ตอนที่66 ใครก็อย่าได้หวังว่าจะอยู่เป็นสุข   1/    
已经是第一章了
ตอนที่66 ใครก็อย่าได้หวังว่าจะอยู่เป็นสุข
ตอนที่66 ใครก็อย่าได้หวังว่าจะอยู่เป็นสุข แต่ท้ายที่สุดก็แค่คิดอยู่ในใจ ต่อหน้าตรีภพนพนาอย่างไรก็พูดออกมาไม่ได้ ท้ายที่สุดตอนนี้ เขาก็ยังเป็นนายกเทศมนตรี ต่อไปยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องพึ่งพาอาศัยเขา “คุณตรีภพ อย่าพูดอย่างนั้น เรื่องนี้เดิมทีก็เป็นพวกเราที่ผิด ตอนนี้จรีภรณ์ระบายความแค้นใส่พวกเรา ก็สมควรแล้ว” นพนามีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาเป็นอันดับแรก แล้วก็รีบทำเป็นเอ่ยปากพูดเป็นการใหญ่แบบนั้นทันที เธอเกลียดอยู่ในใจ เกลียดจนแทบจะหยิก คนที่ต่ำทรามคนนั้นให้ตาย ถึงขนาดนี้แล้วคิดไม่ถึงว่าตรีภพจะยังปกป้องเธออยู่ แต่ในเมื่อไม่ได้ก่อความเสียหายให้กับจรีภรณ์แบบนี้ ตรีภพก็ไม่ไปหาเธอ งั้นเธอก็ทำให้เขาเกิด ความรู้สึกผิดต่อชญาภา อย่างไรก็ตามแผนทรมานตัวเองนี้ก็ไม่เกิดผลแต่อย่างใด เป็นอย่างที่คิด ตรีภพฟังคำพูดของนพนาแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจมาก เป็นลูกสาวทั้งคู่ คนนั้นก็ลูกคนนี้ก็ลูก ชญาภาถูกทำร้ายหัวใจเขาก็เจ็บปวด แต่ว่าจะทำยังไงได้ เขาคงไม่สามารถไปหาจรีภรณ์แล้วสั่งสอนเธอหรอก แต่ยังดีที่ตัวเองมีภรรยาทีมีเหตุผล นี่ทำให้เขาปลื้มใจมาก นพนาเห็นใบหน้าของตรีภพแสดงอารมณ์ที่ลึกซึ้ง ก็รู้ได้ทันทีว่าเขากำลังคิดอะไร แล้วเธอจึงรีบเหลือบตาไปที่ลูกสาวทันที ชญาภาเห็นแม่แบบนั้นก็รู้ในแก่นสารทันที แม้ว่าในใจจะไม่ยินยอมมากนักแต่ก็ยังทำเป็นพูดอย่างน่าเอ็นดูและมีเหตุผลว่า “พ่อ แม่พูดถูกแล้ว เพียงแค่พี่สาวดีใจ ตีนิดตีหน่อยจะเป็นไรไป? นี่ล้วนแต่เป็นพวกเราที่ติดหนี้เธอ ลูกสาวไม่เจ็บ!” คำพูดของชญาภาทำให้ในใจของตรีภพรู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อก่อนเขาเป็นหนี้ลูกสาวคนโต ตอนนี้แม้แต่ลูกสาวคนเล็กเขาก็ยังเป็นหนี้เธออีก เพียงแต่เรื่องนี้เขาไม่รู้จริงๆว่าควรจะทำยังไง และจึงถอนหายใจอย่างหนักแล้วขึ้นไปข้างบน หลังจากที่เขาไปแล้ว นพนาและชญาภาก็กลับห้องด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ใช่กลับห้องใครห้องมัน และนพนาก็ไปที่ห้องของชญาภาต่อ “น่าโมโหจริงๆ รอยฝ่ามือนี้ไม่มีผลอะไรเลย” พอปิดประตูแล้วชญาภาก็โยนกระเป๋าไปบนเตียง ด้วยความโกรธ “ใช่น่ะสิ ตอนนี้ตาเฒ่านั่นยิ่งนานวันยิ่งลำเอียง” นพนาก็สาปแช่งอย่างรุนแรงขึ้นมาด้วยเหมือนกัน เรื่องราวในวันนี้เกินความคาดหมายของเธอจริงๆ ก่อนอื่นคือเดิมทีเธอก็ไม่รู้ว่า ชญาภาจะถูกจรีภรณ์ตบ ประการที่สองก็คือท่าทีของตรีภพที่มีต่อเรื่องนี้ ก็ทำให้เธอประหลาดใจมากเลย เมื่อก่อนลำเอียงเธอก็รู้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะลำเอียงถึงขนาดนี้ นี่ก็ไม่เห็นความสำคัญของพวกเธอสองแม่ลูกเลย โมโหเธอมากจริงๆ “แม่ งั้นตอนนี้จะทำยังไง?เรื่องนี้จะช่างมันไม่ได้นะ” ชญาภากุมหน้าไว้ ขโมยไก่ไม่ได้ยังเสียข้าวสารอีกกำมือจริงๆ “จะทำยังไงได้? จะทำยังไงได้?” นพนาด่าด้วยความโกรธ “ลูกยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ? ลูกบอกแม่มา ทำไมวันนี้ลูกไปงานเลี้ยง เด็กตระกูลแก้วใสคนนั้น ไม่ได้นัดลูกเหรอ? ทำไมลูกถึงได้ถ่อไปเองล่ะ?” ชญาภาเห็นแม่โกรธแบบนั้น รู้ว่าตัวเองทำเรื่องที่ผิด เพียงแค่คิดว่าวันนี้จรีภรณ์เกือบจะเอาเรื่องราวนี้ แฉออกไป ในใจของเธอก็กลัวและเสียวไม่หาย แต่ก็ไม่ยอมแพ้ เอาเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ทั้งหมด เล่าให้นพนาฟัง เมื่อเธอฟังคำพูดของจรีภรณ์เสร็จ ก็ใช้มือจิ้มไปที่หัวของชญาภาอย่างเข้มงวด “แม่บอกลูกแล้วไม่ใช่เหรอ ต่อไปพยายามอย่าไปยั่วยุเธอ ตอนนี้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ ทางที่ดีลูกอย่าสร้างปัญหาให้แม่จะดีกว่า” “แต่ว่าแม่ หนูกังวลน่ะ ครั้งทีแล้วแม่บอกว่าเรื่องนั้นไม่ใช่ว่าทำให้พวกเขาแตกหักกันถึงที่สุดแล้ว ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมจิรภาสยังคงคิดถึงเธออยู่เสมอล่ะ!” “นี่เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของแม่แล้วจริงๆ แต่ว่าไม่เป็นไร อีกไม่นานก็มีคนมาจัดการแทนพวกเราแล้ว” นพนาจู่ๆก็หัวเราะอย่างเยือกเย็นขึ้น ครั้งที่แล้วเรื่องที่หนูดีหายไปจากโรงพยาบาล ความจริงแล้วนพนาเป็นคนวางแผนเอง จุดประสงค์ก็เพื่อจะยุแหย่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ปล่อยให้พวกเขาแตกแยกกันเอง ทำให้จิรภาสตัดใจอยากเด็ดขาด เดิมทีหลังจากที่เธอเจอกับนวิยาครั้งก่อน เธอก็พูดหลอกล่อให้นวิยาตกหลุมพราง ตอนนั้นนวิยาเห็นด้วยกับความคิดนี้แล้วจริงๆ แต่ว่าตั้งแต่หลังจากที่นพนากลับไปแล้ว เธอรอแล้วรออีกก็ไม่เห็นเธอลงมือ เธอจึงทนรอไม่ไหวและลงมือทำแทนเธอ ด้วยเหตุนี้ยังได้เรียนรู้การพูดการจาของนวิยาที่โทรไปหาจรีภรณ์ด้วย เมื่อเธอได้ยินเสียงที่ประสาท ของจรีภรณ์ในโทรศัพท์ เธอก็รู้ว่า เรื่องนี้ทำสำเร็จแล้ว พิสูจน์ความจริงว่าเรื่องนี้ทำได้อย่างราบรื่น จรีภรณ์ก็คิดว่าเรื่องนี้นวิยาเป็นคนทำจริงๆ ผลลัพธ์ก็คือตามไปหาถึงที่ทันที และยังตบนวิยาต่อหน้าจิรภาสอีกด้วย ตอนที่เธอได้ยินข่าวนี้ เธอดีใจจนแทบจะกระโดดขึ้นมา ต้องรู้ว่าจิรภาสเป็นลูกที่กตัญญูเสมอมา แต่ตอนนี้จรีภรณ์กลับทำร้ายเธอ นี่หมายความว่าอะไร เมื่อถึงเวลาจะต้องทะเลาะหักหน้ากันอย่างใหญ่โตแน่นอน แต่ผลลัพธ์กลับเกินความคาดหมายของเธอ เธอคิดไม่ถึงว่าท้ายที่สุดจรีภรณ์จะเดินออกไปจากประตูบ้านตระกูลแก้วใสอย่างปลอดภัย อีกทั้งจิรภาสกลับไม่ได้พูดคำที่รุนแรงแม้แต่คำเดียว แม้กระทั่งจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงคิดถึงผู้หญิงคนนั้นไม่ลืม นี่ทำให้หัวใจของนพนาและชญาภาเกลียดเป็นที่สุด เธอคิดว่าจรีภรณ์จะมาก่อเรื่องถึงที่บ้าน และก็คิดว่าจรีภรณ์จะหักหน้านวิยา แต่คิดไม่ถึงว่าจิรภาสจะยังคงไม่ตัดใจจากจรีภรณ์ และหลังจากนี้เธอควรจะทำยังไง? ชญาภาสาปแช่งอยู่ในใจอย่างชั่วร้าย คิดขึ้นมาอีกครั้งวันนี้ ท่าทีของจิรภาสแบบนั้น แม้แต่จะมองก็ยังไม่มองเลยสักนิด แม้แต่จะทำแบบขอไปทีก็ยังขี้เกียจเลย ในสายตามีแต่คนเลวทรามนั่น เธอก็อิจฉาจนแทบจะบ้า แต่ว่าเมื่อกี้ได้ยินแม่พูดว่า จะมีคนมาช่วยพวกเธอจัดการกับจรีภรณ์ นี่ทำให้ชญาภาอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที “เป็นใครเหรอ? แม่ แม่คิดจะทำอะไรอีก?” “ถึงเวลาลูกก็รู้เอง รอดูเกมส์เถอะ” นพนายิ้มอย่างลึกลับซับซ้อน เธออยู่ไม่เป็นสุขงั้นใครก็อย่าหวัง ว่าจะได้อยู่เป็นสุข ตอนกลับก็คือชนุตต์ที่เป็นคนไปส่งเธอ หลังจากที่กล่อมหนูดีหลับแล้ว ชนุตต์ก็ขับรถจากไป ก่อนออกเดินทางเขาก็จูบจรีภรณ์ก่อน ฉากนี้ก็ถูกจิรภาสเห็นเข้าพอดี เขาเอาบุหรี่ในมือทิ้งลงพื้นโดยสัญชาตญาณทันที มองดูผู้หญิงที่ตัวเองรักถูกผู้ชายคนอื่นจูบ เขาก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองราวกับว่าถูกคนมาฉีกออกเป็นชิ้นๆยังไงยังงั้น จนกระทั่งหลังจากที่ชนุตต์ไปแล้ว จิรภาสก็รีบเข้าไปขวางจรีภรณ์ทันที “จรีภรณ์” “คุณจิรภาส คุณจะทำอะไร?” จรีภรณ์ถูกจิรภาสทำให้ตกใจ จึงเรียกขึ้นมาอย่างตื่นเต้นทันที แต่ว่าจิรภาสกลับไม่สนใจแล้วอุ้มจรีภรณ์เข้าไปในรถ และไม่สนใจว่าเธอจะทั้งคว้าทั้งเรียก หลังจากที่โยนเธอไว้บนรถแล้ว จิรภาสก็รีบตามขึ้นมาอย่างติดๆทันที หลังจากนั้นก็ล็อคประตูรถไว้ “ผมจะถามคุณหนึ่งประโยค คุณจะแต่งงานกับชนุตต์ใช่หรือเปล่า?” หลังจากที่ขึ้นรถแล้วจิรภาสก็จ้องมองจรีภรณ์อยู่ตลอด ความโกรธในดวงตาชัดเจนมาก “ใช่” จรีภรณ์ตอบอย่างหนักแน่น ระยะห่างใกล้ขนาดนี้ เธอได้กลิ่นบนตัวของจิรภาสมีแต่กลิ่นเหล้ากับกลิ่นบุหรี่ จรีภรณ์ถอยหลังอย่างไม่ค่อยพอใจ แต่ท่าทางแบบนี้ในความเห็นของจิรภาส และเหมือนว่าจะไม่พอใจเขามากแบบนั้น จึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นทันที เธอเกลียดตัวเองมากขนาดนั้นเลยเหรอ? ตอนเเรกใครที่บอกว่าจะจูงมือกันไปตลอดชีวิตตอนนี้กลับจะแต่งงานกับคนอื่นอีก น่ารังเกียจ ผู้หญิงคนนี้ไร้หัวใจจริงๆ แล้วความโกรธของเขาก็ยิ่งดูเหมือนว่าจะลงโทษอย่างเฉียบขาด ยังไงยังงั้น แล้วจึงทั้งกอดทั้งจูบเธอขึ้นมาทันที เขาต้องการเธออย่างรีบร้อน เขาจะทำให้เธอรู้ ว่าร่างกายของเธอสามารถปรนนิบัติอยู่ภายใต้ร่างกายของเขาได้คนเดียวเท่านั้น เธอเป็นของเขาเท่านั้น การกระทำที่หยาบคายทำให้จรีภรณ์ร้องขึ้นมาอย่างตกใจ ครั้งที่แล้วตอนที่อยู่ในรถเธอคุ้นเคย กับวิธีของเขามาก แต่ว่าตอนนี้เธอจะไม่ให้เขาบงการอีกแล้วจึงด่าขึ้นมาทันที “จิรภาสคุณบ้าไปแล้ว คุณต้องการจะทำอะไร?” “จรีภรณ์ ชั่วชีวิตนี้ของคุณเป็นผู้หญิงของผมได้เพียงผู้เดียว ถ้าคุณกล้าแต่งงานกับเขาผมจะฆ่าคุณ!” จิรภาสกุมหน้าคุกคามจรีภรณ์อย่างบ้าคลั่ง ท่าทางของจิรภาสแบบนี้แต่ไหนแต่ไรจรีภรณ์ก็ไม่เคยเห็น เธอสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว และไม่กล้าที่จะต่อต้านอีกโดยสัญชาตญาณ ได้แต่ตกตะลึงอยู่ที่นั่น จิรภาสเห็นจรีภรณ์เหมือนว่าจะถูกทำให้หวาดกลัว จึงโอบกอดเธออย่างปวดใจ เปลี่ยนจากความบุ่มบ่ามก่อนหน้านี้เป็นจูบริมฝีปากแดงๆของเธอเบาๆและลิ้มรสชาติความงามของเธออย่างช้าๆ หลายวันมานี้เขาคิดบ้าๆกับจรีภรณ์จริงๆ แน่นอนว่าไม่เพียงแต่ด้านนี้ เขายังยิ่งเฝ้าปรารถนาที่จะอยู่กับเธอจนชั่วฟ้าดินสลาย จรีภรณ์ถูกจูบอย่างดูดดื่ม ความรู้สึกที่คุ้นเคยแบบนี้ผุดขึ้นมาในหัวสมองของเธออีกครั้ง เธอค่อนข้างจะรู้สึกประหลาดใจ เดิมทีทำไมเธอถึงยอมถูกเนื้อต้องตัวกับเขาขนาดนั้น อวัยวะทุกส่วนของร่างกายคล้ายกับว่ากำลังตะโกนอยู่ ทำไมเธอคุ้นเคยกับทุกสิ่งทุกอย่างของเขาขนาดนั้น จิรภาสดูเหมือนจะรู้สึกถึงปฏิกิริยาที่ผิดปรกติของคนที่อยู่ภายใต้ร่างกาย แล้วสองมือก็ยิ่งกล้าลูบไล้ลงไป ทันใดนั้นเอง จู่ๆเธอก็คิดถึงชนุตต์ ใบหน้าอันเหล่อเหลาของเขาแวบเข้ามาในหัวของเธอ จรีภรณ์จู่ๆก็รู้สึกตัวขึ้นมา ความจริงแล้วเธอรู้ว่า ความรู้สึกที่มีต่อชนุตต์นั้นไม่ใช่ความรัก เพียงแค่ชอบ แต่ว่า ถ้าหากชนุตต์ รักตัวเองจริงๆ งั้นเธอก็จะพยายามยอมรับเขาและรักเขา ยิ่งไปกว่านั้น สถานะตอนนี้ของเธอ ก็คือแฟนของชนุตต์ ถ้าหากให้เขารู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นแบบนี้จะต้องเสียใจอย่างแน่นอน ว่าแล้ว จรีภรณ์ก็อยากที่จะออกแรงผลักจิรภาสออกแต่ว่าจิรภาสกลับคิดว่าเธอขัดขืน และยิ่งกอดเธอแน่นขึ้น สองมือก็ลูบคลำเธออย่างบ้าคลั่ง
已经是最新一章了
加载中