ตอนที่58เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่58เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ
ตอนที่58เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ จิรภาสที่กำลังจัดการเอกสารในห้องทำงานเห็นปณัยกำลังเดินเข้าเขาถามว่ามาทำอะไรอย่างเยือกเย็นก่อนที่เขาออกมาจากโรงพยาบาลก็ได้ให้คำสั่งเขาไว้ ให้เขานั้นวางงานที่มีทั้งหมดในมือตอนนี้ให้จับตาดูจรีภรณ์และหนูดีแต่นี้ไม่ทันข้ามวันเขาก็เห็นปณัยมารายงานเขาแล้วอาจจะเพราะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับจรีภรณ์เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาก็จ้องมองไปที่ปณัยในเวลาเดียวกันในใจก็ภาวะนาว่าอย่าให้เกิดเรื่องอะไรเลย กำลังคิดอยู่ปณัยก็เอ่ยปากพูด“ท่านประธานครับวันนี้คุณนวิยาไปพบคุณจรีภรณ์ครับ” “ห๊ะ”ในใจเขาก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมา “ดูเหมือนคุณจรีภรณ์จะเดินออกมาจากโรงน้ำชาอย่างไม่มีความสุขมากนัก” “รู้แล้ว”จิรภาสถือปากกาในมือของเขาเขาก็รู้ด้วยนิสัยของแม่เธอจะอดทนต่อจรีภรณ์ได้อย่างไรจะต้องหาปัญหาไปรบกวนจรีภรณ์เขาคิดว่าตอนนี้เพราะเรื่องของหนูดีใจของเธอนั้นจะมีความสำนึกผิดแต่คิดไม่ถึงเธอกลับไม่แยแสยังกล้าไปพบจรีภรณ์ เธอต้องพูดสิ่งที่ไม่น่าฟังให้กับจรีภรณ์จิรภาสถอนหายใจตอนนี้ที่สำคัญที่สุดไม่ใช่แม่และก็ไม่ใช่ชญาภาแต่เป็นจรีภรณ์ เพียงแค่จรีภรณ์เห็นด้วยเขาจะไม่ลังเลและรีบแต่งงานกับเธอใหม่อีกครั้งสำหรับแม่นั้นตอนนี้เขาไม่สามารถฟังความเห็นใดใดจากเธออีกแล้ววิธีการของเธอไม่มีประโยชน์กับเขาอีกต่อไปแล้ว สำหรับชญาภาแต่ไหนแต่ไรตัวเขาเองนั้นไม่เคยชอบเธอเลยคิดเป็นเพียงเพื่อนกับเธอเท่านั้นก่อนหน้านั้นเพราะการบังคับของแม่เขาถึงตอบตกลงหมั้นกับชญาภา ชญาภาเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่งแต่เขาไม่ได้รักเธอในใจเขานั้นมีเพียงจรีภรณ์เรื่องก่อนหน้านั้นเขารู้สึกผิดต่อเธอนอกจากนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร เขานั้นอยากจะตรงไปหาชญาภาแต่คิดว่านี่มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องก่อนหน้านี้เขาก็เคยพูดแล้วให้เธออย่ารอเขาอีกเลยแต่เธอพุดว่าเธอเต็มใจไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่ยอมแพ้เมื่อเป็นแบบนี้คนเลวคนนี้จึงทำมันด้วยตัวเองเพื่อแก้ปัญหานี้ก่อนเขาไม่สนใจที่จะทำอย่างอื่น ต้องรีบวางแผนเพื่อหลังจากที่เขาและจรีภรณ์แต่งงานกันใหม่ เพียงแค่ถ้าหากเขานั้นจะได้รับมิตรภาพที่ดีที่จรีภรณ์เคยมีต่อเขาก่อนหน้านี้ละก็แต่ตอนนี้เธอเกลียดเขามากเรื่องนี้ทำให้จิรภาสนั้นปวดหัวมาก ถ้าหากไม่มีแม่เขามายุ่งเกี่ยวด้วยตอนนี้เขากับจรีภรณ์อาจจะมีความสุขร่วมกันไปแล้วและยังมีลูกเป็นของตัวเองแล้วเธอต้องเป็นแม่ที่ดีมากและเขาก็ต้องเป็นพ่อที่ดีแน่ๆ แต่ทั้งหมดนี้ก็ถูกตัวเองนั้นทำลายลงหมดแล้ว ตอนนี้ตอนนี้เขาควรทำอะไรคิดถึงตรงนี้เขาก็ขับรถมาถึงที่โรงพยาบาลแล้ว อยู่ข้างกระจกจิรภาสมองดูหนูดีตื่นแล้วเด็กชายตัวน้อยมองทุกคนในห้องราวกับกวางที่ตกใจหวาดกลัว ค่อยๆเขาใจเย็นลงยิ้มให้กับจรีภรณ์ยิ้มนี้ทำให้คนรอบข้างนั้นร้องไห้แม้แต่จิรภาสก็ดีใจด้วยเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวนี้ก็อดไม่ได้น้ำตาก็ปริ่มขึ้นมาปัดกวาดหมอกควันก่อนหน้านี้ ช่วงหลายวันมานี้จิรภาสจะมาที่นี่ทุกวันมายืนอยู่สักพักถึงจะออกไปเขาคอยดูหนูดีค่อยๆฟื้นตัวรู้สึกโล่งใจไม่น้อยแค่บางครั้งคราวจรีภรณ์จะเห็นจิรภาสมายืนอยู่นอกกระจกมองเธอทุกครั้งเวลาแบบนี้เธอมักจะโกรธและดึงผ้าม่านปิด นี่มันช่างทำให้หัวใจของจิรภาสนั้นเลือนรางลงโดยเฉพาะสองสามวันนี้ชนุตต์ติดตามอยู่เป็นเพื่อจรีภรณ์อยู่เสมอการดูแลแบบนั้นทำให้เขานั้นเป็นบ้าแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ทำได้เพียงมองอยู่ตรงนี้ ในเวลาเดียวกันเขาก็กังวลอยู่ในใจเขาไม่ใช่ว่าให้ปณัยนั้นติดต่อกับคนของคุณจิรัฎฐ์แล้วไม่ใช่หรือทำไมถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ยินความเคลื่อนไหว จิรภาสรู้สึกปวดหัวนิดหน่อยสถานะของเขาตอนนี้เป็นเพียงอดีตสามีที่เคยทำผิดพลาดมาก่อนไม่มีอื่นนอกจากนี้เขาคิดว่าเขาเป็นเหมือนพวกถ้ำมองทุกวันเขาจะมาอยู่ตรงนี้แอบมองอย่างระมัดระวังมองดูเมื่อเห็นจรีภรณ์ใบหน้ายิ้มของเธอเขารู้สึกว่าในใจเขานั้นรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย มีครั้งหนึ่งเขายืนอยู่นอกหน้าต่างมองดูหนูดีทักทายเขา คาดไม่ถึงว่าหนูดีนั้นท่าทางไม่กลัวเขาเลยมองเขาด้วยสายตาตื่นเต้นแม้กระทั่งโบกมือให้เขา ภาพนี้นั้นทำให้จิรภาสตกใจอยากรู้ตั้งแต่ที่หนูดีป่วยนั้นนอกจากแม่ของเขาแล้วเขาปฏิบัติกับทุกคนราวกับเห็นผีแม้แต่ชนุตต์เขาก็เพียงแต่ไม่ป้องกันเขาแต่ยังคงติดต่อกับเขา แต่กับจิรภาสคนที่ติดต่อไม่นานเพียงแค่ทานข้าวด้วยแค่มื้อเดียวคาดไม่ถึงว่าเขาจะแสดงความใกล้ชิดขนาดนั้นหรือมันจะเป็นความสัมพันธ์ทางสายเลือดจริงๆเหรอ จรีภรณ์มองตาจิรภาสสายตาใกล้ชิดสนิทสนมแบบนั้นหลอกคนไม่ได้ความเชื่อมั่นและความใกล้ชิดในสายตาของหนูดีมันเป็นสายตาที่เหมือนกับมองเธอเฉพาะเท่านั้น จรีภรณ์มองพวกเขาด้วยความงุนงงจิรภาสอยู่ด้านนอกหน้าต่างเย้าแหย่ให้หนูดีหัวเราะหนูดีก็มีความสุขกับเขาโบกมือเล็กๆการแสดงออกของทั้งสองคนนั้นเหมือนกันจนแยกไม่ออกราวกับความรักใครที่พ่อมีต่อลูก ทันใดนั้นจรีภรณ์ลังเลนิดหน่อยเธอไม่รู้สิ่งที่เธอตัดสินใจนั้นจะผิดไหมเธอรู้สึกว่าความปรารถนาที่กีดกันหนูดีจากพ่อผู้ให้กำเนิดนั้นมันจะโหดร้ายไหมเธอรู้สึกไม่แน่ใจเขาต้องเป็นพ่อที่ดีคนหนึ่ง ด้านนอกหน้าต่างใบหน้าของจิรภาสนั้นแฝงไปด้วยความรักใคร่เอ็นดูหัวเราะกับหนูดีหนูดีหันกลับไปมองจรีภรณ์ยืนอยู่ที่ประตูใช้มือเล็กอ้วนชี้ไปที่จรีภรณ์จากนั้นก็แอบยิ้ม จิรภาสหันกลับไปมองจรีภรณ์อย่างตกใจยุ่งเหยิงและสับสนยังมีความงงงวย เขามองจรีภรณ์อย่างสงสัยเขาไม่รู้ว่าทำไมจึงสามารถเห็นอารมณ์ได้มากมายจากนัยน์ตาของจรีภรณ์และมีความสับสนเล็กน้อย จรีภรณ์มองสายตาสงสัยของจิรภาสสันสนรีบหันกลับเข้าไปห้องพยาบาลโดยเร็วจิรภาสก็รีบตามไป “คุณจิรภาสที่นี่ไม่ต้อนรับคุณเชิญคุณออกไป”จรีภรณ์หันกลับมาเห็นจิรภาสคาดไม่ถึงว่าเขาจะตามเข้ามาในห้องพยาบาลโกรธมากจึงขัดขวางต่อหน้าเขา “จรีภรณ์ผมเพียงอยากอยู่กับหนูดีผมจะไม่ทำรุนแรงเขาเลย”จิรภาสมองจรีภรณ์อย่างอ้อนวอน “จะไม่ทำรุนแรงอย่างนั้นหรือ”จรีภรณ์ยิ้มเย็นชา“ถ้าหากว่าแม่คุณมาพูดว่าฉันกวนใจคุณครั้งนี้มาตบฉันจะทำยังไง” “จรีภรณ์ครั้งนี้ผมสาบานผมสามารถปกป้องพวกคุณได้” “พู่....คุณสาบานเหรอจริภาสคุณคิดว่าจะยังเชื่อคุณได้อีกเหรอคุณมองคุณเองสูงไปก็เป็นเพราะว่าตอนแรกที่ฉันเชื่อคุณถึงได้เป็นอย่างวันนี้ไงตอนนี้คุณยังจะกล้าสาบานต่อหน้าฉัน”จรีภรณ์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมาคำสาบานตอนนี้สำหรับเธอนั้นก็เป็นผู้ชายใช้หลอกลวงผู้หญิงตอนแรกนั้นเธอเชื่อเขามากถึงได้ตาบอดหลับหูหลับตา “จรีภรณ์”จิรภาสรีบเรียกเธอ “แม่ครับผมชอบคุณลง”ทันใดนั้นหนูดีก็พูดประโยคนั้นขึ้นมาจรีภรณหันกลับไปมองอย่างตะลึงมองใบหน้าน่ารักไร้เดียงสาของหนูดีในใจก็อ่อนไหว เวลานั้นจิรภาสก็รีบก้าวเข้าไปนั่งอยู่บนเตียงของหนูดี ไม่ว่าจรีภรณ์จะพูดอะไรจิรภาสก็ไม่สนใจเธอดูแลและเล่นกับหนูดีสายตาเล็กของหนูดีก็คลายความเศร้าเวลานั้นจรีภรณ์ประหลาดใจเธอปวดหัวที่ให้พื้นที่กับพวกเขานั่งอยู่ตรงนั้นมองดูรอยยิ้มแห่งความสุขของหนูดี จนถึงเวลาเที่ยงเมื่อจรีภรณ์อยากออกไปซื้อกับข้าวปณัยก็ถือถุงเล็กถุงใหญ่เดินเข้ามา “นั่งลงทานข้าวเถอะผมให้ปณัยซื้อมาแล้ว”จิรภาสจัดอาการที่ซื้อมาให้จรีภรณ์อย่างเอาใจเรียกให้เธอมากินแต่จรีภรณ์ไม่อยากสนใจเขาจึงหันกลับไป “กินเถอะมีแต่ของที่คุณและหนูดีชอบทั้งนั้นไม่กินข้าวร่างกายจะอยู่ได้อย่างไร”จิรภาสยิ้มให้จรีภรณ์วันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดวันหนึ่งเพียงแค่ได้รับอนุญาตจากเด็กชายตัวเล็กๆคนนี้จรีภรณ์จึงไม่ไล่เขาไป จิรภาสยอมรับว่าเขานั้นหน้าด้านตอนคิดไม่ถึงว่าจะใช้เด็กให้เป็นประโยชน์แต่เขาต้องทำแบบนี้มากไปกว่านั้นเขานั้นรักหนูดีมากจริงๆรักแบบนี้รู้สึกประหลาดใจมากความใกล้ชิดที่แปลกประหลาด “แม่ครับผมหิว”หนูดีมองอาหารเต็มโต๊ะทันใดนั้นนิ้วชี้ก็เคลื่อนไหวของพวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เขาชอบกิน “ได้สิเดี๋ยวแม่ป้อนนะ”จรีภรณ์หันกลับมาเตรียมอาหารไปป้อนหนูดีแต่ประโยคถัดไปของหนูดีนั้นทำให้จรีภรณ์พังทลายทันที “ไม่เอาหนูอยากให้คุณลุงป้อน”หนูดีมองจิรภาสอย่างสนิทออดอ้อนเขา จิรภาสได้ยินก็รีบไปป้อนหนูดีทิ้งจรีภรณ์ไว้เธอไม่เข้าใจทำไมหนูดีถึงพัวพันเขาละเจอหน้ากันเพียงไม่กี่ครั้ง มองดูหนูดีทานข้าวคำโตจรีภรณ์ก็ยิ้มตามฉากนี้ถูกหมอที่เดินผ่านมาเห็นเขาก็ยิ้มทักทาย“ทานข้าวเหรอครอบครัวของพวกคุณดูมีความสุขมากเลย” จรีภรณ์ตกใจกับประโยคนั้นเกือบจะกลืนอาหารไม่ลงกำลังจะโต้แย้งจิรภาสก็ยิ้มตอบไป“ใช่ครับครอบครัวของเรามีความสุขมาก” พูดจบก็มองจรีภรณ์จรีภรณ์ถลึงตาใส่จิรภาสรู้อยู่แก่ใจใครเป็นครอบครัวของคุณ หลังจากทานข้าวเสร็จจรีภรณ์ถือโอกาสหนูดีนอนกลางวันจึงรีบให้จิรภาสรีบกลับไปแต่หนูดีไม่ยอมพัวพันอยู่กับจิรภาส ยังอยากให้เขานั้นกล่อมหลับ มื้อกลางวันวันนี้กินข้าวเยอะมากไมรู้ว่าเพราะความอยากอาหารหรือเพราะจิรภาส อีกไม่กี่วันข้างหน้าจิรภาสนั้นไปมาระหว่างบริษัทกับโรงพยาบาลแม้จรีภรณ์จะไปเขาก็ไม่ไปเป็นสิ่งดีที่เขาทำนั้นก็เพราะหนูดีเพราะหนูดีชอบเขา แม้ว่าจรีภรณ์จะกัดฟันโกรธเขาแต่จิรภาสก็ไม่สนใจนั่งข้างหนูดีดูเหมือนว่านับวันหนูดียิ่งติดเขามากขึ้นในใจของจรีภรณ์รู้สึกไม่ดีแต่ก็ไม่รู้ทำอย่างไรจึงปล่อยให้จิรภาสปรากฏตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยอย่างอิสระ แม้แต่ชนุตต์และเทพวีจะผลัดกันไล่จิรภาสเขาก็ไม่ไปหน้าหนาอยู่อย่างนั้น มองเวลาที่หนูดีจะออกจากโรงพยาบาลใกล้เขามาเรื่อยๆจรีภรณ์จัดการเตรียมดำเนินการให้หนูดีออกจากโรงพยาบาลสองวันอย่างไรก็ตามจิรภาสก็อยู่เป็นเพื่อนการฟื้นตัวของหนูดีดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ในเวลานี้เหตุสุดวิสัยก็เกินขึ้น
已经是最新一章了
加载中