ตอนที่ 42 กัปตันผู้หล่อนัก
1/
ตอนที่ 42 กัปตันผู้หล่อนัก
บ่วงรักประธานเผด็จการ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 42 กัปตันผู้หล่อนัก
ตนที่ 42 กัปตันผู้หล่อนัก กำลังทานข้าวอยู่ ปัทมาก็โทรมา“เพ็ญ บ่ายนี้สอบเสร็จใช่ไหม?” “อืม ใช่”ซีกเซนส์รู้สึกปัทมาโทรมาต้องมีเรื่องอะไรแน่นอน เพราะเธอไม่เคยโทรมาแบบไม่มีธุระ “งั้นคืนนี้มากินข้าวที่แม่นะ” ในใจเธอเต้นแรงทันที นึกถึงนภนต์ เธอเลยพูดนิ่งๆ“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเหนื่อยนิดนึง คืนนี้อยากพักผ่อนค่ะ พรุ่งนี้เช้าต้องไปร่วมงานศพปู่” “งั้นก็อีกสองวันนะ เธอสอบเสร็จก็ไม่มีอะไรแล้ว เย็นหกโมง ฉันจะให้นภนต์ไปรับเธอที่มองนะ ”พูดจบก็วางสายทันทีโดยไม่รอให้เธอได้ตอบ นึกถึงนภนต์แล้ว เพ็ญมีความลำคานขึ้นมา พูดไปหลายครั้งแล้ว เธอไม่อยากมีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลศาสตร์พงษ์อีก เธอเลยโทรกลับ เพื่อจะไปปฏิเสธเขา แต่ปัทมาปิดเครื่องไปแล้ว มันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากให้โอกาสเธอ เก็บอารมณ์ขึ้นมา เธอไม่อยากให้ปัทมาต้องกระทบถึงการสอบของตัวเอง เดินกลับไปมองแล้วมองดอกนั้นพลางเดินเข้าห้องสอบ เมื่อเขียนคำตอบเสร็จเธอวางกระดาษคำตอบไว้ที่โต๊ะนั้น เหมือนว่าชีวิตมหาลัยเธอถึงจุดจบสักทีแล้ว เหลือเพียงแค่สอบสัมภาษณ์ก็จบลงแล้ว จู่ๆเธอรู้สึกไม่อยากจากขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น เธอรีบรับขึ้นมา“เพ็ญนีติ์ คืนนี้กลับมาพักที่บ้านนะ” เป็นปุริม ปู่พึ่งเสียชีวิตไปไม่กี่วัน จริงๆเธอยังมักจะคิดและรู้สึกกว่าตัวเองพึ่งได้เจอปู่ที่สนามบินครั้งแรกสักนั้น เขาช่างแข็งแรง แต่ปู่เสียชีวิตไปแล้ว เสียงไปแล้วจริงๆ งั้นระหว่างเธอและปุริมก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันอีก เธอยิ้มเบาๆ แล้วพูดขึ้น“ไม่เป็นไรค่ะ พรุ่งนี้เช้าฉันจะเข้าไป”และกระดาษสัญญานั่นด้วย เธอจะนับให้เขาเหมือนเป็นเลข เธอเข้าใจดีว่าเขาจะจบเงื่อนไขกับเธอแล้ว “เพ็ญนีติ์...” ได้ยินเขาเรียกชื่อเธอแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมมันทำให้เธอนึกถึงครั้งหนึ่งที่เขาเรียกเธอว่าเพ็ญ หรือผู้หญิงที่เขาชอบก็มีคำว่าเพ็ญด้วย? “ปุริม เขาชื่อเพ็ญใช่ไหมค้า?”เธอถามขึ้นมาอย่างไม่คิดอะไร แต่เมื่อพูดออกมาแล้ว ยังทำให้ตัวเองตกใจด้วยซ้ำ “ใคร?”ปุริมเหมือนจะดึงสติไม่ทัน “อ่อ ไม่มีไร”แล้วรีบวางสายไป เพ็ญนีติ์เพียงรู้สึกหน้าแดงใจเต้นแรง แล้วรีบเดินออกไปประตูใหญ่ เธออยากเดินออกไปสงบอารมณ์ตัวเองที่วุ่นวาย เมื่อมาถึงหน้าประตู กลับมารถกัปตันเท่ๆจอดอยู่ เพื่อนๆต่างมุมเข้าไปดูกัน เพ็ญก็เดินเข้าไปด้วย บางทีอาจจะเป็นผู้ปกครองท่านไหนมารอบลูกตัวเองสินะ เดินไปอย่างไม่คิดอะไร ประตูรถถูกเปิดออก หนุ่มวัยกลางประมาณอายุสมสิบเดินออกมา เป็นชุดทหารที่มียศติดไว้อย่างเท่ เธอไม่เคยรู้ศึกษาเรื่องยศทหารอะไรแบบนี้มาก่อน ก็ไม่รู้ว่าทหารคนนี้มียศใหญ่แค่ไหน แต่เธอรู้จักหนุ่มคนนี้ นี่เป็นหนุ่มที่เคยไปบ้านปุริมแล้วกอดปุริมคนนั้น จู่ๆเธอก็อึ้งไป เพราะไม่คิดว่าจะมาเจอเขาที่ประตูมหาลัยดรัลของมอ หนุ่มคนนั้นเดินเมาหาเธอ ชุดทหารนั้นแลดูแพงมีเสน่ห์นัก คลูไปถึงที่สุดเลย เมื่อยืนตรงหน้าเธอแล้ว เขาพลางยิ้มแล้วพูดขึ้นมา“คุณเพ็ญไปไหนครับ?ให้ผมส่งคุณไหมครับ?” “ซ่า”สายตาทุกคนในนั้นจ้องลงไปที่ตัวเธอ ทำให้เธอและหนุ่มคนนั้นเป็นที่จับตามองของคนอื่น เธอมีความอึ้งมึนแล้ว ไม่คิดว่าหนุ่มคนนี้รู้ตักเธอด้วย เลยชี้ที่ปลายจมูกตัวเอง “คุณรู้จักฉัน?” “ใช่ครับ คุณเพ็ญนีติ์” เขาเรียกชื่อออกมา เหมือกำลังบ่งบอกว่าเธอกับเขาสนิทกันนะ แต่นอกจากคืนนั้นแล้วนี่เป็นครั้งที่สองที่เจอเขา เลยคิดว่าเขาเป็นเพื่อนปุริม แต่ตอนนี้ดูๆแล้วเหมือนจะไม่ใช่ “ชื่อค่ะ?”พอถามออกไปเธอก็เสียใจแล้ว เหมือนเป็นการสืบประวัติเขาสักงั้น นี่ไม่จำเป็นหรอกมั้ง แต่ถามออกไปแล้ว มันถึงกลับมาไม่ได้ “ณัฏฐพลครับ”หนุ่มคนนั้นพูดแล้วพลางยื่นมือไปให้ด้วย คนรอบๆต่างมองเธอไว้ เธอเลยทำได้แค่ค่อยๆยื่นมือไปจับแล้วรีบดึงกลับ “คุณพลค่ะ ฉันมีธุระ ไปก่อนนะค้า”พูดจบเธอก็รีบหันแล้วเดินไป แต่ใครจะไปรู้ว่าณัฏฐพลและเพ็ญนีติ์เป็นอะไรกัน คนบางคนอย่ามองภายนอกที่ดูดี แต่ไม่แน่ข้างในนั้นอาจจะ... คิดๆแล้วก็รู้สึกกระเพาะแปรปรวนทันที “พลคะ เพื่อคุณเหรอ?แนะนำให้รู้จักหน่อยสิ”จากนั้นที่เธอเดินไปได้สองก้าว ด้านหลังเธอก็มีเสียงผู้หญิงที่ใสแหลมดังขึ้นมา ฟังแล้วช่างรู้สึกทำให้คนอ่อนตัวได้ “ออ ภรรยาปุริมครับ” “ใช่เหรอ งั้นยิ่งต้องแนะนำสิ”น้ำเสียงผู้หญิงมีความคาดหวัง “เพ๊ญนีติ์ครับ ไปกินข้าวด้วยกันเถอะ คุณดูสิ ญภาเขาอยากรู้จักคุณมากเลยนะ” เพ็ญนีติ์เลยต้องหยุดฝีเท้าลง ญภา ชื่อนี้คุ้นๆนะ ต้องเป็นบุคคลดังของมหาลัยดรัลทีแน่ๆ และแล้วเมื่อเธอหันกลับไปเธอก็แน่ใจได้ ช่างสวยแพงหนูเหมือนเจ้าหญิงไม่ต่าง เป็นดาวของมหาลัยดรัลที เหมือนว่าหมาลัยดรัลมีข่าวลือเธอมากเลยแหล่ะ “หวัดดีค่ะ คุณญภา ฉันยังมีธุระ ค่อยนัดกันวันอื่นนะค้า” ญภามีความไม่น่าเชื่อ แต่ก็รีบยิ้มขึ้นมา “ก็ได้ค่ะ งั้นครั้งหน้าต้องไปกินข้าวด้วยกันนะ” เพ็ญนีติ์เดินอกมาจากหญิงชายสองคนนั้นได้สักทีแล้ว จริงๆเมื่อกี้เธอรู้สึกพวกเขาสองคนช่างเป็นกิ่งทองใบหยกกันมาก บางทีอาจจะเป็นความรู้สึกเธอที่เพี้ยนก็ได้ ปุริมและณัฏฐพลไม่ได้เป็นเพื่อนอะไรกัน ครั้งหน้าเธอจะถามพลให้เข้าใจว่าพวกเขาเป็นอะไรกัน พอเช้าตรู่เธอรีบไปถึงสุสาน งานศพคุณปู่จัดใหญ่มาก และสถานะเธอเองก็แปลกมาก เหมือนเป็นภรรยาปุริมและไม่เหมือนเป็นภรรยาปุริม เมื่อทั้งสองคนมาถึงสุสานโดยแยกกันมานั้น ยังมีนักข่าวที่ถามขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจ“คุณเพ็ญคะ คุณแยกอยู่กับคุณปุริมแล้วรึค้า?” “คุณเพ็ญคะ ระหว่างคุณกับคุณเพ็ญเกิดความไม่เข้าใจอะไรกันหรือเปล่า?” เธอเดินผ่านไปเลย ยิ้มอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเชื่อว่าคำถามพวกนี้ปุริมจะตอบให้นักข่าวได้อย่างพอใจ รอให้งานศพจบลง เธอจะคืนใบสัญญานั้นให้เขาทั้งหมด และเอกับเขาจะไม่มีความสัมพันธ์อะไรอีกเลย คิดถึงนี่แล้วหัวใจเธอเต้นแรงนัก เหมือนได้ยินหรเต้นของจังหวะหายใจลูกตัวเองเลยด้วย้ำ เธอเงยหน้าขึ้น แล้วมองปุริมผู้ร่างสูงที่กำลังเดินมาทางเธอ... อ้อมแขนมา แต่ไม่ได้พูดอะไร ท่าทางนั้นทำให้เธอควงขนเขาขึ้นมาอย่างปกติ แล้วเดินไปตรงหน้าสุสานปู่ เขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เพียงแค่กริยาแบบนี้จะทำให้ความสงสัยทุกคนหายไป เพ็ญมีความสงสัย แต่ไม่กล้าถามเขา ดอกเบญจมาศวางเต็มที่รอบๆสุสานปู่ ช่างขาวสายอย่างสดชื่น จริงๆนั้นเธอกับปู่รู้จักกันแค่เดือนกว่า หนึ่งเดือนเมื่อเชื่อกบชีวิตคนแล้วเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก เธอรู้ว่าตัวเองชอบปู่มาก เธอเลยดูแลเหมือนเป็นปู่แท้ๆตัวเอง นอกจากนั้นเธอไม่ได้คิดอะไรจริงๆ เมื่องานศพจบลง ในใจยังคงเศร้าหมอง สายตาลึกครึ้ม แล้วหันเดินจากสุสาน เธอนั่งแท็กซี่มา แต่ไม่รู้ว่าตอนกลับจะมีแท็กซี่อยู่ไหม “เพ๊ญนีติ์ กลับด้วยกันเถอะ”จู่ๆปุริมก็เรียกจากด้านหลังเธอ เธออึ้งแล้วหยุดฝีเท้าลง เขาเดินมาข้างๆเธอ “ไปเถอะครับ”ครั้งนี้ไม่ให้เธอควงแขน แต่กลับดึงเธอไปอย่างซาตานไปด้วยกัน รถบีเอ็มสีดำจอดที่นอกสุสาน ประตูรถถูกเปิดออก เขาประคองเธอขึ้นไปนั่งข้างคนขับ มือมีความเย็นบ้าง จนเพ็ญไม่รู้จะเอามือวางไว้ไหนดี จู่ๆก็นึกคิดถึงใบสัญญาสองฉบับนั้นขึ้นมา เมื่อรถแล่นออกจากสุสานแล้วเธอจึงเอาสองใบนั้นออกมาแล้วจากกระเป๋า พลางมองวิวข้างนอก เธอพูดขึ้นมาเบาๆ“ปุริม ถึงเวลาแล้วค่ะ” เขากลับไม่มีการตอบสนองใดๆ เพียงพูดเบาๆ “นัดณัฏฐพลและญภากินข้าวไว้ คุณก็ไปด้วยกัน” “ฮ๊าก...”ทำไมเธอต้องไปด้วย ตอนนี้เธอไม่มีความสัมพันธ์อะไรต่อเขาแล้วไม่ใช่? “ณัฏฐพลบอกว่าเมื่อวานเห็นคุณถึงรู้ว่าคุณกับญภาเรียนมอเดียวกัน เมื่อกี้พึ่งนัดเราไปกินข้าว” ณัฏฐพลและญภาก็มาร่วมงานศพด้วยรึ? คนเยอะเกินไปเธอไม่ทันได้สังเกต แต่เธอไม่อยากไปจริงๆ จะจบอยู่แล้ว “ปุริมฉันรู้สึกไม่สบายเท่าไหร่ ไม่ไปได้ไหมค้า?”ก็จะเลิกกันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องแบบนี้แล้วไหม?พอถึงตอนนั้นถ้าตัวเองเจอญภาแล้วจะเกรงอีก เธอยังเหลือการสอบสัมภาษณ์เลย “ผมตกลงณัฏฐพลไปแล้ว” ปุริมไม่ให้โอกาสเธอปฏิเสธเลย เหมือนปัทมาไม่ต่าง เธอเริ่มเบื่อหน่าย แต่เมื่อคิดไปอีกแบบก็ถือว่าเป็นมื้อสุดท้ายแล้วกัน คิดถึงคำว่าสุดท้าย ในใจเธอกลับรู้สึกไม่อยากจากขึ้นมา เธอแอบมองหน้าข้างๆเขา ยังคงหล่อเหลาเหมือนเดิม เธอฟังเสียงหัวใจเต้นของตัวเองจู่ๆก็ลังเลขึ้นมา ญภาและพลมาถึงก่อนแล้ว เพ็ญนีติ์เดินเข้าไปก็รับรู้ถึงสายตาที่จ้องมาของพล เหมือนว่าในตัวเธอมีอะไรผิดปกติ เธอก้มลงมองสังเกต นอกจากเสื้อผ้าที่เป็นมนมืดแล้วไม่มีอะไรเลย เธอเลยเดินเข้าไป มื้อสุดท้ายที่ทานกับปุริมช่างเป็นอะไรที่เกรงมาก “คุณพล ญภา หวัดดีฮะ”ณัฏฐพลไม่ได้สวมชุดทหาร แต่สวมชุดสูตรแล้วเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับเมื่อวานและครั้งแรกที่เจอกัน เทียบแล้วเหมือนเป็นคนที่มีแนวอีกแบบ แมนๆ รวมๆคือเขายังหล่อมากเหมือนเดิม และคนที่นั่งข้างเขาเหมือนญภาสวมชุดรวดชมพูน่ารักเหมือนเป็นสาวน้อยที่เชื่อฟังไม่ดื้อ “นั่งสิเพ็ญนีติ์ ปุริมไม่เคยพาแฟนมากินข้าวกับเราเลยนะ นี่แสดงว่าคุณสำคัญสำหรับเขามาก”ณัฏฐพลที่เปลี่ยนชุดแล้วแม้พูดก็เขาคอได้ง่ายขึ้น แต่ความหมายนั้นเธอเองก็รับรู้ได้เหมือนกัน ปุริมบอกว่าณัฏฐพลชวนพวกเขาสองคนกินข้าว ตอนนี้แลดูแล้วไม่ใช่ กำลังจะพูดขึ้นมา ปุริมก็ดึงเก้าอี้ออกมาให้เธออย่างสุภาพบุรุษ “พล นายบอกว่าญภาก็จะมาด้วยไม่ใช่ ฉันเลยพาคู่ควงมาเลยไง”ช่างพูดธรรมชาติกันมาก ปุริมพูดจนเหมือนทุกอย่างเป็นไปย่างปกติ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 42 กัปตันผู้หล่อนัก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A