ตอนที่ 50 ไม่อาจนอนร่วมเตียงเดียวกันได้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 50 ไม่อาจนอนร่วมเตียงเดียวกันได้
ต๭นที่ 50 ไม่อาจนอนร่วมเตียงเดียวกันได้ หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวอย่างเรียบง่ายไปแล้วรอบหนึ่ง เหล่าพนักงานต่างก็ช่วยเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดกระโปรงสีขาว ลายลูกไม้ที่สูงเลยเข่าขึ้นไป สีของชุดเข้ากันกับรองเท้าส้นสูง ผมของเธอถูกสยายแยกออกจากกันเป็นสองฝั่ง แล้วนำมาปล่อยไว้ ที่ด้านข้างของใบหน้า ใบหน้าบางได้รับการแต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างบางเบา โดยพนักงานจะปัดแก้มสีแดงให้เธอเพิ่มเป็นพิเศษ เนื่องจากใบหน้าของเธอนั้นซีดเซียวไม่มีเลือดฝาดอยู่เลย ทำให้เธอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม ต่างหูทรงยาวสีเงินคู่หนึ่งที่นำมาติดไว้ได้อย่างเหมาะเจาะนั้นช่วยขับให้ลำคอของเธอดูยาวระหงขึ้นมา และทุกๆการ เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยนั้นมันก็จะขยับตามอยู่ตลอด ช่วยเพิ่มความสวยงามหรูหราให้กับเธอ “คุณผู้หญิงสวยจังเลยค่ะ”พนักงานกล่าวชมเธออย่างจริงใจ “เสร็จรึยังคะ เรารีบไปกันเถอะ”เธอเป็นห่วงอาการของพี่ธีรา จึงนึกอยากรีบไปเยี่ยมเขา “คุณผู้หญิงนี่รักท่านประธานมากเลยนะคะ ไม่เจอกันแค่แปบเดียวยังคิดถึงขนาดนี้เลย” รักหรือ ดารุคิดถึงใบหน้าอึมครึมนั่นของธวลิตขึ้นมา จนชะงักร่างไปอย่งไม่มีเหตุผล อยู่กับผู้ชายที่ไม่ต่างอะไรกับปีศาจอย่าง เขานั้น เธอจะไปรักเขาได้อย่างไรกัน “คุณผู้หญิง หนาวหรือคะ”พนักงานรับรู้ได้ถึงอาการตัวสั่นเทาของดารุ จึงรีบปรับอุณหภูมิแอร์ให้ “ไปกันเถอะ”เธอชิงลุกขึ้นมาเองเสียก่อน แล้วจึงรีบก้าวเท้าเดินออกจากห้องไป ภายในห้องไม่ปรากฏเงาร่างของธวลิตและเมธีราให้เห็นอีกแล้ว บนพื้นห้องนั้นสะอาดเอี่ยมอ่อง ร่องรอยของการต่อสู้กัน เมื่อครู่นี้ถูกลบออกไปจนหมดแล้ว ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน มันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนภาพพื้นหลังหรือผ้าคลุมผืนใหม่ มันยากที่เธอจะจินตนาการได้ว่า ตัวเองเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวนั่นมาได้ “คุณผู้หญิง ท่านประธานกำลังรอคุณอยู่ที่ชั้นล่างค่ะ” น้ำเสียงมืดหม่นของน้าณิชพลันดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ทำเอาดารุที่ยังไม่ได้ดึงสติออกมาจากภาพเหตุการณ์น่าหวาดกลัวดังกล่าวนั้นถึงกับตกใจจนสะดุ้งโหยง เธอรีบหันหน้ากลับมามอง พลัน กวาดสายตาไปที่ร่างท้วมของน้าณิช ส่งเสียงขานรับขึ้นหนึ่งครั้ง พลางรีบวิ่งลงไปที่ชั้นล่าง “พี่ธีราล่ะ” บนรถนั่น เธอมองเห็นใบหน้าอ่อนโยนเของธวลิตแล้ว เขาปิดเปลือกตาลงพักผ่อนด้วยท่วงท่าสบายๆ ราวกับเขากำลังนอนหลับอยู่ก็ไม่ปาน นานพอสมควรกว่าที่เขาจะเอ่ยอย่างเย็นชาออกมา “กำลังรักษาตัวอยู่ ขอแค่เธอ เชื่อฟังคำพูดฉัน ฉันก็จะไว้ชีวิตเขาเองนั่นล่ะ” ส้นสูงของรองเท้าที่ยาวกว่าเจ็ดนิ้วเมื่อสวมใส่ไปบนเท้านั้น สร้างความเจ็บปวดที่เกินธรรมดานี้ขึ้นมา ดารุยืดตัวตรง พยายาม บังคับให้ตัวเองดูเป็นปกติ “ไม่ต้องห่วง ยังมีฉันอยู่ทั้งคน”ธวลิตยื่นแขนออกมาโอบรอบเอวบางของเธอไว้ ขณะที่เขาแสดงท่าทีใกล้ชิดกับเธออยู่นั้น ความกดดันที่มีก็ค่อยๆจางหายลงไป ชั่ววินาทีที่พวกเขาทั้งคู่ก้าวลงมาจากรถนั้น แสงแฟลชก็สว่างวาบขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง กล้องของนักข่าวโฟกัสมาที่คนทั้งคู่จากทุกทิศทุกทางและไม่หยุดที่จะยิงคำถามส่งมาให้ ธวลิตเม้มริมฝีปากแน่นและไม่เอ่ยอะไรออกมาทั้งสิ้น เขาโอบใบหน้าเล็กของเธอเข้ามาไว้ในอ้อมอก พลางช่วยประคองคุ้มกันเธอไว้ไปตลอดทางเดินเบื้องหน้า ดารุได้ยินเสียงคนจำนวนมากกำลังเรียกชื่อเธออยู่ลางๆนั่น พวกเขาเรียกเสียงดังลั่นอยู่ตลอดว่า “คุณช่วยตอบหน่อยได้มั้ยครับ ช่วยตอบคำถามด้วยนะคะ” ทุกท่านครับ หากพวกคุณต้องการคำตอบที่อยากจะได้ล่ะก็ เชิญไปรอที่ห้องแถลงข่าวจะดีกว่า ที่นั่นหากคุณมีคำถามอะไร เราก็จำเป็นที่จะต้องตอบอยู่แล้ว” เสียงที่มีชีวิตชีวานั่นของพรตดังขึ้นเสียงดัง และภายในพริบตาเดียว เหล่านักข่าวที่สนใจในคำชี้แนะนั่นของเขาต่างก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย “คุณนายแก้วรุ่งคะ ชีวิตแต่งงานของพวกคุณทั้งคู่ไม่มีความสุขเลยหรือคะ ทำไมคุณถึงคิดอยากจะไปหาผู้ชายคนอื่นกันล่ะ” “คุณนายแก้วรุ่งครับ คุณจะอธิบายได้มั้ยว่าคุณรู้จักกับผู้ชายคนนั้นได้ยังไง” “คุณนายแก้วรุ่งคะ ในฐานะที่เป็นถึงสะใภ้ของตระกูลฯ เรื่องคบซ้อนคุณคิดว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่คะ คุณไม่รู้สึกว่า มันผิดหลักศีลธรรมบ้างเลยหรือคะ” “คุณนายฯคะ คุณตั้งใจที่จะหย่ากับคุณธวลิตหรือไม่คะ แล้วถ้าหย่ากันเรียบร้อยแล้วคุณจะเลือกเปิดเผยชื่อของเขาคนนั้นมั้ย” “คุณผู้หญิงคะ จากที่พวกเราทราบมา ผู้ชายในข่าวคนนั้นเคยรู้จักกับคุณมาก่อนหน้านี้แล้ว แถมยังมีความสัมพันธ์กันในเรื่อง งานด้วย พวกคุณเคยเป็นแฟนกันมาก่อนหรือเปล่า พอได้มาชอบพอกับคุณธวลิตแล้ว เลยต้องการที่จะเลิกรากับเขาน่ะค่ะ” “คุณนายแก้วรุ่งคะ ได้ยินมาว่าช่วงที่คุณแต่งงานกับคุณธวลิต คุณถูกเปิดโปงภาพบนเตียงกับแฟนหนุ่มคนก่อนหน้า มีเรื่อง แบบนี้เกิดขึ้นจริงรึเปล่าคะ แล้วผู้ชายคนนั้นใช่เขาคนนี้หรือไม่คะ” “คุณผู้หญิงครับ...” คำถามทั้งหมดล้วนมุ่งตรงมาที่ตัวดารุแทบทั้งสิ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักข่าวหญิงที่ถามเข้ามา พวกเธอราวกับว่าจงเกลียด จงชังอะไรเธอสักอย่าง คำถามแต่ละอย่างค่อยๆไต่ละดับรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆ ครั้งแรกที่ได้เผชิญกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ บรรยากาศด้านล่างนั้นช่างร้อนระอุเหลือเกิน ดารุไม่มีโอกาสได้พูดอะไร ออกมาเลย เธออยากจะอธิบาย ทว่าไม่ทันที่จะได้อ้าปากพูด ก็มีคำถามอื่นยิงเข้ามาเพิ่มเสียแล้ว เธอส่งสายตาไปให้ธวลิตข้างๆตัวเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือ ซึ่งเขาก็เหมือนจะมองไม่เห็นมันขึ้นมาเสียอย่างนั้น เขามองจ้องเหตุการณ์ต่างๆอย่างเรียบนิ่ง และไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำเดียว ขนาดจะขยับตัวสักนิดเขายังขี้เกียจจะทำเลย “คุณนายแก้วรุ่งคะ พวกเราค้นหามาแล้วว่า ผู้ชายในข่าวนั้นนามสกุลไชย เป็นช่างภาพคนหนึ่งของบริษัทจัดงานแต่ง พ่อแม่ ของเขาย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ฐานะทางการเงินที่บ้านก็ร่ำรวยมาก นี่จึงเป็นเหตุผลที่คุณคบกับเขาในตอนนั้นรึเปล่าคะ” ดารุหมดคำพูดโดยสิ้นเชิง เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับครอบครัวของเขามาก่อนเลย รู้เพียงแค่ว่าพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันกับเขาก็เท่านั้น “คุณผู้หญิงคะ คุณธวลิตเป็นคนดีที่เพียบพร้อมถึงขนาดนี้ คุณเคยคิดที่จะขอโทษเขาต่อหน้าสื่อมวลชนบ้างมั้ยคะ คุณพร้อมที่จะซ่อมแซมสถานะสมรสนี้ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมมั้ย” นักข่าวคนหนึ่งลุกขึ้นยืนพลางชี้มาทางเธอและถามขึ้น ดารุรู้สึกโกรธเคืองขึ้นมา เธอไม่ได้ทำเรื่องเสียหายอะไรลงไปทั้งนั้น แล้วทำไมเธอจะต้องขอโทษด้วยเล่า หรือว่านักข่าว พวกนี้จะร่วมมือกับธวลิตแล้วกันนะ เธอลุกยืนขึ้นมาทันที พร้อมกับพูดเสียงดังลั่นว่า “ไม่ค่ะ ฉันจะไม่ขอโทษเขา!” “งั้นคุณก็ตัดสินใจที่จะคบหากับคุณไชยคนนั้นแน่ๆแล้วใช่มั้ยครับ แบบนี้คุณจะไม่รู้สึกเสียดายแย่เลยหรือ” “ไม่เสียดายเลยค่ะ เพราะว่าพวกเรา...” “เพราะว่าความสัมพันธ์ของพวกเราดีมากๆไงล่ะครับ ดารุเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจสุดๆ และผมก็รักเธอมาก ระหว่างเราสองคน ก็เลยไม่เคยมีเรื่องให้ต้องเข้าใจผิดอะไรกัน” ธวลิตโพล่งเกริ่นออกมาและช่วยชีวิตเธอไว้ได้ทัน “เรื่องทั้งหมดก็เป็นเพราะพวกวิปริต ต่ำช้าบางคนที่ต้องการจะทำลายความรักระหว่างเราสองคนลง ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันลากตัวมันออกมาให้ได้นะครับ ขอบคุณ” “คุณธวลิตครับ คุณอธิบายหน่อยได้มั้ยครับว่าคุณไชยกับภรรยาของคุณมีความสัมพันธ์แบบไหนกัน”นักข่าวคนหนึ่งเมื่อเห็น ธวลิตพูดจึงใช้โอกาสนั้นถามเขาขึ้นมา ธวลิตโอบกระชับเอวดารุเข้ามา พลางมองเข้าไปในแววตาเธออย่างลึกซึ้ง แล้วจึงหันไปเผชิญหน้ากับทุกๆคน พร้อมทั้งคลี่ยิ้มอย่างมีความสุขนั่นออกมา “ผมรักภรรยาของผม ก็เลยอยากให้เธอมีอิสระมากพอ การที่เธอไปพบเจอกับเพื่อนร่วมงานเก่าก็เป็นแค่เรื่องเล็กที่ไม่สมควรจะเอามาพูดให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตเลยนี่ครับ และถ้าหากมีปัญหาขึ้นมาจริงๆ ทุกคนก็คงไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันที่ถนนอีกแล้ว น่าจะเป็นในห้องพักของโรงแรมที่ไหนสักแห่งแทนมากกว่า จริงมั้ยล่ะครับ” เสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากด้านหลังทันที เหล่านักข่าวต่างก็พยักหน้าไปตามๆกันอย่างรู้สึกเชื่อ “ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่ใครสักคนวางแผนเพื่อที่จะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนลง ทุกๆท่านต้องช่วยพวกเราลากตัว เขาคนนี้ออกมาให้ได้นะครับ ผมรบกวนทุกคนด้วยนะครับ” คำตอบที่ชาญฉลาดนั่นของเขา วกกลับไปหาตัวต้นเรื่องนั้นได้อย่างง่ายดาย บรรดานักข่าวต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ว่านิตยสาร ซุบซิบแบบนี้ไม่มีความรับผิดชอบในการกระทำของตัวเองเอาเสียเลย นักข่าวปพนที่อยู่ด้านล่างนั้นถึงกับปาดเหงื่อไปมาไม่หยุด และรู้สึกเกลียดตานีขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ถ้าไม่ใช่เพราะหลง เชื่อเธอไปง่ายๆแบบนั้น เขาก็คงไม่ถูกทำให้กลายเป็นศัตรูของบรรดานักข่าวบันเทิงไปเสียได้หรอก ถึงกระนั้นแล้ว ตอนนี้เขาก็ จำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อรักษาหน้าตัวเองไว้ถึงจะถูก “คุณธวลิตครับ เท่าที่ผมรู้มา ความสัมพันธ์ของพวกคุณหลังแต่งงานนั้นไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่นัก เป็นเพราะว่าไม่เคยนอนร่วมเตียงเดียวกันมาก่อนเลย” ปพนเดินหน้าต่อพร้อมที่จะเสี่ยง เขาจำต้องเอาสิ่งที่ได้ยินมาจากตานีนั้นพูดสุ่มๆออกไปก่อนอย่างไม่มีทางเลือก “โอ๊ะ จริงหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย” ด้านล่างต่างสับสนชุลมุนกันขึ้นมา “อ้อ เรื่องนี้ถ้าจะให้พูดคงดูไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่นะครับ ใครจะไปขึ้นเตียงเดียวกันให้เห็นจะจะต่อหน้าทุกคนได้ล่ะ” คำพูดของธวลิตเรียกเสียงหัวเราะกระเพื่อมหนึ่งจากด้านล่างขึ้นมาได้อีกครั้ง นักข่าวบางคนถึงขนาดจะเข้าไปโจมตีปพนที่จิตใจ หยาบช้านั่นแถมยังไม่รู้จักเชื่อฟังคุณธวลิตอีกเสียด้วย
已经是最新一章了
加载中