บทที่ 32 มือที่สามในตำนาน
1/
บทที่ 32 มือที่สามในตำนาน
OMG!ประธานโหดๆกลัวเมีย!
(
)
已经是第一章了
บทที่ 32 มือที่สามในตำนาน
บ๗ที่ 32 มือที่สามในตำนาน เฉียวเยว่เมิ่งสามารถเดาได้เลยว่าพวกเขาจะเอาไปพูดลับหลังอย่างไร คงจะพูดว่าเธอแต่งงานกับพ่อหม้ายลูกติด พอแต่งงานปุ๊บก็ต้องเป็นแม่เลี้ยง เธอไม่ค่อยใส่ใจคำพูดของคนอื่นนัก ขอเพียงตัวเธอรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไรก็เพียงพอแล้ว คนอื่นจะพูดยังไงเป็นเรื่องของพวกเขา ไม่จำเป็นต้องไปโต้ตอบอะไร ท่ามกลางคำพูดของทุกคน เพียงไม่นานก็ถึงวันก่อนแต่งงานของเฉียวเยว่เมิ่ง เธอขับรถpoloคันเล็กของเธอกลับบ้าน พอถึงบ้านก็พบว่าแม่ของเธอกำลังปะทะฝีปากกับบรรดาป้าๆทั้งหลาย เฉียวเยว่เมิ่งรีบจอดรถแล้ววิ่งเข้าไปหา ยังไม่ทันถึงตัวพวกเธอก็ได้ยินเสียงของลั่วหมิงเม่ย “ว่าลูกสาวฉันแต่งงานกับพ่อหม้ายลูกติด! พวกแกอิจฉาก็บอกมาเถอะไม่ต้องมาพ่นคำพูดหยาบคายแบบนี้! ครั้งหน้าถ้าฉันได้ยินอีกอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจล่ะ พวกแกมีเหตุผลฉันก็จะมีเหตุผลตอบ ถ้ายังพูดพล่อยๆอีกครั้งหน้าฉันจะทำให้พวกแกไม่กล้าเดินผ่านฉันเลย! ” ทุกคนไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกกอปรกับเห็นเฉียวเยว่เมิ่งเดินเข้ามาจึงพากันแยกย้ายไป เฉียวเยว่เมิ่งเดินเข้าไปหาลั่วหมิงเม่ยที่โกรธจนหน้าดำหน้าแดง “คุณแม่ หยุดโมโหได้แล้วมันเสียสุขภาพ” ลั่วหมิงเม่ยจ้องเธอกลับด้วยความโมโห “อย่ามาให้ฉันเห็นหน้า รำคาญ!” “อย่าเป็นแบบนี้สิคะ ฉันใกล้จะแต่งงานแล้ว คุณแม่ทนอีกหน่อยนะ” ลั่วหมิงเม่ยโดนเข้าพูดของเธอหลอกล่อจนมุมปากกระตุกจึงถามขึ้น “เธออยู่โรงพยาบาลมีใครกล้าว่าเธอหรือเปล่า?” “บรรดาเพื่อนร่วมงานยังดีกว่าบรรดาป้าๆหน่อยพวกเขาไม่กล้าพูดต่อหน้า” ลั่วหมิงเม่ยพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ทั้งสองคนกำลังจะจากไปก็มีเสียงแหลมๆเอ่ยแทรกขึ้นมา “ให้ลูกแต่งงานกับพ่อหม้าย คนเป็นแม่อย่างเธอยังมียางอายอยู่ไหม?!” ลั่วหมิงเม่ยหยุดเดินแล้วสะบัดแขนเฉียวเยว่เมิ่งออกแล้วเดินย่างสามขุมกลับไป ในขณะที่ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัวคนที่เอ่ยขึ้นมาเมื่อกี้ก็โดนตบหน้าไปฉาดใหญ่ ทุกคนต่างอึ้งกับภาพเหตุการณ์นี้ ลั่วหมิงเม่ยยังไม่หายโมโห เธอถกแขนเสื้อขึ้นเอามือเท้าสะเอวแล้วชี้หน้าผู้หญิงคนนั้น “ฉันบอกแล้วนะว่าอย่ามาลองดีกับฉัน!คนอื่นจะใช้ชีวิตยังไงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก แกมายุ่งอะไรด้วยไม่ทราบ? ลูกสาวฉันแต่งงานกับพ่อหม้ายแล้วมันยังไง? ถ้ามีปัญญาก็ให้ลูกสาวแกแต่งงานกับพ่อหม้ายอย่างเห้ออี้ลั่วดูสิ มีคนเอาหรือเปล่าล่ะ? แกมีปัญญามานินทาคนอื่นเอาเวลาไปส่องกระจกหน่อยไหม ดูสารรูปตัวเองหน่อย!” “แก……” ผู้หญิงที่โดนลั่วหมิงเม่ยตบฉาดใหญ่ยังมึนงงอยู่ ตาเบิกกว้างลิ้นแข็งพูดอะไรไม่ออก ผ่านไปสักพักก็ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้อยู่บนพื้น ลั่วหมิงเม่ยไม่อยากต่อความยาวจึงกวาดสายตามองบรรดาป้าๆทั้งหลายแล้วเอ่ยขึ้น “ถ้าครั้งหน้าฉันยังได้ยินคำพูดแบบนี้อีก มันจะไม่จบแค่โดนตบนะ!” พูดจบ ลั่วหมิงเม่ยก็ลากแขนเฉียวเยว่เมิ่งเดินจากไป เฉียวเยว่เมิ่งเคยถูกผลักจากด้านหลังครั้งหนึ่งเธอจึงหันกลับไปมองบ่อยครั้งด้วยความระแวง ท่าทางของเธอทำให้บรรดาป้าๆทั้งหลายตกอกตกใจกันยกใหญ่จึงพากันแยกย้ายไปอย่างรวดเร็วเหลือเพียงป้าที่นั่งร้องไห้อยู่บนพื้น “คุณหญิงลั่ว คุณแสดงฝีมืออีกแล้วนะ ครั้งหน้าคุณแค่ส่งสายตาก็พอที่เหลือฉันจัดการเอง” ลั่วหมิงเม่ยสะบัดมือข้างที่ใช้ตบเมื่อกี้แล้วเอ่ยขึ้น “คนพวกนี้เรื่องในบ้านตัวเองยังจัดการไม่เรียบร้อย วันๆเอาแต่ติเตียนเรื่องของคนอื่น ถ้าเก่งขนาดนี้ไม่ไปเป็นนายกเลยล่ะ? ครั้งนี้ถ้าไม่ทำให้พวกมันกลัวอีกหน่อยคงจะพูดพล่อยๆมากกว่านี้” “คุณแม่ ฉันขอโทษ ถ้าหากว่าฉัน…….” “หยุด! เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเธอ?! เห้ออี้ลั่วเป็นคนดีขนาดนั้น เธอไม่ต้องสนใจว่าคนอื่นจะพูดยังไง เธอมีความสุขก็เพียงพอแล้ว” “ค่ะ” ลั่วหมิงเม่ยพึมพำสองสามคำ “ข้าตบคนจนเจ็บมือ ข้าไม่อยากทำกับข้าวแล้ว” “เดี๋ยวข้าน้อยจัดการเอง” “รับมุขได้ดีนี่” “ถูกสะกดด้วยท่าทางการตบของแม่ ฉันต้องประจบประแจงเสียหน่อย” เฉียวเยว่เมิ่งพูดอย่างขำขัน “ประจบไปเถอะ ยังไงเสียเธอก็ประจบได้อีกไม่กี่วันแล้ว” เฉียวเยว่เมิ่งโอบไหล่ลั่วหมิงเม่ยไว้แล้วเดินขึ้นชั้นบนไปด้วยกัน ** หัวค่ำกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบง่ายๆเสร็จแล้วเฉียวเยว่เมิ่งก็กลับเข้าห้องนอนไป ชุดแต่งงานสองชุดแบบตะวันตกชุดหนึ่งแบบจีนชุดหนึ่งถูกส่งมาเมื่อหลายวันก่อน เฉียวเยว่เมิ่งยืนดูชุดทั้งสองอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าด้วยความรู้สึกเหมือนฝันไป ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น เป็นข้อความของเห้ออี้ลั่ว เห้ออี้ลั่ว: เธอทำอะไรอยู่? เฉียวเยว่เมิ่ง: กำลังจะนอนแล้ว แล้วคุณล่ะ? เห้ออี้ลั่ว: ฉันอยู่สนามบิน พอดีมีเรื่องต้องจัดการกะทันหัน เฉียวเยว่เมิ่ง: จะทันวันแต่งงานไหม? เห้ออี้ลั่ว: ไม่มีปัญหา ฉันกลัวเธอเป็นห่วงเลยมาบอกเธอไว้ก่อน เฉียวเยว่เมิ่งดูข้อความประโยคนั้นแล้วหัวเราะ: แค่มีคำอธิบายของเธอก็เพียงพอแล้วล่ะ เห้ออี้ลั่ว: พักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ฉันไปรับ เฉียวเยว่เมิ่ง: อืม ** ณ สนามบิน เห้ออี้ลั่วเช็คไฟล์ทบินแล้วจึงเก็บโทรศัพท์และมองจอแอลอีดีของสนามบินด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ไม่นานช่องทางวีไอพีก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา ท่ามกลางคนเหล่านั้นเป็นเตียงเข็นหลังหนึ่ง เห้ออี้ลั่วรีบเดินเข้าไปหาก็พบกับหญิงสาวใบหน้าซีดเซียวนอนอยู่บนเตียงเข็นแววตาจึงหม่นแสงลงระดับหนึ่ง เขาเอ่ยขึ้นเสียงเย็น “อาการตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” “ร่างกายของคุณหนูเวินนั้นยังอ่อนแออยู่ ไม่เหมาะกับการบินระยะทางไกล ต้องรีบไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลโดยด่วน” “ฉันไปส่งเธอเอง” “รบกวนคุณผู้ชายแล้วล่ะ” คนกลุ่มหนึ่งอุ้มเวินอันเหยียนขึ้นรถของเห้ออี้ลั่วด้วยความระมัดระวัง จากนั้นก็ขึ้นไปนั่งบนรถอีกคัน หลังจากที่รถของเห้ออี้ลั่วขับออกจากสนามบิน เวินอันเหยียนจึงรู้สึกตัวขึ้นมาบ้าง เห้ออี้ลั่วมองเห็นเธอจากกระจกมองหลังจึงหยุดรถแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เธอตื่นแล้วเหรอ” เวินอันเหยียนลืมตาอันเป็นประกายราวกับดวงดาวแล้วเผยรอยยิ้มอ่อนโยน “คำอธิษฐานเมื่อวานของฉันเป็นจริงแล้ว” “คำอธิษฐานอะไร?” “ฉันอยากเห็นคุณเป็นคนแรกหลังจากลืมตา ไม่คิดว่าคำอธิษฐานนี้จะเป็นจริง” “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ต้องอธิษฐานหรอก” “เรื่องเล็กน้อยก็ต้องอธิษฐาน เรื่องที่ฉันจะอธิษฐานได้มีอีกไม่มากแล้วล่ะ” ไม่รู้ว่าเวินอันเหยียนกำลังคิดอะไรอยู่ ดวงตาเป็นประกายนั้นกลับหม่นแสงลง ใบหน้าของเธอนั้นซีดขาวเป็นปกติอยู่แล้ว มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่เป็นประกาย เมื่อดวงตาของเธอหม่นแสงลงทำให้คนมองรู้สึกราวกับว่าดอกไม้ที่กำลังบานอยู่นั้นร่วงโรยในพริบตา เห้ออี้ลั่วไม่ได้เอ่ยปลอบใจเธอเพียงแต่เอ่ยว่า “ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาลเอง เธอหลับต่ออีกหน่อยเถอะ” “หลังจากนั้นคุณก็กลับบ้าน พรุ่งนี้ก็กลายเป็นเจ้าบ่าวของผู้หญิงคนอื่นใช่หรือเปล่า?” “เธอไม่ควรรู้เรื่องพวกนี้” ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็คลอไปด้วยน้ำตา “อี้ลั่ว ฉัน…ฉันไม่สามารถเลิกรักคุณได้ ฉันอยู่เมืองนอกนานขนาดนี้ฉันยังไม่สามารถลืมคุณได้ คุณจะให้ฉันทำยังไง? ฉันไม่สามารถรักคนอื่นได้แล้วยังไม่มีสิทธิ์มาขออะไรคุณ ฉันรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยกว่าตอนที่ร่างกายฉันแข็งแรงเสียอีก” “เธอพักรักษาตัวเถอะ อย่าคิดมาก” “ไม่” น้ำตาของเวินอันเหยียนไหลลงมา มือผอมแห้งนั้นกุมมือเห้ออี้ลั่วอย่างสั่นๆ มือของเห้ออี้ลั่วแข็งค้างแต่ก็ไม่ได้ดึงออกมา เวินอันเหยียนกุมมือเห้ออี้ลั่วไว้ข้างหูแล้วลูบอย่างแผ่วเบา จากนั้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงติดสะอื้น “ฉันอยากแต่งงานกับคุณเหลือเกิน” “แต่ฉันจะแต่งงานพรุ่งนี้แล้ว” วินาทีนั้นน้ำตาของเวินอันเหยียนก็ไหลลงมาเป็นสายราวกับสายฝนแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “อี้ลั่ว ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งได้ไหม? ฉันจะพักรักษาตัวให้ดีและจะดูแลเสี่ยวเป่าเป็นอย่างดีเหมือนกับเป็นลูกแท้ๆของฉันเอง ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 32 มือที่สามในตำนาน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A