ตอนที่ 47 เช็คใบหนึ่ง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 47 เช็คใบหนึ่ง
ต๭นที่ 47 เช็คใบหนึ่ง นภนต์หันกลับมา ใบหน้าที่ขาวนั้นเต็มไปด้วยความมึนก่ำ เมื่อเห็นว่าเป็นเขา เพ็ญนีติ์ก็เข้าใจแล้ว ว่าแล้วทำไมตั้งแต่เธอออกจากหมาลัยไปนภนต์ก็ไม่เคยมาก่อกวนเธออีก ที่แท้นั้นเขาแอบติดตามเธออยู่เงียบๆ หันมาสบตากับน้าน้ำ“เธอเป็นคนโทรหรือเปล่า?” “เอ่อ...” “เพ็ญนีติ์ อย่าลำบากเขานะ ฉันให้เขาทำแบบนั้นเอง เธอทำแบบนี้เสี่ยงมาก ตอนเธอคลอดลูกแม้คนที่จะเซ็นชื่อก็ไม่มี ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาแล้วฉันจะบอกน้าปัทมาเขายังไง?เธอไม่สนใจตัวเองก็ต้องคิดถึงลูกสองคนนะ ดูสิน่ารักแค่ไหน น่ารักเหมือนเธอเลย” คำพูดนภนต์ได้นำพาความสนใจเพ็ญนีติ์ไปได้จริงๆ เธอยังสามารถไปสนใจอะไรได้อีกหล่ะ ไม่มีอะไรที่สามารถให้เธอดีใจเท่าเธอมีลูกสองคนนี้ได้หรอก เด็กทารกเล็กๆสองคนถูกนำมาตรงหน้าเธอ ช่างเหมือนจริงๆเลยไม่ต่าง ถ้ามองดีดีแล้วแยกออกกันเธอก็ไม่รู้ว่าคนไหนคือคนไหนแล้ว “เพ็ญนีติ์ นี่คือพี่นะ”เมื่อวางพี่ลงแล้วอุ้มอีกคนขึ้นมา“นี่คือน้อง ตอนที่พยาบาลอุ้มออกมาฉันเป็นคนรับไว้เองค่ะ” เธอฟังแล้วอุ่นใจขึ้นมา แต่น้าน้ำก็ทำคนเดียวไม่ไหวจริงๆ เด็กทั้งสองคนนะ นี่มันเกินที่เธอคาดคิดไว้ “ขอบคุณนะนภนต์” “ขอบคุณอะไรกัน ถ้าน้าเห็นเด็กสองคนนี้ต้องดีใจแน่นอน เดือนหน้าน้ากับพ่อจะแต่งงานแล้ว เพ็ญนีติ์ พอถึงตอนนั้นเราทั้งครอบครัวจะเป็นคนบ้านเดียวกันแล้ว ย้ายเข้ามาอยู่เลยนะ จะได้ดูแลเด็กไปด้วย” เธอส่ายหัว “ไม่แล้วค่ะ ขอบใจนาย”ลูกสองคนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา เขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย มันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ “ก็ได้ งั้นก็ให้น้าน้ำมาดูแลเด็ก แต่ว่าเธอต้องให้ฉันมาดูแลพวกเธอนะ” เพ็ญเพียงแค่พยักหน้า เธอรู้ว่าไม่ให้เขามาเขาก็จะมาอยู่ดีดี บางทีในช่วงที่เธอท้องนั้นเขาอาจจะอยู่มองเธอในมุมหนึ่งอย่างห่างๆ เพียงแต่ว่าเธอไม่รู้แค่นั้นเอง ใช่แล้ว เขาไม่เคยท้อกับคนแบบนั้นหรอก เขาจีบเธอมานานขนาดนั้นก็ไมแปลกแล้ว กำลังพูดไปประตูพลางถูกเปิดออกกะทันหัน เพียงได้ยินน้าน้ำพูดขึ้นมา“คุณคะ คุณเข้าผิดห้องหรือเปล่าคะ นี่เป็นห้องสตรีเวชกรรมนะ” เพ็ญพลางมองไปทางหน้าประตู เธออึ้งทันที คิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว แต่ปุริมยังคงปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเธอในตอนนี้ เธอเดินเข้ามาตรงหน้าเตียงเธออย่างตรง สายตามองไปทางนภนต์ จากนั้นเม้มปาก และนาทีเดียวกันใบหนึ่งที่เขียนตัวเลขไว้ถูกโยนไปที่ตัวเธอ เพ็ญนีติ์มองไปทีหนึ่ง ไม่เข้าใจความหมายของปุริม “เพ็ญนีติ์ นี่เป็นสิ่งที่ปู่ไว้ให้คุณก่อนจากไป ตอนนี้ผมให้คุณแล้ว และเราจะไม่มีความสัมพันธ์อะไรอีก และคุณก็จะไม่ต้องมาเข้าใกล้ผมอีก แม้คลอดลูกยังจะเลือกโรงพยาบาลเดียวกับชนิศา”พูดจบ เขาพลางปล่อยมือแล้วใบนั้นก็หล่นลงที่เตียงเธอ แววตานั้นแน่นตามใบเช็คที่หล่นลงพื้น เธอเลือกโรงพยาบาลนี้เป็นเพราะเธอกลัวถ้าเด็กออกมาแล้วเธอตัวคนเดียวจะมีเรื่องอะไรขึ้นมา โรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานนั้นสามารถให้เธอวางใจได้ เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าชนิศาไรนั่นก็พักที่โรงพยาบาลนี้เหมือนกัน เธอกัดริมฝีปากไว้แน่น สายตายนั้นพลางหันไปมองตัวปุริม เธอไม่แม้แต่พูดคำเดียว ปุริมเดินออกไปแล้ว และเดินออกไปอย่างเร็วด้วย ในห้องสงบลงทันที ใบเช็คที่สะดุดตานั้นยังอยู่ข้างตัวเธอ นานมากที่นภนต์เริ่มพูดขึ้น“เพ็ญนีติ์...” เหมือนรู้ว่าเขาอยากพูดอะไร เพ็ญนีติ์เลยรีบพูดขึ้นมาก่อน“ช่วยพับให้ฉัน แล้วเก็บให้ดี พรุ่งนี้เราจะออกจากโรงพยาบาล” “เธอบ้าแล้วเหรอ?พึ่งผ่าตัดเสร็จ อีกทั้งยังไม่ได้ขับลม ยังไม่ได้เอาไหมออก เพ็ญนีติ์ ฉันไม่ตกลง” เพ็ญนีติ์หันไปมองน้าน้ำ“เก็บของ พรุ่งนี้เช้าไปทำการออกจากโรงพยาบาล เราจะออกจากที่นี่” “นี่...”น้าน้ำหันไปมองนภนต์ เธอเป็นคนที่นภนต์จัดให้มาดูแลเพ็ญนีติ์ พึ่งคลอดเด็กออกมา และเป็นการผ่าคลอดอีก จะออกโรงพยาบาลมันไม่ดีจริงๆ จริงๆนั้นแม้แต่ขยับก็ยังลำบากด้วยซ้ำ “ถ้าเธอไม่ทำ ฉันจะเปลี่ยนแม่บ้านค่ะ”เธอมองน้าน้ำไว้อย่างไม่ลังเล เธอแน่วแน่ที่จะไปอยู่แล้ว เธอไม่ได้อยากให้ปุริมสนใจ ทุกอย่างนี้เป็นแค่ความบังเอิญ ถ้าเธอจะอยู่ต่อ ก็เหมือนว่าเธอเป็นไปตามที่เขาพูด และไม่รู้ว่าเป็นการท้าอารมณ์ด้วยหรือเปล่า แต่ยังไงแล้วเธอก็ไม่อยากมีอะไรกับปุริมอีก “เพ็ญนีติ์ อย่างน้อยก็ต้องให้หมออนุญาตก่อนไหม?”นภนต์เริ่มห้ามเธอขึ้นมา ถึงแม้เขาจะไม่ชอบเพ็ญนีติ์กับปุริมอยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกัน แต่เธอก็ไม่อยากให้เพ็ญนีติ์ที่พึ่งคลอดลูกแล้วจะออกไปแบบนี้ “หมอจะอนุญาตไหม?”เธอย้อนถาม ไม่มีหมอคนไหนจะอนุญาตให้คนผ่าคลอดลูกคนหนึ่งที่พึ่งผ่าเสร็จก็ออกจากโรงพยาบาลหรอก นภนต์ส่ายหัวทันที “เอาเถอะครับ ฉันไปติดต่อโรงพยาบาลอื่น เพ็ญนีติ์ ดูแลตัวเองดีดีนะ เธอยังมีลูกต้องดูแล” เธอรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา เพราะไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว เพียงทำได้แค่พยักหน้าเหมือนว่าตกลง เมื่อยาชาหมดไปแล้ว ความเจ็บปวดก็เริ่มออกมา ช่างเจ็บมากจนเธอทำอะไรไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดว่าจะดูแลลูกอีกลเย แม้แต่ตัวเองยังต้องให้น้าน้ำมาดูแล การขับลมทำได้เร็วมาก อีกวันหนึ่งเธอก็สามารถทานอาหารได้แล้ว เมื่อเห็นนภนต์เดินเข้ามา เธอจึงพูดขึ้น“หมอว่าไงคะ?” “ตกลงแล้ว ฉันไปขับรถตอนนี้เลย ขับไปรอที่หน้าประตูทางเข้า เพ็ญนีติ์ ฉันให้พยาบาลเข็นเธอไปที่ห้องโถงใหญ่นะ” “ค่ะ”ยังดีที่มีนภนต์ ไม่อยากนั้นเธอคงจะผ่านจุดนี้ไปได้ยาก ไม่พูดอะไรแล้ว ทุกอย่างนี้เธอต้องขอบคุณนภนต์ บางทีการแน่วแน่ของผู้ชายก็น่ารักดีนะ พอมองหลังเขาที่ค่อยๆหายไปในสายตาเพ็ญนีติ์จึงหันไปมองลูกสองคนที่นอนข้างๆ ช่างน่ารักเหลือเกิน ตอนที่เธอไม่หลับเธอมักจะจ้องมองเขาสองคนไว้แบบนี้ตลอด บางทีเธอยังไม่กล้าเชื่อด้วยซ้ำว่านั่นเป็นลูกรักทั้งสองคนของเธอ “น้าน้ำคะ เอาลูกสองคนมาวางที่เตียงฉันค่ะ เราจะออกไปด้วยกัน”นภนต์ได้ถือถุงใหญ่สองอันออกไปแล้ว น้าน้ำถืออีกอันก็สามารถลงไปได้เลย พยาบาลเข็นเธอออกจากห้อง ลูกทั้งสองคนนอนหลับอยู่ข้างเตียงเธอ ใบเช็คนั้นหยัดอยู่ที่กระเป๋าเสื้อ “ลาก่อนนะปุริม”เธอพูดในใจเบาๆ และทีนี้ข้างๆห้องนั้นมีเสียงหัวเราะหญิงชายดังขึ้นมา“ปุริมนายดูวูลฟ์น่ารักมาเลย ช่างเหมือนนายจัง” เพ็ญไม่อยากมองอยู่แล้ว แต่ว่าสายตาเธอก็ยังกวาดไปทางหญิงคนนั้น นั่นเป็นชนิศาที่ปุริมพูดถึงสินะ นั่นเป็นหญิงตั้งท้องคนที่คอยไปซื้อชุดที่ร้านเธอ ช่างสวยเหลือเกิน และลูกเขานั้นยังคลอดใกล้เวลากันกับลูกเธอด้วย พอคิดถึงนี่แล้วหัวใจเธอก็เจ็บขึ้นมาจนทำให้เธอเจ็บแผลเลย ชนิศาหัวเราะอย่างสดใส ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข ปุริมและชนิศากลับมีลูกกันแล้ว และยังเหมือนเขามากด้วย วูลฟ์เด็กคนนั้นคงเป็นผู้ชายเพราะเป็นชื่อผู้ชาย เพ็ญนีติ์หลับตาลง สายตานั้นมีน้ำตาค้างที่กลิ้งไปมา ลูกเธอและชนิศาเป็นลูกของปุริมเช่นกัน แต่เขานั้นเพียงให้แต่ความเหยียบย่ำเธอ กลับให้การดูแลเอาใจใส่กับชนิศาไปหมด และเฝ้าอยู่ข้างชนิศาตลอดเวลา ไม่รู้ว่าตัวเองมาถึงหน้าห้องทำการของโรงพยาบาลได้ยังไง เมื่อมีคนมาอุ้มเธอลงจากเตียงเข็นนั้นพลางส่งเธอไปที่รถนภนต์ เธอถึงมีสติขึ้นมา แผลยังคงเจ็บมาก แต่ใจดวงนั้นเจ็บมากกว่า ตอนนี้มันช่างช่ำบอกบางแล้วเสียจริง แสงแดงส่องแสบตาขึ้นมา เธอเอามือขึ้นมาบัง และบางโรงพยาบาลที่อยู่นอกรถไปด้วย ไม่อยากมองไปอีก เหมือนว่าเพียงแค่มองไปแล้วพลางจะเห็นภาพชายหญิงสองคนและเด็กทารกคนหนึ่งอย่างมีความสุข ภาพความสุขแบบนั้นไม่เคยเป็นของเธอมาก่อน วินาทีเดียว เธอกลับรู้สึกว่าตัวเองผิดแล้ว ผิดที่ไม่ควรตามใจตัวเองที่คลอดลูกสองคนนี้ออกมา แต่พอหันไปมองเด็กสองคนนั้นแล้ว เธอยังคงมีความสุข ความเจ็บช้ำในใจโล่งหายไปทันที ไม่คุ้มค่าหรอก เธอไม่ควรไปใส่ใจผู้ชายแบบนั้น ลูกรัก เธอต้องตั้งชื่อให้ลูกเธอ ... ห้าปีผ่านไป หน้าโรงเรียนอนุบาลดอกไม้ เพ็ญนีติ์เงยหน้ามองถนนนซอยเล็กนั้นที่ส้มกับอ่อยจะวิ่งมาจากตรงนั้น และแล้วยังคงเป็นอย่างที่เธอคิดไว้ เด็กทั้งสองคนที่วิ่งมาหน้าคนหนึ่งหลังคนหนึ่งมาทั้งประตู “หม่ามี๊...หม่ามี๊...” เธอยิ้มให้ แล้วมือทั้งสองข้างถูกควงขึ้นมาทันที ส้มที่เปียผมไว้สองข้างเด้งไปมาอยู่ข้างหู “หม่าม็...หนูจะหอมแก้ม” “งั้นหนูก็จะหอมด้วย”อีกข้างหนึ่งอ้อยก็ไม่ยอมด้วย เพ็ญนีติ์ก้มหน้าลงแล้วปล่อยให้เด็กทั้งสองคนหอมแก้มกันคนละฝั่ง นี่เป็นการบ้านที่พวกเขาสองคนต้องทำทุกคนตอนเธอมารับกลับบ้าน เหมือนว่าถ้าไม่ได้ทำวันหนึ่งจะรู้สึกไม่สบายใจ “มั๊ว...” “มั๊ว...” เสียงดังมาก แต่จริงๆนั้นเด็กทั้งสองคนที่ใจโลภนั้นไม่ได้แตะต้องไปโดนแก้มเธอเลย เธอยิ้มขึ้นมา แล้วจูงมือพวกเขาสองคนไปที่ร้าน ห้าปีแล้ว เธอไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่เด็กทั้งสองคนที่เติบโตมากับเธอนั้นช่างมีคามสุขเหลือเกิน “หม่ามี๊ อาทิตย์หน้าประชุมผู้ปกครองค่ะ หม่ามี๊จะมาไหมเอ่ย?” “แน่นอนสิ หนูบอกหม่ามี๊มาว่าเลยนะหนูทั้งสองคนกำลังคิดอะไรอยู่?”เธอเป็นผู้ปกครองคนเดียวของพวกเขา ถ้าเธอไม่ไปร่วมแล้วใครจะไปร่วมหล่ะ โรงเรียนอนุบาลที่พวกเขาเรียนตอนนี้ยังคงเหมือนตอนที่เธอเรียน ทุกปีจะมีการประชมผู้ปกครองครั้งหนึ่ง “หม่ามี๊ หนูจะเอาพ่อบุญธรรมค่ะ” “หนูก็เอาด้วยนะ” “ไม่ได้พ่อบุณธรรมยุ่งมาก หม่ามี๊ไปก็พอ” “แต่ว่า...แต่ว่าคนอื่นเขาเป็นแด็ดดี๊และหม่ามี๊ไปร่วมกัน มีแต่บเนเราที่ไม่มี ฮื้อ หนูจะเอาพ่อบุญธรรม แค่ครั้งเดียวได้ไหมค้าหม่ามี๊?”มือเล็กทั้งสองข้างสะบัดมือเธอไปมา แบบว่าถ้าเธอมีตกลงแล้วพวกเขาจะไม่ปล่อยมือ “อ้อย ส้ม พวกหนูกำลังขู่หม่ามี๊ใช่ไหม?”ห้าปีแล้วสาวน้อยสองคนนี้มักจะขู่เธอแบบนี้ หึๆ ครั้งนี้เธอไม่ใจอ่อนแน่นอน เธอจะลำบากนภนต์ตลอดได้ยังไงเพราะนภนต์ไม่มีหน้าที่นี้ 
已经是最新一章了
加载中