ตอนที่ 54
ตนที่ 54
ปาณีมองไปยังเวทัสที่กำลังนั่งกินบะหมี่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง ขณะที่เขากำลังทานบะหมี่นั้นเงียบมาก ไม่ส่งเสียงใดๆ ถ้าไม่สังเกตก็จะเหมือนไม่มีคนอยู่
เมื่อวานเขาไม่อยู่ เพิ่งจะมาวันนี้ล่ะสิ?
บรรยากาศอึดอัดเล็กน้อยอย่างไม่มีเหตุผล ปาณีก็ไม่ได้ชวนคุยใดๆ
รู้สึงถึงเธอกำลังมองตัวเองอยู่ เวทัสจึงเงยหน้าขึ้น จองหน้าเธออย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน “เธอมองฉันทำไม?”
น้ำเสียงของเขาไม่เป็นมิตรอย่างมาก ลำมุงกลัวว่าทั้งสองคนจะผิดใจกันอีก จึงรีบปลอบใจว่า “คุณชายเวทัส ต้องมีมารยาทนะคะ คุณหนูปาณีเธอเป็นน้าสะใภ้ ถ้าเกิดคุณตาคุณยายและน้าชายรู้เรื่องเข้า จะโดนด่าอีกนะคะ”
“น้าสะใภ้?” เวทัสหัวเราะ “น้าลองถามเธอดู ถ้าผมเรียก เธอกล้าขานรับรึเปล่า?”
อยู่ต่อหน้าลำมุง เวทัสไม่ได้กังวลอะไรมากมาย
ลำมุงมองไปยังปาณี เห้อ ทั้งสองคนก็อายุยังน้อย ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ
มองดูท่าทางที่กำลังโกรธของเวทัส ปาณีรู้สึกตลกเล็กน้อย ถึงแม้ตัวเองจะคบกับธามนิธิ ก็ไม่ได้ไปขัดขวางเรื่องอะไรของเขามั้ง?
เขากลับทำตัวเหมือนผู้ถูกกระทำ
ปาณีมองไปยังเขา พูดว่า “นายลองเรียกดูสิ ทำไมฉันถึงไม่กล้าขานรับล่ะ?”
และแน่นอน เธอรู้ดีว่าเวทัสจะไม่มีทางเรียกเธอแบบนั้น
แค่ในตอนนี้ เพียงแค่เขานึกถึงตัวเองต้องเรียกเธอว่าน้าสะใภ้ ประเมินได้เลยว่าคงโมโหจนจะกระอักเลือด!
และเป็นไปตามคาด เวทัสได้รับคำท้าทายจากเธอ
เขาเงยหน้าขึ้น จ้องหน้าปาณี แววตาเย็นชามาก แทบอยากจะจับเธอถลกหนังกลืนกินเลยทีเดียว
ลำมุงยืนมองอยู่ข้างๆอย่างอกสั่นขวัญแขวน
ปาณีไม่ได้สนใจเขา นั่งทานบะหมี่ของตัวเองต่อ จู่ๆเวทัสก็วางตะเกียบลงและยืนขึ้น เดินไปยืนอยู่ด้านหน้าปาณี
“เวทัส!” มองท่าทางของเขาที่กำลังจะต่อยคน ลำมุงตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
ถ้าหากเขาต่อยปาณีจริงๆจะทำยังไงเนี่ย?
ธามนิธิกลับมาแล้วจะโกรธขนาดไหน?
“นายรบกวนการทานอาหารของฉันแล้ว” เห็นเขายืนบังอยู่ด้านหน้าเหมือนกำแพง ปาณีจึงเตือนด้วยความหวังดี
มองไปแล้วปาณีสงบนิ่งมาก และไม่ได้เกรงกลัวเวทัสใดๆ
เธอรู้จักเวทัสดี แม้เขาจะดูโกรธมากแค่ไหน แต่เขาไม่มีทางลงมือเด็ดขาด
เวทัสจ้องหน้าเธอ “เธอรู้ไหมว่าหลายวันที่ผ่านมาฉันคิดยังไง? เธอรู้ไหมว่าฉันจะรู้สึกยังไง?”
ปาณีมองไปยังลำมุงที่ยืนอยู่ข้างๆที่พร้อมจะเข้ามาห้ามศึกตลอดเวลา แล้วพูดว่า “คุณน้าออกไปก่อนได้ไหมคะ หนูมีเรื่องจะคุยกับเขาหน่อย”
บางคำพูด ไม่สะดวกที่จะให้ลำมุงได้ยิน
แม่บ้านเห็นสถานการณ์ตรงหน้าน่ากลัวเล็กน้อย “แต่ว่า น้ากลัวว่า......”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ วางใจได้! หนูเป็นถึงน้าสะใภ้ของเขาเชียวนะ น้าคิดว่าเวทัสเป็นคนที่จะต่อยตีผู้อาวุโสกว่าหรอคะ?” เขาเป็นเด็กดีมากเวลาอยู่ที่บ้าน เวลาธามนิธิพูด เขาไม่กล้าแม้แต่จะตดด้วยซ้ำ
ลำมุงมองไปยังเวทัส ก็จริงที่ว่าเขาไม่กล้าต่อยตีผู้อาวุโสกว่า แต่ว่า เขาก็ไม่ได้มองปาณีเป็นผู้อาวุโสกว่านิ!
แม้จะเป็นแบบนี้ แต่เพราะคำขอของปาณี ลำมุงจึงเดินออกไป
หลังจากเธอเดินออกไป ปาณีก็มองไปยังเวทัส แววตาของเขาที่จ้องมองตัวเองอยู่นั้น ใส่เปลวไฟที่สามารถกลืนกินคนเพราะความโมโหไว้
ปาณีพูดอย่างใจเย็นว่า “นายนั่งลงสิ”
“ทำไมล่ะ เธอก็กลัวว่าพวกเขาจะรู้เรื่องของเราสองคนใช่ไหม?”
เขาคิดว่าเธอจะไม่กลัวสักอีก!
เธอก็ถือโอกาสที่คนในบ้านไม่รู้เรื่อง จึงทำตัวแบบนี้ต่อหน้าเขาได้
“นั่งลง!” ปาณีพูดด้วยความเย็นชา น้ำเสียงเหมือนกำลังออกคำสั่ง
เวทัส “......”
ผ่านไปสองวินาที เขาเดินไปนั่งที่ของตัวเองตามเดินอย่างว่านอนสอนง่าย
ปาณีพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าตัวเองไปทำอะไรให้นายโกรธขนาดนี้ สู้ตอนนี้เรามาเปิดใจคุยกันจะดีกว่า”