ตอนที่62 แต่งงานดีหรือเปล่า   1/    
已经是第一章了
ตอนที่62 แต่งงานดีหรือเปล่า
ตอนที่62 แต่งงานดีหรือเปล่า เมื่อจรีภรณ์ถูกชนุตต์โอบเข้าไปถึงในรถ จู่ๆก็รีบร้อนเรียกหนูดี หนูดีของฉันล่ะ ทำไมคุณอยู่ที่นี่ หนูดียังอยู่ที่โรงพยาบาล? “เขาไม่เป็นไร เขาไม่เป็นไร ผมหาคนมาดูแลเขาอยู่สองคน คุณวางใจ ต่อไปนี้ผมจะไม่ให้พวกคุณต้อง ได้รับอันตรายอีกแล้ว!” ชนุตต์รีบเข้าไปกอดจรีภรณ์ สาบานด้วยน้ำใสใจจริงและมองตาของเธอ ท่าทางของจรีภรณ์เมื่อกี้ทำให้หัวใจของชนุตต์เจ็บปวดขึ้นมา เป็นแบบนี้ต่อไปเธอต้องเป็นโรคประสาทอย่างแน่นอน ไม่ได้ เขาจะต้องหาคนที่ทำร้ายจรีภรณ์ให้เจอให้ได้ ขณะเดียวกัน ในใจของเขาก็ค่อยๆ ใคร่ครวญอย่างช้าๆ คิดว่าหลังจากที่กลับไปแล้วค่อยโทรศัพท์กดดันจางจวี๋ย เรื่องของจรีภรณ์เขาจะต้องรวดเร็วที่สุด เขาไม่อยากเห็นคนไหนๆมาทำร้ายเธออีกแล้วจริงๆ “ชนุตต์ ขอบคุณนะ!” จรีภรณ์หลังจากนั้นไม่นานถึงสงบลง ในสายตาเผยให้เห็นความซาบซึ้งตื้นตันใจ ชนุตต์กุมหน้าเล็กๆของจรีภรณ์และมองเธออย่างลึกซึ้ง เมื่อเขาเตรียมพร้อมกำลังจะจูบเธอ จริภรณ์ก็หยุดยั้งเขาไว้อย่างลำบากใจ ตอนนี้เธอไม่มีกะจิตกะใจคิดถึงสิ่งเหล่านี้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เธอยังไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะรับชายอีกคนเข้ามาอย่างเต็มที่ แม้กระทั่งถึงขึ้นกระทำอย่างสนิทสนม เธอก็ยังคงต่อต้านขัดขืน ในจิตสำนึกดูเหมือนว่านอกเหนือจากจิรภาสแล้ว จะไม่มีความรู้สึกกับผู้ชาย คนไหนจริงๆ เพียงแต่ความคิดแบบนี้ทำให้จรีภรณ์ตกใจขึ้นมา ทำไมจู่ๆเธอถึงได้คิดถึงเขา ผู้ชายที่ทรยศและไร้หัวใจคนนั้น “ทำไมเหรอ?” ชนุตต์เห็นจรีภรณ์แสดงท่าทีที่ซับซ้อนเลยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง “ไม่ ไม่มีอะไร!” จรีภรณ์หลบตาชนุตต์ไม่กล้ามองเขา ชนุตต์หัวเราะแล้วลูบผมของเธอ และพูดอย่างอ่อนโยนและหนักแน่นว่า“จรีภรณ์ คุณวางใจ ผมจะไม่ฝืนใจคุณ ผมเชื่อว่าจะต้องมีสักวัน ที่คุณจะยอมรับผมจริงๆ ผมรอคุณได้เสมอ!” จรีภรณ์ไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้ชนุตต์ไม่เหมือนกับในอดีต เมื่อก่อนชนุตต์รู้จักแต่หาเรื่องทะเลาะวิวาท แต่ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่ามีเหตุผลและเป็นผู้ใหญ่มาก บางทีเขาอาจจะรักตัวเองจริงๆ ว่าแล้ว จรีภรณ์ก็ยิ้มอยู่ในใจ รถแล่นไปตลอดทาง ไม่นึกว่าชนุตต์จะดีใจและร้องเพลงขึ้นในรถ ทำให้คนที่ผ่านไปผ่านมาก็ต่างมองไปทางเขา แต่ว่าชนุตต์ไม่สนใจ สำหรับเขา ไม่มีอะไรน่าดีใจเท่ากับเรื่องที่จรีภรณ์ตอบตกลงเป็นแฟนกับเขาอีกแล้ว เมื่อไปถึงโรงพยาบาลหนูดีก็ตื่นแล้ว เทพวีนั่งอยู่ด้านข้าง กำลังป้อนโจ๊กให้เขากินอยู่ ด้านข้างมีพนักงานรักษาความปลอดภัยที่คล้ายๆกันยืนอยู่หลายคน นอกจากนี้ยังมีคนดูแลอีกหลายคน จรีภรณ์รีบวิ่งเข้าไปกอดหนูดี “แม่” หลังจากที่หนูดีเห็นจรีภรณ์แล้วก็กอดจรีภรณ์อย่างดีใจ โค้งตัวอยู่ในอ้อมกอดของแม่อย่างใกล้ชิด จรีภรณ์โอบกอดหนูดี ความรู้สึกสบายใจแบบนั้นทำให้เธอกลั้นน้ำตาที่เต็มไปด้ายความปลื้มปีติไว้ไม่ไหว แม้แต่ชนุตต์ก็มองดูด้วยความซาบซึ้งใจ “คุณลุง” หนูดีเห็นชนุตต์ยืนอยู่ด้านข้างก็เอ่ยปากเรียกขึ้นทันที ออดอ้อนอยากให้ชนุตต์กอด “เรียกพ่อ!” ชนุตต์ได้ยินหนูดีเรียกเขาจึงชักสีหน้าขึ้นทันที หนูดีมองชนุตต์และมองจรีภรณ์อีกครั้ง จรีภรณ์ยิ้มแล้วพยักหน้าให้กับเขา และจึงเรียกขึ้นมาอย่างดีใจว่า “พ่อ!” “ลูกชาย เด็กดี รอลูกออกจากโรงพยาบาลพ่อจะพาลูกไปกินของอร่อยๆเลย!” ชนุตต์เอาหนูดีขึ้นมาอุ้มอย่างดีใจ เทพวีมองจรีภรณ์และชนุตต์อย่างแปลกใจ นี่ นี่จะพัฒนากันเร็วเกินไปหรือเปล่า ทำไมแปปเดียวก็... จรีภรณ์จ้องมองชนุตต์ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างแดง แต่ดูเหมือนว่าชนุตต์จะมองไม่เห็นและยังโอ้อวดอยู่ที่นั่นต่ออย่างไม่หยุดยั้ง ให้หนูดีเรียกเขาว่าพ่ออยู่ตลอด เทพวีเดินเข้าไปสะกิดจรีภรณ์เบาๆ “ตกลงคุณ เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมฉันไม่รู้ล่ะ?” “ก็เมื่อกี้ ฉันก็เพิ่งจะตัดสินใจน่ะ!” จรีภรณ์ตอบอย่างตรงไปตรงมา เทพวีมองจรีภรณ์แล้วก็มองชนุตต์ ชนุตต์สนใจจรีภรณ์ เธอมองในสายตา แม้ว่าคนคนนี้เมื่อก่อนจะหลายใจ แต่ในเมื่อจรีภรณ์เลือกเขาแล้ว งั้นเธอก็ต้องอวยพรยินดีด้วยอย่างแน่นอน แต่ว่าก็จะดูถูกชนุตต์ไม่ได้ แล้วจึงเอ่ยปากคุกคามเล็กน้อย บอกว่าหลังจากนี้ถ้าหากจีบเล่นๆพอได้แล้วก็ทิ้งจะต้องโดนฆ่าแน่ ชนุตต์ดูจรีภรณ์และก็มองตัวเอง แล้วจึงรีบยกมือขึ้นสาบานอย่างรวดเร็ว บอกว่าจะไม่ทำอย่างแน่นอน มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์มืออาชีพ ที่ชนุตต์หามาอยู่ด้วย อีกทั้งหมอทุกคนที่นี่ก็ให้ความสำคัญกับหนูดี หนูดีแปปเดียวก็หายเป็นปกติแล้ว วันที่ออกจากโรงพยาบาล ชนุตต์เสนอว่าจะพาพวกเขาไปกินอาหารที่ดีๆ หลังจากที่อยู่โรงพยาบาลมานาน ก็อยากที่จะไปกินอาหารที่ดีๆข้างนอกสักมื้อ หนูดียกมือเห็นด้วยเป็นคนแรก เดิมทีจรีภรณ์อยากจะเตือนว่า เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลแท้ๆ แต่ว่าเห็นหนูดีร่าเริงแบบนั้นเธอเลยไม่ได้พูดออกมา ขณะนั้นเองเทพวีก็กำลังจะออกไปทำงานต่างจังหวัดพอดี ดังนั้นครั้งนี้จึงกลายเป็นงานฉลองครอบครัว การไปที่โรงแรมนั้นปกติเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองซู ชนุตต์เหมือนผู้ติดตามยังไงยังงั้น จัดการด้วยตัวเองทั้งหมด หนูดีต้องการอะไรก็พยายามทำทุกอย่างให้พอใจอย่างสุดความสามารถ เรียกว่าลูกชายตลอด หนูดีพูดกระซิบกระซาบอยู่กับชนุตต์ที่นั่นก็มีความสุขมาก เห็นหนูดีมีความสุขแบบนี้ จรีภรณ์ก็รู้สึกว่าบางทีเธอและชนุตต์อยู่ด้วยกันก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อย่างน้อย เขาก็ดีกับหนูดีจริงๆ หนูดีก็มีพ่อด้วย เพียงแต่ เพียงแค่คิดถึงฐานะวงศ์ตระกูลของชนุตต์ ภายในใจของเธอก็หวั่นไหวขึ้นมา ฐานะวงศ์ตระกูลของเขาดีมาก หน้าตาหล่อเหลา คนก็ดี ครอบครัวของเขาจะยอมรับตัวเองเหรอ? ถ้าหากไม่ยอมรับล่ะ ชนุตต์จะทำยังไง? เขาเพื่อตัวเองแล้วจะไปต่อต้านครอบครัวของเขาเหรอ? จรีภรณ์ปวดหัวนิดหน่อย เธอคิดว่าตัวเองยังต้องคิดให้รอบคอบอยู่หรือเปล่า นี่ทำให้ใจของเธอไม่สงบ หลังจากกินข้าวเสร็จ หนูดีนั่งอยู่ในรถก็รู้สึกง่วงและอยากนอน จรีภรณ์กอดเขาแล้วจูบหน้าผากของเขา วันนี้เขาเล่นมากเกินไปแล้ว ดูเหมือนว่า หนูดีจะไม่เคยได้มีความสุขขนาดนี้มาก่อน จรีภรณ์มองชนุตต์ อย่างซาบซึ้ง หลังจากที่ถึงแล้วชนุตต์ก็อุ้มหนูดีขึ้นไปบนห้อง จรีภรณ์ก็ตามไปด้านหลัง หลังจากที่เอาหนูดีวางไว้บนเตียงแล้ว ชนุตต์ก็ยังไม่ไป จู่ๆเขาก็กอดจรีภรณ์ไว้แล้วค่อยๆจูบริมฝีปากของเธออย่างอ่อนโยน จู่ๆริมฝีปากนี้ก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้จรีภรณ์หยุดชะงักไปทันที เธอรู้สึกว่าไม่เหมาะสมอยู่บ้าง และอยากแกะออก แต่ชนุตต์กอดเอวเธอไว้แน่นทำให้เธอไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ เดิมทีเธออยากออกแรงผลักเขาออก แต่ว่าท้ายที่สุดเธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น รับการจูบของชนุตต์อยู่เฉยๆ ชนุตต์เห็นจรีภรณ์ไม่ได้ปฏิเสธ เลยคิดว่าเธอเต็มใจยอมรับตัวเองก็ยิ่งออกแรงจูบจรีภรณ์มากขึ้น มือก็ไม่อยู่นิ่งลูบไล้ไปบนร่างกายของเธอ การจูบของชนุตต์ไม่ใช่ดีแบบธรรมดา เร็วมาก จรีภรณ์ก็ถูกเขาจูบแบบดูดดื่มอย่างต่อเนื่อง พอชนุตต์ต้องการจะไปขั้นต่อไปจรีภรณ์ก็หยุดเขาไว้ “จรีภรณ์ คืนนี้ให้ผมอยู่กับคุณได้หรือเปล่า?” เสียงในลำคอที่แหบแห้งและทุ้มต่ำของชนุตต์ดังขึ้นมาข้างหูของเธอ “ไม่ได้ ฉันบอกคุณนะ ฉันไม่ใช่พวกผีเสื้อดอกไม้รอบๆตัวของคุณ!” จรีภรณ์แกล้งหันหลังทำเป็นโกรธ ไม่สนใจเขา “ไม่ใช่ จรีภรณ์ ตอนนี้ผมไม่อยากห่างคุณแม้แต่ครึ่งก้าวจริงๆ ผมอยากอยู่กับคุณทั้งวันทั้งคืน ไม่แยกจากกันตลอดไป!” ชนุตต์กุมมือของจรีภรณ์ไว้แล้วอธิบายอย่างกระวนกระวาย จรีภรณ์เห็นสายตาที่จริงจังของชนุตต์ ทั้งบริสุทธ์และจริงใจ หน้าเธอก็แดงขึ้นมาทันที “คำพูดที่แสนหวานแบบนี้มีแต่ผีที่เชื่อ!” “จริงๆ จรีภรณ์ แต่งงานดีหรือเปล่า?” “แต่งงานเหรอ?” จรีภรณ์มองชนุตต์อย่างตะลึง “ใช่แล้ว แต่งงาน” ชนุตต์พยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง แล้วค่อยๆเอาเธอมาโอบกอดไว้ในอ้อมแขน “ผมรู้ว่าคุณกังวลเรื่องอะไร ดังนั้น มีเพียงการแต่งงานเท่านั้นถึงจะทำให้คุณสบายใจ จรีภรณ์ พวกเราแต่งงานกันเถอะ!” “ชนุตต์” จรีภรณ์กัดริมฝีปากอย่างซาบซึ้ง “พวกเราใจเย็นก่อนดีไหม? คุณก็คิดดีๆ” ได้ยินคำพูดของจรีภรณ์ชนุตต์ก็ถอนหายใจ ผู้หญิงคนนี้ประเมินตำแหน่งของเธอในหัวใจของเขาต่ำเกินไปจริงๆ เธอยังไม่เชื่อมั่นในตัวเอง ความจริงแล้วชนุตต์รู้ว่าความหมายที่เธอพูดคืออะไร และก็รู้ว่าเธอกังวลอะไร แต่ชนุตต์เห็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย เขารู้ เรื่องที่เขาอยู่ด้วยกันกับจรีภรณ์ ไม่ช้าก็ต้องรู้ถึงหูของปู่ ด้วยนิสัยของเขา จะต้องเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด และจะต้องเกิดความวุ่นวายใหญ่โตในวงศ์ตระกูลอย่างแน่นอน แต่แล้วยังไงอีก เขารักเธอ รักเธอจริงๆ ถึงเธอจะมีลูกแล้วมันยังไงล่ะ? ใครบอกว่าผู้ชายโสดจะแต่งงานกับแม่หม้ายไม่ได้ ใครบอกว่าคุณชายที่ตระกูลร่ำรวยมีอิทธิพล จะต้องคู่กับผู้หญิงที่มีฐานะที่คู่ควร? เหอะๆ ไปฐานะเท่าเทียมกับแม่เขาไป ไปยึดกรอบตายตัวกับแม่เขานุ่น ชนุตต์กล้าที่จะแต่งงานจริงๆ เขาเพื่อเธอแล้วอย่างมากก็แค่ละทิ้งฐานะทายาทตระกูลธนะปรีดากุล ขอเพียงแค่ได้อยู่ด้วยกันกับจรีภรณ์เท่านั้น เขาไม่เอาอะไรเลยก็ได้ ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ขอเพียงแค่ จรีภรณ์ยอมอยู่ด้วยกันกับเขาเท่านั้น จะนับประสาอะไรกับของพวกนี้? หลังจากที่คิดทะลุปรุโปร่งแล้วชนุตต์ก็ฮัมเพลงขับรถออกไปจากชุมชนอย่างอาลัยอาวรณ์ ดูเหมือนว่า ทุกอย่างเพียงแค่เขาพยายามก็จะสามารถเป็นอย่างที่คิดได้ แต่เขาคิดไม่ถึงว่า สิ่งเหล่านี้เพิ่งจะเริ่มต้น หลังจากที่จิรภาสเห็นรถของชนุตต์ออกไปแล้ว หัวใจของเขาถึงใส่กลับเข้าไปในท้องได้ เขาคิดว่าเขาจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เขาไม่สามารถมองชนุตต์ตาปริบๆในฐานะแฟนของจรีภรณ์และเข้าๆออกๆห้องของจรีภรณ์อย่างสง่าผ่าเผยได้ เขาคิดว่าเขาอาจจะบ้าได้ จะต้องคิดหาวิธีขัดขวางเขา จะปล่อยให้เขาทำแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เพียงแต่ทางฝ่ายคุณท่านจิรัฎฐ์เองก็รู้ข่าวนี้มาตั้งนานแล้ว ทำไมตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหว หรือว่าจะเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นหรือเปล่า?
已经是最新一章了
加载中