ตอนที่59แผนการชั่วร้าย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่59แผนการชั่วร้าย
ตอนที่59แผนการชั่วร้าย เมื่อนวิยาได้ยินมาว่าลูกชายของเธอไปโรงพยาบาลสองสามวันเธอโกรธจนกัดฟันในใจนั้นกรนด่าเมื่อได้ยินว่านี่เป็นเพราะคุณงามความดีของหนูดีเด็กคนเดียวก็ไม่ยอมปล่อย ในใจคิดว่าจรีภรณ์เลี้ยงลูกไม่เหมือนกันยังเด็กขนาดนี้ก็มีอุบายแล้วลูกชายก็เลอะเลือนทำไมถึงยังไม่หมดใจกับผู้หญิงคนนี้คาดไม่ถึงจะเป็นฝ่ายรุกเองไปดูแลเขาที่โรงพยาบาลมันน่าโกรธเธอจริงๆ ตอนนี้ลูกชายเธอไม่กลับมาที่บ้านแล้วตั้งแต่ครั้งก่อนที่เขาทะเลาะกับเธอในบ้านตอนนั้นก็ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านอีกเลยแม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่โทรหาเธอ ลูกชายเธอเปลี่ยนไปแล้วจริงๆเขาไม่ต้องการแม่คนนี้แล้วหรือแต่ทั้งหมดนี้ต้องโทษจรีภรณ์ เธอรู้สึกสึกว่าครั้งก่อนเธอได้พูดกับจรีภรณ์ชัดเจนแล้วเธอจะไม่มีเมตตาแล้วอย่าโทษว่าเป็นความผิดของเธอนวิยาวางแผนชั่วร้าย บ่ายวันนั้นจรีภรณ์และชนุตต์อยู่ในห้องกับหนูดีเพราะว่าวันนี้จิรภาสมีเรื่องด่วนจึงมาไม่ได้ในช่วงเลาแห่งความสุขทันใดนั้นพยาบาลก็เรียกจรีภรณ์ไปบอกว่าคุณหมอหวางเรียกพบเธออยากคุยเรื่องอาหารของหนูดี จรีภรณ์รู้สึกแปลกกับพยาบาลคนนี้เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนอีกอย่างหมอหวางไม่ใช่เวลานี้ที่เรียกพบแต่ก็คิดว่าถ้าหมอหวางเรียกเธอต้องมีเรื่องด่วนอะไรแน่เธอจึงไปพบ เมื่อไปถึงห้องหมอหวางเขากำลังตรวจผู้ป่วยอยู่เมื่อเขาเห็นจรีภรณ์ก็รีบลึกขึ้นมาถามเธอว่ามีอะไรมีเรื่องอะไรหรือเปล่า โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นของตระกูลธนะปรีดากุลเธอเห็นชนุตต์ตึงเครียดกับเธอแบบนั้นจึงไม่กล้าเฉยเมย แต่คิดไม่ถึงว่าจรีภรณ์ได้ยินคำนั้นแล้วก็ไม่รู้ผิดชอบเรียกเธอมีอะไรไม่ใช่เพราว่าเขาเรียกให้มาหาหรือหมอหวางได้ยินคำนั้นรีบโบกมือบอกไม่มีเรื่องอะไรเธอเข้าใจผิดหรือเปล่า เวลานั้นจรีภรณ์ตอบกลับมาหัวใจเต้นแรงเธอรีบลงไปที่ชั้นสอง แต่เธอก็มาเจอกับชนุตต์ที่กำลังขึ้นมาข้างบนตึกชนุตต์เธอเกิดอะไรขึ้นจรีภรณ์จึงรีบถามหาหนูดีชนุตต์ไม่แน่ใจถึงพูดไปว่าอยู่ห้องผู้ป่วย “ถ้าอย่างนั้นคุณมาทำอะไรคะ”จรีภรณ์ถามอย่างร้อนรน “คุณหาผมอยู่ไหมใช่เหรอ” เมื่อจรีภรณ์เห็นชนุตต์พูดแบบนี้ใจนั้นก็จมดิ่งลงหนูดีต้องเกิดอะไรขึ้นกับหนูดีแน่ๆจรีภรณ์รีบวิ่งไปที่ห้องผู้ป่วยแต่กลับเห็นห้องผู้ป่วยว่างเปล่าไม่มีคน ตุ๊กตาหมีตัวเล็กของหนูดีก็หล่นอยู่บนพื้น ตรีภรณ์รู้ว่าเลือดกำลังสูบฉีดดวงตาสองข้างกำลังมืดลงเธอร้องไห้กับเสื้อของชนุตต์“ชนุตต์คะชนุตต์คะหนูดีไม่อยู่แล้วหนูดีไม่อยู่แล้ว” ชนุตต์เมื่อเห็นปฏิกิริยาของจรีภรณ์ก็ทายได้เขารีบปลอบตรีภรณ์“ไม่เป็นไรไม่เป็นไรผมจะให้คนไปตามหาไม่เป็นไรนะต้องไม่มีเรื่องอะไรแน่นอน” ไม่นานชนุตต์ก็ระดมกำลังคนของโรงพยาบาลออกไปตามหาพร้อมกับเขาแต่ว่าตามหาทุกที่กลับไม่มีร่องรอยของหนูดีจรีภรณ์นั้นแทบจะพังทลาย ชนุตต์ได้ไปตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดแต่ก่อนหน้านี้กล้องวงจรปิดของที่นี่ได้ถูกทำให้เสียหายแล้วดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นั้นจึงไม่สามารถตรวจสอบได้ จรีภรณ์ถามคนที่เดินผ่านไปมาราวกับคนบ้าถามพวกเขาว่าเห็นลูกของเธอไหมเมื่อเห็นท่าทางที่เสียสติของจรีภรณ์ชนุตต์รู้สึกปวดใจดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด เวลานั้นโทรศัพท์ของจรีภรณ์ก็ดังขึ้นเธอรีบรับโทรศัพท์ทันที “จรีภรณ์ตอนนี้รู้สึกเป็นยังไงบ้าง”เสียงปลายสายของผู้หญิงที่ดัดเสียง “คุณเป็นใครเอาลูกของฉันคืนมาให้ฉันนะ”จรีภรณ์ตะโกนใส่ปลายสายอย่างโกรธแค้นถ้าหากอีกฝ่ายยืนอยู่ด้านหน้าเธอตอนนี้เธอต้องฉีกเธอเป็นชิ้นๆแน่ “โอ้โอ้จรีภรณ์เธอจำไว้นะถ้าหากเธอยังยุ่งกับจิรภาสอีกครั้งหน้าเธออาจจะไม่โชคดีอีกเด็กอยู่ใต้เตียงเธอไปช่วยเขาสิถ้าช้าจะยุ่งยากเอา”คนในโทรศัพท์หัวเราะอย่างโหดร้าย เมื่อจรีภรณ์ได้ยินสิ่งที่เธอพูดก็รีบวิ่งไปที่ห้องผู้ป่วยทันทีใต้เตียงพบหนูดีนอนอยู่ เด็กชายตัวน้อยหลับตาสนิทหน้าแดงเหงื่อบนหน้าผากไหลไม่หยุด หลังจากที่ชนุตต์อุ้มเขาออกมาก็รีบให้หมอไปตรวจร่างกายของเขาเมื่อมองดูหนูดีถูกอุ้มเดินไปนั้นหัวใจของจรีภรณ์เจ็บปวดราวกับถูกลูกศรปักมาที่หัวใจเธอร้องไห้กอดชนุตต์แน่น ช่วงที่หนูดีหายไปนั้นเธอรู้สึกหมดหวังมากจริงๆ ชนุตต์ขมวดคิ้วกอดจรีภรณ์แน่นคนแบบไหนกันที่กระวนกระวายกับจรีภรณ์ได้ขนาดนี้นึกไม่ถึงว่าจะไม่ทะนุถนอมกับเด็กแบบนี้ แต่เขานั้นจะต้องตรวจให้ชัดเจนเขาจะไม่ให้ชีวิตของจรีภรณ์และหนูดีอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายแบบนี้ หลังจากที่ตรวจเช็คแล้วหมอเช็ดเหงื่อบนหน้าผากเขาและเรียกชนุตต์มาพูดอย่างตึงเครียด“คือว่าท่านประธานชนุตต์เด็กคนนั้นถูกคนให้ยาระงับประสาทจำนวนมากหนึ่งในหนึ่งในนั้น...” “หนึ่งในนั้นอะไรคุณรีบพูดเถอะ”ชนุตต์เร่งรัดหมออย่างไม่อดทน “หนึ่งในนั้นมียาที่กระตุ้นบางอย่าง”หมอหวางตอบอย่างติดๆขัดๆ ชนุตต์ฟังแล้วงงงวยรู้สึกฟังแล้วไม่เข้าใจถามอย่างสงสัย“ยากระตุ้นอะไรคือยาอะไรคุณพูดมาตรงๆ” “ก็คือก็คือยาปลุกอารมณ์”หมอเช็ดเหงื่อบนหน้าผากตึงเครียดอย่างอธิบายไม่ได้ “อะไร”ชนุตต์รู้สึกหูของตัวเองนั้นมีปัญหาบกพร่องเมื่อกี้เขาได้ยินว่าอะไรจึงให้หมอพูดซ้ำอีกครั้งเขาถึงมีท่าทีตอบโต้แต่ประโยคนั้นก็ถูกจรีภรณ์ได้ยินเข้าพอดี ชนุตต์มองตาคู่นั้นของจรีภรณ์ที่ถลึงตาโตเขากลัวว่าใจเธอเธอจะรับไม่ไหวจึงรีบเข้าไปจับเธอไว้ จรีภรณ์มองชนุตต์อย่างเหม่อลอยผ่านไปพักใหญ่ก็ร้องไห้โฮออกมาอย่างหนักใจของเธอเจ็บปวดเจ็บปวดเหมือนจะตายเธอรู้สึกว่าเธอเกลียดมากเพราะอะไรเพราะอะไรทำไมถึงทำกับลูกของเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก ใช่เป็นเธอต้องเป็นเธอแน่จรีภรณ์คิดอย่างเกลียดชังต้องเป็นนวิยาต้องเป็นสิ่งที่ต้องเจตนาแก้แค้นแน่เธอช่างโหดร้ายโหดร้ายจริงๆดีดีมากถ้าเป็นแบบนี้ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไม่สามารถปล่อยนวิยาไว้ได้ เมื่อคิดถึงตรงนี้จรีภรณ์ก็หัวเราะอย่างน่ากลัวหัวเราะนี้ทำให้ชนุตต์ตกใจมาก“จรีภรณ์คุณเป็นอะไรไปคุณอย่าทำให้ผมกลัว” “ไม่เป็นอะไรค่ะชนุตต์ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”จรีภรณ์พยายามควบคุมความโกรธของตัวเองจากนั้นเธอก็เดินไปที่เตียงของหนูดีมองดูใบหน้าที่เป็นสีแดงของเขาน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว จรีภรณ์ยื่นมืออกมาค่อยๆลูบไปบนในหน้าของหนูดีอย่างเบามือปากนั้นก็พูดเสียงเบาขอโทษต่อเขาอย่างไม่หยุด ชนุตต์มองเห็นฉากนี้เขากอดจรีภรณ์อย่างเจ็บปวดต้องการให้เธอนั้นไม่ต้องพูดแล้วแต่จรีภรณ์นั้นกลับพูดไม่หยุด ในวันนี้ชนุตต์ไม่รู้ว่าตัวเองผ่านมันได้อย่างไรเขาใช้กำลังของตัวเองตรวจสอบแต่ว่าก็ผ่านไปแล้วหนึ่งวันแต่ก็ตรวจไม่พบอะไรเขานั้นอย่างจะถามจรีภรณ์แต่ดูท่าทางเธอแล้วก็ทำได้เพียงกลืนมันเข้าไป เมื่อถึงช่วงบ่ายจรีภรณ์หาข้ออ้างว่าตัวเองมีธุระจึงออกมาจากโรงพยาบาล ระหว่างทางเธอคิดอย่างหนักเธอต้องไม่ปล่อยนวิยาเด็ดขาดต้องไม่ปล่อยเด็ดขาดเธอไม่ใช่ว่ากลัวว่าตัวเองและลูกชายของเธอนั้นอยู่ด้วยกันเหรอถ้าอย่างนั้นเธอก็จะไม่ทำตามความต้องการของเธอเธอจะต้องอยู่กับจิภาสต่อหน้านวิยาคิดถึงตรงนี้จรีภรณ์ก็ยิ้มออกมามันไม่เหมือนเดิมแล้วยิ้มครั้งนี้คือการแก้แค้น จิรภาสกำลังประชุมอยู่ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเดิมทีเขาพยายามที่จะตัดสายคาดไม่ถึงว่าจะเป็นจรีภรณ์ในใจเขาดีใจมากจึงรีบออกจากห้องประชุมไปแล้วรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว“ฮัลโหลจรีภรณ์คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า” “จิรภาสฉันตกลงจะแต่งงานใหม่กับคุณ”จรีภรณ์เอ่ยปากพูดอย่างเยือกเย็น “อะไรนะ”จิรภาสตกตะลึงแต่ก็ตอบไปอย่างรวดเร็วพูดอย่างดีใจ“ตกลงจรีภรณ์แต่งงานใหม่แต่งงานใหม่” “ถ้าอย่างนั้นคุณออกมาพบฉันหน่อยฉันอย่างพบคุณ” “ตกลงตกลงคุณรอผมนะ”หลังจากที่จิรภาสวางสายอย่างดีใจเขาขับรถด้วยตัวเองไปหาจรีภรณ์ระหว่างทางเขารู้สึกว่าหัวใจเขานั้นมีความสุขมากราวกับจะบินไปถึงแม้ว่าเขาจะมีความสงสัยอยู่นิดหน่อยไม่เข้าใจว่าจรีภรณ์ทำไมถึงตอบตกลงกะทันหันแบบนี้แต่ว่าทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเพียงแค่สามารถทำให้เธอนั้นกลับมาอยู่ข้างกายเขาไม่ว่าอะไรเขาก็ไม่สนใจ เมื่อรับจรีภรณ์แล้วเขายืนมือไปจับมือของเธอจรีภรณ์ยิ้มและไม่ปฏิเสธ แต่จิรภาสนั้นรู้สึกว่าจรีภรณ์นั้นเปลี่ยนไปเปลี่ยนไปเหมือนไม่รู้จักแต่ว่าตรงไหนที่เปลี่ยนไปนั้นเขาก็ไม่แน่ใจ “ฉันอยากกลับบ้าน”นี่เป็นประโยคแรกที่จรีภรณ์พูดหลังจากขึ้นรถ จิรภาสขมวดคิ้วแต่ว่ากำลังขับรถกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านนวิยาก็อยู่ที่นั้นเมื่อเธอเห็นจิรภาสกลับมาเธอดีใจมากกำลังจะไปพูดกับลูกชายต่อหน้าแต่ทันใดนั้นกลับเห็นจรีภรณ์ที่เดินมาจากทางด้านหลัง เธอตกใจมากพร้อมกับดึงหน้าอดทนต่อความโกรธและถามไป“เธอมาที่บ้านของฉันทำไมใครให้เธอมา”
已经是最新一章了
加载中