ตอนที่68 หัวใจของชนุตต์   1/    
已经是第一章了
ตอนที่68 หัวใจของชนุตต์
ตอนที่68 หัวใจของชนุตต์ “ผม...” เห็นชนุตต์ลังเลแบบนั้นจรีภรณ์ก็ถอนหายใจ เป็นอย่างที่จิรภาสพูดไว้ทั้งหมดจริงๆ เขาหลอกตัวเองจริงๆ “ชนุตต์ คุณมีคู่หมั้นแล้วใช่หรือเปล่า” “คุณรู้ได้ยังไง? ใครบอกคุณ?” ชนุตต์ตกใจแล้วรีบถามขึ้นอย่างประหลาดใจทันที “นี่เป็นเรื่องจริง ใช่ไหม?” จรีภรณ์ถามขึ้นอีกครั้ง “ใช่” ชนุตต์ก้มหัวลง สีหน้าก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นมืดมนขึ้นมาอย่างช้าๆ “จรีภรณ์ ผมไม่ได้ตั้งใจหลอกคุณ” “ชนุตต์ ทำไมคุณโกหกฉัน? ฉันเชื่อใจคุณขนาดนั้น” จรีภรณ์มองเขาอย่างเยือกเย็น ใจของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา ลมหนาวก็พัดโหมกระหน่ำเย็นไปทั่วทั้งกระดูก “จรีภรณ์ คุณฟังผมอธิบายนะ เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด” ชนุตต์มองสายตาที่ไม่คุ้นเคยของเธอ หัวใจของเขาก็เป็นกังวลขึ้นมาเหมือนกัน เขาจะเสียเธอไปไม่ได้ เขารักเธอ “ฉันไม่อยากฟังคำอธิบาย ชนุตต์คุณหลอกฉัน เลวระยำตั้งแต่หัวจรดเท้า!” จรีภรณ์จู่ๆก็โกรธแค้นชนุตต์ แล้วด่าขึ้นมาอย่างรุนแรง ในชีวิตนี้ของเธอเกลียดการโกหกหลอกลวงที่สุด ถ้าหากผู้ชายทั้งหมดเหมือนกัน ล้วนแต่ไม่รู้จักพอ จะมีรักแท้อะไรที่ไหน ล้วนแต่หลอกลวง หลอกทำร้ายผู้หญิง “จรีภรณ์ การหมั้นนี้แต่ไหนแต่ไรผมก็ไม่เคยยอมรับ เรื่องนี้คุณปู่จัดการเองทั้งหมด คุณก็รู้ ในตระกูลที่ มีทั้งเงินและอิทธิพลเกี่ยวดองกันเพื่อผลประโยชน์ก็มีไม่น้อยเลย แต่ว่าแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยชอบเธอเลยจริงๆ ในใจของผมมีแค่คุณ” ชนุตต์รีบร้อนพูดให้เสร็จโดยเร็ว เรื่องนี้เดิมทีเขาอยากจะค่อยๆอธิบายให้เธอฟังทีหลัง แต่คิดไม่ถึงว่าจรีภรณ์จะรู้แล้ว จะต้องมีใครจงใจบอกเธอแน่ๆ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นทำไมคุณไม่รีบบอกฉัน ถ้าหากคุณพูดล่ะก็ฉันก็จะได้ไม่อยู่ด้วยกันกับคุณ และก็ไม่ต้องมาทรมานเหมือนตอนนี้!” จรีภรณ์ส่ายหัวมองชนุตต์อย่างเสียใจ “ไม่ใช่นะจรีภรณ์ คุณวางใจ ผมจะไม่ปล่อยให้พวกเขามาบงการแน่นอน คำพูดที่ผมพูดกับคุณเมื่อก่อนล้วนแต่เป็นความจริงทั้งหมด ผมต้องการอยากจะแต่งงานกับคุณจริงๆนะ” “ต้องการอยากจะแต่งงานกับแต่งงานจริงๆมันคนละเรื่องกัน ชนุตต์คุณเคยคิดถึงสถานการณ์ของพวกเราหรือเปล่า” “ ผมคิด และผมก็คิดอย่างจริงจังด้วย แต่ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือพวกเราต่างก็รักกัน ของเพียงแค่คุณไม่ทิ้งผม พวกเราก็อยู่ด้วยกันได้” “ชนุตต์ เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าฉันจะอยู่หรือไม่อยู่กับคุณ ปัญหามันอยู่ที่คุณ” จรีภรณ์ถอนหายใจ อย่างไม่มีทางเลี่ยง “คุณเคยคิดหรือเปล่าว่าฉันไม่ได้มีฐานะวงศ์ตระกูลที่ดี ชาติกำเนิดที่ดี ไม่ได้มีส่วนช่วยใดๆในอาชีพของคุณเลย ยิ่งไปกว่านั้นฉันก็ยังเป็นแม่หม้ายอีก และคุณ ครอบครัวคุณ ชาติกำเนิดของคุณ เดิมทีก็ไม่อนุญาตให้อยู่ด้วยกันกับฉันอยู่แล้ว” “ผมรู้ว่าคุณกังวลอะไร จรีภรณ์ผมสาบานกับคุณ เพื่อคุณแล้วผมสามารถละทิ้งทุกอย่างได้ อะไรผมก็ไม่ต้องการ แม้ว่าผมไม่ได้เป็นทายาทของบริษัทเอส.แอลกรุ๊ปจำกัด แม้ว่าต่อไปจะแค่ใช้ชีวิต อย่างคนธรรมดา ขอเพียงแค่พวกเราอยู่ด้วยกัน ก็ไม่มีใครมาแยกพวกเราจากกันได้” ชนุตต์ก้าวเข้าไปกอดจรีภรณ์ สายตามองเธอออย่างจริงใจแทบที่จะควักหัวใจของเขาออกมาให้เธอดู จรีภรณ์ถูกชนุตต์พูดจนซาบซึ้งใจ หัวใจของเธอเริ่มไม่เยือกเย็นลงอย่างช้าๆ เธอมองสายตาที่แน่วแน่ ของชนุตต์ ความจริงใจแบบนั้นไม่สามารถหลอกคนได้ “ชนุตต์ฉันเชื่อคุณ” ความจริงแล้วเธอก็กังวลมาก เมื่อก่อนตอนที่อยู่ด้วยกันกับจิรภาส เธอก็เคยคิดถึงปัญหาแบบนี้ ตอนนั้นจิรภาสก็สาบานกับเธอด้วยน้ำใสใจจริงว่าจะอยู่กับเธอไปชั่วชีวิต แต่ว่า ผลสุดท้ายแม้แต่เธอเองก็คิดไม่ถึง เพิ่งจะได้ครึ่งปี การแต่งงานของเธอก็เต็มไปด้วยความร้าวฉาน ตอนนั้นเธอก็บอกกับตัวเองว่าต่อไปเธอจะไม่เชื่อคำสาบานของผู้ชายคนไหนๆอีก ตอนนี้ เธอเปิดใจยอมรับผู้ชายคนอื่นอีกครั้ง เธอกลัวมากจริงๆว่าตัวเองจะต้องเสียใจอีก ความทรมานที่ทำให้คนหายใจไม่ออกแบบนั้นเธอไม่อยากจะกลับไปสัมผัสมันอีกครั้งจริงๆ ชนุตต์มองสายตาที่ไว้วางใจของจรีภรณ์ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาอย่างมากทันที ในขณะเดียวกัน จู่ๆเขาก็ปวดใจขึ้นมา รู้ว่าเธอจะต้องถูกอดีตสามีทำให้เจ็บปวดทรมานมาอย่างมากมาย ไม่งั้นเธอคงไม่สงสัยมากขนาดนี้ เขาเคยพูดว่าของเพียงแค่เธอยอมเขาสามารถแต่งงานกับเธอได้ตลอดเวลา แต่ว่าผู้หญิงโง่คนนี้ ทำไมถึงได้สงสัยตัวเองขึ้นมาอีกแล้วล่ะ ว่าแล้ว จู่ๆเขาก็ออกแรง กอดจรีภรณ์มากขึ้น และเอาปากใกล้กับหูของเธอแล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า “จรีภรณ์พวกเราแต่งงานกันเถอะ แบบนี้พวกเราก็จะใช้ชีวิตด้วยกันได้ ผมไม่อยากทำให้คุณ ต้องลำบากอีกแล้ว ผมสามารถเป็นสามีที่ดีคนหนึ่งได้ และก็เป็นพ่อที่ดีได้ ผมสามารถเลี้ยงดูหนูดีเหมือนลูกในไส้ได้” “ฉันรู้” จรีภรณ์ซุกอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างมีความสุข ความสุขที่หวานชื่นแบบนั้นทำให้ในหัวใจของ จรีภรณ์หวานชื่นราวกับได้กินน้ำผึ้งยังไงยังงั้น เมื่อก่อนหลังจากที่เธอหย่าแล้วก็เลี้ยงดูหนูดี ด้วยความยากลำบากตามลำพังมาโดยตลอด ซึ่งก็ยังมีผู้ที่มาแสดงความรู้สึกชอบพอเธออย่างไม่ขาดสาย ไม่ใช่ว่าเธอไม่ยินยอม เพียงแต่หัวใจของเธอนั้นถูกทำลายไปแล้ว เธอไม่อยากที่จะอยู่ด้วยกันกับผู้ชายคนอื่นเร็วขนาดนั้น ตอนนี้ มีคนที่จริงใจต่อเธอแบบนี้และก็ดีกับหนูดีแบบนี้ เธอไม่อยากจะพลาดจริงๆ และก็ยังรักและทะนุถนอมมาก ชนุตต์เห็นจรีภรณ์มีความสุขแบบนั้นจึงอดใจไว้ไม่ได้ และเริ่มจูบเธอ จรีภรณ์ก็ตอบสนองกลับ ซึ่งไม่เหมือนกับแต่ก่อน ครั้งนี้เธอตั้งใจที่จะอยู่ด้วยกันกับเขาจริงๆ หนทางข้างหน้าไม่ว่าจะยากเย็นขนาดไหนเธอก็จะไม่ยอมแพ้ ชนุตต์ดูเหมือนว่าจะรู้สึกถึงการตอบสนอง จึงออกแรงโอบกอดเธออย่างดีอกดีใจ อุณหภูมิในห้องก็เริ่มสูงขึ้นอย่างช้าๆ จรีภรณ์ถูกจูบอย่างดูดดื่ม เป็นครั้งแรกที่เธอยอมรับผู้ชายคนอื่นนอกจากจิรภาส เพราะเธอรู้ว่าไม่ช้าก็เร็วเธอก็ต้องยอมรับเขา ไม่รู้ว่าจูบอยู่นานขนาดไหน จนกระทั่งถึงตอนที่ทั้งสองคนนอนเกลือกกลิ้งหอบฮั่กๆอยู่บนเตียง ชนุตต์ถึงปล่อยจรีภรณ์ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการ แต่เขาอยากที่จะให้ความเคารพเธออย่างเพียงพอ ในเมื่อเขาตกลงที่จะอยู่กับเธอไปชั่วชีวิต งั้นเขาก็ยอมที่จะเอาสิ่งที่สวยงามที่สุดไว้ในวันที่แต่งงานวันนั้น ความคิดของชนุตต์ ปกติแล้วจรีภรณ์ก็เข้าใจ เธอมองตาของชนุตต์อย่างซาบซึ้งใจ และเป็นฝ่ายรุกใช้ปากจูบเข้าไป เปลวไฟที่เพิ่งจะดับลงพริบตาเดียวก็ระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง ชนุตต์โอบกอดจรีภรณ์พอพลิกตัวก็เอาเธอไว้ภายใต้ร่างกาย ในเมื่อจิ้งจอกน้อยตัวนี้เป็นฝ่ายรุก ยั่วยวนเขา งั้นถ้าเขาไม่กินล่ะก็ ก็จะเป็นการผิดต่อการเป็นฝ่ายรุกของเธอเกินไปหรือเปล่า ชนุตต์ยิ้มอย่างชั่วร้าย สองมือก็สำรวจลงไปต่ออีก จรีภรณ์เบิกตากว้างด้วยความกลัว เมื่อกี้เธอเพียงแค่ รู้สึกซาบซึ้งมากเกินไปจนอยากจะจูบเขานิดหน่อย ทำไมถึง... เมื่อความปรารถนาของจรีภรณ์พลุ่งพล่าน ชนุตต์จู่ๆก็หัวเราะแล้วปล่อยเธอ และใช้มือขัดจมูกเล็กๆของเธอแล้วพูดหยอกล้อว่า “ดูคุณต่อไปยังจะยั่วเย้าผมอีกหรือเปล่า ตอนนี้รู้ผลที่จะเกิดขึ้นหรือยัง” เห็นชนุตต์พูดหยอกล้อแบบนั้นจรีภรณ์ก็อายจนหน้าแดงก่ำไปหมด หลังจากผ่านเรื่องราวนี้แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างชนุตต์และจรีภรณ์ก็ดูเหมือนว่าจะใกล้เข้าไปอีกขั้น ทั้งสองคนก็มักจะพาหนูดี ไปเล่นข้างนอกอยู่บ่อยๆ เอะอะก็รักกันอย่างดูดดื่มอยู่ตั้งหลายครั้ง นี่ทำให้จิรภาสเหมือนกับกินแมลงวัน ยังไงยังงั้น เขาไม่ใช่ว่าบอกเธอไปแล้วเหรอ? หรือว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น? ทำไมพวกเขายังอยู่ด้วยกัน? จิรภาสขมวดคิ้วหน้าบึ้งตึงมองรอยยิ้มที่สว่างไสวของจรีภรณ์ เขายอมรับว่าตอนนี้เขาเป็นเหมือน กับหญิงที่อาฆาตแค้นยังไงยังงั้น และเริ่มอิจฉาริษยาขึ้นมาอีกครั้ง แต่ว่าแล้วมันจะยังไงอีก เขาลืมเธอไม่ได้น่ะ แต่ว่านิรมลคนนั้นเดิมทีก็เป็นคนที่ชอบหาเรื่องอยู่ตลอด ต้องคิดวิธีทำให้เธอรู้ สภาวะของเธอตอนนี้ พอตอนกลางคืน หลังจากที่จรีภรณ์กล่อมหนูดีนอนแล้วเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น “มีเรื่องอะไร?” เดิมทีจรีภรณ์ไม่อยากจะรับสาย แต่ว่าทำไมถึงจับพลัดจับผลูกดปุ่มรับฟัง “จรีภรณ์ ช่วงนี้ชีวิตดูไม่เลวเลยหนิ ดูเหมือนชนุตต์จะทำให้คุณหัวเราะอย่างมีความสุขมาก!” เสียงวิตถารของจิรภาสลอยเข้ามาในสาย “จิรภาส คุณยุแหย่ต่อหน้าฉันให้มันน้อยๆหน่อย ฉันจะบอกคุณไว้ แม้แต่คำเดียว ฉันก็ไม่เชื่อคุณ!” จรีภรณ์กัดฟันพูดในโทรศัพท์ด้วยความโกรธ “โอ้? งั้นคุณเชื่อเขาแล้วเหรอ?” “ฉันเชื่อเขาแน่นอน คุณคิดว่าชนุตต์จะเหมือนกับคุณเหรอ?” “เหอะๆ งั้นก็ดูเหมือนว่าความกังวลของผมจะไม่จำเป็น แต่ว่าผมจะบอกข่าวร้ายให้คุณฟังนะ” ได้ยินคำพูดของจรีภรณ์แล้วสายตาของจิรภาสก็หมองหม่นลง ถ้าหากตอนแรกเธอเชื่อตัวเองล่ะก็ ก็คงจะไม่เห็นด้ายกับการหย่าร้างอย่างรวดเร็วขนาดนั้น “จิรภาส คุณคิดจะพูดอะไรกับฉันอีก?” จรีภรณ์สะอิดสะเอียนถึงขีดสุด จิรภาสเปลี่ยนเป็นเหมือนผู้หญิง ตั้งแต่เมื่อไหร่ ชอบมานินทาลับหลังเล็กๆน้อยๆแบบนี้ “วางใจ คำที่ผมพูดกับคุณมีประโยชน์แน่นอน ท้ายที่สุดวันที่แสนสุขของคุณก็จะถึงจุดจบแล้ว” “หมายความว่ายังไง?” “ก่อนหน้านี้ผมก็เคยบอกกับคุณแล้วว่าชนุตต์มีคู่หมั้น ตอนนี้คู่หมั้นคนนั้นก็มาถึงเมืองซูเรียบร้อยแล้ว ผมคิดว่าในอีกไม่ช้าพวกคุณก็จะได้เจอกัน ถึงเวลา เธอมีวิธีที่จะจัดการกับคุณ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในทำนองคลองธรรมไร้เหตุผล” จิรภาสพูดเหน็บแนมจรีภรณ์ หลังจากที่พูดเสร็จในสายนั้นก็ไม่มีเสียงอะไรอีก
已经是最新一章了
加载中