ตอนที่ 85   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 85
ต๭นที่ 85 “องค์หญิง ท่านอ๋องเรียกท่านหมอมาแล้วเจ้าค่ะ!” สี่เอ๋อผลักเปิดประตูออก ให้ท่านหมอเข้ามา เฟยเอ๋อนั่งบนเตียงอย่างแน่นิ่ง ไม่ได้เอ่ยคำ ปล่อยให้สี่เอ๋อยกมือที่ถูกลวกบวมนั่นของนางขึ้นมา ให้ท่านหมอไปตรวจอาการ จนกระทั่งตอนที่ท่านหมอให้เข็มเจาะแผลพุพองบนมือของนางออก เฟยเอ๋อจึงเรียกสติกกลับมาเพราะความเจ็บ มองท่านหมอที่จะเอาแผลพุพองออก และแต้มยาเล็กน้อยลงบนมือของนาง จากนั้นจึงนำผ้าโปร่งห่อไว้อย่างละเมียด “ผู้ใดเรียกท่านมาดูมือให้ข้า” เฟยเอ๋อถามเสียงแผ่ว “องค์หญิง เมื่อครู่ตอนที่สี่เอ๋อเข้ามาได้เคยพูดไปแล้วเจ้าค่ะ เป็นคนที่ท่านอ๋องจัดหามา” สี่เอ๋อตอบรัยคำเสียงแผ่วอยู่ด้านข้าง ท่านหมอพยักหน้า เอาผ้าโปร่งห่อหุ้มอย่างดีพลางยิ้มบาง จากนั้นก็หยิบกล่องยาสะพานบนหลัง พลางกล่าวกำชับ “มือที่บาดเจ็บพักนี้พยายามอย่าให้สัมผัสน้ำนะขอรับ” “รู้แล้ว! ท่านหมอ สี่เอ๋อไปส่งท่าน!” สี่เอ๋อวางมือของเฟยเอ๋อลงอย่างแผ่วเบา เห็นว่านางยังนั่งแน่นิ่งอยู่บนเตียง ก็ทอดถอนใจอย่างช่วยไม่ได้ หมุนกายเดินไปส่งท่านหมอ เฟยเอ๋อยกมือขึ้น มองผ้าโปร่งบนมือ นึกถึงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นภายในตำหนักว่านฟาง “องค์หญิง อันที่จริงท่านอ๋องรักท่านอย่างมากมายยกระมัง!” สี่เอ๋อเดินกลับมา ยืนอยู่ข้างกายเฟยเอ๋อ กล่าวเสียงเบา “จริงหรือ” เฟยเอ๋อยิ้มเยาะเล็กน้อย ก้มหน้ามองมือที่ถูกห่อเอาไว้ “หากว่ารัก ไฉนเขาจึงเลือกใช้วิธีจำพวกนี้มาทรมานข้ากันเล่า” “แต่ว่า...” สี่เอ๋อมุ่นคิ้ว “ถ้าเป็นความรัก เขายังมีเรื่องอะไรที่สำคัญขนาดนั้น จำเป็นจะต้องแอบซ่อนข้าเอาไว้ด้วย” เฟยเอ๋อสะอื้น “ข้าไม่นึกอยากทำสงครามเย็นกับเขาเช่นนี้เลยจริงๆ เจ้าคิดว่าข้าสบายดีหรือ ทว่าโหลวเหยนหมิงใหตุใดเขาจึงรังแกคนได้เพียงนี้ เขาเห็นข้าเป็นอะไร ข้าไม่ใช่คนโง่งม ทั้งที่รู้ว่าเขามีเรื่องโกหกข้า ไม่อยากให้ข้ารู้ ข้ายังเป็นชายาอ๋องผู้งี่เง่าคอยตามหลังเขาอยู่ได้! ความรู้สึกเช่นนี้ เช่นนั้นจะเรียกว่าเป็นความรักได้ที่ใดกัน!” “ความคิดขององค์หญิง สี่เอ๋อช่างไม่เข้าใจเลยจริง!” สี่เอ๋อเม้มปาก คุกเข่าลงข้างกายเฟยเอ๋อ ลูบไล้ผ้าฝ้ายขาวบนมือของเฟยเอ๋อแผ่วเบา “แต่ว่าสี่เอ๋อเห็นว่าท่านอ๋องสนอกสนใจองค์หญิงขนาดนี้ ก็รู้สึกว่าองค์หญิงท่านได้มีความสุขมากแล้ว! แม้นท่านอ๋องไม่สนใจองค์หญิง จะเรียกท่านหมอมาอย่างรวดเร็วปานนี้ได้อย่างไรกัน! องค์หญิงท่านพูดว่าสงครามเย็นอะไรกัน ไม่เอาใจใส่ท่านอ๋องอะไรกัน อันที่จริงในใจของพวกท่านชอบพอกันอยู่แท้ๆ แต่กลับยังทำร้ายกันและกันอยู่อีก แบบนี้ช่างโง่งมเท่าใดนัก!” เฟยเอ๋อนิ่งงัน ก้มหน้ามองสี่เอ๋อ “ถ้าหากองค์หญิงกับท่านอ๋องงอยากอยู่ร่วมกันโดยสันติ เช่นนั้นก็พูดอธิบายเรื่องราวที่เข้าใจผิดกันสิเจ้าคะ! ไม่ลงรอยกันแบบนี้ต่อไป คนที่เจ็บที่สุด ไม่เพียงแต่เป็นท่านอ๋อง ยังรวมถึงตัวท่านองค์หญิงเองด้วยนะเจ้าคะ! ไม่เชื่อล่ะก็ ท่านดูมือของท่าน! นี่ไม่นับว่าเป็นการบาดเจ็บอย่างหนึ่งหรือ” “เด็กน้อย เจ้าไปรู้ความมากมายขนาดนี้จากที่ใด” เฟยเอ๋อยิ้มบาง ก้มหน้าพลางลูบกระหม่อมสี่เอ๋อเบาๆ“มิแปลกใจที่ชื่อสี่เอ๋อ ที่แท้ก็เป็นเด็กน้อยที่สามารถทำให้หัวใจผู้คนชื่นชอบอย่างหนักได้นี่เอง!” สี่เอ๋อแลบลิ้นออกมาอย่างซุกซน มองดวงตาของเฟยเอ๋อพลางหัวเราะคิกคัก “องค์หญิง ในเมื่อท่านสนใจท่านอ๋องเพียงนั้น เพียงแค่อยากโกรธเขาเท่านั้น เช่นนั้นวันนั้นท่านอ๋องก็เรียกท่านหมอมาดูมือให้ท่านแล้ว ก็แสดงว่าเขาเองก็สนใจท่าน เช่นนั้นไม่สู้ท่านถอยหลังหนึ่งก้าว ไปพูดจาดีๆ กับท่านอ๋องประไรเจ้าคะ?” “ทำไมข้าต้องถอยหลัง” เฟยเอ๋อเม้มปากขึ้น “อย่างไรเสียท่านอ๋องก็เป็นท่านอ๋อง ต้องรักษาหน้าเจ้าค่ะ!” สี่เอ๋อหัวเราะร่า เฟยเอ๋อยิ้มร่าอย่างที่ไม่มีแววแสดงออกใดๆ กลับให้สี่เอ๋อ เห็นว่านางมีท่าทีโง่งมทุกวัน ถึงเวลาเอาจริงเอาจัง ก็ยังสามารถกล่าวประโยคที่ทำให้นางฟังเข้าหูได้ออกมา “ที่เจ้าพูดมาก็ถูก” เฟยเอ๋อก้มหน้างุด มองผ้าโปร่งบนมือ พลันยันกายลุกขึ้น “เช่นนั้นข้าก็จะไปหาเขา!” “ต้องการให้สี่เอ๋อไปเป็นเพื่อนหรือไม่เจ้าคะ” สี่เอ๋อยิ้ม “ไม่ต้อง!” เฟยเอ๋อแย้มยิ้มกลับให้นาง หมุนกายเรียกให้นางช่วยนางผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ ตอนนี้เสื้อผ้าบนเรือนกายเพิ่งถูกชิวจี๋ทำเปื้อนไป นางต้องเปลี่ยนอาภรณ์สะอาดสะอ้านทั้งร่างก่อนค่อยออกไป เฟยเอ๋อเดินเข้าไปในหมิงเวนโหลว แต่กลับไม่เห็นว่าโหลวเหยนหมิงอยู่ที่นั่น “ท่านอ๋องเล่า?” เฟยเอ๋อคว้าเสี่ยวฟางจื่อที่เดินผ่านไปด้านข้างเอาไว้ ถามเสียงแผ่ว “เรียนชายาอ๋อง ท่านอ๋องยังอยู่ที่ตำหนักว่านฟางไม่ทันกลับขอรับ!” เสี่ยวฟางจื่อมองนางอย่างระแวดระวัง แม่นางท่านนี้พักนี้ดูเหมือนว่าอารมณ์จะไม่ค่อยดี เขาไม่อยากยุแหย่นาง เฟยเอ๋อมุ่นคิ้ว “ยังไม่ทันกลับ เขาไม่ได้กลับหมิงเวนโหลวมากี่วันแล้ว” “สักเจ็ดแปดวันได้แล้วกระมัง” เสี่ยวฟางจื่อตอบกลับเสียงเบา เฟยเอ๋อกัดฟัน เจ็ดแปดวัน? ที่แท้เจ็ดแปดวันติดกันนี้เขาล้วนแช่อยู่ที่นั่นเสียหมด มิน่าสี่เอ๋อบอกว่ารั่วอวิ๋นร่ำไห้ไปหาเขา จากนั้นก็พักอยู่ที่นั่นตลอกเวลา ที่แท้ผู้หญิงห้าคนก็ติดเขาแจอยู่นั่นเอง! มองเห็นเงาร่างเฟยเอ๋อที่หมุนกายออกไปด้วยความโกรธ เสี่ยวฟางจื่อพลันกุมหัวใจเอาไว้ แอบอธิษฐานอยู่ลับๆ “พระเจ้า ได้โปรดปกป้องท่านอ๋องของพวกเราให้ปลอดภัยด้วยเถิด...” สี่หน้าของผู้หญิงคนนั้นเมื่อสักครู่ ช่างเหมือนกับจะกินคนเข้าไปนักแล ไม่ใช่ว่างนางแสร้งทำเป็นไม่สนใจหรือ ไฉนจึงวิ่งมาหาท่านอ๋องอย่างกะทันหัน ยามนี้ยังมีท่าทีดื่มน้ำส้มสายชูถังใหญ่เข้าไปอีก “ท่านโหลวเหยนหมิงตัวดี! แม่นางท่านนี้ล้วนอยากไปลองพูดจาดีๆ กับท่านสักตั้งแล้ว ท่านยังแช่ขลุกอยู่กับสาวงามด้านในไม่ยอมออกมาอีก!” เฟยเอ๋อกัดฟันไว้ เดินเข้าสู่ตำหนักว่านฟาง ยามนี้ท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว เหล่าผู้หญิงที่เดิมทีน่าจะเล่นหมากล้อมภายในศาลาก็ล้วนไม่อยู่ในสวนแล้ว เหลือบตาขึ้นมองแสงไฟสว่างโร่ใต้อาคาร ในอกเฟยเอ๋อก็เจ็บปวด กัดฟันพลางเดินเข้าไป เสียงครึกครื้นภายในตัวอาคารลอยเข้าสู่โสตหู เฟยเอ๋อปั้นหน้า เดินเข้าไปยังด้านห้องหนึ่งที่เสียงนั่นดังชัดเจนที่สุด สดับฟังน้ำเสียงจากด้านใน ในอกก็โกรธสุดชีวิต โหลวเหยนหมิงที่สมควรตาย เล่นบ้าจริงๆ! ส่วนมือของเฟยเอ๋อรวมแรง ผลักเปิดประตูห้อง มองเข้าไปด้านใน เสียงหัวเราะด้านในห้องพลันหยุดลง ผู้หญิงห้าคนที่กำลังนั่งเกล็ดเมล็ดแตงโมอยู่ด้วยกันพลันหมุนกายไปมองหญิงสาวที่มีสีหน้าโกรธจัดอยู่หน้าประตู “เอ่อ...” เฟยเอ๋อไม่ได้กวาดตามองเห็นเงาร่างของโหลวเหยนหมิง มองเห็นเพียงผู้หญิงเหล่านี้กินดื่มเล่นสนุกด้วยกันอย่างนิ่งทื่อ รั่วอวิ๋นมุ่นคิ้วขึ้น มองทางเฟยเอ๋อ เพิ่งนึกอยากพูดอะไร แต่เฟยเอ๋อกลับยิ้มเหยเกออกมาโดยพลัน “ข้ามาผิดห้องแล้ว พวกเจ้าเล่นกันตามสบาย ไม่รบกวนพวกเจ้าแล้ว!” กล่าวพลาง และไม่รอให้ผู้หญิงด้านในปริปาก เฟยเอ๋อเร่งรุดไปปิดประตูเอาไว้ ถอยร่นหลังสองสามก้าว จากนั้นก็มองไปยังห้องที่เริ่มมีเสียงหัวเราะสนุกสนานนั่นอีกครั้งอย่างกังขา โหลวเหยนหมิงไม่อยู่ที่นั่น? แต่ว่ามีคนบอกว่าหลายวันติดกันมานี้เขาอยู่ตำหนักว่านฟางแท้ๆ หรือว่าเขาแทบไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นกับผู้หญิงไม่กี่นางพวกนี้ด้วยซ้ำ แต่ว่า...แต่ว่าโหลวเหยนหมิงอยู่ที่ใด เฟยเอ๋อหมุนกาย ตรวจตราต้องอื่นๆ ในตัวอาคารแห่งนี้ 
已经是最新一章了
加载中