ตอนที่ 51 ลูกสะใภ้ที่เหมาะสมที่สุด

ต๭นที่ 51 ลูกสะใภ้ที่เหมาะสมที่สุด “นี่มัน…”ปพนหน้าแดงก่ำ เขาไม่คิดว่าตนที่เป็นนักข่าวมากประสบการณ์นั้น จะแฉออกมาได้เลวร้ายเช่นนี้ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ไม่สมควรที่จะได้ชื่อว่าเป็นนักข่าวรุ่นพี่ที่มีชื่อเสียงอยู่ดี ปพนพลันโพล่งถามขึ้นมาอีกครั้ง “ยังไงก็ตาม พวกคุณก็ยังไม่เคยได้ไปฮันนีมูนกันมาก่อนเลยนี่ครับ ผมสืบหาข้อมูลจากทุกๆโรงแรมแล้ว แต่ก็ไม่พบประวัติการเข้าพักของพวกคุณเลย และถ้าผมจำไม่ผิด ภายหลังพิธีแต่งงานได้สองวันคุณธวลิตก็เดินทางไปทำธุระที่ไหนสักแห่งด้วย” ปพนคิดว่าในที่สุดตนก็ไล่ตามเกมของอีกฝ่ายทันจนได้ เขาผ่อนลมหายใจพลางปาดเหงื่อบนตัว “อ้อ เรื่องนี้คงต้องขอโทษภรรยาของผมอย่างถึงที่สุดเลยล่ะครับ”ธวลิตพลันหอมแก้มดารุไปสองฟอด คนอื่นๆต่างก็มอง ว่าพวกเขาช่างเป็นคู่ที่รักกันมากเสียจริงๆ “เป็นเพราะผมนั้นงานยุ่งมากก็เลยยังทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ คุณนักข่าวท่านนี้เตือน ความจำผมขึ้นมาได้พอดีเลย ผมกะว่าอีกไม่นานก็จะพักงานในมือทั้งหมดลงก่อน แล้วค่อยพาภรรยาผมไปฮันนีมูนด้วยกันน่ะครับ” เสียงปรบมือโห่ร้องยินดีดังขึ้นมาจากด้านล่างเวทีแถลงข่าว ปพนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะก่อนกันแน่ เขามีสีหน้ากระอักกระอ่วนทันที หัวข้อสัมภาษณ์ของนักข่าวนั้นได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แต่ละคนต่างก็ถามถึงเรื่องธุรกิจที่เติบโตขึ้นของเขาในแต่ละด้านๆ ธวลิตกวักมือเรียกพรตมาเพื่อพาตัวดารุออกไป ณ คฤหาสน์คานเขตนั้น ธินิดามีสีหน้าอึมครึมและโกรธจนหน้ามืดหลังจากที่ดูแถลงข่าวของลูกชายตนกับลูกสะใภ้จนจบ ธินิดาที่รีบดั้นด้นกลับมาจากอเมริกานั้น ถูกคนทั้งคู่ฉวยโอกาสชิงตัดหน้าไปก่อนเสียแล้ว ภายในทีวี ท่าทีของธวลิตที่ปกป้องตัวดารุอย่างเห็นได้ชัดนั่นทำเอาเธอปรี๊ดแตกจนต้องทุบกำปั้นลงบนโซฟา พลางลุกขึ้นยืน อย่างประหลาดใจ “ทั้งๆที่เป็นแค่นังผู้หญิงจิ้งจอกแล้วแท้ๆ ยังเอามาตบแต่งให้เป็นสะใภ้ของบ้านได้อีกสิน่า!” นภาพรที่นั่งอยู่ด้านข้างพลันปรี่เข้ามาปลอบโยนเธอราวกับรู้งาน “คุณป้าคะ ผู้ชายเวลาอยู่ข้างนอกก็ต้องรักษาหน้าไว้เป็น เป็นธรรมดานี่คะ ที่ธวลิตทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะคำนึงถึงบริษัทหรอกหรือ อย่าโกรธไปเลยค่ะ มัวแต่คิดเล็กคิดน้อยเดี๋ยวจะไม่ดีต่อสุขภาพได้นะคะ คุณป้านั่งก่อนดีกว่า เดี๋ยวหนูนวดหลังนวดบ่าให้ค่ะ” มือเล็กบีบนวดไปบนไหล่ของธินิดาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน อารมณ์เกรี้ยวกราดของธินิดาเมื่อครู่ก็พลันอ่อนลงได้ในที่สุด เธอ เป่าลมหายใจออกอย่างรู้สึกผ่อนคลาย พลางมองมาที่นภาพรอย่างพออกพอใจเป็นอย่างมาก “จะมีก็แต่หนูนภาพรนี่ล่ะที่เข้าใจป้า อนาคตหนูจะต้องเป็นสะใภ้ที่อ่อนโยนมากแน่ๆเลยจ้ะ” “ดูคุณป้าพูดเข้าสิคะ” พลางทำท่าเป็นสาวน้อยที่แสนจะขี้อาย ความน่ารักและพื้นฐานทางครอบครัวเธอ บวกกับความสูงส่งสง่างามที่พอดิบพอดีกับตัวเธอนี้ ทำให้นภาพรเหมาะที่จะนำมาอ้างอิงถึงการเป็นนางฟ้าได้อย่างดีเลยทีเดียว “ป้าคิดทบทวนเรื่องหนูมาพอสมควรแล้วล่ะ นภาพร ขอแค่หนูตกลง ป้าก็จะบอกพวกเขาให้หย่ากันภายในเร็ววัน พร้อมทั้ง ให้นังจิ้งจอกนั่นไสหัวไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย!” เพียงแค่นึกถึงดารุ อารมณ์ของเธอก็พลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง ธินิดาคว้ามือไปยังเบื้องหน้า ราวกับว่าตรงนั้นมีวิญญาณปีศาจร้ายอย่างดารุอยู่จริงๆ และเธอก็กำลังโยนตัวเธอออกไปอย่างรุนแรง ใบหน้าของนภาพรผุดรอยยิ้มแห่งความพอใจขึ้นมา และยังคงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อยอ่อนโยน “แบบนี้…คงจะ ไม่ดีหรอกมั้งคะ ผู้หญิงคนนั้นน่าสงสารจะตายไปค่ะคุณป้า ที่บ้านเธอไม่มีใครชอบเธอเลยสักคน ถ้าหากพี่ลิตหย่ากับเธอแล้ว เธอคงจะแย่มากๆแน่เลยค่ะ”พริมพรเป็นเพื่อนในคลาสนางแบบด้วยกันกับเธอ เธอจึงรู้เรื่องพวกนี้ผ่านปากของเธอมาบ้างอยู่ไม่น้อย “จริงหรือจ๊ะ” ธินิดาขมวดคิ้วแน่นพลางไล่ต้อนถาม “ขนาดคนในครอบครังยังไม่ชอบเธอเลยหรือ เป็นเพราะอะไรกันล่ะ” “คือว่า…”นภาพรแสร้งทำเป็นอึกอักพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตามมาว่า “หนูได้ยินมาว่าเธอก้าวร้าวมากเลยตอนอยู่ที่บ้าน แล้วก็มักจะล้อเลียนหรือรังแกพี่สาวกับป้าของเธอด้วย แถมยังมีคนบอกด้วยนะคะว่าเธอช่วยให้แม่ตัวติดกันกับพ่อของตัวเองอยู่ตลอดเวลาไม่ปล่อยให้เขาได้มีโอกาสใกล้ชิดกับป้าที่เป็นเมียหลวงเลย อ้อ แล้วหนูก็ได้ยินมาอีกค่ะว่า แต่ก่อนแม่เธอเห็นว่าพ่อเธอรวย แถมยังรู้ทั้งรู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว ก็ยังจะตามมาเกาะไม่เลิก ซึ่งตัวแม่ก็อ่อนแอไป เลยให้ลูกสาวเข้ามาในบ้านเพื่อสานฝันให้ตัวเองแทนค่ะ”