ตอนที่61 ฉันยินยอมที่จะอยู่กับคุณ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่61 ฉันยินยอมที่จะอยู่กับคุณ
ตอนที่61 ฉันยินยอมที่จะอยู่กับคุณ “ฉันตบคุณ ฉันไม่เพียงกล้าตบคุณ ฉันยังกล้าที่จะฆ่าคุณอีกด้วย!”จรีภรณ์พูดอย่างรุนแรง ดวงตาที่เคร่งขรึมทำให้นวิยาตกใจกลัวถอยหลังไปหลายก้าว จิรภาสหันกลับมาจับมือจรีภรณ์ไว้ กำลังจะพูดกลับถูกจรีภรณ์สะบัดมือออกอีกแล้ว เธอมองเยาะเย้ยถากถางจิรภาส “คุณไม่ใช่ว่าอยากอยู่กับฉันหรอกเหรอ? ฉันบอกคุณได้ว่า มีฉันต้องไม่มีเธอ!” “จรีภรณ์” จิรภาสเรียกขึ้นอย่างเจ็บปวด เขาไม่มีทางเลือก จรีภรณ์เห็นจิรภาสเจ็บปวดแบบนั้น ในตาจึงเปล่งประกายความชื่นมื่นสบายใจออกมา “จิรภาส คุณจำไว้ ถ้าหากคุณต้องการที่จะอยู่ด้วยกันกับฉัน งันคุณก็ต้องจัดการกับแม่ของคุณ” พูดเสร็จยังไม่ทันขาดคำก็เดินออกจากประตูบ้านตระกูลแก้วใสทันที หลังจากที่เธอหย่า เธอกลับมาที่นี่เป็นครั้งแรก ห้องยังคงเป็นห้องเดิม แต่คนกลับไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป และในห้องนี้เธอก็ถูกนวิยาทรมานอย่างชั่วร้ายอำมหิต และเธอยังต้องสูญเสียลูกที่นี่อีกด้วย เพียงแค่ ทุกครั้งที่คิดถึงที่นี่ ใจของเธอก็อัดอั้นจนแทบจะตายอยู่แล้ว ความอาฆาตแค้นที่สะสมอยู่ในอกของเธอ ทำให้เธออึดอัดจนแทบจะทนไม่ไหว ตอนนี้เธอมาที่ฝันร้ายนี้อีกครั้งเช่นเดียวกับเพราะลูกของเธอ เพียงแต่ครั้งนี้เธอจะไม่กลับไปสู่ความเจ็บช้ำน้ำใจอีก เธอปฏิญาณไว้ในใจ ถ้าหากมีใครกล้าทำร้ายลูกของเธอ เธอจะสู้จนตายกันไปข้างหนึ่ง แน่นอนจะไม่มีวันปล่อยให้ลูกของเธอต้องเป็นอันตรายอีก ทันใดนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา จรีภรณ์ดูแล้วว่าเป็นชนุตต์ เธอเพิ่งจะรับสายโทรศัพท์ เสียงในสายที่เป็นห่วงของ ชนุตต์ก็ลอยเข้ามา “ฮะโหล คุณอยู่ที่ไหน?” “ฉันอยู่...” จรีภรณ์หันกลับไปมองชุมชนนี้ในที่สุดก็บอกที่อยู่ พอชนุตต์มาถึงฝนก็ตกลงมาปรอย ๆ จรีภรณ์เปียกโชกไปทั้งตัวแบบนั้นทำให้ชนุตต์รู้สึกปวดใจจนแทบ จะทนไม่ไหว เขาเคยอาลัยอาวรณ์เป็นครั้งแรกที่ปวดใจเพราะผู้หญิง ตั้งแต่หลังจากที่หนูดีเข้าโรงพยาบาล ประสาทของจรีภรณ์ก็ตึงเครียดอยู่ตลอด เขารู้ว่าเธอถูกทำให้สะเทือนใจ จรีภรณ์แบบนี้เมื่อก่อน เขาไม่เคยเห็น เขาคิดตลอดเวลาว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมาก ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็จะแบกรับมันเอาไว้ ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไปที่ต้องมีคนดูแล ความจริงแล้ว ชนุตต์ตอนที่จรีภรณ์ไป เขาคิดอยู่ตั้งนานก็ไม่เข้าใจ พูดตามหลักการความเป็นจริงถ้าหาก เป็นพ่อค้าขายเด็กล่ะก็ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะเพียงแค่เอาเด็กไว้ที่นี่แล้วไม่เอาเด็กไปด้วย ก่อนที่เขาจะหาเด็ก ก็เห็นจรีภรณ์กำลังรับโทรศัพท์ แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยเห็นจรีภรณ์โชคร้ายขนาดนี้ กับเสียงตะโกนที่บ้าคลั่ง ในโทรศัพท์ ลางสังหรณ์บอกเขาว่า โทรศัพท์นี่มีความเกี่ยวข้องกับเด็ก และหลังจากที่จรีภรณ์หาเด็กเจอ อย่างถูกต้องแม่นยำโดยที่ไม่ผิดพลาดเลยเขายิ่งมั่นใจมากขึ้น เรื่องนี่จะต้องเป็นคนที่รู้จักทำอย่างแน่นอน แต่ว่าเมื่อก่อนเขาก็เคยถามจรีภรณ์แล้วว่าเธอมีคนที่ขุ่นเคืองไม่พอใจหรือเปล่า ผลที่ได้คือเป็นไปตามที่ เขาคิด ที่ผ่านมาเธอไม่เคยแข่งขันกับใคร ทำไมถึงได้มีคนที่ไม่พอใจ นี่ทำให้ชนุตต์ปวดหัว เด่นชัดมากว่า จรีภรณ์อาจจะรู้ว่าใครเป็นคนทำ เพียงแต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจรีภรณ์ไม่บอกเขา หรือว่าบางที จะมีความในใจจริงๆ? ว่ามาแล้วชนุตต์ก็รู้สึกว่าทั่วทั้งหัวใจเหมือนกับถูกสิ่งต่างๆแขวนอยู่ เพียงแค่คิดขึ้นมา คนๆนี้ก็อยู่ข้างกายของจรีภรณ์และสามารถคุกคามเธอได้ตลอดเวลา เขาจึงไม่นิ่งเฉยแล้ว ผู้หญิงโง่เขลาคนนี้ หรือไม่รู้ว่าเธอสำคัญกับตัวเองมากขนาดไหน เมื่อเขาเห็นจรีภรณ์โอบกอดหนูดี ที่กลับมาอีกครั้งด้วยความปวดร้าวน้ำตาไหลแบบนั้นในใจก็ลนลานแทบแย่ แล้วจึงหันกลับมาโทรศัพท์หา จางจวี๋ย ครั้งที่แล้วติดต่อกันเรื่องจรีภรณ์ถูกลักพาตัว ตอนนี้จางจวี๋ย กำลังตรวจสอบอยู่และบอกเขาว่า คนที่ทำเรื่องพวกนี้อาจจะเป็นคนคนเดียวกัน นี่ทำให้หัวใจของชนุตต์ตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง ใครกันที่ทำกับเด็กกำพร้าพ่อและหญิงม่ายแบบนี้ ไม่นึกว่าแม้แต่เด็กก็ยังไม่ปล่อย เขามองจรีภรณ์ที่อกสั่นขวัญหายอยู่ท่ามกลางสายฝน คิดเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันมานี้ โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงสายตาที่ร้อนใจทำอะไรไม่ถูกของเธอเขาก็ทนไม่ไหวจึงเข้าไปเอาเธอมากอดไว้ในอ้อมแขน อุณหภูมิร้อนของร่างกายให้ความอบอุ่นแก่จรีภรณ์ รวมทั้งหัวใจของเธอก็ค่อยๆอบอุ่นขึ้น ชนุตต์กอดจรีภรณ์อย่าง แน่นหนาราวกับว่าจะเอาร่างกายของเธอบดขยี้เข้าไปในร่างกายของตัวเองยังไงยังงั้น จรีภรณ์ไม่ได้ ผลักเขาออกและปล่อยให้เขากอดอย่างแน่นอยู่แบบนั้น จนกระทั่งผ่านไปเป็นเวลานาน เขาถึงค่อยๆปล่อยจรีภรณ์ มองดูดวงตากลมโตที่สวยงามและเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของจรีภรณ์ และพูดจากใจจริงว่า “จรีภรณ์ ให้ผมอยู่ข้างๆคุณ ให้ผมได้ดูแลคุณและหนูดีเถอะ!” จรีภรณ์มองชนุตต์อย่างตะลึงงัน เขาดีมาก ดีมากจริงๆ เมื่อทุกครั้งที่ตัวเองลังเลทำอะไรไม่ถูกก็มาปรากฏอยู่ข้างกายของตัวเอง ทำให้หัวใจที่ได้รับบาดเจ็บของเธอค่อยๆรู้สึกดีขึ้นมาอีกครั้ง ความในใจของเขาที่มีต่อตัวเองนั้น ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ เพียงแต่พวกเขาไม่เหมาะสมกัน เขาร่ำรวยรูปหล่อ อีกทั้งยังเป็นทายาทของ บริษัทเอส.แอลกรุ๊ปจำกัดอีกด้วย ส่วนเธอ ไม่มีเบื้องหลัง ไม่มีฐานะ หย่าร้างและยังมีลูกติดอีก จะพูดอย่างไรนี่ก็ล้วนแต่เป็นคู่ที่ไม่ถูกคนอวยพร สภาพเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกับจิรภาสในปีนั้น ไม่มีผิด เธอกลัวจริงๆ กลัวว่าเหตุการณ์ในปีนั้นจะเกิดขึ้นซ้ำอีก เธอรับคำโกหกหลอกลวงและความเจ็บปวด ใดๆไม่ไหวอีกแล้วจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ยังมีหนูดีอีก เธอไม่หวังที่จะให้หนูดีต้องไปเผชิญเรื่องราวทั้งหมดกับเธอ ดูเหมือนว่าชนุตต์จะรู้สึกถึงอารมณ์ของเธอ จึงรีบพูดขอร้องว่า “จรีภรณ์ คุณเชื่อใจผมสักครั้งได้หรือเปล่า ผมไม่ได้หลอกคุณจริงๆ ผมจะรักคุณมากๆ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณได้รับอันตรายใดๆ!” “ชนุตต์ คุณรักฉันจริงๆเหรอ? คุณจะรักฉันตลอดไปหรือเปล่า? เวลาใดๆภัยคุกคามใดๆ คุณก็จะไม่ทิ้งฉันใช่หรือเปล่า?” “ผมรักคุณ ผมรักคุณจริงๆ ไม่ว่าเวลาไหนผมก็ไม่มีวันทิ้งคุณ เพียงแค่คุณยอมอยู่ด้วยกันกับผม ผมจะไม่มีวันจากคุณไป!” ชนุตต์เสียงแหบแห้งพูดอยู่ข้างหูของจรีภรณ์อย่างร้อนใจ เมื่อก่อนเขาเจ้าชู้มาก ในชีวิตส่วนตัวยุ่งเหยิงมาก แต่ว่าตั้งแต่ที่หลงรักจรีภรณ์วันนั้น เขาก็ไม่ได้ยุ่งกับผู้หญิงคนไหนๆอีกเลยจริงๆ เขาคิดจริงๆว่าจรีภรณ์คือผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดในชีวิตของเขา เธอคู่ควรที่จะให้เขามอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเธอ จรีภรณ์มองตาของชนุตต์ ในใจเหมือนกับมีน้ำพุร้อนพุ่งออกมา เธอกอดชนุตต์ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างซาบซึ้ง เมื่อก่อนชนุตต์เจ้าชู้มากไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ แต่เธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ชั่วร้ายอะไร เขาใจดีมาก ที่ผ่านมาเขาใส่ใจเธอ เธอสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน นั่นคือเขาไม่เหมือนกับในอดีต เธอดูออกว่าเขามีใจให้เธอแล้วจริงๆ “ชนุตต์ ฉันยอมอยู่ด้วยกันกับคุณ แต่คุณห้ามทรยศฉันเด็ดขาด” “คุณวางใจ ผมไม่ทรยศคุณเด็ดขาด ไม่เด็ดขาด!” ชนุตต์พูดกับจรีภรณ์อย่างจริงจังและจริงใจ จรีภรณ์ถูกการแสดงออกของเขาทำให้ตลกขบขัน “จรีภรณ์ คุณยิ้มแล้วสวยมาก!” ชนุตต์ดีใจไม่นานก็กอดจรีภรณ์ไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินเข้าไปในรถ ฉากนี้ถูกจิรภาสที่นั่งอยู่ในรถเห็นเข้า เขาจ้องมองจรีภรณ์และชนุตต์อย่างเอาเป็นเอาตาย หมอกควันในสายตาราวกับจะเขมือบสองคนนี้ให้จมหายไป เมื่อกี้นี้เขาคิดจริงๆว่าจรีภรณ์ยอมที่จะแต่งงานใหม่กับเขา เขายังโง่ดีใจมาตลอดทาง เอาเธอกลับบ้านแล้ว ในใจก็วางแผนว่าเมื่อถึงเวลาไม่ว่าแม่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เขาก็จะไม่มีวันทิ้งจรีภรณ์ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าการรอของเขาจะน่าประหลาดใจ ถึงขนาดนี้ เมื่อก่อนเขาเพียงแค่คิดว่าแม่แข็งกร้าว ไม่ชอบจรีภรณ์ แต่คิดไม่ถึงว่าแม่ถึงกับต้องการลงมือกับจรีภรณ์ โดยเฉพาะเมื่อเห็นจรีภรณ์และแม่เผชิญหน้ากัน ในตาของเธอมีแต่ความเกลียดชัง จิรภาสมองเห็นชัดเจนมาก อีกทั้งแม่ก็ยังยอมรับด้วยตัวเองอีก บอกว่าจะหาคนมาจัดการกับจรีภรณ์ แม้ว่าเธอจะพูดแบบนั้น ยังไม่ได้ทำ แต่ว่าจริง แต่ไหนแต่ไรมาเขาคิดเสมอว่าอย่างน้อยแม่ยังใจดี แต่ว่าตั้งแต่หลังจากที่เธอพลั้งมือตบหนูดี เขาผิดหวังกับเธอครั้งแล้วครั้งเล่า จิรภาสรู้สึกว่าหัวสมองของตัวเองจะระเบิด หรือว่าชีวิตนี้จะไม่มีวาสนากับจรีภรณ์จริงๆเหรอ? ทำไมแม่ถึงต้องทำแบบนี้? เธอรู้อยู่เต็มอกว่าเขาชอบจรีภรณ์ แยกจากจรีภรณ์ไม่ได้ แต่แล้วทำไมยังต้องทำกับเขาแบบนี้? เห็นสองคนใกล้ชิดกับแบบนี้ หัวใจของจิรภาสก็เหมือนกับถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆอย่างเจ็บปวด หรือมันเป็นเพราะฝีมือของแม่เหรอ ที่อำนวยความสะดวดให้เธอกับชนุตต์ เมื่อก่อนรอยยิ้มของผู้หญิงที่งดงามแบบนี้ ต่อมา ได้แต่ออดอ้อนอย่างอ่อนโยนอยู่ในอ้อมกอดของคนอื่น และเขา เพียงแค่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอ ไม่ เรื่องแบบนี้เขาให้มันเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด จิรภาสมองดูแหวนอยู่ในมือ หัวเราะอย่าง เปล่าเปลี่ยววังเวงเข้าไปในกระดูก จรีภรณ์ คุณเคยพูดว่าชีวิตนี้คุณรักได้แค่ผมคนเดียว กุมมือกันไปจนแก่เฒ่า คุณอย่าแก้ตัวอย่างน้ำขุ่นๆ
已经是最新一章了
加载中