ตอนที่ 87   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 87
ต๭นที่ 87 วันถัดมา “ไฉนจึงอยากเข้าวังกะทันหัน” โหลวเหยนหมิงยืนอยู่ข้างกายเฟยเอ๋อบริเวณไม่ไกล มองนางผลัดเปลี่ยนชุดชาววังอันงดงามทั้งร่างอย่างฉับพลัน “คิดถึงเสด็จพี่ของข้าแล้ว ก็ต้องเข้าวังไปเยี่ยมเขาเป็นธรรมดาสิ!” เฟยเอ๋อยิ้มซุกซน แต่กลับปกปิดความละอายใจในสายตาเอาไว้ อันที่จริงนางอยากเข้าวังไปเยี่ยมซีอวิ๋นคนนั้น ซีอวิ๋นที่ยังไม่ตายคนนั้นซึ่งอยู่ท่ามกลางความทรงจำของฉูเฟยเอ๋อคนก่อน แม้ว่าวันนั้นหลังจากที่หัวกระแทกในห้องอักษรแล้ว ความทรงจำของฉูเฟยเอ๋อคนก่อนหลั่งไหลเข้าสู่สมองของนางมากมาย แต่ว่านางยังคงมีบางเรื่องที่ต้องจัดการให้แจ้ง แพะรับบาปขนาดใหญ่เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น อย่างไรเสีย คนที่เข้าใจผิดไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นโหลวเหยนหมิง “ข้าจะไปบอกให้คนเตรียมรถม้าไปส่งเจ้า!” โหลวเหยนหมิงยันกายลุกขึ้นจากบนเก้าอี้ บอกให้สี่เอ๋อที่เพิ่งแต่งกายให้เฟยเอ๋อเสร็จออกไปก่อน ก้าวไปด้านหน้าเบียดก้านหลังของเฟยเอ๋อและจุมพิตเรือนผมของนางแผ่วเบา “ระวังความปลอดภัยบนถนนด้วย” เฟยเอ๋อมองเงาร่างหลังกายนางของโหลวเหยนหมิงในกระจก พลันยิ้มออกมา หันหน้าไปมองเขา “มองไม่ออกจริงๆ ท่านอ๋องโหลวเหยนหมิงผู้สูงศักดิ์ จะถูกแม่นางผู้นี้ควบคุมเอาไว้จริงๆ แล้ว ซ้ำเช้าตรู่ยังกลับตำหนักเยียนเฟยด้วยกันกับข้า ไม่ใช่ว่าไปง่วนทำธุระของตัวท่านเองแล้ว!” โหลวเหยนหมิงยิ้มบาง ยกมือขึ้นลูบปิ่นสองข้างที่ซื้อมาในงานวัดตอนนั้นบนกระหม่อมนางเบาๆ พลันกล่าวพลางยิ้ม “ เจ้าก็ปักเครื่องเกษาสองอันนี้กลับไป จักรพรรดิเห็นเข้าจะต้องบอกว่าข้าปฏิบัติกับเจ้าไม่ยุติธรรมแท้!” “ไม่ใช่หรอก นี่เป็นสิ่งของที่ท่านมอบให้ข้าครั้งแรก ข้ารู้สึกว่ามันมีค่ายิ่งนักแล้ว!” เฟยเอ๋อหัวเราะร่า โหลวเหยนหมิงพลันชะงักกึก หมุนกายเดินไปหน้าประตูออกคำสั่งสองสามประโยคกับเสี่ยวฟางจื่อโดยพลัน ก่อนจะหันกลับมา “เป็นอะไรหรือ” เฟยเอ๋อมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “เดี๋ยวเจ้าก็รู้แล้ว” โหลวเหยนหมิงยิ้มบาง เบี่ยงกายมามองเฟยเอ๋อที่แต่งองค์อย่างละเมียดละไมอีกครั้งหนึ่ง เอ่ยปากติดตลก “ผู้หญิงที่ออกเรือนแล้วมีความเปลี่ยนแปลงมากมายขนาดนี้เชียวหรือ?” “อะไร” เฟยเอ๋อเลิกคิ้ว บนเรือนกายสวมชุดชาววังอันทรงเกียรติ อันที่จริงมันหนักสุดชีวิต ดังนั้นจึงไม่เต็มใจลุกขึ้น ทำเพียงนั่งเอียงหน้ามองเข้าไปในดวงตาของโหลวเหยนหมิง โหลวเหยนหมิงเอื้อมมือไปมลูบเค้าหน้าเรียวเล็กของเฟยเอ๋อ “ต่อให้หน้าจะเหมือนกันไม่ผิด แต่เจ้าหลังจากร่วมกินอยู่กันแล้วกับเจ้าตอนก่อนหน้านั่นไม่จุดไม่เหมือนกันอยู่ ตอนที่เจ้ายังไม่ทันแต่งเข้าจวนอ๋อง ทุกวันบนใบหน้าจะต้องแต่งกายอย่างละเมียดเพียงนี้ แต่ว่าวันนี้ดูท่า กลับมีเสน่ห์มากหลายเท่านัก!” “จริงหรือ” เฟยเอ๋อแลบลิ้น แย้มยิ้มหวานหยดย้อย “ท่านอ๋อง...” เสียงของเสี่ยวฟางจื่อลอยมาจากนอกประตู เฟยเอ๋อหันหนเกลับไปมองทางหน้าประตู แต่โหลวเหยนหมิงกลับเดินไปเสียแล้ว ไม่นานเท่าใด เฟยเอ๋อก็มองยังโหลวเหยนหมิงที่เดินกลับมา “อะไรอีกเล้า เหตุใดเด็กนั่นจึงมักเดินกระสับกระส่ายอยู่หน้าประตู” โหลวเหยนหมิงยิ้ม เดินไปด้านหน้าโน้มตัวมองเฟยเอ๋อ “ช่างสนใจของที่ข้ามอบให้เจ้ามาก?” “เอ่อ..” เฟยเอ๋อกะกริบตา ยกยิ้มมุมปากออกมา “ยังดีอยู่ ขอเพียงวิธีส่งไม่เหมือน หยกมุกเงินทองกล่องใหญ่กล่องโตของข้าในห้องนี้ ไม่ใช่ว่าล้วนเป็นของที่ท่านเคยกำนัลหรอกหรือ ที่ข้าสนใจก็เป็นเพียงความนัย ไม่มีสิ่งอื่นทั้งสิ้น!” ฉับพลัน เฟยเอ๋อรู้สึกเพียงว่าบนศีรษะหนักอึ้ง เหลือบสายตาขึ้นมองโหลวเหยนหมิงที่ปักของอะไรลงบนผมของนางอย่างตกใจ “อะไรกัน” เฟยเอ๋อหมุนกายอย่างใคร่รู้ มองด้านในกระจก เห็นเพียงบนหัวเดิมทีมีแต่ปิ่นราคาถูกสองอัน ฉับพลันก็เพิ่มรัดเกล้าทองอันหนึ่งขึ้นมา ข้างบนของรัดเกล้าทองยังมีมุกเรืองแสงหนึ่งเม็ดที่ดูแล้วประเมินราคาไม่ได้ อีกทั้งรอบด้านของมุกเรืองแสงยังมีตาข่ายไหมสีเขียวอ่อนที่ไม่รู้ว่าใช้อะไรทำออกมา เฟยเอ๋อเบิกตากว้างอย่างตะลึงมองไปยังของที่เพียงแค่มองก็รู้ว่าเลิศล้ำทั้งยังราคาแพงจนน่าตกใจบนศีรษะอันนี้ ตกใจจนยันกายขึ้น เกือบจะร้องออกมา “สวรรค์!” เฟยเอ๋ออ้าปากค้าง หันหน้าไปมองโหลวเหยนหมิงที่กำลังมองนางยิ้มอย่างตะลึง “ท่านไปทำของสิ่งนี้มาจากที่ใด” “เมื่อหลายเดือนก่อนแคว้นจิ่นชวนมอบเครื่องบรรณาการแด่จักรพรรดิ ขณะเดียวกันก็มอบให้แก้จวนอ๋องเหยนหมิงและจวนอ๋องฮ่าวเยว่ในแบบเดียวกัน “ชางไห่เยว่หมิง” บนศีรษะเจ้าอันนี้ก็คือหนึ่งในสามเครื่องอัญมณีแห่งแคว้นจิ่นชวน อีกสองอันอยู่ในมือของจักรพรรดิและฮ่าวเยว่” “นี่...เช่นนั้นเหตุใดจึงมอบของล้ำค่าขนาดนี้ให้แก่ข้า?” เฟยเอ๋อกลืนน้ำลาย ปลื้มปรีติยินดีคืออะไร ก็คือลักษณะอย่างในตอนนี้สินะ! “เพราะว่ามีเพียงเจ้าจึงจะคู่ควร!” โหลวเหยนหมิงยิ้มเบาบาง พลันยื่นมือไปโอบเอวของเฟยเอ๋อเอาไว้ จูบฝังเข้าที่เรียวปากเรื่องแดงของนางหนึ่งฟอด “มาไม้นี้อีกแล้ว!” เฟยเอ๋อหน้าแดง ก้มหน้างุดยิ้มเล็กน้อย หมุนกายไปมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง รัดเกล้าทองอันนี้ช่างงดงามยิ่งนัก “อันนี้ ชื่อเรียกว่าอันใดนะ “ชางไห่หมิงเยว่” ใช่หรือไม่” “อืม” โหลวเหยนหมิงตอบรับเบาๆ เฟยเอ๋อทำหน้าตลกหลายหน้ากับกระจก และแย้มรอยยิ้มสง่างดงามออกมาต่อหน้ากระจก พลันปิดปากและยิ้มบางออกมา จากนั้นก็อดเปล่งเสียงหัวเราะร่าออกมาไม่ได้ “ดีจริงๆ ฮ่าๆ” เห็นว่านางปรีติได้เช่นนี้ อารมณ์ของโหลวเหยนหมิงเองก็ดีขึ้นเรื่อยๆ หลงชอบเฟยเอ๋อที่เป็นเช่นนี้ ประมาณว่าอาจะเกี่ยวข้องกับใบหน้ายิ้มแย้มไม่เปื้อนความธรรมดาประเภทนั้นของนางเป็นอย่างมาก นางมักจะยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ มีเรื่องเล็กน้อยที่ควรค่าแก่การสบายใจ ก็จะฉีกเรียวปากยิ้มอย่างงี่เง่าออกมา ยิ้มอย่างสดใสยิ่ง งดงามกว่ายามใดๆ เป็นร้อยเท่า “ในเมื่อเป็นของที่ส่งมาเมื่อหลายเดือนก่อน ตอนนั้นซีอวิ๋นยังอยู่ ไฉนท่านจึงมอบให้นาง...” เฟยเอ๋อเอ่ยออกปาก แต่กลับพลันรู้สึกได้ว่าคำพูดของตนเองลากให้ตนเองเดินไปยังสถานที่อันตรายแท้ๆ ในอกเฟยเอ๋อระส่ำ หันหน้าไปมองทางโหลวเหยนหมิง และนั่นเอง สีหน้าของโหลวเหยนหมิงก็ค่อนข้างปั้นยากขึ้นมา เฟยเอ๋อเม้มปากแน่น ในใจไม่ค่อยสบายนัก อันที่ริงซีอวิ๋นไม่ได้ตาย เช่นนั้นหากว่าตอนนี้เขารู้ว่าซีอวิ๋นยังไม่ตายแล้วล่ะก็ จะเลือกซีอวิ๋น หรือว่าเลือกตนเอง? “เหยนหมิง...” เฟยเอ๋อหมุนกายอย่างระแวดระวัง หยุดยืนอยู่เบื้องหน้าเขา ยื่นมือไปนวดคลายหัวคิ้วที่เขาขมวดแน่นขึ้น “ข้าสามารถถามหนึ่งอย่าง บางทีอาจจะเป็นคำถามที่ทำให้ท่านโกรธได้หรือไม่” “ในเมื่อรู้ว่าข้าจะโกรธ เช่นนั้นตัวเจ้าเองไตร่ตรองถึงผลที่ตามมาแล้วค่อยถาม” โหลวเหยนหมิงมองนางด้วยสายตาเย็นชา “อ๋า...” เฟยเอ๋อย่นจมูก ยู่ปากขึ้น “ข้าเพียงแค่อยากถาม ถ้าหาก ข้าแค่จะพูดว่าถ้าหากซีอวิ๋นยังไม่ตาย...” คำยังไม่ทันได้เอ่ยจบ เฟยเอ๋อก็เห็นความหมายไม่ชัดเจนในสายตาของโหลวเหยนหมิง เฟยเอ๋อกัดฟัน แม้ว่าในอกจะไม่ค่อยสบายนัก แต่ก็ยังอยากถาม “ข้าหมายความว่า ถ้าหากซีอวิ๋นยังไม่ตาย และข้ากับนางล้วนยืนอยู่เบื้องหน้าท่าน หากว่าท่านจำเป็นต้องเลือกหนึ่งคน ท่านจะเลือกใคร” 
已经是最新一章了
加载中