีกว่า เรื่องแบบนี้ต่อให้บอกพวกเขาไปแล้ว พวกเขาก็อาจจะไม่เข้าใจ เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง อาหารที่เซี่ยวี่ซื่อสั่งก็มาจนครบ ครั้งนี้จางหายรู้สึกแปลกใจว่า เด็กสองคนนี้กินอย่างเรียบร้อย เมื่อเทียบกับตอนที่พวกเขาเป็นเด็กปีศาจ มันดูไม่เข้ากันเลย เมื่อเห็นพวกเขาผ่อนคลาย จางอวายเหมือนจะเข้าประเด็นหลัก “แม่ของพวกเจ้าไม่ได้กลับมาหลายวันแล้ว พวกเจ้าไม่คิดถึงนางหรอ?” เซี่ยวี่ซื่อค่อยๆกลืนอาหารลงไป จากนั้นก็ย้อนถามว่า: “ได้ยินท่านลุงเล่าให้ฟังว่า ท่านเองก็เคยจากเมืองหลวงไปตั้งหลายปี แล้วทำไมท่านไม่คิดถึงท่านแม่ของท่านบ้าง?” จางหายยิ้มมุมปาก เขาอยากจะยอมแพ้แล้ว เด็กสองคนนี้สวรรค์จะต้องส่งเขามาทรมานเขาแน่ๆ นิสัยประหลาดก็ไม่ว่าล่ะ ประเด็นมันอยู่ที่ความเล่นลิ้นของพวกเขา มันทำให้เขาอยากจะกระอักเลือดตาย ทรมานมาทั้งวัน จางหายเองก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้ว เมื่อมาถึงหน้าประตูจวนหยงอ๋องก็เจอเข้ากับหงอีที่กำลังกลับเข้าจวนมา หงอีคำนับเขาอย่างผู้หญิง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับชายที่ทำความเคารพแบบผู้หญิง จางหายรู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่ จริงๆแล้ว หากไม่บอกว่าเขาเป็นผู้ชาย ก็ดูไม่ออกหรอก จริงๆจะโทษก็โทษที่เขารู้อะไรมากจนเกินไป ต่อให้ปลอมตัวจะบอกว่าไม่รู้มันก็ไม่ได้ เมื่อได้เข้าไปในห้องของเหว่ยหมิง จางหายเคาะที่โต๊ะเบาๆ เพื่อเรียกสติเหว่ยหมิงกลับมา เขายิ้มแล้วทักว่า: “ดูไม่ออกเลยนะเนี้ย หยงอ๋องของเราก็มีช่วงเวลาที่นั่งคิดถึงใครด้วย” “เป็นยังไง?” เหว่ยหมิงไม่ได้สนใจคำพูดของเขาเลย รีบร้อนอยากจะรู้คำตอบ จางหายส่ายหัว แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง “เด็กแสบสองคนนั้นข้ารับมือไม่ไหว แต่ถึงแม้ว่าจะสืบไม่ได้อะไรเลย แต่ข้าว่าเจ้าก็ไม่ต้องร้อนใจเกินไป ในเมื่อเด็กสองคนนั่นยังมาเข้าวังปกติ งั้นก็แสดงว่าแม่ของนางไม่ได้เป็นอะไร ยังไงซะนางก็อยู่ข้างนอกคนเดียวตั้งห้าปี น่าจะเรียนรู้การช่วยเหลือตัวเองได้ ข้าไม่เข้าใจเจ้าจะร้อนใจไปเพื่ออะไร” คำตอบของจางหายเหว่ยหมิงเองก็คิดเอาไว้อยู่แล้ว แต่ว่าสิ่งที่เขาเป็นห่วงไม่ใช่ความปลอดภัยของเซี่ยอีอี แต่ว่าเป็นอื่น เช่น ผู้ชาย หรือ พ่อของเด็กๆ “เมื่อกี้ข้าเห็นหงอีกลับมาจากด้านนอก เจ้ารู้หรือเปล่าว่าเขาไปไหนมา?” เหว่ยหมิงไม่พูดอะไร จางหายรู้ว่าตัวเองพูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ ก็เลยไม่ถามต่อ ในเวลาแบบนี้เหว่ยหมิงจะไปมีกะจิตกะใจที่ไหนไปสนใจหงอี เขาตอบแค่ว่า “ไม่รู้” “เจ้าไม่ได้กักบริเวณเขาหรอ?” ในความคิดของจางหายหงอีคือตัวประกันที่หยางหนิงซื้อกลับมา ในเมื่อเป็นตัวประกัน จะเข้าออกจวนหยงอ๋อง มันน่าแปลกเกินไปหน่อยไหม? เมื่อได้ยินดังนั้น เหว่ยหมิงก็ขมวดคิ้ว “ทำไมข้าจะต้องกักบริเวณเขาด้วย?” จางหายอึ้งไป หรือว่าเขาคิดมากเกินไป? “วันๆเขาแต่งตัวอย่างกับผู้หญิง เดินเข้าออกจวนหยงอ๋องเป็นว่าเล่นแบบนี้ เจ้าไม่กลัวใครเอาไปพูดหรือไง?” เหว่ยหมิงเหมือนจะไม่ค่อยพอใจ เขาไม่กลัวใครเขาว่าหรอก เพราะไม่มีใครกล้า แต่คำพูดไร้สาระเขาแอบกลัว “ไปทรมานมาทั้งวันอะไรก็ไม่ได้สักอย่าง ตอนนี้ยังมาพูดอะไรไร้สาระอีก เจ้ากลัวว่าข้ามีเรื่องเครียดไม่มากพอหรอ?” เมื่อได้ยินดังนั้น จางหายก็พูดด้วยความน้อยใจว่า: “โทษข้าได้ไง เด็กแสบสองคนนั้นใช่ว่าเจ้าจะไม่รู้ ปากร้ายเหมือนเจ้าไม่มีผิด เปิดปากทีฆ่าคนตายได้เลย แม้แต่โอกาสจะถามยังไม่มีให้ข้าเลย อีกอย่างเด็กสองคนนั้นก็เด็กซะขนาดนั้น แถมเป็นลูกของแม่นางเซี่ยด้วย ใช้แรงบังคับก็ไม่ได้ใช้การสอบสวนก็ไม่ได้ เจ้าจะให้ข้าทำยังไง เรื่องหาข่าวข้าทำได้ แต่ว่าก็ต้องให้พวกเขาให้ความร่วมมือกับข้าด้วยสิ” เมื่อได้ยินดังนั้น เหว่ยหมิงก็จ้องไปที่เขา ใช้แรงบังคับ? สอบสวน? เขากล้าหรอ! เห็นสีหน้าของเหว่ยหมิงไม่ค่อยดี จางหายก็พูดอีกว่า: “เรื่องนี้ข้าไม่ได้ข่าวอะไรมาก็จริงอยู่ แต่ว่ามีอีกเรื่องหนึ่งที่ได้อะไรกลับมาไม่น้อยเลย” “ไหนลองว่ามาสิ” เขาไม่มองจางอวาย เหว่ยหมิงเหมือนจะไม่ได้สนใจมาก “เกี่ยวกับเรื่องชาวยุทธ์ที่เข้ามาในเมืองหลวงช่วงนี้ ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาเข้าเมืองหลวงมาเหมายาจากร้านยาไปจนหมด ข้าส่งคนไปถามมาแล้ว คนที่เข้ามาซื้อยาเป็นพวกชาวยุทธ์นั่นจริงๆ” เหว่ยหมิงหันไปมองจางหาย “เจ้าหมายถึง พวกเขาเข้าเมืองหลวงมาพร้อมกันเพื่อมาซื้อยาหรอ?” “ไม่ พวกเขามาซื้อยานี่คือเรื่องจริง แต่ข้าว่าน่าจะมีอะไรอย่างอื่นอีกแน่ๆ” ถูกต้อง หากพวกเขามาเมืองหลวงแค่เพื่อซื้อยา แค่ตัดช่องทางการซื้อขายของพวกเขาก็ได้แล้ว ไม่ต้องมากว้านซื้อยาจนหมดทุกที่ขนาดนี้ อีกอย่างพวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นผลเสียต่อเมืองหลวงเลย คิดว่าไม่น่าจะคิดร้ายอะไร แต่ว่าซื้อยาไปจนหมดเมืองหลวงขนาดนี้แล้ว พวกเขามีเหตุผลอะไรกันแน่? ............ หลังจากนั้นสองวันเซี่ยอีอีก็กลับจวน เหว่ยหมิงได้ยินข่าวก็รีบมาที่จวนของนางทันที บรรยากาศในตระกูลเซี่ยอึมครึม แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เหว่ยหมิงสนใจ เส้นทางในตระกูลเซี่ยเขาคุ้นเคยดี อีกอย่างเขาก็มาตั้งหลายครั้ง บ่าวไพร่ในจวนก็ไม่มีใครขวางเขา เมื่อเดินเข้ามาในห้องนอนของเซี่ยอีอี เห็นคนที่ไม่เจอหน้ากันตั้งหลายวันกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง คนที่สวมชุดดำก็เดินมานั่งอยู่ที่ริมเตียงของนาง เห็นนางหลับอยู่แบบนี้ เขาเองก็ไม่อยากจะปลุกนางขึ้นมาเพื่อมาต่อว่าเขา สุดท้าย ก็ถอนหายใจ นั่งอยู่ริมเตียง เขาเอาหน้าเข้าไปใกล้ๆนาง แล้วพูดเสียงเบาๆว่า: “กลับจวนกับข้าดีไหม?” เซี่ยอีอีพูดอะไรพึมพำพลิกตัวแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร เหว่ยหมิงรู้ว่านางง่วงมาก หากไม่งั้นนางคงลุกขึ้นมาด่าเขาแน่ๆ การที่เหว่ยหมิงถามก็ไม่ได้ต้องการให้นางตอบอยู่แล้ว หรือต่อให้นางบอกว่าไม่นางก็ไม่มีสิทธิ เข้าฤดูใบไม้ร่วมแล้วอากาศเริ่มเย็น เหว่ยหมิงลุกขึ้นมาแล้วเดินไปหยิบเสื้อคลุมออกมาจากตู้ จากนั้นเขาหันกลับไปที่เตียง แล้วจับคนที่อยู่บนเตียงม้วนเข้าไปในผ้าคลุม แล้วอุ้มออกไปเลย เซี่ยอีอีนอนยาวสองวันติด เหว่ยหมิงเริ่มรู้สึกเป็นกังวล “ตงหมิง” “ท่านอ๋อง” เมื่อได้ยินเสียง ตงหมิงรีบผลักประตูเข้ามา “ไปตามหมอมาเร็ว” เห็นเซี่ยอีอีไม่ตื่นขึ้นมาสักที ตงหมิงก็เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร เขารับคำ แล้วก็รีบไป ------------ “ท่านอ๋อง แม่นางคนนี้แค่หลับไป ไม่เป็นอะไรเลย” ท่านหมอฮั่วเป็นหมอเพียงคนเดียวที่เหว่ยหมิงเชื่อใจ ถึงแม้เขาจะไม่ใช่หมอหลวง แต่ก็เพราะว่าเขาไม่ใช่หมอหลวง เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับราชสำนัก ดังนั้นเขาถึงได้วางใจ เมื่อได้ยินดังนั้น เหว่ยหมิงก็ขมวดคิ้ว “นางนอนไปสองวันเต็มๆ เจ้าแน่ใจนะว่านางไม่เป็นอะไร?” ท่านหมอฮั่วโค้งคำนับ แล้วพูดว่า: “ท่านอ๋องทรงวางพระทัยได้ แม่นางคนนี้แค่เหนื่อยล้ามากเกินไปถึงได้นอนหลับยาวขนาดนี้ ไม่เป็นอะไรจริงพะยะค่ะ” เมื่อได้ยินเขาพูดมาแบบนี้เหว่ยหมิงถึงได้วางใจ เขามองไปที่คนที่ยังไม่ตื่น แม้แต่บอกลาท่านหมอฮั่วเขายังลืมพูดเลย ตงหมิงเห็นดังนั้นเขาก็รู้หน้าที่จะรับหน้าแทน เขาเดินไปส่งท่านหมอฮั่วได้ไม่นาน ก็เคาะประตูเดินเข้ามาอีกครั้ง “ท่านอ๋อง เด็กสองคนจากตระกูลเซี่ยมาพะยะค่ะ” “ให้พวกเขาเข้ามา” จะว่าไปแล้ว นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เด็กสองคนนั้นมาที่จวนนี่แบบทางการ ไม่นับตอนที่แอบมาตอนกลางคืน ไม่นานนักเด็กสองคนก็ปรากฏตัว พวกเขาเดินมาไม่เหมือนคนที่มาครั้งแรกเลย แต่ว่า เซี่ยวี่ซื่อนอกจากจะเหลือบไปมองเซี่ยอีอีแล้ว ยังก้มหน้าไม่กล้ามองหน้าเหว่ยหมิง “ทำไมท่านจะต้องพาท่านแม่มาที่นี่ด้วย?” เซี่ยเฉินวี่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆนิ่งๆ สีหน้าท่าทางเหมือนกำลังสอบสวนอยู่ เซียวี่ซื่อยืนหลบอยู่ด้านหลังเซี่ยเฉินวี่ นางค่อยๆดึงชายเสื้อของเขา นางดูระวังตัวมากทำให้เหว่ยหมิงไม่ค่อยเข้าใจ ก่อนหน้านี้นางยังมาคลอเคลียกับเขาอยู่เลย ทำไมแค่ไม่กี่วันถึงได้หลบเขาขนาดนี้? “ซื่อเอ๋อ?” จู่ๆเหว่ยหมิงก็เรียกชื่อของนางทำให้เซี่ยวี่ซื่อรู้สึกตกใจ นางหลบเข้าหลังเซี่ยเฉินวี่ไปอีก ทำเหมือนไม่สนใจเขา เซี่ยเฉินวี่ยืนปกป้องเซี่ยวี่ซื่อเอาไว้ แล้วพูดว่า: “ท่านมีอะไรจะพูดก็พูดตรงนี้แหละ น้องสาวข้าไม่สนใจท่านหรอก อีกอย่าง ท่านจะส่งแม่ข้ากลับบ้านตระกูลเซี่ยเมื่อไหร่?” บ้านตระกูลเซี่ย? แต่ไม่ใช่บ้าน? เขามองไปที่หน้าน้อยๆสองคน เหว่ยหมิงพูดว่า: “บ้านตระกูลเซี่ยมีอะไรดี ทำไมถึงอยากกลับไปนัก?” “ถึงบ้านตระกูลเซี่ยจะไม่มีอะไรดี แต่เราก็อยู่ได้แค่ที่นั่น” เกี่ยวกับบ้านตระกูลเซี่ย เซี่ยเฉินวี่ไม่กลัวที่จะพูดตรงๆกับเขา เขาไม่ชอบบ้านตระกูลเซี่ยอยู่แล้ว มันไม่มีอะไรจะต้องปิดบัง คำพูดของเซี่ยเฉินวี่เหว่ยหมิงไม่ได้แปลกใจ เด็กคนนี้เป็นคนเปิดเผย ตั้งแต่เดินปกป้องน้องเข้ามาจากประตูแล้ว “ในเมื่อตระกูลเซี่ยไม่มีอะไรดีแล้วจะอยู่ให้ทรมานทำไม? จวนของข้าที่นี่ก็ไม่ได้ด้อยกว่าตระกูลเซี่ย หากพวกเจ้ายินดี อยู่ที่นี่ก็ได้นิ ข้าจำได้ว่าแม่ของพวกเจ้ายังมีสาวใช้อีกคนใช่ไหม หากพวกเจ้าอยากให้นางมาดูแล พานางมาด้วยก็ได้” เมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยวี่ซื่อก็โผล่หัวออกมามองเหว่ยหมิง แต่ก็เดี๋ยวเดียว จากนั้นก็หลบเข้าหลังเซี่ยเฉินวี่ไปอีก “ไม่ต้องหรอก ถึงแม้บ้านตระกูลเซี่ยจะไม่ดี แต่ว่ายังไงเราก็แซ่เซี่ย เราคงไม่ย้ายออกมาหรอก” เซี่ยเฉินวี่พูดจาเสียงดังทำให้เหว่ยหมิงยิ้มเบาๆ เซี่ยเฉินวี่เห็นดังนั้นก็เริ่มกลัว เพราะยังไงเขาคนที่เชิญชวนก็เป็นพ่อแท้ๆของเขา ปฏิเสธเขาครั้งแรกทำให้รู้สึกไม่สบายใจ จากนั้นเขาก็เบี่ยงประเด็นไป เซี่ยเฉินวี่พูดขึ้นอีกครั้ง: “ในเมื่อท่านแม่ยังไม่ตื่น งั้นเรากลับก่อน อีกสองวันค่อยมาใหม่ ขอเตือนท่านไว้ก่อนนะ อย่ารังแกแม่ข้า” เห็นเจ้าเงาเล็กๆทั้งสองจากไป เหว่ยหมิงก็ยิ้ม แล้วพูดว่า: “นิสัยเสียๆแบบนี้ เหมือนกันจริงๆ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 63 ห่างกันมาก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A