ตอนที่51ผู้ชายที่ฉลาดจนน่าสยดสยอง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่51ผู้ชายที่ฉลาดจนน่าสยดสยอง
ต๭นที่51ผู้ชายที่ฉลาดจนน่าสยดสยอง เฟยเอ๋อยืนอยู่หลังสวนดอกไม้ที่กำลังผลิบานอยู่หลังอุทยานของโหลวเหยนหมิงยากมากที่จะได้อยู่อย่างเงียบสงบแบบนี้เพราะไม่ต้องไปทำงานที่ห้องซักผ้าและไม่ต้องไปทำงานที่ห้องครัวยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่ต้องไปส่งอารหารว่างด้วยแค่พักผ่อนก็พออยากจะเล่นอะไรก็ได้อยากจะกินอะไรก็กินหรือจะนั่งชมดอกไม้ที่หลังสวนนี้ตลอดทั้งวันก็ยังได้ไม่มีใครพูดให้นาง “วันแบบนี้ช่างสนุกดีจริง!”เฟยเอ๋อยืดเส้นยืดสายแล้วพูดขึ้นเบาๆแล้วหันหลังไปยิ้มให้สี่เอ๋อ:“เจ้าไม่นั่งหรอ?” “สี่เอ๋อมิบังอาจเพคะไม่แน่ว่าท่านอ๋องอาจจะเดินผ่านมาหลังสวนก็เป็นได้ถ้าท่านเห็นเข้าสี่เอ๋อต้องโดนว่าแน่ๆเพคะ!”สี่เอ๋อยิ้มออกมาอย่างหน้าหมั่นเขียวแต่ก็ไม่กล้าละเมิดกฎ พอได้ยินนางพูดถึงโหลวเหยนหมิงสีหน้าของเฟยเอ๋อก็ห่อเหี่ยวลงทันทีหลังจากวันนั้นที่เขายื่นคำขาดไว้ถึงแม้ว่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกแต่ช่วงนี้เหมือนกับว่าเขาพยายามจะกดดันนางกลางดึกของทุกคืนเขาก็จะมาที่ตำหนักเหยียนเฟยเพื่อสำรวจดูว่านางนอนแล้วหรือยังแต่พอตกกลางวันแทบจะไม่เห็นเงาเลย “หลังจากที่ท่านอ๋องออกไปวันนั้นเขาได้พูดอะไรมั้ย?”เฟยเอ๋อหันไปทางสี่เอ๋อ ที่จริงนางรู้ดีว่าตัวเองได้พบกับผู้ชายที่อ่อนโยนมากแต่นางกลับมีแต่ใช้คำพูดทำร้ายความรู้สึกออกมาและยังนึกถึงแต่คำพูดของเขาเมื่อก่อนมาโต้เถียงตลอดทำร้ายจิตใจอย่างมาก...แต่ถึงจะดีเลวยังไงนางก็ไม่ใช่ว่าชอบใครแล้วจะตกหลุมรักไปเสียหมด?ก็ควรจะให้เวลากันหน่อยไม่ใช่หรือ?ถ้าเกิดว่าเขาทำกับนางแบบแม่นางรั้วอวิ๋นจะทำยังไง?พูดแค่ไม่กี่คำก็ตามติดไปอยู่ด้วยเป็นสองสามวัน?แล้วก็พูดแบบหวานหยดย้อยท่านอ๋องข้ารักท่านข้าให้อภัยกับคำพูดของท่านอย่างงี้หรอ?มันก็จะเกินไปละ! “ท่านอ๋องแค่พูดว่าช่วงนี้ให้ท่านพักผ่อนเยอะๆถ้าท่านยังกล้าที่เจอหน้าเขาแล้วยังมีนิสัยโกรธโมโหอยู่เขาก็จะออกมาจัดเองการเพคะ!”สี่เอ๋อก้มลงพูดเบาๆ “ชิ!”เฟยเอ๋อเบะปาก:“หมายความว่าไงว่าข้าระเบิดโมโห.....เกินไปละ!” ยังพูดไม่ทันขาดคำเฟยเอ๋อก็ปิดปากตัวเองเอาไว้แล้วหันไม่จ้องโหลวเหยนหมิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลเขาก็มองมาหานางเหมือนกันสีหน้าตกใจอยู่นิดหน่อยแล้วก็ลังเลก่อนนิดนึงถึงเดินเข้ามา “เอ๊ะทำไมออกมาข้างนอกตอนกลางวันแล้วล่ะ?”เฟยเอ๋อมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์แล้วทิ้งเปลือกเมล็ดทานตะวันอย่างตามอำเภอใจบนโต๊ะหินด้านหน้า พอได้ยินสิ่งที่นางพูดออกมาโหลวเหยนหมิงกลับยิ้มออกมาเบาๆเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของนาง:“ข้างนอกลมแรงถ้าร่างกายยังไม่ค่อยดีก็ควรเข้าไปพักผ่อนในตำหนักเหยียนเฟย!” “ข้านอนในตำหนักจะเกือบสิบวันแล้ว!ถ้ายังจะให้นอนอีกคงแข็งตายกันพอดี!”เฟยเอ๋อพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีแล้วกรอกตาขาวใส่เขา “ไปอารมณ์เสียมาจากที่ใดกัน?” เฟยเอ๋อชะงักไปแล้วหันไปมองคนที่เอาหน้ามาใกล้นางอย่างตกใจอีกนิดนึงก็จะตกจากเก้าอี้นั่งอยู่แล้วโชคดีที่โหลวเหยนหมิงเห็นเลยคว้าเอวนางไว้ได้ทันเฟยเอ๋อเลยรอดจากการเอาหน้าลงไปจูบกับพื้นได้ พอรู้สึกถึงลมหายใจที่ร้อนผ่าวของโหลวเหยนหมิงบนใบหน้าของตัวเองได้หน้านางก็เริ่มแดงขึ้นแล้วหันไปขอความช่วยเหลือจากสี่เอ๋อใครจะไปรู้ว่าแค่นางได้ยินเสียงเขาแค่นิดเดียวก็หายไปแบบไร้ร่องรอยแล้ว! “นังสาวใช้สองนาย!”เฟยเอ๋อกรอกตาขาวแล้วก็ปล่อยให้โหลวเหยนหมิงวางนางนั่งลงดีๆแล้วหันไปมองเขาที่อมยิ้มอยู่:“ จะเข้ามาใกล้ข้าทำไม?ท่านไม่ได้บอกว่ารอข้าอารมณ์เย็นขึ้นแล้วถึงจะออกมาหรือ?” “นิสัยของเจ้าตอนนี้ดีกว่าตอนที่แต่งงานน่ารักมาก!”โหลวเหยนหมิงยิ้มแล้วนั่งลงข้างนางแล้วก็เทน้ำชาให้ตัวเองจิบอย่างสบายใจ หน้าเฟยเอ๋อเริ่มแดงขึ้นอีกรอบไม่รู้ว่าแดงเพราะโมโหหรือแดงเพราะเขินแล้วหันไปจ้องเขม่งโหลวเหยนหมิง:“ข้าจะโกรธทำไม?ข้าออกจะอยู่ของข้าอย่างมีความสุขแล้วข้าก็ไม่ได้ชอบท่านไม่ได้รักท่านข้าจะโกรธท่านไปทำไม?” และ?แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไม่ถึงอยากจะเอากาน้ำร้อนมาคอบเขาไว้หลังจากที่เขาไม่ออกมาช่วงนี้?นี่..ไม่น่าจะใช่โกรธแล้วละมั้ง?เฟยเอ๋อค่อยค่อยก้มหน้าลงมาแล้วกัดริมฝีปากตัวเอง เดิมทีคิดว่าโหลวเหยนหมิงได้ยินแล้วจะรีบหุนหันออกไปทันทีแต่ไม่คาดคิดว่าเขากลับหัวเราะออกมาแล้วหัวเราะออกมาอย่างเสียงดังและเป็นเสียงหัวเราะที่ดูสบายใจมากคิดไม่ถึง่วาเสียงหัวเราะเขาจะไพเราะขนาดนี้! เฟยเอ๋ออึ้งจนอ้าปากค้างแล้วหันไปมองโหลวเหยนหมิงอย่างละเอียดนาง...ไม่ใช่ว่านางมีใจให้เขาแล้วจริงๆๆหรอ?แค่เสียงหัวเราะยังบอกว่าไพเราะ? “มองข้าทำไม?”โหลวเหยนหมิงที่กำลังหัวเราะอยู่ก็แกะเมล็ดถั่งลิสงโยนเข้าไปในปากของนาง เฟยเอ๋อปิดปากทันทีแล้วเคี้ยวถั่วลิสงที่โหลวฌหยนหมิงโยนเข้ามาสองสามทีในใจกลับมีความหวานยังไงบอกไม่ถูกความรู้สึกแบบนี้คือการตกหลุมรักแล้วใช่มั้ย? “ท่านอ๋อง...” เสียงที่เฟยเอ๋อไม่ค่อยชอบก็ดังขึ้นความหวานในใจของนางก็เหมือนถูกสาดด้วยน้ำเย็นขันนึงแล้วหันไปมองเสียงนั้นก็เห็นรั้วอวิ๋นที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าที่เศร้าโศกข้างหลังเป็นดอกโบตั๋นสีขาวรวมกันชุดของนางก็เป็นสีขาวที่ยืนอยู่ด้านในราวกับเทพธิดาเลยทีเดียว แต่เสียดายที่ไม่ได้ดูมีค่าเป็นผู้หญิงสวยแต่เปลือกนอกแต่ข้างในกลับเน่าเปลื่อยเหมือนแมลงที่สวยแต่มีพิษเฟยเอ๋อหน้างอถึงจมูกแล้วลุกขึ้นเพื่อจะเดินออกไปเพราะไม่อยากเห็นโหลวเหยนหมิงกับรั้วอวิ๋นแสดงบทบาทความรักต่อกัน มือที่พึ่งจะเอาออกจากโต๊ะก็ถูกโหลวเหยนหมิงกุมไว้ทันทีเฟยเอ๋อตกใจอย่างขวัญอ่อนแล้วหันมามองโหลวเหยนหมิงทันที:“มีอะไร?” โหลวเหยนหมิงก็ยิ้มหยอดให้นางทีนึงหลังจากนั้นก็หันไปมองรั้วอวิ๋น:“ไม่พักผ่อนในตำหนักดีๆออกมาข้างนอกทำไม?” “ท่านอ๋องหม่อมฉันแค่ไม่ได้เห็นท่านอ๋องหลายวันแล้วหม่อมฉันแค่คิดถึง....”รั้วอวิ๋นพูดออกมาอย่างน้อยใจเหมือนนางจะเห็นความสงสารแล้วก็สั่นไปครั้งนึงแล้วหันหลังกลับ “ถ้าข้าอยากพบเจ้าข้าก็จะไปหาเจ้าเองร่างกายของเจ้าก็ยังไม่ค่อยดีวันก่อนก็พึ่งจะโดนยาพิษไปกลับไปพักที่ตำหนักของเจ้าเถอะ!”โหลวเหยนหมิงตอบกลับ “แต่...ท่านอ๋อง....”รั้วอวิ๋นมองเขาอย่างน่าสงสาร:“หม่อมฉันได้ยินว่าหลังจากนี้สามวันจะเป็นวันครบรอบของฮ่องเต้หม่อมฉันเลยอยากออกมาเดินข้างนอกเพื่อถึงวันนั้นจะได้ไปงานพร้อมกับท่านอ๋องได้โดยไม่ทำให้ท่านอ๋องลำบากเพคะ....” “งานครั้งนี้ให้พระชายาไปกับข้าก็พอรั้วอวิ๋นพักผ่อนที่ตำหนักของเจ้าจะดีกว่าไม่จำเป็นต้องมากังวลเรื่องไม่เป็นเรื่อง!”โหลวเหยนหมิงยิ้มอย่างเย็นชาคำพูดที่นุ่มนวลกลับแฝงไปด้วยคมมีดที่ทิ่งแทงมือที่กุมมือของเฟยเอ๋อก็ยิ่งแน่นขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าของรั้วอวิ๋นขาวซีดมากเฟยเอ๋อหันไปมองอึ้งๆอย่างไม่น่าเชื่อแต่ก็แค่ชั่วคราวแล้วนางก็ก้มหน้ากลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วหันหลังเดินจากไป เฟยเอ๋อขมวดคิ้วแน่นหันไปมองหน้าของโหลวเหยนหมิงที่เหมือนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรคิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นผู้ชายแบบนี้?ที่ชอบเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงอยู่หรือ?อยากจะหอมก็หอม!นางเป็นผู้หญิงคนนึงในตำหนักที่ถือได้ว่าสวยราวกับเทพธิดานางฟ้าน่าจะได้รับการรักใคร่ดูแลแต่คาดไม่ถึงว่าตอนนี้กลับต้องตกมาอยู่ในสภาพแบบนี้ถึงแม้ว่ารั้วอวิ๋นจะยังมีความผิดอยู่.....แต่เขากลับสามารถตัดความสัมพันธ์แบบไร้เยื่อใยขนาดนี้เกรงว่าคงมีแค่โหลวเหยนหมิงคนเดียวแล้วแหละ “ทำไมถึงพูดกับนางแบบนั้น?”เดิมทีอยากจะถามว่าทำไมถึงอยากจะพาข้าเข้าวังแต่คำพูดที่ออกมากลับกลายเป็นคำถามนี้แทน “เพราะข้าไม่ได้รักนาง”โหลวเหยนหมิงพูดออกมานิ่งๆเงยหน้ามองเฟยเอ๋อที่ยืนตะลึงอยู่:“ที่เจ้าอยากถามคือข้าจะทำดีกับเจ้าแค่ตอนนี้แล้วหลังจากนี้ก็จะทำเหมือนรั้วอวิ๋นใช่หรือไม่?” เฟยเอ๋อมองโหลวเหยนหมิงนิ่งๆ พอเห็นเฟยเอ๋อหน้านางนิ่งไปโหลวเหยนหมิงก็ยิ้มออกมาแล้วดึงแขนนางมาเพื่อให้นางนั่งลงที่ตักของเขาแล้วกระซิบนางอย่างแนบชิด:“เจ้าเป็นชายาข้าแล้วก็เป็นผู้หญิงที่ข้ารักมากที่สุดดังนั้นสิ่งที่เจ้ากังวลในตอนนี้ไม่จำเป็นต้องคิด!” เฟยเอ๋ออ้าปากค้างอยากจะพูดซักคำแต่กลับพบว่าตัวเองไม่มีอะไรจะพูดแล้ว โหลวเหยนหมิงผู้ชายที่ทั้งฉลาดและทำให้น่ากลัวอย่างเขาเดิมทีก็ค่อยทำลายกำแพงในใจของนางลงได้แล้ว 
已经是最新一章了
加载中