บทที่ 112: ป๋า ตรงนั้นมีคนบาดเจ็บ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 112: ป๋า ตรงนั้นมีคนบาดเจ็บ
บ๗ที่ 112: ป๋า ตรงนั้นมีคนบาดเจ็บ เฉียวเมิ่งเย่วได้ยินที่เธอพูดแล้วรู้สึกขนลุกซู่ มีความรู้สึกหลอนอย่างบอกไม่ถูก “คุณพูดจริงหรือ” “ฉันจริงจริงขนาดนี้ดูเหมือนกำลังล้อเล่นหรอ คุณลองคิดดูนะ คนที่สามารถปลอมแปลง เลียนแบบเบอร์โทรของแผนกพยาบาลประจำการชั้น 3 แถมใช้เสียงที่แยกแยะเพศไม่ออกแจ้งความ และยังตุกติกบนศพของเฉินหลิ่วเฟยอีก ซึ่งเรื่องพวกนี้จะว่าง่ายก็ง่าย ว่ายากก็ยาก แต่ในส่วนที่ว่าพวกเขาตุกติกบนศพของเฉินหลิ่วเฟยมากน้อยแค่ไหน ตอนนี้ยังไม่แน่นอน และสถานที่เกิดเหตุความตายของเฉินหลิ่วเฟยใช่ห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาลหรือไม่ก็ต้องรอตรวจสอบเพิ่มเติม ฉันตรวจเจอดินเหนียวใต้เท้าจองเขา ซึ่งดินแบบนั้นไม่ใช่โซนเขียวที่โรงพยาบาลมี มันมีกร่อนระดับหนึ่ง” เฉียวเมิ่งเย่วยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ “คุณหมายความว่าก่อนที่เฉินหลิ่วเฟยตายเขาเคยออกไปงั้นหรือ แต่ว่าพยาบาลกับกล้องวงจรไม่เห็นว่าเขาเคยออกไปไหนนะ” “ถ้าสมมุติว่าคนที่คุณเห็นเป็นเฉินหลิ่วเฟยตัวจริงหละ” เฉียวเมิ่งเย่วส่ายหัว “ข้อสมมุติฐานนี้เกิดขึ้นไม่ได้ อย่างแรก ฉันมั่นใจว่าผู้ตายเป็นคนที่พักอยู่ในโรงพยาบาลนาน 4 กว่าเดือน สองคือ เขาจะเป็นเฉินหลิ่วเฟยหรือชื่ออื่นมีความเกี่ยวข้องกับฉันไม่มาก เพราะจริงๆ แล้วฉันแค่รับผิดชอบต่อคนไข้ของฉัน ฉันมั่นใจว่าคนไข้คนนั้นตายแล้ว แต่สาเหตุในการตายของเขายังมีข้อสงสัยอยู่ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ฉันควรจะสนใจมากกว่า ส่วนคนที่ฉันเห็นว่าเหมือนผู้ตายเป็นใคร ต้องการทำอะไรก็แลดูไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่นัก” “ถือว่ายังดี ความคิดของคุณยังเคลียร์ ตอนนี้มั่นใจได้แค่ผู้ตายเป็นคนไข้ของคุณ ข้อมูลทางร่างกายต่างๆ ล้วนแสดงให้เห็นถึงหลักฐาน แต่การตายของเขายังต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ส่วนการตายจริงๆ ของเขาคืออะไร จะมีผลกระทบกับคุณยังไงนั่นต่างหากเป็นสิ่งที่คุณต้องกังวล” “จากประสบการณ์ที่คุณสืบคดีมานาน คุณคิดว่าจะมีความเป็นไปได้แบบไหน?” “ความเป็นไปได้หนะเยอะแยะ ง่ายๆ หยาบๆ ก็มีคนหมั่นใส้คุณ อยากหาเรื่องให้คุณ แต่ถ้าเป็นขั้นสูงหน่อยก็เยอะหละ ความแค้นใจส่วนตัว เรื่องงานมีหมด คงจะมีสักแบบที่เหมาะกับคุณ” เฉียวเมิ่งเย่วมุมปากกระตุก “ขอบคุณสำหรับการวิเคราะห์อย่างง่ายๆ หยาบๆ ของคุณเฉิงนะคะ” “ไม่เป็นไรจ่ะ” เฉิงเจียงเสี่ยมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง “เวลาไม่เช้าแล้ว ควรจะเริ่มลงมือแล้วหละ ถ้าคุณมีเวลาก็ลองคิดดูช่วงเวลาที่คุณอยู่กับเฉินหลิ่วเฟย ดูว่าจะมีเบาะแสใหม่หรือไม่ ส่วนเรื่องของคนที่เหมือนเฉินหลิ่วเฟย เวยฉั่ยเจีย และโรงเรียนของเฉินหลิ่วเฟยอะไรพวกนี้เดี๋ยวฉันกับคุณจางจะจัดการเอง มีความคืบหน้าอย่างไรฉันจะแจ้งให้คุณทราบโดยเร็ว” “ขอบคุณค่ะ” “ไม่ต้องขอบคุณหรอก หลายปีที่ผ่านมานอกจากฉันมองตัวเองกับแม่จะสบายตาแล้ว คุณเป็นผู้หญิงคนที่ 3 ที่ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจ ไม่ได้เพื่อคุณนะ แต่เพื่อตัวฉันเองก็เลยต้องมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” เฉียวเมิ่งเย่วแสดงรอยยิ้มอย่างผ่อนคลายแล้วอดพูดไม่ได้ “คุณเฉิงคะ การที่คุณพูดจาแบบนี้ไม่เคยโดนใครตบบ้างหรอ” “จะตบก็ต้องคิดดูก่อนว่าจะสามารถรับผลกระทบได้หรือเปล่า ฝีมือในการตบคนของฉันก็ไม่แย่ ต่อยผู้ชายสักสองสามคนคว่ำก็ไม่ใช่ปัญหา อีกอย่างฉันมักจะพกบอดี้การ์ดไว้ข้างๆ ไม่กลัวใครมาจู่โจมหรอก” “เก๋าจริงๆ เลยนะคุณ” “ฉันจะถือว่าคุณชมฉันละกัน โอเค ไปกันเถอะ” เฉียวเมิ่งเย่วมองไปที่ท่าทางและคำพูดของเฉิงเจียงเสี่ย มีความรู้สึกว่าเหมือนกำลังส่องกระจกอยู่ยังไงอย่างงั้น เฉิงเจียงเสี่ยเห็นว่าเฉียวเมิ่งเย่วกำลังมองมาที่ตัวเอง เลยขยิบตาใส่เธอไป “ชอบฉันหรอจ๊ะ แต่ว่าฉันมีเจ้าของแล้วหนะสิ ไม่ค่อยสนใจเลสเท่าไหร่” เฉียวเมิ่งเย่ว:“……” เฉิงเจียงเสี่ยหัวเราะขึ้นดังแล้วเดินจากไป ** หลังจากที่เฉียวเมิ่งเย่วได้คุยกับเฉิงเจียงเสี่ยแล้ว พอมีคำตอบบางอย่างในใจ เลยไม่ได้กังวลกับคดีนั้นอีก หลังจากเธอทำงานเสร็จ ไม่ค่อยได้มีโอกาสสบายๆ เท่าไหร่ พอตอนนี้ว่างขึ้นมา เธอเองก็รู้สึกดีเหมือนกัน สองสามวันที่ผ่านมา เธอได้ทำการศึกษาด้านงานวิจัยเชิงทางการเป็นหลัก เธอกลับไปอ่านหนังสือทฤษฎีที่เธอตกหล่นเมื่อก่อนหน้านั้นอีกครั้ง แต่สุดท้ายไม่มีอะไรทำจริงๆ เธอเลยไปหาอาจารย์หลินเพื่อทำการทดสอบให้เขา อารมณ์ดีจนเพื่อนร่วมงานไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ ขี้เกียจจะไปปลอบใจเธอด้วยซ้ำ ช่วงนี้เห้ออี้ลั่วมารับส่งเธอทำงานแทบจะทุกวัน บางครั้งยังไปส่งเธอถึงออฟฟิศด้วย การกระทำเอาใจใส่แบบนี้ แน่นอนว่าช่วงนี้ได้สร้างความมั่นใจให้กับเฉียวเมิ่งเย่ว ความหมายเบื้องหลังของเห้ออี้ลั่วล้วนแตกต่างจากการรับส่งภรรยาทำงานแบบคนทั่วไป ต่อให้เขาไม่มาเอง เห้อเจียหมิงและหลิ้นหรุ่ยจะแทนเขาอยู่ดี จุดยืนของพวกเขาทำให้คนอื่นเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ข้างหลังของเฉียวเมิ่งเย่วมีตระกูลเห้อทั้งบ้านค้ำเธอไว้ เธอเป็นที่รักในตระกูลเห้อ ไม่เพียงแต่สามีเธอดูแลรักษาเธอเป็นอย่างดี ขนาดพ่อตาแม่ยายก็เอ็นดูเธอเป็นอย่างยิ่ง นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ต่อให้ไม่มีคนไข้มาให้เธอรักษาเท่าไหร่ แต่ว่าผู้ร่วมงานและเจ้าหน้าที่การแพทย์ในโรงพยาบาลคนอื่นๆ ก็ไม่เบียดเบียนเธอ เฉียวเมิ่งเย่วรู้สึกขอบคุณกับสิ่งนี้มาก และนั่นทำให้เธอยิ่งใส่ใจกับงานในมือของตัวเอง หลินจื้อมองดูเวลาแล้วพูดขึ้น “เธอเลิกงานได้แล้วหละ พ่อตาแม่ยายกับสามีเธอน่าจะมารับเธอแล้ว” “อาจารย์ไปเลียนแบบเลอะเทอะแบบหัวหน้าตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย เมื่อก่อนอาจารย์ไม่มาสายนี้นะคะ” “อยู่กับเธอนานเข้าก็เรียนรู้ตามธรรมชาติไปนั่นแหละ” เฉียวเมิ่งเย่วหัวเราะหึหึไปสองที “เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องพวกนี้ในมือเสร็จแล้วจะลงไปค่ะ” “อื้ม” หลังจากเฉียวเมิ่งเย่วจัดการเรื่องในแล็บของอาจารย์หลินเสร็จก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว เมื่อเธอกลับมาในออฟฟิศ ได้เจอกับเห้ออี้ลั่วอย่างไม่แปลกใจ “ป๋าขึ้นมาทำไมเหรอจ๊ะ” “ผมโทรหาคุณข้างล่างแล้วโทรไม่ติด ก็เลยขึ้นมารอ” “ขอโทษที ฉันไปช่วยที่อาจารย์หลิน ไม่ได้พกมือถือไป คุณไม่ได้รอนานใช่ไหม?” “ผมเพิ่งจะขึ้นมา 5 นาทีได้ คุณไปเปลี่ยนเสื้อ เดี๋ยววันนี้ผมจะพาคุณไปที่หนึ่ง” “หืม นี่เป็นจังหวะในการเซอร์ไพรส์ใช่ไหมนี่” “เดี๋ยวถึงแล้วคุณจะรู้เอง” “พูดซะฉันตื่นเต้นเลยนะ” เฉียวเมิ่งเย่วกระโดดไปข้างๆ แล้วถอดเสื้อกาวน์ออก ** หลังจากขึ้นรถ เฉียวเมิ่งเย่วมองดูเส้นทางแล้ว เพิ่งจะสังเกตได้ว่านี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านจริงๆ ตอนนี้เป็นช่วงเดือนเมษา-พฤษภา อากาศเทาๆ หม่นๆ ฝนตกค่อนข้างจะบ่อยพอสมควร คนและรถที่สันจรไปมาล้วนดูรีบด่วนกันมาก สภาพอากาศแบบนี้ทัศนวิสัยค่อนข้างจะแย่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นบ่อย เฉียวเมิ่งเย่วเพิ่งจะมีความคิดแบบนี้ก็ได้ชำเลืองไปเห็นคนล้อมกันเป็นกลุ่มในที่ไม่ไกล ชี้ไปชี้มากับอะไรบางอย่างอยู่ เฉียวเมิ่งเย่วเห็นแบบนี้แล้วรีบลดกระจกรถลงมา เหมือนได้ยินมีคนพูดว่าเรียกรถพยาบาล เธอตั้งใจฟังดีๆ แล้วมั่นใจว่าไม่ผิด เฉียวเมิ่งเย่วหันไปบอกเห้ออี้ลั่วว่า “ป๋า คุณจอดรถข้างๆ ก่อน ตรงนั้นมีคนบาดเจ็บ ฉันจะลงไปดูหน่อย” เห้ออี้ลั่วดูรถข้างหน้าข้างหลังเสร็จ ก็ได้ขับรถมาจอดที่เลนส์จอดรถฉุกเฉิน เฉียวเมิ่งเย่วรีบถือกระเป๋าตัวเองแล้ววิ่งเข้าไปกลางฝน วิ่งไปด้วยตะโกนไปด้วย “ขอโทษค่ะ ขอทางหน่อยนะคะ ฉันเป็นหมอค่ะ ทุกคนหลีกทางหน่อยนะคะ” ทุกคนได้ยินเสียงเธอแล้ว ต่างหลีกทางให้เธอกันหมด ทำให้เฉียวเมิ่งเย่วเพิ่งจะเห็นสภาพของผู้บาดเจ็บได้อย่างชัดเจน คนที่นอนอยู่บนพื้นเป็นชายวัยกลางคนอายุราว 40 กว่า ส่วนท้องและศีรษะมีการบาดเจ็บในระดับที่แตกต่างกัน เลือดได้ซึมเข้าเสื้อของเขาไปทั่วจนรามมาถึงผิวพื้น บวกกับฝนยังคงตกไม่หยุด บนพื้นนั้นเปียกโชกอยู่แล้ว ทำให้เลือดบนพื้นโดนน้ำซัดไปไกลมาก มองดูแล้วช่างสะเทือนใจเหลือเกิน…. 
已经是最新一章了
加载中