ตอนที่63 ต่างคนต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง

ตอนที่63 ต่างคนต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง สมองของจิรภาสหมุนอยู่อย่างรวดเร็ว ด้วยการคาดเดาของเขา คุณท่านจิรัฎฐ์คงจะบังคับให้เลิกกันทันที แม้ว่าชื่อเสียงของชนุตต์ไม่ดี มักจะขลุกอยู่กับผู้หญิง แต่นั่นก็เพียงแค่เล่นสนุกเท่านั้น คุณท่านจิรัฎฐ์ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ตอนแรกคุณท่านจิรัฎฐ์ก็เคยเปล่งคำพูดออกมา ก่อนแต่งงาน เขาจะเตร่ไปเตร่มายังไงก็ได้ ต้องรู้ว่าสิทธิพิเศษแบบนี้กลับมีแต่ชนุตต์คนเดียวเท่านั้น กฎระเบียบของ ตระกูลธนะปรีดากุลนั้นเข้มงวดเป็นที่สุด คุณท่านจิรัฎฐ์สามารถเปล่งคำพูดแบบนี้ออกมา แสดงว่า ความโปรดปรานที่มีต่อเขานั้นไม่ธรรมดาเลย แต่ว่าตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว ชัดเจนมากว่าครั้งนี้ชนุตต์รีบเร่งไปเพื่อจุดประสงค์ในการแต่งงาน อีกทั้งคู่แต่งงานยังเป็นแม่หม้ายอีก ถ้าหากเรื่องนี้ให้สังคมชั้นสูงรู้เข้าภายหลังล่ะก็ จะต้องเกิดความโกลาหลอย่างแน่นอน กลายเป็นจุดอ่อนให้คนหัวเราะเยาะกันทั้งเมือง นี่คือสิ่งที่คุณท่านจิรัฎฐ์ไม่อนุญาตเด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นด้วยคุณท่านจิรัฎฐ์ในแง่ของการให้ความสำคัญกับ ชนุตต์แล้ว มีความเป็นไปได้อย่างมากที่คุณท่านจิรัฎฐ์จะเลือกชนุตต์ให้เป็นคนสืบทอดบริษัทเอส.แอลกรุ๊ปจำกัด ดังนั้น ด้วยฐานะแบบนี้วางไว้ที่นี่ ก็เป็นไปไม่ได้ที่ชนุตต์จะได้อยู่ด้วยกันกับจรีภรณ์จริงๆ พวกเขาสองคนก็ได้ถูกลิขิตให้มีผลลัพธ์ไม่ได้ เพียงแต่ผ่านมาตั้งนานขนาดนี้แล้วทำไมฝ่ายนั้นยังไม่ ส่งคนมา? จิรภาสคิดอย่างรอบคอบ ในขณะเดียวกันนั้น ในคลับส่วนตัวสุดหรู มีสาวสวยคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียง ด้านข้างมีหมอนวดยืนอยู่ หนึ่งคน กำลังนวดให้เธออย่างระมัดระวัง แต่ว่าความรู้สึกของเธอกลับระทมทุกข์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ หลายวันก่อนจู่ๆเธอก็ได้รับข่าว บอกว่าชนุตต์กำลังเข้าไปพัวพันกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วคนหนึ่ง อีกทั้งยังดูไม่เหมือนการเล่น นี่ทำให้นิรมลไม่นิ่งเฉยแล้ว จิรภาสมีผู้หญิงเยอะแยะเธอก็รู้ดี แต่มันเป็นเพราะว่าเขาหลายใจถึงทำให้เธอวางใจ ท้ายที่สุดก็เป็นเพียงแค่การเล่น และเดิมทีก็ยังไม่เป็น ภัยคุกคามต่อเธอ ด้ายคารมของเขาที่มีต่อผู้หญิง เพียงแค่สวย โดยทั่วไปเขาก็ชอบหมด แต่ก็เพียงแค่ ชอบผู้หญิงสวยเท่านั้น หลายวันต่อมาก็เปลี่ยนอีกแล้ว เมื่อก่อนแม้แต่ดาราสาวที่ชื่อว่าเจนนี่คนนั้น ชนุตต์ก็เพียงเพื่อจะหลีกเลี่ยงเธอก็เลยจงใจอยู่ด้วยกันกับเธอ ที่น่าขำก็คือเจนนี่คนนั้นยังคิดว่าชนุตต์ จะหลงรักเธอจริงๆ จู่ๆยังคิดหวังที่จะแต่งงานกับเขา แต่ว่าต่อมาเธอคิดไม่ถึงจริงๆว่าสุดท้ายชนุตต์จะ หลงรักจรีภรณ์แม่หม้ายคนนั้น ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนบอกว่าชนุตต์อยู่ด้วยกันกับผู้หญิงคนอื่นล่ะก็ เธอก็คงจะไม่โกรธถึงขนาดนี้ อย่างน้อยนั่นก็เป็นเพียงแค่การเล่นสนุกเป็นครั้งคราว แต่ว่าตอนนี้ เขายินยอมที่จะอยู่ด้วยกันกับผู้หญิงที่เคยอย่าร้างมาแล้ว และก็ยังไม่ยอมเลือกเธอ อีกทั้งสิ่งที่ยิ่งเยอะเย้ยถากถางนั้นก็คือ เขาถึงกับแต่งงานกับเธอด้วย นี่ทำให้นิรมลแทบจะอาเจียนเป็นเลือด เธอสังเกตเห็นความร้ายแรงของเรื่องแล้ว ดังนั้น ในวินาทีนี้เธอก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เธอต้องไปเมืองซู เธอต้องไปเจอจรีภรณ์คนนั้น ทำให้เธอรู้ว่า เมื่อรู้ว่าทางข้างหน้าลำบากก็อย่าพยายามอย่างไร้ประโยชน์ ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น จู่ๆประตูก็ถูกเคาะแล้วเปิดออก และก็มีผู้ชายใส่สูทสีดำคนหนึ่งเดินเข้ามา “คุณผู้หญิง!” “หาเจอหรือยัง?” “หาเจอแล้ว เพียงแต่...” ชายคนนั้นมองนิรมลอย่างลังเล “เพียงแต่อะไร?” นิรมลถามกลับ “เพียงแต่เรื่องค่อนข้างเหนือความคาดหมาย” ชายคนนั้นเอาข้อมูลที่อยู่ในมือยื่นให้นิรมลด้วยความเคารพ นิรมลค่อนข้างสงสัย แต่แค่เพียงหลังจากที่ได้ดูข้อมูลแล้วจู่ๆก็หัวเราะเยาะขึ้นมา “จองตั๋วเครื่องบินพรุ่งนี้ให้ฉัน ต้องรีบ” “ทราบ” หลังจากที่ชายคนนั้นพูดเสร็จก็ถอยออกจากห้อง ตอนที่ยืนอยู่หน้าประตู เขาค่อยๆเช็ดเหงื่อบนหน้าผากเบาๆ ก็เมื่อกี้นี้ เสียงหัวเราะของนิรมลทำให้เขา เย็นไปจนถึงฝ่าเท้า ผู้หญิงคนนี้คนอื่นไม่รู้ แต่ว่าเขากลับรู้อย่างแจ่มแจ้ง อยู่ต่อหน้าคนนอก เธอจะมีลักษณะสงบเงียบน่ารักเฉลียวฉลาดอยู่ตลอด ด้วยเหตุนี้ ลักษณะท่าทางแบบนั้นของเธอ จึงได้รับความโปรดปรานจากคุณท่านจิรัฎฐ์เป็นอย่างมาก บอกว่าเธอเป็นเด็กดีไม่คิดแก่งแย่งผู้ใด แล้วก็ แม้ว่าชนุตต์จะสร้างปัญหาให้คุณท่านจิรัฎฐ์อีกครั้ง เธอก็ไม่ได้บอกถอนหมั้น แต่โดยส่วนตัวเขาก็รู้ว่าคุณผู้หญิงไม่ได้เป็นแบบนั้น แผนการของเธอลึกซึ้ง จิตใจคับแคบอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเล่ห์เหลี่ยมที่มีมากมายเหลือเกิน ไม่ได้แสดงออกมาทางใบหน้าง่ายขนาดนั้นอย่างแน่นอน ช่วงไม่กี่วันมานี้ ชนุตต์พาจรีภรณ์เข้าร่วมงานเลี้ยงหรือว่าโอกาสจำพวกงานเต้นรำทุกครั้ง ดูเหมือนว่า จะจงใจแนะนำจรีภรณ์ให้คนรอบๆข้างได้รู้จัก แต่ไหนแต่ไรมาจรีภรณ์ก็ไม่ใช่คนที่ชอบโอ้อวด แม้ว่า งานเต้นรำระดับสูงแบบนี้เธอไม่คู่ควรที่จะเข้าร่วม แต่ว่าเมื่อเห็นชนุตต์กระตือรือร้นที่จะอยากพิสูจน์ตัวเองแบบนี้แล้ว เธอจึงพยายามให้ความร่วมมืออย่างดีที่สุด เธอยอมเพื่อพวกเขาจะได้ทุ่มเททำอะไรสักอย่าง แล้วก็ค่อยๆกระจายไปยังคนรอบข้าง บอกว่าห้องซ่อนหญิงสาวทองคำของชนุตต์ได้สาวสวยมาแล้วหนึ่งคน บังเอิญว่า คำพูดแบบนี้ก็ได้ยินเข้าไปในหูของจิรภาสเหมือนกัน เขาเห็นจรีภรณ์ยืนยิ้มราวกับดอกไม้ อยู่ในฝูงชน จู่ๆในใจก็ยิ่งเกลียดชัง “จรีภรณ์ คุณดูวันนี้คนมองคุณอย่างตื่นตาตื่นใจจริงๆ จู่ๆผมก็เสียใจ ที่ให้คุณใส่ชุดแบบนี้” ชนุตต์รู้สึกเสียใจแล้วกอดเอวจรีภรณ์ ตาก็จ้องมองไปที่เธอ จรีภรณ์ถูกชนุตต์ ทำแบบนั้นก็ตลก จึงแกล้งพูดเล่นๆว่า “งั้นก็ได้ ตอนนี้ฉันก็จะกลับไปเปลี่ยนชุด!” พูดเสร็จจึงแกล้งเดินไปทั้งแบบนั้น แต่ว่าชนุตต์ไหนเลยจะให้เธอไปจึงใช้มือล็อคเอวเธอไว้อย่างแน่นหนา ทำให้เธอไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ ทำให้จรีภรณ์หัวเราะเสียงต่ำขึ้นมา จิรภาสยืนมองฉากนี้จากไกลๆ ความโกรธแค้นในใจก็พุ่งออกมา พวกเขาสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ในใจของเขาโกรธและด่าขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด แล้วจึงยกแก้วไวน์เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว ชนุตต์ที่กำลังเกี้ยวจรีภรณ์อยู่นั้น จู่ๆก็เห็นจิรภาสนั่งลงตรงข้ามกับเขา ค่อนข้างจะคิ้วขมวดไม่ค่อยพอใจ ทำไมที่ไหนก็มีแต่เขานะ ดูเหมือนว่า พวกเขาจะไม่ได้สนิทกันนะ แต่ว่าสุดท้ายโอกาศในที่สาธารณะชนแบบนี้ก็ยังกล่าวคำทักทายจิรภาสอย่างสุภาพ แต่จิรภาสกลับไม่รับน้ำใจนั้น และ พูดเหน็บแนมขึ้น “คุณชนุตต์นี่คารมดีจริงๆ ไม่ทราบว่าครั้งหน้าจะเปลี่ยนเป็นคารมอะไรอีกล่ะ?” ประโยคนี้ทำให้ชนุตต์ไม่พอใจ เด็กคนนี้จงใจมาหาเรื่องชัดๆ แล้วจึงควบคุมอารมณ์แล้วพูดว่า “ไม่มีครั้งหน้า ผมกับจรีภรณ์จะแต่งงานกันแล้ว” พูดแล้วเขาก็หันกลับมามองจรีภรณ์แล้วพูดต่อว่า “เมื่อถึงเวลาเชิญคุณจิรภาสมาร่วมงานด้วยนะ มาดื่มเหล้ามงคลสมรส!” คำพูดของชนุตต์เหมือน ระเบิดเวลายังไงยังงั้น แปปเดียวก็จุดชนวนให้จิรภาสอ่อนไหว เขามองจรีภรณ์อย่างตกตะลึง ในตาเปล่งประกายรังสีออกมา คิดไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้ จรีภรณ์กลับทำเป็นคีบอาหารใส่ไปในจานของ ชนุตต์ ชนุตต์รีบกินอย่างดีใจทันที หลังจากที่กินเสร็จยังจงใจพูดเสียงดังว่า “อาหารที่จรีภรณ์คีบให้อร่อยมาก หอมจริงๆ!” ประโยคนี้ดูเหมือนจงใจจะพูดให้จิรภาสฟัง ชนุตต์เห็นจิรภาสโกรธราวกับสีของตับหมูแบบนั้น ก็รู้สึกสะใจขึ้นมาทันที ชญาภายืนมองทั้งหมดนี้อยู่ไกลๆ เดิมทีเธอคิดว่าจิรภาสเวลาที่เข้าร่วมงานเลี้ยงแบบนี้จะต้องเรียกตัวเองอย่างแน่นอน แต่ว่าเธออยู่ที่บ้าน รอแล้วรออีก ก็ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง เธอก็ปลอบใจตัวเองว่าจะต้องไปคุยเรื่องธุรกิจแน่ๆ แต่เมื่อเธอได้ยินว่าจรีภรณ์ก็อยู่ด้วย จึงไม่รอช้ารีบมาทันที ผลกลับปรากฏว่าเห็นจรีภรณ์และชนุตต์นั่งพูดคุยหัวเราะอยู่ด้วยกัน และจิรภาสก็มองอย่างหน้าบึ่งตึงอยู่ที่นั่น ทันใดนั้นหัวใจของเธอก็เหมือน ตกอยู่ในความอิจฉาริษยาหึงหวงอย่างที่สุด แล้วจึงยกแก้วไวน์เดินเข้าไปทันที “จิรภาส” ชญาภาเรียกขึ้นอย่างอ่อนโยน เสียงอ่อนราวกับน้ำจะหยดออกมาได้ยังไงยังงั้น เมื่อจิรภาสเห็นชญาภาแต่งชุดสีขาวเต็มยศร่างสูงเรียวยืนอยู่ที่นั่น ในดวงตาก็เปล่งประกายกระสับกระส่ายออกมา แต่ว่ายังมีสาธารณชนกีดขวางอยู่จึงพาเธอนั่งลงอย่างสุภาพ “จิรภาส คนอื่นๆรอคุณตั้งนาน ที่แท้คุณมาอยู่ที่นี่!” ชญาภานั่งข้างๆจิรภาสอย่างสง่าแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า ยังไงๆจิรภาสก็ไม่พาเธอมา แต่เธอกลับทำเป็นเหมือนทั้งสองคนเดินแยกกัน ความหมายของเธอไม่เพียงแต่เพื่อตัวเองหาโอกาสเลี่ยงปัญหา อีกทั้งยังถือโอกาสตำหนิจิรภาส เป็นการใหญ่ที่ไม่พาตัวเองมา คำพูดนี้ปกติแล้วจิรภาสก็ฟังเข้าใจ แต่เขากลับทำเป็นจิบไวน์ ตอนนี้จุดประสงค์ของเขาก็คือต้องการยกเลิกการหมั้น ทำไมเขาจะต้องอนุญาตให้เธอมาปรากฏตัวอยู่ข้างเขา เมื่อก่อนเขาหาโอกาสที่จะพูดคุยกับเธอให้ชัดเจนอยู่ตลอด ท้ายที่สุดเรื่องนี้คนที่จะเจ็บก็คือชญาภา เขาเพียงแค่ต้องการทำให้ความเจ็บนี้น้อยที่สุด แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ ถ้าหากไม่จัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดล่ะก็ จรีภรณ์ก็จะเข้าใจผิดไปตลอด ตอนนี้เขาจำเป็นต้องจบความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับชญาภา วันนี้ อาศัยโอกาสนี้พอดี รอกลับไปแล้วก็พูดกับชญาภาให้เข้าใจ จิรภาสพิจารณาอย่างรอบคอบ และไม่สนใจชญาภา ในด้านของชนุตต์ก็แทะโลมจรีภรณ์อยู่ที่นั่น เดิมทีก็ไม่ได้สนใจเธอแบบนี้ ชญาภาโกรธมาก ดูพวกเขาคนไหนๆก็ทำเหมือนตัวเองไม่มีตัวตน ในใจก็กลั้นความคับแค้นใจเอาไว้ มองไปที่สายตาของจรีภรณ์ยิ่งไม่ดี และก็หัวเราะขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์แล้วพูดกับชญาภาว่า “คุณชญาภา ไม่ได้เจอกันนานเลย”