ตอนที่ 43 ไม่ต้องพักที่หอพักมหาลัยแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 43 ไม่ต้องพักที่หอพักมหาลัยแล้ว
ต๭นที่ 43 ไม่ต้องพักที่หอพักมหาลัยแล้ว “ใช่เหรอ?”นิ้วณัฏฐพลกดลงที่โต๊ะราวเล่นเปียโน น้ำเสียงฟังนิ่งสบาย แต่กลับแฝงอารมณ์สงสัย “แน่นอน เสริฟเลยครับ”เขาโยกมือให้พนักงานเสริฟอาหาและเปลี่ยนเรื่องไปด้วย เพ็ญมีความงงทำตัวไม่ถูก พอมองอาหารบนโต๊ะแล้ว เธอกลับไม่มีใจจะกิน เพียงแต่คีบผักสองจานตรงหน้าไปไม่กี่คำ แต่ปุริมกับณัฏฐพลกลับพูดอย่างสนุกกันมาก “ณัฏฐพล จัดแน่ใจวันไหน?” “อาทิตย์หน้า ฉะนั้นแล้วฉันต้องรับญภามาก่อน ไม่อยากงนั้น เพื่อนซี๊อย่างนายจะไม่มาแน่นอน” ที่แท้เป็นเพื่อนซี๊กันนี้เอง แสดงว่าเธอเข้าใจผิดแล้ว ยังคิดว่าเขาแลปุริมเป็นความสัมพันธ์แบบนั้นสักอีก เธอผิดแล้ว “อืม ฉันไปแน่นอน” “งั้นเพ็ญนีติ์ก็ต้องมานะ”หันไปมองเพ็ญนี้ทีหนึ่ง แววตาณัฏฐพลนั้นเธอไม่เคยเข้าใจ แต่ก็คาดเดาไม่ออกหรอก “ฉัน...” “ครับ”ระหว่างที่เธอกำลังจะปฏิเสธนั้น เขากลับตอบแทนเธอไปแล้ว เธออ้าปากแล้วอยากพูดอะไร แต่ปุริมกลับพูดขึ้นมา “เพ็ญนีติ์ สอบเสร็จแล้วก็กลับไปพักที่บ้านเถอะนะ ไม่ต้องพักที่หอพักมหาลัยแล้ว” มือเธอสั่นขึ้นมา จนตะเกียบจะหล่น นี่ปุริมหมายความว่ายังไง ถามต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ ถ้าไม่ตกลงก็คือไมให้หน้าเขา แต่ถ้าตกลงแล้วเธอก็จะออกไปในไม่ช้าก็เร็วอยู่ดี เจ็บสั้นดีกว่าเจ็บยาว ใจเธอไม่อยากรับสิ่งพวกนี้แล้ว “ปุริม ค่อยว่ากันพรุ่งนี้นะ คืนนี้ฉันยังต้องทำงานเรื่องสอบสัมภาษณ์เลย” “ออ อืม...ครับ...”เขาลากเสียงสุดท้ายอย่างยาว น้ำเสียงไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ เหมือนว่าคิดไม่ถึงเธอจะปฏิเสธเขาต่อหน้าคนแบบนี้ แต่ว่าเขากลับไม่พูดอะไรอีก แค่มื้อเดียวก็ทำเอาบรรยากาศเย็นเหมือนน้ำแข็ง แม้แต่ณัฏฐพลก็เริ่มพูดน้อยลง การทานข้าวครั้งนี้ของหนุ่มที่โตมาด้วยกันสองคนนี้จบลงสักที เมื่อค่อยๆเดินออกมาจากทั้งร้าน เพ็ญนีติ์ก็รีบเดินไปที่ป้ายรถเมย์ทันที “เพ็ญนีติ์ เรื่องที่โรงพยาบาลนั้น ผม...” หัวใจเธอสั่นขึ้นมา เหมือนว่าเขาจะเดาอะไรออกได้ เลยรีบตอบไป “ฉันยังมีนัด ไปก่อนแล้ว” “เดี๋ยวครับเพ็ฐนีติ์...”เสียงเขาดังมาจากด้านกลังเธอ จู่ๆเธอก็นึกถึงใบสัญญาในกระเป๋า เพราะยังไงแล้วเธอและเขาก็ไม่ได้จดทะเบียนกัน ทุกอย่างนี้ก็แค่ทำให้ปู่ดูแค่นั้น เธอหยุดลงแล้วหันกลับไป และปุริมตามเธอมาพอดี “พุ๊ง”เธอกระแทกไปชนตัวเอง อาจเป็นเพราะเขาไล่เธอมาเร่งรีบ ทำให้เธอกระแทกไปชนแผ่นอกเขาเลยทันที “อ๊าก...”เธอร้องขึ้นมาตามศัลชาตญาณ เธอไม่คิดเลยว่าจะเจอสถานการณ์แบบนี้ มือที่เรียวยาวอบเอวเธอไว้ ทำให้เธอแนบติดเขามากขึ้น “ขึ้นรถครับ ผมส่งคุณ”ไม่สนใจว่าเธอจะตกลงไหม เขาพลางอุ้มเธอแล้วเดินไปที่รถBMW ใบสัญญาสองฉบับในมือนั้นตอนนี้กลับรู้สึกร้อนขึ้นมาแล้ว “ปุริม ฉันแค่...”แค่หันกลับมาจะยื่นใบนี้ให้เขา หรือทั้งสองคนฉีกมันไปด้วยกัน เพราะเธอรู้ว่าเขากำลังจะพูดอะไร เขาเข้าใกล้ข้างหูเธอ แล้วเดินไปที่รถBMWพลางพูดขึ้นมาเบาๆ “เพ็ญนีติ์ ตอนนี้คุณเป็นภรรยาผม” เธอไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรแน่ แต่เขาได้วางเธอไปที่หลังรถแล้ว เขาแล่นรถออกไปอย่างเร็ว โดยไปไหนนั้นเธอกลับไม่รู้เลย เธอนั่งอยู่ในรถอย่างเครียด ยิ่งอยู่ยิ่งไม่เข้าใจหัวใจเขามากขึ้นแล้ว เหมือนว่าเขาเห็นความตื่นเต้นเธอแล้ว เขาหันมามองเธอแล้วพูดขึ้นมาเบาๆ “เพ็ญนีติ์ ไปจดทะเบียนกันนะ” “ฮ๊าก...คุณว่าไรนะ?”เธอเงยหน้ามองเขาไว้ เธอฟังผิดหรือเปล่า?เขาจะจด...จดทะเบียน?สมรส? เธอมองเขาอย่างตกใจ เธอคิดว่าตัวเองฟังผิดไปแล้ว รถแล่นอยู่บนถนน งานศพที่ปาไปครึ่งวัน และกินข้าวเที่ยงกับณัฏฐพล และตอนนี้ถ้าจะไปจดทะเบียนสมรสกันก็มีเวลาที่พอเหมือนกัน “ไปจดทะเบียนสมรสกันครับ”ปุริมพูดซ้ำอีกครั้ง “คุณยอมเหรอ?”ใจเธอเต้นแรงมาก หรือเขาจะแต่งงานกับเธอจริงๆแล้ว? เธอเหมือนกำลังฝันอยู่ ต้องกำลังฝันอยู่แน่ๆ “ใช่” ฟังเขาที่พูดขึ้นมาอย่างแน่วแน่นั้น เธออ้าปากค้าง ในมือที่จับใบนั้นแน่นมากขึ้นจนยับยะยิบ “แล้วเงื่อนไข...”เธอโยกมือขึ้นไปตรงหน้าเขา “เอามาให้ฉัน”เขาใช้มือหนึ่งรับมา แล้วยัดใส่เข้ากล่องที่อยู่ข้างๆราวกับว่ามันเป็นขยะ เธอยังไม่กล้าเชื่อว่านี่เป็นความจริง ถ้าเป็นความจริงงั้นก็หมายความว่าเธอกับเขาจะต้องใช้ชีวิตด้วยกัน จากนั้นมีลูกที่เธอคลอดออกมาก็เป็นลูกเขาอย่างตามกฏหมาย จู่ๆเธอก็อยากบอกเขาเรื่องที่เธอท้องทันที “ปุริม...ฉัน...ฉัน...” “ติ้ง...”มือถือเขาดังขึ้นมา “อะไรครับ พนินี?” พนินี เป็นผู้หญิงคนหนึ่งของเขารึ?เพ็ญนีติ์ฟังแล้ว คำพูดที่อยากจะพูดออกมาก็กลืนลงไป “ทำไมไม่ระวังแบบนี้ เธอรอฉันไว้ ฉันรีบไป”คำพูดที่ออกมาอย่างระรัวเร็ว เขาวางสายไป รถแล่นจอดลงข้างถนน “เพ๊ญนีติ์ ขอโทษครับ ผมมีธุระด่วนต้องไปจัดการ พรุ่งนี้ไม่ก็อีกสองวันผมค่อยไปจดทะเบียนกับคุณนะครับ” เธอพยักหน้าเบาๆ แต่ตัวเองกลับไม่รู้ความหมายนี้นั้นคืออะไร ยังจะตกลงไหม? ระหว่างที่เธอใจตื้นตันแล้คิดว่าเขาจะให้ลูกมีครอบครัวที่อบอุ่นได้แล้วนั้น เขากลับถูกหญิงคนหนึ่งที่ชื่อพนินีเรียกไปจนเขาจอดรถลงทิ้งเธอไว้กลางทาง หึๆ เธอไม่น่าตื้นตันใจเลย เขาบอกเธอไปแล้วว่าห้ามเธอรักเขา แล้วเธอกลับลืมได้ยังไง? เธอกำลังโลภอีกแล้ว เธอผิดแล้ว รีบเปิดประตูออกแล้วเดินลงไป ในใจนั้นเจ็บขึ้นมาเป็นแวบ เธอเก็บกระเป๋าพลางเดินไปทางข้ามถนน เมื่อหันมามองกลับไม่เห็นรถBMWจอดอยู่แล้ว ปุริมแล่นรถออกไปโดยไม่พูดแม้แต่คำเดียวอีกเธอฟังเสียงรถที่แล่นออกไปแล้ว ช่างเป็นเสียงที่แสบหูจังนัก เพ็ญบังคับตัวเองห้ามหันกลับมามอง แต่เธอเพียงยืนไปแวบเดียวเธอก็อดจะหันกลับมามองรถนั้นไม่ได้ เธอช่างไม่เอาไหนจริงๆ เขาไปแล้ว และทิ้งเธอไว้แล้ว แต่เธอกลับเริ่มรู้สึกไม่อยากจากไปอย่างประหลาดขึ้นมา นานมากที่เธอมองรถนั้นหายไปจากสายตาเธอ เธอถึงจะหันแล้วจึงหันเธอไปที่ป้ายรถเมย์ เธอรีบส่ายหัว จะทำแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ห้ามฝันอะไรที่ไม่เป็นจริงอีกแล้ว ลูกรักแม่อยากให้หนูมีความสุขที่สมบูรณ์จริงๆ แต่ว่า พ่อหนูเขาไม่เอาหนูแล้ว ไม่เคยคาดหวังให้ปุริมมารับเธอ เธอเพียงคิดว่านั่นเป็นการล้อเล่นของปุริม เขาจะไปจดทะเบียนกับเธอได้ยังไง? เป็นไปไม่ได้หรอก แต่ถึงแม้ทั้งคืนทั้งวันนั้นเธอไม่สบายใจไม่นิ่ง เมื่อฟ้ามืดแล้ว เพ็ญนีติ์กลีบมาการปวดหัวขึ้นมา เด็กน้อยลำบากเธออีกแล้ว เธอขึ้นไปนอนที่เตียงเช้ามาก และเธอเองก็ง่วงแทบแย่ และแล้วก็หลับไปอย่างเร็วหลับอย่างสนิท จู่ๆที่ไหล่ก็มีแรงดัน เธอขมวดคิ้ว แล้งพูดขึ้นมาอย่างเบื่อ“ฝ้าย ออกไปนะ ฉันง่วงมาก” “เพ็ญนีติ์ มีคนมารับแกนะ” “ออ”เธอเหมือนไม่ได้ยินสักงั้นพลางพลิกตัวไปอีกฝั่งแล้วนอนต่อไป ง่วงจริงนักเพราะช่วงนี้เธอง่วงเป็นพิเศษ “เพ็ญนีติ์ มีคนมารับแกจริงๆนะ ไม่ใช่ปุริม แต่ว่าขับรถBMWสีดำเหมือนกัน เพ็ญนีติ์ ความรักแกตอนนี้ฮอตจริงๆเลยนะ” อยากนอนมากแค่ไหนก็นอนไม่ลงแล้ว เพียงได้ยินเสียงฝ้ายที่ทำเอาเธอตื่นขึ้นมา เธอหันไปมองฝ้ายอย่างงัวเงีย“ยังมีรถBMWสีดำมารับฉันเหรอ?” “ใช่แก ต้องไม่ใช่ปุริมแน่นอน ฉันรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์กว่าปุริมอีกนะ เพ็ญนีติ์แกรีบบอกมานะ เขาเป็นใครอ่ะ?” “ไม่รู้ ฝ้ายเธอฝันอยู่หรือเปล่า”ยิ่งคิดแล้วยิ่งรู้สึกเป็นไปไม่ได้ นอกจากปุริมแล้ว เธอไม่รู้จักแม้แต่ครึ่งคนที่ขับรถBMWเลย “ไม่ใช่จริงๆ หนุ่มคนนั้นขาวๆใสๆเหมือนแพงอ่ะ เพ็ญนีติ์ ถ้าแกไม่ชอบก็แนะนำให้ฉันดีไหม?” เพ็ญนีติ์นั่งขึ้นมาทันที เธอจำได้แล้ว ปัทมาบอกว่าวันนี้นภนต์จะมารับเธอไปกินข้าว เธอลืมไปแล้วจริงๆ เลยรีบเอสเวื้อคลุม เธอเพียงแค่ไม่อยากให้ชีวิตตัวเองวุ่นวายเพราะการปรากฏตัวขึ้นมาของนภนต์ “เพ็ญนีติ์รอฉันด้วย ถ้าแกไม่เอาเขา ก็ช่วยแนะนำให้ฉันสิ เหมือนว่าแกไม่ได้ชอบแนวนั้น แต่ฉันชอบนะ...” ฝ้ายยังพูดต่อไปอย่างไม่หยุด เพ็ญนีติ์ไม่พูดสักคำจนมาถึงหน้าประตูมหาลัย และแล้วรถคันนั้นเหมือนของปุรินเลยไม่ต่างรถที่พึ่งไปแต่งมาใหม่อย่างวาวสวย ตรงหน้ารถมีร่างภนต์ยืนไว้ ชุดสูตรสีขาวที่คู่รถแล้วเหมือนเป็นดอกบัว เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงชอบตัวเองได้ เธอรีบเดินเข้าไปจรงหน้าเขา“นภนต์ ฉันไม่ได้ตกลงแม่ฉันจะไปกินข้าวที่บ้านนาย เขาเป็นคนตกลงเอง เละฉันก็วางสายไปแล้วด้วย ขอโทษค่ะ เชิญนายกลับไปได้แล้ว ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ฉันอยากพักผ่อนแล้ว”พูดจบเธอก็หันแล้วเดินไป เสียงชายหนุ่มดังแหลมออกมา“ฉันสู้เขาไม่ได้ขนาดนั้นเชียว?” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ แต่ว่าเมื่อกี้น้ำเสียงเธอกดไปอย่างต่ำ เธอไม่อยากให้เขาต้องลำบากต่อหน้าคนอื่น แต่เขากลับไม่สนใจอะไรสักอย่าง พุ่งเสียงมาตรงหน้าคนมากมายเลยแหล่ะ วินาทีนั้น เพ็ญนีติ์มีความเจ็บ เจ็บมาก เธออยากเดินหนี แต่เขากลับวิ่งเข้ามา คนเยอะมาก เยอะจนเธอไม่สามารถเดินหนีออกจากคนมากมายนั้นได้ มือเธอพลางถูกนภนต์ดึงไว้ มือเขาเย็น แต่ทั้งตัวนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ เขากำลังโกรธ และมากด้วย เพ๊ญไม่เคยเห็นนภนต์โกรธมาก่อน บางทีเธอรู้สึกว่าการที่เขาไม่ท้อถอยนั้นเป็นการรักที่แน่วแน่ แต่ตอนนี้เธอไม่รู้สึกแล้ว เธอรู้สึกความรักทั้งตัวของเขาเป็นการทรมาน จนนำพาให้เธอก็ทรมานไปด้วย 
已经是最新一章了
加载中