ตอนที่67 เขาโกหกคุณ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่67 เขาโกหกคุณ
ตอนที่67 เขาโกหกคุณ คราวนี้เขาต้องการเธออย่างรีบร้อน และเมื่อเขาอยากที่จะก้าวเข้าไปอีกขั้น จู่ๆก็ถูกจรีภรณ์กัดเข้าที่ไหล่ “อึม อ้า!” จิรภาสร้องด้วยความเจ็บปวด เขาก้มหัวลงมองจรีภรณ์ที่อยู่ภายใต้ร่างกายของเขา เขาคิดไม่ถึงว่าเธอจะถึงกับกัดเขาขนาดนี้ อีกทั้งยังไม่มีเยื่อใยแบบนี้ เห็นความเกลียดชังในดวงตาของเธอที่มีต่อเขา หัวใจของจิรภาสก็เจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง “ปล่อยฉัน” จรีภรณ์อยากจะดิ้นรนให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนของเขา สีหน้าของจิรภาสมืดสลัวลง เขากลัวว่าถ้าเขาปล่อยมือล่ะก็ ต่อไปก็จะไม่มีโอกาสได้กอดเธออีก เขาเอาจรีภรณ์มาไว้ในอ้อมกอด ด้วยความโลภ ปล่อยให้เธอกัดตัวเอง จรีภรณ์เห็นจิรภาสไร้ยางอายแบบนั้นจึงโกรธและตบไปที่หน้า ของจิรภาส “จรีภรณ์ คุณทำร้ายผมอีกแล้ว” จิรภาสมองเธอด้วยความโกรธ ผู้หญิงคนนี้น่าเกลียดชังจริงๆ อาศัยความให้อภัยของตัวเองที่มีต่อเธอแตะขอบเขตของเขาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เป็นเพราะว่าเขาไม่กล้าทำอะไรกับเธอจริงๆเหรอ? “คุณจิรภาส คุณรีบปล่อยฉัน” จรีภรณ์ขยะแขยงการสัมผัสของเขาและขัดขืนดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง “ปล่อยคุณ? ปล่อบให้คุณไปอยู่กับเด็กคนนั้นน่ะเหรอ?” จิรภาสก็โกรธเดือดดานแล้วเหมือนกัน “คุณเกี่ยวอะไรด้วย? ฉันเต็มใจ!” “คุณเต็มใจ? เหอะๆ” จิรภาสจู่ๆก็หัวเราะเยอะเย้ยขึ้นมา “ผมจะบอกคุณให้นะ ชนุตต์เดิมทีก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแต่งงานกับคุณอยู่แล้วคุณตัดใจซะเถอะ” “เพราะว่าครอบครัวของเขาเหรอ?” จรีภรณ์ถามกลับ ถ้าหากเป็นแบบนั้นล่ะก็ งั้นฉันก็จะบอกคุณให้ ว่าตอนที่ฉันอยู่กับเขาพวกเราคิดดีแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่อุปสรรคของพวกเราเลย เห็นจรีภรณ์ไร้เดียงสาแบบนั้นในใจของจิรภาสก็แอบดาอยู่หนึ่งประโยค ผู้หญิงโง่คนนี้ โดนคนล้อเล่นแล้วยังไม่รู้ตัวอีก แล้วก็ยิ่งโกรธและออกแรงบีบไหล่เธอแล้วพูดว่า “ยัยผู้หญิงโง่คนนี้ คุณถูกหลอกแล้ว!” “จิรภาสคุณทำฉันเจ็บนะ” จรีภรณ์ดิ้นรนขัดขืนด้วยความเจ็บปวด ไม่นานก็ผลักจิรภาสออก แล้วลุกขึ้นนั่ง “คุณจิรภาส ฉันไม่ได้ถูกหลอกในใจฉันรู้ คุณจะยุแหย่ให้แตกกันเหรอ?” “งั้นก็ได้ งั้นผมถามคุณ เขาไม่ได้บอกคุณเหรอว่าเขามีคู่หมั้นแล้ว? เขาไม่ได้บอกคุณเหรอว่าอีกแค่ไม่กี่เดือนเขาก็ต้องแต่งงานแล้วน่ะ?” “อะไรนะ?” คำพูดของจิรภาสราวกับพายุฝนฟ้าคะนองยังไงยังงั้นทำให้จรีภรณ์ตะลึงอยู่ที่นั่น เธอมองเขาอย่างเหม่อลอยราวกับอยู่ในความฝัน จิรภาสเห็นท่าทางของจรีภรณ์ ในใจก็เปล่งประกายความรู้สึกผิดออกมา ความจริงแล้วเขาไม่อยากให้จรีภรณ์รู้ และก็ไม่อยากให้เธอถูกทำร้าย แต่เขาจำเป็นต้องบอกเธอ เขาจำเป็นต้องให้เธอตัดใจจากชนุตต์ “คุณคนโกหกหลอกลวงคนนี้ คุณหลอกฉัน นี่ต้องเป็นคำโกหกหลอกลวงของคุณแน่ๆใช่หรือเปล่า” ปฏิกิริยาที่ตอบสนองกลับมาของจรีภรณ์มองจิรภาสอย่างกระหือกระหอบ “ผมไม่ได้หลอกคุณ ไม่เชื่อคุณก็ไปถามได้? ผมมีความจำเป็นที่ต้องเอาเรื่องนี้มาหลอกคุณเหรอ?” “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้” จรีภรณ์ส่ายหัวอย่างตะลึง “เขาจะไม่โกหกฉัน เขาจะไม่โกหกฉัน เขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหกฉัน นี่จะต้องไม่จริงแน่ๆ” “จรีภรณ์” จิรภาสเห็นจรีภรณ์ใจเหม่อลอยแบบนั้นในใจก็เจ็บปวด “ไม่ใช่ ไม่ใช่ คุณจะต้องแก้แค้นฉันแน่ๆ คุณไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดี และคุณก็ไม่อยากให้ฉัน อยู่อย่างเป็นสุข คุณจงใจจะทำลายถูกหรือเปล่า จิรภาสฉันจะบอกคุณ ฉันจะไม่ให้คุณได้สมหวัง ฉันจะต้องมีความสุขแน่ๆ!” จรีภรณ์มองจิรภาสอย่างรุนแรง ประโยคสุดท้ายเกือบจะตะโกนออกมา ไม่ว่าอย่างไรเธอก็จะไม่เชื่อ เธอจำได้อย่างชัดเจน ตอนแรกชนุตต์มองตาของเธออย่างจริงใจขนาดนั้น ไม่มีสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ปนอยู่เลย “จรีภรณ์ ถามดีๆนะ ทำไมเขาอยู่ด้วยกันกับคุณได้ คุณไม่ได้มีฐานะวงศ์ตระกูลที่ดี และยังเป็นแม่หม้าย เขาคนเสเพลหาความสำราญในหมู่ผู้หญิงตั้งแต่เด็ก เขาพูดว่าแต่งงานก็จะแต่งจริงๆเหรอ?” จิรภาสเร่งรัดไปทีละขั้น ถามทีละคำทีละประโยค “ใช่ ฉันไม่ได้มีฐานะวงศ์ตระกูลที่ดี ไม่งั้นฉันจะปล่อยให้แม่ของคุณมาทำให้ขายหน้าได้อย่างไร ตอนแรกที่ฉันถูกขับออกจากบ้านก็ไม่ใช่เพราะว่าฉันไม่ได้มีวงศ์ตระกูลที่ดีๆหรอกเหรอ? ที่คุณอยู่ด้วยกันกับชญาภาก็เป็นเพราะฐานะวงศ์ตระกูลของเธอ ฉันรู้ ฉันรู้ดีทั้งหมด” ประโยคนี้ของจิรภาสเพียงไม่นานก็ไปจุดเขตชนวนระเบิดของจรีภรณ์ เธอเกือบจะร้องไห้ และพูดตะโกนมันออกมา นั่นคือความเจ็บปวดในใจของเธอ “จิรภาสทำไมคุณต้องบอกฉัน? ทำไมคุณต้องมากระตุ้นฉัน?” เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอตกลงไปถึงก้นเหวถูกบดขยี้เห็นจรีภรณ์เศร้าเสียใจแบบนั้น ใจของจิรภาสก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมาด้วย ตอนแรกตอนที่เธอถูกเขาขับออกจากบ้านไปก็ไม่เห็นน้ำตาของเธอร่วงหล่น ตอนนี้กลับเป็นเพราะชนุตต์คนนี้ที่คุยกันยังไม่ถึง หนึ่งเดือนก็กลายเป็นร่ำให้แบบนี้ ในหัวใจของเธอเห็นเขาเป็นอะไรกันแน่หรือว่าเธอรักชนุตต์ก็รักได้ลึกซึ้ง ขนาดนี้เลยเหรอ? “จรีภรณ์ เพียงแค่คุณยอม พวกเรามาเริ่มต้นกันใหม่ดีหรือเปล่า?”จิรภาสหลับตาพูดอ้อนวอน ตอนนี้เขาไม่สนอะไรเยอะแยะขนาดนั้นอีกแล้วเพียงแค่เธอยอมอยู่ด้วยกันกับเขา เขาสาบานว่า เขาจะไม่ทำให้เธอต้องถูกทำร้ายอย่างแน่นอน แม้ว่าหัวใจของเธอจะไม่ได้อยู่กับเขา เขาเชื่อมั่นว่าเขาจะกุมหัวใจดวงนั้นให้อบอุ่นได้ แต่ว่าคำพูดนี้ได้ยินเข้าไปในหูของเธอ กลับยิ่งดูเหมือนว่าเป็นการให้ทาน “ไม่ได้ ยังไงๆก็ไม่ได้!” ดวงตาของจรีภรณ์ราวกับจะพ่นไฟออกมาได้ยังไงยังงั้น เกือบจะกัดฟันพูดว่า “ถ่อมาไกลถึงขนาดนี้หรือว่าเพียงเพื่อมาพูดเรื่องนี้กับฉันเหรอ? ถ้าหากอยากเห็นฉันปล่อยไก่ล่ะก็ งั้นคุณก็ทำสำเร็จแล้ว คุณจิรภาสตอนนี้คุณพอใจหรือยัง?” “จรีภรณ์ ผม...” จิรภาสเพิ่งจะคิดอธิบาย แต่จรีภรณ์กลับลงจากรถและวิ่งขึ้นไปบนอาคาร เห็นภาพเงาด้านหลังของจรีภรณ์หายไปอย่างรวดเร็วจิรภาสก็รู้สึกว่าอากาศที่หนายเย็น ก็ถาโถมไปทั่วร่างกาย เชื่อว่าเวลานี้นิรมลคงจะมาถึงเมืองซูเรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้ ก็รู้ข่าวนี้ตั้งนานแล้ว เธอคงจะมาหาจรีภรณ์ในไม่ช้า ด้วยวิธีของเธอเกรงว่าจรีภรณ์จะเสียเปรียบ แต่ว่าแบบนี้ก็ดี จะได้ทำให้ผู้หญิงโง่คนนี้ได้รู้ว่าที่จริงแล้วตัวเองโง่เขลาขนาดไหน แม้แต่ชนุตต์ ที่เจ้าชู้หลายใจแบบนั้นก็ยังไปเชื่อใจ จิรภาสรีบขับรถออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว เมื่อกี้แม้ว่าจะคิดแบบนี้ แต่ว่าเขาก็ยังคงเป็นห่วงอยู่ ถ้าหากถึงเวลานิรมลกล้ากลั่นแกล้งจรีภรณ์ล่ะก็เขาจะต้องทำให้เธอ อยู่อย่างไม่เป็นสุขอย่างแน่นอน ผู้หญิงของเขาไม่มีทางปล่อยให้คนอื่นมารังแกได้ หลังจากที่กลับถึงบ้านแล้ว จรีภรณ์นอนอยู่บนเตียงก็รู้สึกว่าหัวสมองของตัวเองแตกกระเจิงไปหมด จิรภาสไม่ใช่คนที่ขี้เหงาแบบนั้น เรื่องที่ไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่พูดอยู่แล้ว งั้นนี่ก็มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะเป็นเรื่อจริง จรีภรณ์ใจเย็นลงและเอาเรื่องนี้ทั้งก่อนและหลัง มาคิดอีกรอบ แต่ว่าจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่เชื่อว่าชนุตต์จะหลอกเธอ เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าชนุตต์จริงจังกับเธอ เขาก็เคยพูด พูดว่าจะไม่มีทางหลอกลวงเธอ และจะอยู่ด้วยกันกับเธอ ไปตลอดชีวิต แต่ว่าทำไมตอนนี้กลายมาเป็นแบบนี้ได้? เธอพยายามอดกลั้นอารมณ์ที่หุนหันพลันแล่น ที่จะอยากโทรศัพท์หาเขาอย่างสุดขีด เธออยากถามว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่เมื่อทุกครั้งที่ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเธอก็ลังเลอยู่ตั้งนานสองนาน เธอกลัวที่จะได้ยินความจริง และก็เกลียดคำอธิบาย หัวใจของเธอไม่สามารถแบกรับความโศกเศร้าใดๆได้อีกแล้ว เธอคิดว่าเธอคงจะแหลกสลาย และเธอก็คิดแบบนั้นอยู่ทั้งคืน และก็ลังเลอยู่ทั้งคืน คืนนี้เธอคิดถึงจุดจบต่างๆ และก็ยังสมมุติ ความเป็นไปได้ต่างๆ แต่ว่าสุดท้ายไม่ว่าจะเป็นอันไหน เธอก็คิดว่าล้วนแต่รับไม่ไหว เว้นแต่จิรภาสจะพูดโกหก แต่ว่าเธอก็รู้ดีว่าจิรภาสไม่ใช่คนแบบนั้น แล้วก็ทรมานอยู่แบบนี้ทั้งคืน พอตอนเช้า จรีภรณ์ก็โทรศัพท์บอกชนุตต์ว่าเธอขอลาหยุด เดิมทีชนุตต์ก็ต้องไปรับเธออยู่แล้ว แต่ว่ายังไม่ทันจะออกเดินทางก็ได้รับโทรศัพท์แบบนี้ ในโทรศัพท์ชนุตต์ได้ยินสภาพการณ์ของจรีภรณ์ไม่ดี แล้วจึงรีบขับรถไปอย่างรวดเร็วทันที พึ่งจะถึงหมู่บ้านของจรีภรณ์ชนุตต์ก็รีบลงจากรถทันที แล้ววิ่งขึ้นไปบนอาคาร จรีภรณ์เห็นชนุตต์ยืนหอบอยู่ที่หน้าประตู ในตาของเขาก็ตื่นเต้น และกังวลเป็นห่วงอย่างชัดเจน ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าเขาจริงใจจริงๆ ไม่งั้นเขาคงไม่สามารถ แสดงได้ดีขนาดนี้ “ทำไมเหรอ จรีภรณ์คุณป่วยหรือเปล่า?” ชนุตต์เห็นจรีภรณ์ก็รีบเข้าไปทันที ทั้งสัมผัสหน้าผาก ทั้งมองไปทั่วทั้งร่างกายของเธอ โดยเฉพาะเมื่อเห็นตาทั้งสองข้างของจรีภรณ์นั้นแดงก่ำแบบนั้น เขายิ่งเป็นห่วงและอยากจะพาเธอไปโรงพยาบาล จรีภรณ์มองชนุตต์อย่างตกตะลึง ราวกับอยู่อีกโลกหนึ่งที่มีความรู้สึกสะเทือนอารมณ์เป็นหมื่นเป็นพันยังไงยังงั้น ชาติกำเนิดของเขาดีขนาดนั้น อีกทั้งฐานะวงศ์ตระกูลแบบนั้น ทั้งหล่อทั้งรวย ส่วนตัวเองมีอะไร? เหมือนกับว่าไม่มีอะไรที่คู่ควรกับเขาเลยจริงๆ เธอยิ้มอย่างเจื่อนๆ เธอทำเป็นถามอย่างสงบเยือกเย็นว่า “ชนุตต์ ฉันถามคุณหนึ่งคำถามได้หรือเปล่า?” “ได้ มีคำถามอะไร? คุณถามมาได้ ผมจะตอบคุณอย่างตรงไปตรงมาอย่างแน่นอน” “คุณรักฉันหรือเปล่า?” “รัก ผมรัก” ชนุตต์พูดโพล่งออกมาเกือบจะไม่ได้ครุ่นคิด “งั้นคุณเคยโกหกฉันหรือเปล่า?”
已经是最新一章了
加载中