ตอนที่69 อำนาจบารมี
1/
ตอนที่69 อำนาจบารมี
Choose เลือกสักทีนายจะรักใคร
(
)
已经是第一章了
ตอนที่69 อำนาจบารมี
ตอนที่69 อำนาจบารมี จู่ๆเขาก็ค่อนข้างที่จะเกลียดตัวเอง โทษตัวเองว่าทำไมต้องบอกเรื่องพวกนี้กับเธอ และยังปล่อยให้เธอกังวลกับความกลัวอีก เพียงแค่คิดถึงว่าตอนนี้จรีภรณ์รู้สึกไม่ดีหัวใจของเขาก็เจ็บขึ้นมาด้วย แล้วจึงรีบพูดด้วยเสียงที่นุ่มนวลขึ้นทันที “จรีภรณ์ถ้าหากตอนนี้คุณยังอยากอยู่ด้วยกันกับผมล่ะก็ ผมจะช่วยคุณทันที ผมรับประกัน...” “คุณจิรภาส คุณตัดใจซะเถอะฉันอยู่กันคุณไม่ได้” ปฏิกิริยา ของจรีภรณ์ที่ฟังคำพูดที่น่าสะอิดสะเอียนของจิรภาสยังไม่ทันจะรอเขาพูดจบก็ตอบปฏิเสธเขา ซะแล้ว หลังจากที่วางสายโทรศัพท์แล้วหัวใจของจรีภรณ์ก็เริ่มเต้นขึ้นมาอย่างรุนแรง คู่หมั้นของชนุตต์มาถึงเมืองซูแล้วเหรอ? เธอจะจัดการกับตัวเองอย่างไร? เรื่องนี้ชนุตต์รู้แล้วหรือยัง? เขาจะปกป้องตัวเองได้หรือเปล่า? มือของจรีภรณ์เริ่มสั่นขึ้นมา แม้ว่าชนุตต์จะให้คำมั่นสัญญาที่ดูเหมือนจะหนักแน่นขนาดนั้นกับเธอ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง เธอกลัวจริงๆว่าความรักของพวกเขาจะไม่ผ่านการทดสอบ และนี่ก็เพียงแค่จะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น พอตอนเช้า ชนุตต์ก็ไปรับจรีภรณ์ตามปกติ หลังจากที่ลาหนูดีแล้วจรีภรณ์ก็ขึ้นรถของชนุตต์ ระหว่างทางจรีภรณ์ก็มองหน้าต่างอย่างเลื่อนลอย เพียงแค่คิดถึงที่จิรภาสบอกเมื่อคืนนี้ว่าคู่หมั้นของชนุตต์ มาถึงเมืองซูแล้วหัวใจของเธอก็เริ่มตึงเครียดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “เป็นอะไรไป?” ชนุตต์เห็นท่าทางของจรีภรณ์แบบนั้นก็ถามอย่างเป็นห่วง “ไม่ ไม่มีอะไร” จรีภรณ์หันมามองเขา จู่ๆหัวใจก็ค่อยๆช้าลง จู่ๆก็คิดว่า ชนุตต์รู้เรื่องที่คู่หมั้นของเขามาถึง เมืองซูแล้วหรือเปล่านะ? แต่ว่าท่าทางแบบนี้น่าจะยังไม่รู้ งั้นตัวเองต้องบอกเขาหรือเปล่า? ในใจของจรีภรณ์ลังเล “หรือว่าถูกการทำงานที่ทุ่มเทของคนขับรถของผมคนนี้ทำให้ตื้นตันใจ?” ชนุตต์คิดว่าช่วงนี้จรีภรณ์ค่อนข้างเหนื่อย แล้วจึงพูดล้อเล่นกับจรีภรณ์ จรีภรณ์ยิ้มนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เห็นใบหน้าของชนุตต์ท่าทางมีความสุข ความหม่นหมองในใจของเธอก็หายไปกว่าครึ่ง แสงอาทิตย์ในยามบ่ายที่ราวกับเตาหลอมที่แผดเผาพื้นโลกยังไงยังงั้น ต้นไม้รู้แล้วต่างก็ร้องดังแกร๊กกร๊าก ดูเหมือนว่ากำลังส่งเสียงร้องอย่างกลัดกลุ้มอยู่ในฤดูร้อนนี้ นิรมลสวมชุดว่ายน้ำและแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำ ขนาดใหญ่แห่งนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าราวกับความเย็นที่ชุ่มฉ่ำในวันฤดูร้อนที่แผดเผา ซึมซ่านไปทั่วทั้งจิตใจ เมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็กเธอได้รับการชมเชยจากผู้คนนับไม่ถ้วน บอกว่า เธอโตขึ้นจะต้องเป็นคนที่สวยงามอ่อนช้อยแน่นอน ตอนนี้เป็นเช่นนั้นจริงๆ รูปร่างหน้าตาที่สวยงาม ร่างกายตรงตามมาตรฐาน ผิวหนังเป่าก็เหมือนจะพังทลาย ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นผสมผสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่พูดว่าสวยซะจนสามารถทำให้บ้านเมืองล่มสลายได้ และก็ทำให้คนตื่นตาตื่นใจอย่างแท้จริง แม้แต่ยามรักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่ที่นั่นก็ยังถูกรุปร่างหน้าตาของเธอทำให้มองจนต้องตะลึง กลืนน้ำเข้าไปอย่างกะทันหัน นิรมลขึ้นมาจากสระว่ายน้ำ ในทันทีนั้นก็มีคนเอาผ้าเช็ดตัวเข้ามาคลุมให้ และนั่งบนเก้าอี้นอนเอน แล้วหยิบกาแฟบนโต๊ะขึ้นมาดื่มอย่างสง่างาม “ฉันมาเมืองซู เขารู้แล้วหรือยังนะ?” “ใช่” “เหอะ” นิรมลหัวเราะเยาะนิดหน่อย “ท่าทีของเขานับวันยิ่งใหญ่โตขึ้นเรื่องๆจริงๆ ฉันมาแล้วตั้งหลายวันเขาก็ยังไม่คิดที่จะปรากฏตัว ดูเหมือนว่าฉันจะต้องไปคุยกับผู้หญิงของเขาดีๆซะแล้ว!” ท่าทีของชนุตต์ทำให้นิรมลโกรธแค้นเป็นที่สุด นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่เห็นเธออยู่ในสายตา แต่แม้ว่าเขาจะไม่ชอบตัวเอง งั้นก็ยังต้องไว้หน้าคุณปู่ แต่ว่าเขากลับคิดที่จะมาเจอก็ยังไม่มี นี่ตั้งกี่วันแล้ว เขาราวกับว่าไม่รู้เลยยังไงยังงั้น ชนุตต์คนนี้ช่างกำเริบเสิบสานจริงๆ นิรมลพริ้มตายิ้มเบาๆ แล้วกวักมือเรียกผู้คุ้มกันที่ยืนอยู่ด้านข้าง “คุณผู้หญิงเชิญรับสั่ง” “ฉันต้องการเจอผู้หญิงคนนั้นสักหน่อย นายไปจัดการที” นิรมลออกคำสั่ง “รับทราบ” ตอนเลิกงานชนุตต์ยังต้องทำงานล่วงเวลาจึงให้จรีภรณ์กลับไปก่อน เดิมทีจรีภรณ์จะอยู่กับชนุตต์ แต่ว่าชนุตต์ทำเป็นโกรธแล้วพูดว่า เธอเพียงแค่ลากห้อยอยู่ขาหลังของเขาได้เท่านั้น ให้เธอรีบกลับไป ความเป็นจริงแล้วจรีภรณ์รู้ ไม่ใช่ว่าเขาเมินเฉยเธอจริงๆ แต่เขาไม่อยากให้เธอต้องเหนื่อยมาก เมื่อก่อนชนุตต์ก็เคยพูดกับเธอว่าจะให้เธอไม่ต้องทำงานเหนื่อยมาก เขามีความสามารถเพียงพอ ที่จะเลี้ยงดูเธอ แต่ว่ากลับถูกจรีภรณ์ปฏิเสธอย่างนุ่มนวล สถานการณ์แบบนี้เหมือนกันไม่มีผิด เมื่อก่อนจิรภาสก็เคยพูดกับเธอแบบนี้ แต่ว่าผลสุดท้ายหลังจากเธอถูกขับออกจากบ้านก็สิ้นเนื้อประดาตัว แม้แต่งานก็ยังไม่มี ตอนนั้นก็ยังท้องลูกอีกคน อยากจะเลี้ยงดูตัวเองมันก็ช่างยากเย็นเหลือเกิน ตั้งแต่นั้นมา เธอก็สาบานว่าจะไม่พึ่งพาผู้ชายไปตลอดชีวิต ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อใจชนุตต์ แต่ว่าตอนนี้เธอ เติบโตมากขึ้น ตัวเองพึ่งพาตัวเองอยู่แบบนั้นเองไม่มีผิด จรีภรณ์เพิ่งจะเดินออกจากประตูบริษัท ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วก็มีผู้ชายใส่ชุดสูทรองเท้าหนังสองคนลงมาจากรถ พวกเขาเอ่ยปากถามจรีภรณ์อย่างมีมารยาทว่า “ขอถามหน่อยนี่ใช่คุณจรีภรณ์หรือเปล่า?” “ใช่ คุณเป็นใคร?” จรีภรณ์มองอีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง ลางสังหรณ์บอกเธอว่าผู้ที่มานั้นคิดไม่ดี “สวัสดีครับ ผมคือผู้คุ้มกันของคุณหญิงนิรมล คุณหญิงของผมอยากจะเชิญคุณไปดื่มกาแฟ” “นิรมล?” จรีภรณ์ขมวดคิ้ว มาเร็วเกินไปแล้ว เธอยังไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรเลย “คือคู่หมั้นของคุณชนุตต์!” ผู้คุ้มกันคิดว่าจรีภรณ์ไม่รู้จึงพูดเตือนขึ้นมาหนึ่งประโยคอย่างนอบน้อม ตั้งแต่ต้นจนจบท่าทีของพวกเขาดีมาก และยังมีมารยาทสุภาพเรียบร้อยแบบนั้น แต่จรีภรณ์รู้ว่าไม่ใช่แบบนั้น ความกดดันก็ถาโถมเข้ามาโดยปริยาย ทำให้เธอพูดไม่ออกแม้ครึ่งประโยค จิรภาสไม่ได้โกหกตัวเองจริงๆ นิรมลมาถึงเมืองซูแล้วจริงๆ แต่ว่าทำไมเธอไม่ไปหาชนุตต์ แต่มาหาตัวเอง หรือว่าเพื่อจะใช้อำนาจบารมีกับเธอ? ว่าแล้วจรีภรณ์ก็ตึงเครียดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก กอดไว้ไม่ช้าก็เร็วยังไงๆสภาพจิตใจ ก็ต้องเผชิญหน้ากันอยู่ดี สุดท้ายเธอก็ยังต้องขึ้นรถ รถขับไปตลอดทาง หลังจากที่ถึงแล้วผู้คุ้มกันก็ลงจากรถมาเปิดประตูให้เธอ และพาเดินไปร้านกาแฟอย่างสุภาพและมีมารยาท จรีภรณ์ตามไปอย่างระมัดระวัง บรรยากาศที่อัดอั้นตันใจในรถเมื่อกี้ทำให้เธอเหงื่อไหลพราก เธออดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอยู่เงียบๆในใจ แต่ว่าเพื่อที่จะเลี้ยงกาแฟตัวเองถ้วยเดียว ถึงกับจัดอย่างใหญ่โตหรูหรา หลังจากที่ถึงแล้ว จรีภรณ์ก็เห็นผู้หญิงที่ดูสูงศักดิ์สง่างามมากคนหนึ่งนั่งอยู่ที่นั่น เธอยกกาแฟขึ้นจิบอย่างสง่างาม หลังจากที่ผู้คุ้มกันที่อยู่ด้านข้างเห็นจรีภรณ์เดินเข้ามาก็กระซิบข้างหูของเธอเบาๆ นิรมลถึงเงยหน้าขึ้น มองจรีภรณ์ที่เดินเข้ามาและยิ้มให้เธอเล็กน้อย “สวัสดี คุณจรีภรณ์” “สวัสดี” จรีภรณ์ตะลึงนิดหน่อย และตอบอย่างมีมารยาททันที แต่ไหนแต่ไรเธอก็คิดไม่ถึงว่า นิรมลจะสวยขนาดนี้ ดุจดั่งนางฟ้าก็ไม่ปาน น่าทึ่งจริงๆ ขณะที่จรีภรณ์ตกตะลึงอยู่นั้น นิรมลก็ยิ้มอ่อนๆสังเกตจรีภรณ์ ดูจากภายนอกเดิมทีเธอก็ไม่เหมือนผู้หญิงที่เคยมีลูกแล้ว ร่องรอยจุดด่างพร้อยของกาลเวลาก็ยังไม่มีอยู่บนใบหน้าของเธอเลยแม้แต่น้อย ผิวที่ขาวเกลี้ยงเกลาราวกับนมแพะเข้มข้นยังไงยังงั้น อวัยวะทั้งห้างดงามละเอียดอ่อนดุจดั่งการแกะสลัก อย่างสมบูรณ์แบบ คิ้วและตาไหลเวียนดุจดั่งสายน้ำในฤดูใบไม้ผลิ ริมฝีปากบางๆคู่นั้นดุจดั่งกลีบกุหลาบ ละเอียดอ่อนและอ่อนโยน ทำให้คนเกิดอารมณ์อยากจูบหอม เป็นสาวสวยที่แพรวพราวด้วยเสน่ห์ โดยกำเนิด นิรมลแอบตะลึง มิน่าล่ะถึงทำให้ชนุตต์หลงจนหัวปักหัวปำ ถ้าหากให้คนที่งามหยาดเยิ้ม แบบนี้อยู่ข้างกาย เกรงว่าจะไม่มีผู้ชายคนไหนที่ต้านทานได้ “คุณจรีภรณ์เป็นหญิงงามที่หายากจริงๆ มิน่าล่ะถึงทำให้ชนุตต์หลงจนหัวปักหัวปำ!” ในใจคิดอยู่แบบนั้น ปากก็มีคำพูดชมเชยน้อยมาก แต่ประโยคหลังที่พูดนี้กลับมีเจตนาบางอย่างแอบแฝง ในคำที่พูดเยาะเย้ยของนิรมล ปกติจรีภรณ์ก็รู้อยู่แล้ว เธอบอกเป็นนัยว่าเป็นตัวเองที่ชักนำชนุตต์ ถ้าหากเป็นเมื่อสามปีก่อน เกรงว่าเธอคงจะตัวเบาหวิวไปแล้ว แต่น่าเสียดายการขัดเกลาสามปี ของจรีภรณ์ทำให้เธอไม่เป็นคนที่ใสซื่ออีกต่อไป จรีภรณ์หัวเราะนิดหน่อย แล้วใช้มือรวบผมที่ข้างหูเบาๆ แล้วพูดว่าขอบคุณ โดยที่ไม่แสดงสีหน้า หลังจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นแล้วพูดต่อว่า “ที่ทำให้ชนุตต์หลงใหลปกติแล้วไม่ใช่ผิวหนังที่สวยงามนี้ ถ้าหากชนุตต์ตื้นเขินขนาดนี้จริงๆล่ะก็ งั้นเขาก็คงจะแต่งงานกับคุณนิรมลไปตั้งนานแล้ว และไม่ใช่ว่าถ่อมาเมืองซูตั้งไกลเพื่อมาเจอฉัน” คำพูดของเธอประชดเป็นอย่างยิ่ง รอยยิ้มของนิรมลแข็งตัวอยู่บนใบหน้าอย่างฉับพลัน แม้แต่ผู้คุ้มกัน ที่อยู่ด้านข้างก็ยังรู้สึกถึงลมหายใจที่เยือกเย็นของนิรมลกระจายไปทั่ว แต่ว่าไม่นานเธอก็มีปฏิกิริยา ตอบกลับมาราวกับไม่ได้สนใจคำพูดเมื่อกี้ของจรีภรณ์ ยังคงถามด้วยรอยยิ้มว่า “คุณจรีภรณ์ชอบดื่มอะไร?” “ไม่ต้องหรอก ฉันรีบ คุณนิรมลมีอะไรก็พูดมาตรงๆได้!” “ดูเหมือนว่าคุณจรีภรณ์ก็เป็นคนที่เปิดเผยตรงไปตรงมา ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็จะพูดตามตรงล่ะ ฉันคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับชนุตต์คุณคงจะรู้ใช่หรือเปล่า พวกเราอีกไม่กี่เดือนก็จะแต่งงานกันแล้ว” “หลังจากนั้นล่ะ?” จรีภรณ์ถามกลับ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่69 อำนาจบารมี
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A