ตอนที่ 46 เราหย่ากันเถอะ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 46 เราหย่ากันเถอะ
ต๭นที่ 46 เราหย่ากันเถอะ “งั้น ฉันรออยู่ที่นี่แปบนึงแล้วกันนะคะ เผอิญฉันเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องงานอยากจะปรึกษาคุณด้วยน่ะค่ะ” ตานีเลือกนั่งลงบนโซฟาตัวหนึ่งบริเวณมุมห้องอย่างไร้ยางอาย พลางเปิดกระเป๋าแล้วหยิบนิตยสารเล่มหนึ่งออกมา ทำทีว่าจะอ่านมัน “ฉันก็มีเรื่องจะคุยกับคุณเหมือนกัน”ดารุเปิดปาก เธออยากจะจัดการกับเรื่องหย่านี่เร็วๆเสียที “รอให้ฉันพูดจบก่อนก็แล้วกัน”ธวลิตเอ่ยขึ้นขัดเธออย่างไร้เหตุผล พลางหยิบข้อมูลบนโต๊ะขึ้นมา “สัญญาฉบับนี้เป็น...” “อ๊าย พระเจ้าช่วย!”ตานีกรีดร้องออกมาดังลั่นขัดคำพูดของธวลิต “เมื่อวานคุณหญิงแก้วรุ่งกรุ๊ปถูกพบว่ากำลังนัดเจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่ถนน ทั้งสองคนสนิทชิดเชื้อกันมาก เดี๋ยวก็จับมือถือแขนกัน เดี๋ยวก็ยืนกกกอดกันอยู่อย่างนั้น นี่ นี่อย่าบอกนะว่า...” ตานีแสร้งหันไปเผชิญหน้ากับดารุอย่างเว่อร์เกินจริง เสียงของเธอนั้นดังมากพอจนทำให้คนทั้งคู่ที่กำลังคุยกันอยู่นั้นได้ยินเนื้อหาด้านในอย่างชัดเจน ดารุมองปราดไปที่ตานี เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณหญิงแก้วรุ่งจึงไม่ได้แสดงออกว่ารู้สึกตกใจอะไร ทว่าเมื่อมองไปที่ธวลิตอีกครั้ง อารมณ์ของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาไปอย่างรวดเร็วเสียแล้ว เรือนร่างที่น่าสะพรึงกลัวของเขาผุดลุกขึ้นอย่างไม่อาจที่จะอธิบายได้ว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร “เอามานี่ซิ!” ภายในนิตยสาร ปรากฏเป็นภาพของดารุกับธีราที่เดินไปด้วยกันแต่ด้วยมุมที่ถ่ายจึงทำให้เหมือนกับว่ากำลังจับมือกัน หรือ โอบกอดกันอยู่ได้อย่างพอดิบพอดี ส่วนในข้อความนั้นก็บรรยายถึงการนัดพบกันของเธอและเขา โดยบรรยายภาพออกมาได้อย่างถึงพริกถึงขิงเลยทีเดียว ธวลิตยื่นนิตยสารในมือนั่นมายังด้านหน้าเธอ พลางกัดฟันพูด “เรื่องนี้เธอจะอธิบายยังไง” ดารุรับนิตยสารมาอย่างเคลือบแคลง เธอมองไปที่ภาพพลอดรักกันระหว่างตนกับธีรานั่นอย่างไม่เชื่อสายตา ทันทีที่อ่านเนื้อหาจนจบอย่างรวดเร็วแล้วนั้น มือของเธอก็สั่นเทาขึ้นมาจนหยุดไว้ไม่ได้ ตัวอักษรกับภาพนั้นช่างประจวบเหมาะเข้สกันอย่างไร้ที่ติ ทำไมเธอถึงคิดไม่ได้นะว่าตัวเองกับพี่ธีราก็เคยเจอกับเรื่องแบบนี้มาก่อนหน้าแล้ว ทว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้านี้ก็ทำให้มันดูเหมือนจะเป็นความจริงขึ้นมาได้ อย่าว่าแต่ธวลิตเลย ขนาดเธอเองยังอดสงสัย ไม่ได้เลยว่าตอนที่ไม่ทันได้ระวังตัวนั้น เธอทำเรื่องอย่างว่าลงไปจริงๆรึเปล่าน่ะ เธอควานหาข้อมูลในหัว เริ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกันจนมาถึงตอนนี้ รวมไปถึงทุกๆภาพเหตุการณ์ตอนที่เธอได้เจอกับเขา ทว่าจะควานหาไปสักกี่ครั้งก็ไม่เห็นจะมีภาพที่เหมือนกันกับเหตุการณ์ดังกล่าวเลย เธอไม่เล่นถึงเนื้อถึงตัวกับคนอื่นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และถึงแม้พี่ธีราจะชอบแหย่เธอเล่นก็ตามแต่ ทว่าก็ไม่เคยโอบกอดเธอมาก่อน ถ้าจะกอดจริงๆ ก็เห็นจะมีแต่ครั้งนั้นที่สวนสาธารณะ ซึ่งเขาแค่ป้องตัวเธอไว้ไม่ให้เปียกฝนก็เท่านั้นเอง เธอจำได้ว่าวันนั้น พี่ธีราสวมแค่เสื้อกล้าม เพราะเขานำเสื้อตัวนอกนั้นมาคลุมบนตัวเธอแทน ซึ่งในภาพนี้เขาก็ใส่แค่เสื้อเชิ้ตธรรมดาๆอย่างชัดเจนเลยนี่ “เมื่อวานรอเพื่อนผู้หญิงมาใช่มั้ย ที่แท้ก็ออกไปกับชู้นี่เองเหรอห่ะ!” ธวลิตคำรามใส่เธอ นัยน์ตาฉายแววเจ็บปวดอยู่วูบหนึ่งและที่มากไปกว่านั้นก็คือเปลวเพลิงแห่งโทสะของเขา เมื่อวานเหรอ เมื่อวานเธอได้เจอกับพี่ธีราจริง แต่ก็ไม่ได้กอดกันสักหน่อยนี่ ดารุชูนิตยสารขึ้นมาพลางยืนยันอย่างรัวเร็ว ใช่เสื้อที่พี่ธีราใส่เมื่อวานก็เป็นเสื้อตัวนี้นี่ล่ะ ดารุนึกออกแล้ว ตอนที่กำลังจะแยกจากกันนั้น เขานำมือมาวางไว้บนไหล่เธอ พลางบอกให้เธอตั้งใจเรียน แถมยังบอกเธอด้วยว่าอย่าไปกังวลเรื่องเงินมากนัก ส่วนภาพที่จับมือกันนั่น ก็เป็นเพราะมีท่อบริเวณถนนที่ไม่ได้ปิดฝาเอาไว้ เธอเกือบจะเดินตกลงไปแต่พี่ธีราก็มาช่วยไว้ได้ทันเวลา "ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้ได้นะ!” ดารุประหลาดใจที่ถูกนักข่าวบิดเบือนความจริงไปเสียได้ เธอยกนิตยสารนั้นขึ้นมาหวังจะอธิบายธวลิตให้เข้าใจ “ทำเรื่องน่าขายหน้าขนาดนี้ เธอจะทำยังไงต่อไปล่ะห่ะ!”ธวลิตปัดมือเธอออก จนนิตยสารเล่มนั้นถูกแรงมหาศาลของเขาพัดจนกระเด็นตกไปไกลอยู่บนพื้น ภาพแนบชิดขนาดใหญ่ที่อยู่บนนั้นราวกับเยาะเย้ยเธอจนผิดปกติเกินไป “งั้นเราหย่ากันเถอะค่ะ”เขาคงจะรู้สึกขายหน้ามากแน่ๆล่ะนะ เรื่องแบบนี้ถ้าหากหย่ากัน อาจจะพอรักษาหน้าเขาไว้ได้บ้าง ดารุตอบกลับไปอย่างมั่นใจในเหตุผล “ฉันให้คุณเป็นเริ่มเองเลย คุณก็แค่บอกไปว่าไม่ได้ชอบอะไรฉัน หรือจะเป็นเหตุผลอื่นก็ได้ค่ะ ฉันรับได้หมด” ถึงแม้ว่าดารุจะรู้สึกผิด แต่เธอก็ยังคิดว่าจบแบบนี้จะเป็นการดีที่สุดแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดอธิบายอะไรอีก เพราะหนึ่ง ธวลิตไม่มีทางเชื่อเธออยู่แล้ว สอง ตานีจะได้เข้าหาเขาได้สะดวกยิ่งขึ้น และสาม เธอต้องการอิสระ เพื่อที่จะได้ทำวิทยานิพนธ์ให้เสร็จ สมบูรณ์สำหรับภาคเรียนสุดท้ายนี้ ซึ่งมันก็ล้วนแต่จะส่งผลดีกับทุกๆฝ่ายทั้งสิ้น มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำอีกกันเล่า “อ้อ ที่พูดอ้อมค้อมมาซะนานนี่ เพราะจริงๆแล้วแค่อยากจะหย่ากับฉันน่ะเหรอ”ธวลิตพยักหน้าราวกับเข้าใจ ด้านมืดที่อันตรายของเขาเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว มือของเขาราวกับใกล้ที่จะระเบิดออกมา “พอหย่าแล้วก็จะไปแต่งกับไอ้ช่างภาพนั่นใช่มั้ย เถรตรงดีนี่ ถ้าหากว่าขาดขาหรือว่ามือไปสักข้างแล้วเนี่ย เธอยังอยากจะแต่งกันอยู่มั้ยล่ะ” “คุณธวลิต คุณคิดจะทำอะไรคะ!” ความรู้สึกบอกกับเธอว่า เธอจะไม่ยอมให้เขาทำให้พี่ธีราต้องเจ็บตัวได้อย่างเด็ดขาด “ฉันจะทำอะไรน่ะเหรอ! เดี๋ยวเธอก็รู้เองล่ะ!” ธวลิตหยิบสัญญาข้างๆมาแล้วฉีกมันออกเป็นชิ้นๆ พลางโปรยมันลงมาจากที่สูงเศษกระดาษลอยเคว้งกลางอากาศ ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นเศษซากที่กองแน่นิ่งอยู่บนพื้น ร่างของเขาก็พลันแผ่ซ่านรังสีหนาว เหน็บออกมา “เฮอะ ถ้าฉันยังไม่อยากจะเขี่ยเธอทิ้ง ก็เลิกฝันว่าจะอยู่ห่างจากฉันไปได้เลย อ้อ จริงสิ เรายังไม่ได้เข้าห้องหอด้วยกันเลยนี่นะ เธอคิดทบทวนให้ดีๆล่ะว่าจะอ้อนวอนฉันแบบไหน!” ธวลิตก้าวเท้ายาวออกมาจากโต๊ะทำงาน ดารุนึกว่าเขาจะมาทำร้ายอะไรเธออีกจึงเกร็งไหล่บางขึ้นมา ทว่าธวลิตเพียงแค่เดินผ่านเธอไปเสียเฉยๆ พลางตรงไปที่ตานี แล้วโอบหล่อนเข้าไปกอดไว้ เขาหันหน้าด้านข้างมาให้เธอก่อนจะพ่นคำพูดไม่กี่คำนั่นออกมาอย่างร้ายกาจ “ฉันจะทำให้เธออยู่ข้างๆฉันเหมือนคนตายทั้งเป็นให้ดู!” เขาประกบปากลงไปจูบกับตานีทันทีอย่างบ้าคลั่งราวกับสิ้นสติไปเสียแล้ว ทีแรกตานีก็คิดอยากจะโชว์ให้ดารุเห็นสักหน่อย เหมือนกัน ทว่าสุดท้ายแล้วเขาก็ใช้ฟันกัดลิ้นเธออย่างไร้ความรู้สึกจนตานีต้องร้องออกมา “ลิต เบาหน่อยสิคะ เจ็บจัง ลิ้นฉันเลือดออกหมดแล้วนะ” “ไสหัวไป!” “ลิต…”เห็นได้ชัดว่าตานีถูกเขาทำให้กลัวเข้าแล้ว เธอแนบชิดไปกับประตูอย่างหมดแรง พลางออดอ้อนขอความรักจากเขา “ออกไป!” เขาโกรธจนแทบจะเผาห้องทำงานทั้งห้องนี่ให้มอดไหม้ได้อยู่แล้ว ตานีไม่กล้าที่จะอยู่อีกต่อไป เธอวิ่งหนีเขาอย่างหัวซุกหัวซุนออกมา “ยังไม่ไสหัวไปอีก!” ใบหน้าหนึ่งยื่นชะเง้อกลับเข้ามา ธวลิตคิดว่าเป็นตานีที่ยังไม่ยอมไปไหน จึงใช้เสียงที่ดังมากขึ้นกว่าเดิมตวาดกร้าวออกไป “ทะเลาะกับพี่สะใภ้รึไงน่ะ”พรตยื่นทั้งศีรษะของเขาออกมา พลางเดินเข้าไปยังด้านในอย่างระแวดระวังสุดขีด นัยน์ตาเหลือบไปเห็นดารุที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ซึ่งไม่บ่นอะไรออกมาสักคำ กลิ่นเขม่าดินปืนภายในห้องนั้นตลบอบอวนไปหมด จนหญิงสาวที่แสนจะ เย็นชาราวกับน้ำแข็งคนนี้จมอยู่ท่ามกลางฝุ่นควันเหล่านั้น ช่างไม่เห็นใจดอกไม้งามอย่างเธอเลยเสียจริง พรตถูจมูกไปมา ธวลิตส่งลำแสงที่เป็นเปลวเพิงนั่นมาให้ ดูเหมือนว่าพายุฝนฟ้าคะนองนั่นจะก่อตัวขึ้นมาอีกแล้วสินะ “แกมาทำอะไร”ธวลิตกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานแล้ว บรรยากาศมาคุรอบๆตัวพลันค่อยๆจางหายไป “อ้อ ซูเปอร์โทร.มาบอกว่าสะสางงานเสร็จแล้ว ตอนนี้จะไปกันเลยมั้ยล่ะ”พรตนึกขึ้นได้ถึงจุดประสงค์ที่เขามา “แกคิดว่ายังไงล่ะ”เพียงแค่ถามกลับมาหนึ่งคำ ก็ทำเอาพรตเกือบจะถูกแช่แข็งตายอยู่รอมร่อ ใบหน้าที่อ่อนโยนของเขาหันไปเผชิญเข้ากับดารุ พลางทำท่าทางขนลุกออกมา แล้วจึงเอ่ยตอบ “ก็ต้องเป็นงั้นอยู่แล้วล่ะ รถเตรียมพร้อมแล้ว” “งั้นก็ไป”ธวลิตเดินออกจากห้องทำงานไปอย่างไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมามอง พรตลุกขึ้นยืนขึ้นแปบหนึ่ง ก่อนจะส่งยิ้มให้ ดารุอย่างเป็นมิตร “คุณพี่สะใภ้ครับ เดี๋ยวผมโทร.ให้คนขับรถมารับคุณกลับก็แล้วกันนะ” 
已经是最新一章了
加载中