บทที่125ท่านมู่หนุนหลังเธอ
1/
บทที่125ท่านมู่หนุนหลังเธอ
รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
(
)
已经是第一章了
บทที่125ท่านมู่หนุนหลังเธอ
บ๗ที่125ท่านมู่หนุนหลังเธอ ท่านมู่ใช้สายตาที่เฉียบคมมองสำรวจตามโต๊ะห้องประชุม บังเอิญเห็นถังซินนั่งอยู่ เขาชะงักงงก่อน จากนั้นพยักหน้าและยิ้มให้ถังซิน ถังซินรีบโค้งคำนับให้เค้า สมองยังสับสนมึนงง ในความเป็นจริง ถึงตอนนี้เธอพึ่งพบว่าท่านผู้เฒ่าคือท่านมู่ หลังจากที่เธอแต่งงานกับมู่หยางซิวเธอไปที่คฤหาสน์ตั้งหลายครั้ง แต่ในเวลานั้นท่านมู่รักษาตัวอยู่ที่ต่างประเทศ เธอไม่เคยเจอท่านแม้แต่ครั้งเดียว นี่เป็นความบังเอิญมาก “ท่านมู่ ไม่ใช่เพราะว่าประธานมู่นอนโรงพยาบาลหรอ บริษัทจะขาดคนบริหารไม่ได้” รองประธานกาวและท่านมู่จึงพูดขึ้นว่า “ดังนั้นทุกคนจึงประชุมร่วมกัน วางแผนที่จะเลือกคนคนหนึ่งมาบริหารในช่วงเวลาที่ประธานมู่ไม่อยู่ รักษาบริษัทมู่ซื่อไว้ ถ้าหุ้นของบริษัทตกหลายครั้ง ผู้ถือหุ้นทั้งหลายก็จะทนต่อไปไม่ได้” รองประธานซูนพยักหน้า และพูดคล้อยตามขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ท่านตั้งกฎเกณฑ์ ในบริษัทจะมีมากที่สุดแค่สองคนที่จะบริหาร ปัจจุบันประธานมู่เพียงแค่พักผ่อนเพื่อรักษาบาดแผลที่บาดเจ็บที่โรงพยาบาล แผนงานของประธานมู่ยังมีผู้จัดการมู่คอยสานต่อ ดังนั้นพวกเราจึงคิดว่าคุณมู่ซื่อไม่ควรที่จะเข้ามาในบริษัทมู่ซื่อ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายกฎเกณฑ์” ท่านมู่หันไปมองมู่เจิ้งหย่าแล้วพูดอย่างเคร่งขรึมขึ้นว่า “เรื่องที่เธออยากจะเข้ามาในบริษัทมู่ซื่อ ทำไมเธอไม่บอกฉัน?” “พี่รอง ฉันก็เป็นห่วงบริษัทมู่ซื่อ” มู่เจิ้งหย่ายิ้มมุมปากอย่างอ่อนโยน “พี่รู้อะไรมั้ย ไม่กี่วันมานี้หุ้นของบริษัทมู่ซื่อตกลงมาเยอะมาก เฉินหย่วนก็นอนโรงพยาบาลยังไม่ฟื้น ดังนั้น…” “ดังนั้นเธอจึงจะใช้ฐานะของคนตระกูลมู่ทำลายกฎเกณฑ์ของกลุ่มบริษัท” “พี่รอง ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” “ถ้าเธอเห็นว่าฉันเป็นพี่รองจริงๆ ทำอะไรก็ควรที่จะปรึกษาฉัน” ท่านมู่พูดด้วยความโกรธ “ถึงแม้ว่าฉันจะให้สิทธิการบริหารกับเฉินหย่วน แต่ว่าบริษัทมู่ซื่อเป็นของทุกคน เธอรู้มั้ยว่ากลุ่มบริษัททำไมถึงอยู่ได้ไม่นาน เป็นเพราะความเป็นธุรกิจครอบครัว คนในครอบครัวควบคุมการพัฒนาของกลุ่มบริษัท” “ถ้าแต่ละคนอาศัยญาติเพื่อยอมรับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง เอาคนเก่งมาเป็นบันไดที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จ คนอื่นอยากที่จะทำงานให้ด้วยความจริงใจมั้ย คนเข้ามาเพื่อที่จะหาเงินและเค้าก็ไม่ใช่คนโง่!” ท่านมู่วิจารณ์อย่างต่อเนื่องทำให้คุณมู่ซื่อมีสีหน้าที่รู้สึกเขินอายแบะแข็งทื่อมาก คนที่อยู่ในโต๊ะประชุมก็หายใจด้วยความหวาดหวั่น คนของบริษัทมู่ซื่อต่างก็รู้ดีว่า ท่านมู่ทำงานอย่างเข้มงวดกวดขัน และยังพูดจาร้ายกว่ามู่เฉินหย่วน ถ้าถูกทำให้โมโหแล้ว แม้แต่คนในครอบครัวก็สามารถถูกด่าได้ “พี่รอง” เมื่อท่านมู่กำลังตำหนิคุณมู่อยู่นั้น ประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง มีคนจำนวนหนึ่งเดินเข้ามา ผู้ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านหน้าสุดได้เรียกท่านมู่ว่าพี่รอง ผู้ชายที่ผมดำทั้งหัวแต่ข้างในปะปนด้วยสีขาวเล็กน้อย ดูแล้วอายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว ใส่ชุดสูท ภายนอกดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม ถังซินจำได้ นี่คือน้องของท่านมู่ คุณมู่เจิ้งเฉิง ด้านหลังของมู่เจิ้งเฉิงมีผู้ชายสองคนตามมาด้วย รูปร่างผอมจนเห็นกระดูก นั่นก็คือลูกที่เกียจคร้านของเขา มู่จิ่นซวนและอีกคนคือมู่หยางซิว มู่จิ่นซวนคือผู้จัดการบริษัทเยนจิง ถังซินไม่คิดว่ามันจะแปลกที่เขามา เพียงแต่ว่า ทำไมมู่หยางซิวถึงมากับพวกเขาได้? ท่านมู่เห็นมู่เจิ้งเฉิงเดินเข้ามาจึงเอ่ยถาม “ไม่ได้ไปทำงานที่สิงคโปร์หรอ ทำไมถึงกลับมาแล้ว?” “จิ่งซวนโทรหาฉัน บอกว่าเฉินหย่วนได้อุบัติเหตุทางรถยนต์ และเป็นหนักมาก ฉันจัดการจนเสร็จแล้วก็รีบกลับมา” มู่เจิ้งเฉิงพูดขึ้น “อุบัติเหตุทางรถยนต์ของมู่เฉินทำให้หุ้นของบริษัทมู่ซื่อตำลง ข้างนอกต่างพูดกันว่าเฉินหย่วนอาการหนัก บริษัทมู่ซื่อกำลังจะล้ม” “ขาของมู่เฉินหย่วนได้รับบาดเจ็บอยากหนักจริงๆหรอ?” “นายถามฉัน ฉันต้องเป็นคนถามพวกคุณมากกว่า” ท่านมู่พูดอย่างเย็นชา น้ำเสียงเต็มไปด้วยการเหน็บแนม “คนที่อยู่ในประเทศเยอะขนาดนี้ หลานของตัวเอง ลูกพี่ลูกน้องของตนเองประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่มีเวลาจัดการแม้แต่นิดเดียว แต่ปล่อยให้สื่อแพร่ข่าว เงินบริษัทหายกว่าสองพันล้าน เป็นความผิดของคนแก่ที่นอนพักฟื้นร่างกายอยู่โรงพยาบาลหรอ?” มู่เจิ้งหย่าเข้าใจความหมายของคำพูดเขา จึงรีบพูดขึ้นว่า “พี่ก็น่าจะรู้ว่า จิ่นหลิงกำลังจะแต่งงานแล้ว พี่ใหญ่ก็ไม่อยู่ ฉันเป็นป้าก็อยากจะจัดงานแต่งงานที่ดีให้กับเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเฉินหยวนจะประสบณ์อุบัติเหตุทางรถยนต์” “เมื่อป้าจัดการงานแต่งงานให้ฉัน ยังต้องดูแลบริษัทที่เจียงหลิงไปพร้อมกัน มักจะนอนประมาณตีสองตีสาม มู่จิ่นหลิงพูดแทนคุณมู่ซื่อ หลังจากที่ฉันรู้ว่ามู่เฉินหย่วนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในเวลานั้นจึงติดต่อสื่อมวลชน คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะบานปลาย จะทำให้เงียบลงก็ทำไม่ได้แล้ว” “ใช่พี่รอง น้องซื่อลำบากมาก พี่อย่าตำหนิเธอเลย ตำหนิฉันเถอะ” มู่เจิ้งเฉิงพูดขึ้น “ฉันมัวแต่จัดการงานอยู่ที่สิงคโปร์ ไม่ได้ทำหน้าที่พี่สามให้อย่างดีที่สุด” “พอแล้ว ทุกคนล้วนแต่เป็นครอบครัวเดียวกัน ถ้าพูดมากไปจะดูตลกต่อทุกคน” ท่านมู่โบกมือขึ้น ไม่อยากฟังคำพูดเสแสร้งจอมปลอมของพวกเขา ตอนนี้เรื่องที่เร่งด่วนที่สุดก็คือทำให้หุ้นบริษัทมู่ซื่อกลับมามั่นคง มีผู้ถือหุ้นพูดขึ้นว่า “ในเมื่อท่านมู่มาแล้ว ท่านบอกมาหน่อยว่าจะจัดการยังไงจะดีกว่า? ไม่สามารถทำลายกฎเกณฑ์ของบริษัทมู่ซื่อ แต่ตอนนี้บริษัทมู่ซื่อจำเป็นต้องมีคนหนึ่งที่จะคอยควบคุมสถานการณ์โดยรวม” ท่านมู่มองไปที่ถังซิน และเอ่ยถาม “สาวน้อยทำไมเธอยังยืนอยู่ อยู่แผนกไหน?” หลังจากที่ท่านมู่มา ถังซินก็เหมือนกับกำลังดูการแสดงอยู่ตลอดเวลา และยังเห็นมู่เจิ้งเฉิงเข้ามาอีก จึงวิเคราะห์ว่าทำไมเขาถึงได้กลับมา จึงลืมที่จะนั่งลงไป คิดไม่ถึงว่าท่านมู่จะถามขึ้นมากะทันหัน ถังซินชะงักงง จึงพูดอย่างสุขุมขึ้นว่า “คุณมู่ซื่อกลัวว่าจะไม่มีคนบริหารบริษัทมู่ซื่อ หุ้นจะตกลงอย่างต่อเนื่อง เลยคิดที่จะแบ่งเบาภาระแทนบริษัทมู่ซื่อ ฉันเลยบอกว่าบริษัทมีคนในตระกูลมู่ที่อยู่ในตำแหน่งสูงสองคนแล้ว กลัวว่าเธอจะผิดกฎเกณฑ์ของบริษัท เพราะว่าฉันคือคนรุ่นหลัง อยู่ในบริษัทตำแหน่งน้อย ดังนั้นเพื่อแสดงถึงความเคารพจึงยืนขึ้นแล้วค่อยพูด” “ก่อนหน้านี้ประธานมู่ได้ก่อตั้งฝ่ายบริหารขึ้นมาใหญ่ ฉันเป็นผู้จัดการของแผนกนั้น ถังซิน” ท่านได้ยินก็อดขำไม่ได้ เมื่อก่อนที่กินชาบู ผู้หญิงคนนี้ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด บอกว่าบริษัทของเธอมีปัญหา ทำไมเจ้านายก่อตั้งแผนกขึ้นมาใหม่เธอถึงได้โกรธเคือง คิดไม่ถึงว่าบริษัทที่เธอพูดถึงนั้นจะเป็นบริษัทมู่ซื่อ เขาเข้าใจมู่เฉินหย่วน เป็นเพราะว่ามู่เฉินหย่วนเชื่อใจในตัวถังซิน จึงเอางานทั้งหมดให้เธอทำ “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องหาคนแล้ว ก่อนที่เฉินหย่วนยังไม่หายดีเป็นปกติ ก็ให้ผู้จัดการถังคนนี้ทำหน้าที่แทนประธานบริษัท” ท่านมู่มองไปที่ถังซินที่กำลังตะลึงงงงัน แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ผู้จัดการถัง ช่วงนี้ลำบากคุณหน่อยนะ ไม่เพียงแต่บริษัทมู่ซื่อ ถ้าจำเป็นที่จะต้องโยกย้ายหน้าที่การงาน พนักงานในสำนักงานสาขาทั้งหลายเธอก็สามารถทำได้โดยพลการ” หลังจากที่ทุกอย่างเงียบไปสิบวินาที ห้องประชุมก็แตกกระเจิง มู่เจิ้งหย่าสีหน้าอึมครึม และพูดด้วยความฝืนใจ “พี่รอง พี่ไม่อยากทำลายกฎเกณฑ์ของบริษัทมู่ซื่อฉันเข้าใจ แต่ว่าคนที่จะมาเป็นประธานบริษัทแทนควรต้องเลือกมาจากรองประธานซูนและรองประธานกาว เธอเป็นแค่ผู้จัดการ” “ใช่พี่รอง เรื่องแบบนี้จะล้อเล่นไม่ได้” แล้วมู่เจิ้งเฉิงก็พูดขึ้น “มีที่ไหนผู้จัดการมาทำหน้าที่แทนประธาน แบบนี้ไม่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่ใช่มืออาชีพในด้านการเงิน มู่เจิ้งเฉิงพูดเช่นนี้ทำให้ผู้ถือหุ้นลุกฮือขึ้นมา “การบริหารบริษัทหนึ่งมันไม่ง่ายเหมือนกับการเล่นเกมส์ และยิ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ใหญ่แบบบริษัทมู่ซื่อ ให้คนที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพมาเป็นประธานบริษัทแทน นี่ไม่เท่ากับว่าเป็นการทำลายตัวเองของบริษัทมู่ซื่อหรอ” “ท่านมู่ยังไงพวกเราก็ไม่เห็นด้วยแน่นอน” “เธอเป็นแค่ผู้จัดการคนหนึ่ง มีข้อจำกัดในการติดต่อสัมพันธ์สิ่งต่างๆ เธอจะไปรู้เรื่องอะไร?” “ใช่ ผู้จัดการถังคนนี้ดูแล้วสวยและนุ่มนวล โดยพื้นฐานแล้วทำให้ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาไม่กลัว ทุกคนคงไม่ยอมปฏิบัติ” ก่อนหน้านี้หนึ่งนาทีห้องประชุมยังมีความเคร่งครัด แต่ตอนนี้กลายเป็นตลาดขายของไปแล้ว เสียงดังเอะอะโวยวาย คัดค้านข้อเสนอของท่านมู่ ระงับการให้ถังซินมาปฏิบัติหน้าที่ประธานบริหารแทน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่125ท่านมู่หนุนหลังเธอ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A