ตอนที่51มีอีกกี่สามปีที่สามารถรอได้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่51มีอีกกี่สามปีที่สามารถรอได้
ตอนที่51มีอีกกี่สามปีที่สามารถรอได้ แต่จิรภาสกลับไม่สนใจเธอยังนั่งอยู่ที่นี่คีบอาหารให้หนูดีทานอย่างหน้าหนา “คุณจิรภาส”จรีภรณ์เรียกเขาอีกครั้งด้วยความโมโห หนูดีมองเห็นแม่โมโหแบบนี้แล้วเขาคิดว่าเธอนั้นยังไม่ได้ทานอะไรจึงคีบปลาหมึกให้กับจรีภรณ์“คุณแม่ทานก่อนนะครับ” จิรภาสจึงถือโอกาสคีบอาหารให้กับจรีภรณ์จากนั้นเขากับหนูดีก็พูดไปหัวเราะไปโดยที่ไม่ได้สนใจการมีตัวตนอยู่ของจรีภรณ์ จรีภรณ์นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้นอย่างไม่มีชีวิตชีวาครึ่งหนึ่งของอาหารก็กินไม่ลงในใจเธอนั้นกลัดกลุ้มมากก่อนหน้านั้นชนุตต์เอาใจเขามากก็ไม่เคยเห็นหนูดีจะกระตือรือร้นสักนิดหรืออาจะเป็นเพราะความแตกต่างระหว่างสายเลือดกับน้ำกันนะ หลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้วจรีภรณ์ก็อุ้มหนูดีเดินออกจากห้องอาหารไปแต่ตอนนี้ก็เริ่มค่ำแล้วการจะเรียกรถนั้นก็ยากจรีกรณ์จึงอุ้มหนูดีรอรถอยู่ที่นั้นต่อไป “แม่ครับง่วงจัง”เพลินมาทั้งวันหลังจากทานอาหารเสร็จก็รู้สึกง่วง จิรภาสขับรถมาจอดที่ด้านหน้าของจรีภรณ์“ขึ้นรถผมจะไปส่งกลับบ้าน” จรีภรณ์หันหน้าหนียืนรออยู่อย่างมั่นใจไม่หันไปมองเขา จิรภาสรู้สึกรีบจึงเปิดประตูลงจากรถ“ค่ำขนาดนี้แล้วคุณจะรออีกหรอถึงคุณจะรอได้แต่ลูกก็ทนไม่ไหวหรอก” จรีภรณ์มองหนูดีนอนอยู่บนตัวของเธอแบบนี้ก็รู้สึกเจ็บปวดใจคิดว่าถ้านอนอยู่แบบนี้คงไม่สบายเท่าไหร่จึงไม่รอช้ารีบขึ้นรถของจิรภาสไป แต่ฉากนี้ก็ทำให้ฑิตยาเห็นเข้าเธอรีบหลบอยู่หลังป้ายและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเมื่อรถขับออกไปเธอจึงรีบโทรไปหาชญาภา “มีเรื่องอะไร”ชญาภาระงับความโมโหไว้ก่อนที่จะถามไปเพราะเธอนั้นกำลังจะเข้านอนแต่มีเสียงโทรศัพท์โทรเข้ามาทำให้เธอตกใจ “ชญาภาเธอทายสิฉันเห็นอะไรมา”ฑิตยายืนอยู่ที่นั้นอย่างตื่นเต้นฟังไม่ออกแม้แต่น้อยว่าชญาภานั้นกำลังโกรธ “ใคร”ชญาภาถามอย่างเสียอารมณ์เธอกำลังด่าอยู่ในใจถ้าหากว่าฑิตยาพูดมานั้นเป็นเรื่องไม่สำคัญเธอต้องหลุดด่าหล่อนแน่ๆ “ฉันจะส่งให้เธอดู”ฑิตยาพูดอย่างมีลับลมคมในพูดจบก็วางสายไป ชญาภามองที่โทรศัพท์รู้สึกว่าตัวเองนั้นกำลังถูกล้อเล่นกำลังจะโทรกลับไปด้วยความโกรธก็เห็นข้อความส่งเข้ามาที่โทรศัพท์เธอจึงเปิดดูคาดไม่ถึงว่าจะเป็นรูปของจรีภรณ์และจิรภาสอยู่ด้วยกันในรูปนั้นเป็นรูปที่จิรภาสกำลังเปิดประตูรถให้จรีภรณ์อย่างเอาใจจรีภรณ์อุ้มหนูดีและขึ้นรถไป เมื่อเห็นรูปนั้นชญาภาก็ไม่ใจเย็นแล้วเธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจมากเธอจึงปาโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงด้วยความโกรธ ชญาภาอดทนอย่างมากอยากจะไปหาคุณแม่ของเธอจึงเดินไปเดินมาอยู่ในห้องคนเดียว จิรภาสก็นอนไม่หลับเหมือนกันวันนี้ตอนที่ไปส่งจรีภรณ์กลับบ้านระหว่างทางนั้นเขาก็คิดอยากหาเรื่องคุยกับจรีภรณ์แต่ตลอดทางก็ไม่ได้คุยกันแม้แต่คำเดียวทำเพียงแค่อุ้มหนูดีไว้และจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างจิรภาสมองหน้าสวยงามของเธออยู่พักหนึ่ง เมื่อถึงแล้วจีรภรณ์พูดขอบคุณอย่างเย็นชาเธอหยิบเงินจำนวนหนึ่งจากกระเป๋าให้เขาและลงจากรถไปจิรภาสยิ้มเจื่อนๆนี่คงเป็นค่าข้าวและค่ารถสำหรับวันนี้ เขาลงจากรถตามไปนำเงินใส่ในกระเป๋าของจรีภรณ์“จรีภรณ์ผมอยากคุยกับคุณ” “ฉันไม่สนใจค่ะ”จรีภรณ์รีบขัดจังหวะอย่างเร็วและอุ้มหนูดีเดินขึ้นไปด้านบน จิรภาสมองท่าทีที่ไร้ความทรงจำของจรีภรณ์ที่มีต่อเขาก็รู้สึกขมขื่นในจิตใจเขานั่งอยู่ในรถนั่งมองเงาสะท้อนของจากหน้าต่างรถยิ้มมุมปากราวกับว่ามองเป็นรูปที่สวยงามจนกระทั่งไปดับลงเขาจึงดึงสติกลับมา ในที่มืดเขาจุดบุหรี่และสูดเข้าไปลึกๆหลังจากที่แยกจากจรีภรณ์เขาก็เรียนรู้การสูบบุหรี่ความอยากสูบบุหรี่ของเขาเริ่มอย่างช้าๆและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงตอนนี้เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกเบื่อเซ็งเขาก็จะสูบบุหรี่มากขึ้น ช่วงนี้เขาคิดมากเขารู้สึกว่าหรือเป็นเพราะว่าเขาแก่แล้วเขาชอบคิดถึงความหลังวันเวลาเก่าๆคิดไปคิดว่าเพียงพริบตาเดียวค่ำคืนนั้นก็ผ่านพ้นไป จิรภาสยืดบิดขี้เกียจเขารอจรีภรณ์ออกมาทำงานเขาอยากพูดกับเธอให้เข้าใจเขารู้ว่าเรื่องแบบนี้ถ้าหากคุยกันแล้วไม่เข้าใจอีกเขาต้องเสียเธอไปจริงๆแน่เขาเสียเธอไปแล้วสามปีเขาจะมีอีกกี่สามปีที่สามารถรอได้ ในเวลาเดียวกันชญาภาก็ไม่นอนทั้งคืนมันไม่ง่ายเลยที่จะอดหลับอดนอนจนถึงหกโมงเธอได้ยินเสียงจากด้านนอกเมื่อเธอได้ยินเสียงก็เดินออกมาจากห้องเธอควบคุมตัวเองเดินมาอยู่ด้านหน้าของนพนา“แม่คะวันนี้หนูจะไปเรียนโยคะแม่ช่วยดูให้หน่อยได้ไหมคะว่าใส่ชุดไหนดี” “ได้สิหนูเข้าไปก่อนแม่จะเตรียมอาหารเช้าให้คุณพ่อก่อน”นพนายิ้มตอบ ชญาภามองตานพนาอย่างกังวลแสดงให้เห็นว่าเธอมีบางอย่างที่จะพูดคุยกับนพนาแต่นพนาดูเหมือนว่าจะมองไม่ออกยังทาแยมบนขนมปังของเธอ หลังจากเสร็จเรื่องยุ่งๆนพนาถึงจะเปิดประตูเข้ามาที่ห้องของชญาภา“เป็นยังไงมีเรื่องอะไร” “ค่ะแม่ดูนี่สิคะ”ชญาภายื่นรูปที่ฑิตยาส่งมาให้นพนาดูด้วยความโกรธ นพนาดูรูปแล้วก็ตกใจ“เกิดอะไรขึ้นจิรภาสทำไมถึงรู้” “หนูไม่รู้รูปนี้เป็นรูปที่เมื่อวานตอนเย็นฑิตยาส่งมาให้ดู”ชญาภากัดฟันกรอดมองสองคนในรูปแล้วก็ด่าออกมาอย่างรุนแรง“สมควรตายสองคนนั้นไปอยู่ด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมฉันถึงไม่รู้” “ดูแล้วนังสารเลวคนนี้ร้ายแรงมาก”นพนาตอบอย่างครุ่นคิด “ค่ะทำยังไงดีคะดูในรูปแบบนี้พวกเขาสองคนก็จะแต่งงานกันอีกในไม่ช้าก็เร็ว”ชญาภากังวลใจจนจะเต้น “ให้แม่คิดก่อนเธอให้แม่คิดก่อน”นพนามองท่าทีของชญาภาก็ลุกลี้ลุกลนขึ้นมาสถานะการตอนนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเธอนพนารู้สึกเป็นครั้งแรกตั้งแต่จรีภรณ์กลับมาพวกเธอก็อยู่ในตำแหน่งที่ถูกกระทำแบบนี้มันทำให้เธอหมดกำลังใจ เธอมองดูรูปในโทรศัพท์จนปวดหัวหลี่ตาราวกับแมว“ถ้าหากเด็กคนนี้เป็นของจิรภาสเขาก็ต้องร้อนอกร้อนใจไม่นานก็ต้องบอกกับนวิยาแล้วด้วยความใจดีของนวิยาที่มีต่อลูกจะยังสามารถขัดขวางการอยู่ด้วยกันของเขาได้เชียวหรือแต่เห็นได้ชัดว่านิวยายังไม่รู้เรื่องลูกของเขาแบบนี้ก็พูดได้ว่าจิรภาสยังไม่ได้บอกนวิยาเรื่องลูกที่ไม่ได้บอกนวิยาก็มีแค่เหตุผลเดียวก็เป็นเพราะว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเขาเขาจะไม่เพิ่มแรงใดๆเพื่อการรวมกันของเธอและจรีภรณ์อีก”นพนาใจเย็นลงและคิดวิเคราะห์เรื่องราวอย่างละเอียด “แต่ว่าเราจะทำยังไงให้นวิยารู้เรื่องนี้ละคะหรือว่าพวกเราจะบอกเธอดีไหมคะ”ชญาภามีข้อสงสัย “โง่จริงๆทำไมฉันถึงมีลูกแบบแกเนี่ย”นพนาให้มือชี้ไปที่หัวของชญาภา“ทำไมไม่ส่งรูปนี้ในนามคนแปลกหน้าหละเมื่อถึงเวลานั้นก็จะมีคนมาจัดการนางสารเลวคนนั้นแทนพวกเรา” “แม่ฉลาดมากเลยค่ะ”เมื่อชญาภาฟังแล้วก็ตาลุกวาว “แน่นอนสิไม่รู้เหรอว่าฉันคือใครเมื่อสมัยก่อนนั้นฉันไม่ว่าจะอย่างไรก็จะเอาคนคร่ำครึอย่างพ่อของแกมาอยู่ในมือ”ได้ยินคำชมของลูกสาวก็รู้สึกดีมากใช้มือปัดผมและยิ้มอย่างภูมิใจ ในตอนเช้านวิยาก็ได้รับข้อความหนึ่งจากคนแปลกหน้าเธอเปิดดูคิดไม่ถึงว่าจะเป็นภาพของลูกชายกับจรีภรณ์อยู่ด้วยกันโดยเฉพาะการเห็นจรีภรณ์กำลังอุ้มเด็กอยู่หน้าตาเอาอกเอาใจของลูกชายเธอรู้สึกว่าเธอเองนั้นถูกฟ้าฝ่าในใจนั้นสั่นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ พวกเขาทำไมถึงอยู่ด้วยกันได้ลูกรู้แล้วเหรอลูกรู้แล้วอย่างนั้นหรือนวิยาก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันทีตามเหตุผลแล้วหลังจากที่ลูกรู้แล้วต้องทะเลาะกับเธออย่างแน่นอนแต่ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นคาดไม่ถึงลูกชายไม่เอ่ยปากแม้แต่น้อยก็ไปอยู่กับนางจิ้งจอกแล้ว นวิยาโกรธและกลัวมากคิดถึงก่อนหน้านี้ที่ลูกชายเธอมักจะออกจากบ้านแต่เช้าและกลับบ้านดึกจนกระทั่งสองสามวันมานี้ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเธอก็เข้าใจในทันทีคาดไม่ถึงว่าลูกชายของเธอจะไปหาจรีภรณ์ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ทานอาหารเช้าหยิบกระเป๋าแล้วออกไป ในขณะที่นั่งในรถจึงโทรเข้าบริษัทแต่พนักงานต้อนรับบอกเธอว่าจิรภาสไม่ได้เข้าบริษัทตั้งแต่เมื่อวานแล้ว นวิยากัดฟันโกรธลูกชายเมื่อวานตอนเย็นนั้นก็ไม่กลับบ้านและก็ไม่อยู่ที่บริษัทถ้าอย่างนั้นก็ต้องอยู่กับนางจิ้งจอกเมื่อคิดถึงนวิยาก็สงบนิ่งขับรถออกไปยังที่อยู่ของจรีภรณ์
已经是最新一章了
加载中