บทที่14 ข้อกำหนดเพิ่มเติม   1/    
已经是第一章了
บทที่14 ข้อกำหนดเพิ่มเติม
บ๗ที่14 ข้อกำหนดเพิ่มเติม การเคลื่อนไหวอย่างที่ไม่อาจจะคาดเดาได้เท่าเอาไป๋เสว่เอ๋อร์ตกใจเล็กน้อย เธอเงยหน้าเหลือบมองใบหน้าที่เคร่งขรึมแสนเย็นชานั่นที่อยู่ใกล้นี่ ก่อนจะรับรู้ถึงอาการตื่นตระหนกของตัวเอง... ผู้ชายคนนี้ช่างเก่งที่ทำให้คนอื่นสับสนเสียจริง เผยลี่เชินดูออกว่าอีกคนจมเข้าไปในความคิดตัวเอง มือหนาช้อนคางอีกคนขึ้น บีบหน่อยๆเรียกสติ “เหม่อไปถึงไหน?” ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบเรียกสติให้กลับมา ดวงตาสั่นไหวแต่ก็แสร้งทำเป็นสงบ “ต่อให้ฉันจะฉลาดกว่านี้ก็ไร้ประโยชน์ เรื่องบางเรื่องความฉลาดก็เอามาตัดสินอะไรไม่ได้” อย่างวิกฤตการณ์ทุกวันนี้ของเผยซื่อ เธอต้องเงิน และก็ไม่ใช่แค่ก้อนเล็กๆด้วย เผยลี่เชินปล่อยหญิงสาวในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ เขาเลิกคิ้วก่อนจะเดินไปที่โต๊ะกินข้าวแล้วนั่งลง “ไป๋เสว่เอ๋อร์ หรือว่าเรามาทำข้อตกลงกันหน่อยเป็นไง” ไป๋เสว่เอ๋อร์เงียบอยู่ครู่นึง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเต็มและเดินตามไปนั่งลงตรงข้ามอีกฝ่าย “ข้อตกลงอะไร?” ตอนนี้สถานภาพของเธอไม่สามารถที่จะปฏิเสธอะไร เพราะตอนนี้ถ้าเพียงแค่สิ่งที่เผยลี่เชินต้องการ เป็นสิ่งที่เธอมี และสิ่งที่เธอจะทำมีเขาช่วย ก็ไม่มีข้อตกลงไหนที่เธอจะปฏิเสธ หรือจะเรียกว่าได้ประโยชน์ทั้งคู่ก็ได้ “ครั้งที่แล้วเธอเคยบอกฉัน ถ้ามันเป็นเรื่องที่ฉันพอจะช่วยเผยซื่อได้ เธอก็ยินดีจะมอบตัวเธอให้ฉัน แต่ฉันก็เคยบอกว่าตัวเธอไม่สมกับที่จะแลกเพื่อไป๋ซื่อในราคาร้อยห้าสิบล้าน” มือทั้งสองของไป๋เสว่เอ๋อร์บิดกันมาแน่น หน้าเริ่มรู้สึกร้อน การตั้งค่าเธอเป็นราคามันเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอ แต่ว่าตอนนี้ เธอก็ไม่มีศักดิ์ศรีอะไรแล้วเหมือนกัน ตอนนี้เธอก็หน้าด้านหน้าทนพออยู่แล้ว จะให้มีเรื่องต้องอับอายอีกเธอก็ไม่กลัว ไป๋เสว่เอ๋อร์หัวเราะออกมา ราวกับกำลังคุยเรื่องธุรกิจอย่างสนุก “แล้วยังไงต่อ? ประธานเผยคิดว่า เงินก้อนนั้นจะต้องตอบแทนด้วยอะไรถึงจะพอ?” เผยลี่เชินมองดูใบหน้าที่กำลังหัวเราะของอีกคน ซึ่งในความจริงการตอบสนองน่าจะเป็นอีกนัยน์นึงเสียมากกว่า แต่ก็กลับทให้รู้สึกถึงเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นเริ่มน่าสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว “ตอนนี้คนอื่นไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับไป๋ซื่อ แต่เธอน่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าไป๋ซื่อก็เหมือนเปลือกหอยที่ว่างเปล่า ถ้าฉันเอาเงินเข้าไปลงมันก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาตะกร้าสานไม้ไผ่ไปตักน้ำ เพราะฉะนั้นมันไม่จำเป็นที่จะต้องรักษาไว้” ทันทีที่ได้ยิน หน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เปลี่ยนสีแทบจะทันที ไป๋ซื่อเป็นสิ่งที่พ่อของเธอลงทุนลงแรงมา ถ้าเพียงแค่บอกให้ทิ้งแล้วทิ้งเลยนั้น เธอจะเผชิญหน้ากับพ่อเธอได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นถ้าไม่มีไป๋ซื่อแล้ว ทั้งครอบครัวและเธอจะทำยังไง? เมื่อเห็นความช้าในการตอบคำถามของไป๋เสว่เอ๋อร์ ก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังคิดวิธีอะไรอยู่ในใจ เขายืดตัวขึ้นก่อนจะเอนตัวลงไปพิงกับพนักเก้าอี้ข้างหลัง ก่อนจะเอ่ยต่อ “ก็ถ้าเธอตกลง ฉันก็จะเอาเงินก้อนนั้นให้ทันที ช่วยให้เธอจัดการกับคฤหาสน์ของเป๋ยซื่อก่อน แต่เรื่องของคดีทางนั้น ฉันจะหาวิธีจัดการ อาจจะไปกระชับความสัมพันธ์ ให้พวกข้างบนนั้นจัดการกับพ่อคุณ ถ้าคุณคิดว่าแผนนี้มันเวิร์คก็เป็นอันว่าข้อตกลงเราสำเร็จ” ไป๋เสว่เอ๋อร์เสียสติไปพักนึง เผยลี่เชินพูดแบบนี้ ก็น่าจะมั่นใจได้ว่าเขาจะสามารถมากพอให้สำเร็จ แต่จะให้เธอหันหลังให้กับไป๋ซื่อ มันก็ช่างน่าละอายใจต่อพ่อกับแม่ของเธอจริงๆ แต่ว่าถ้าไม่ได้เงินกู้นี่ บ้านเธอก็จะไม่เหลือ ทีนี้เธอกับแม่ได้ไปนอนกลางถนนแล้วจริงๆแน่ และยังพ่อของเธออีก ตั้งแต่ที่ไป๋ซื่อเกิดปัญหา ทั้งเพื่อนสนิท รวมไปถึงเพื่อนเก่าทุกคนตีออกห่างตระกูลไป๋ ตัดความสัมพันธ์และทิ้งพ่อของเธอไว้อย่างโดดเดี่ยว... ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดปากตัวเองแน่น ในใจวัดข้อดีข้อเสียจนตัดสินใจได้แล้ว แต่กลับพูดสิ่งที่ตัดสินออกมาไม่ออก “ขอเวลาฉันแป๊ปนึง ฉันขอคิดดูสักนิด” ไป๋เสว่เอ๋อร์ว่าจบก็พาร่างกายขึ้นไปยังชั้นสอง เผยลี่เชินไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร เพราะเขามั่นใจมากพอว่าไป๋เสว่เอ๋อร์จะเลือกอะไร ท้ายที่สุด นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครช่วยเธอได้ รอเธอเห็นด้วย จะช้าหรือเร็วก็ไม่ใช่ปัญหา ไป๋เสว่อเอ๋อร์ขังตัวเองไว้ในห้องนอน ผ่านไปประมาณกว่าหนึ่งชั่วโมง สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจได้ จริงๆแล้วเผยลี่เชินเข้าใจดีพอที่จะเห็นปัญหาทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน การหันหลังให้ไป๋ซื่อนั้นจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเธอ ทันทีที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ตัดสินใจจะเดินออกไปคุยกับเผยลี่เชินให้รู้เรื่อง ก็หันไปเห็นเสื้อผ้าชุดใหม่ที่วางไว้บนโต๊ะในห้องนอน เพราะเมื่อคืนก่อนเสื้อผ้าเธอถูกฉีกขาด เสื้อผ้านี้ก็น่าจะเป็นชุดใหม่ที่เผยลี่เชินให้คนส่งมา เธอถอดเสื้อเชิ๊ตตัวยาวของอีกคนบนตัวเธอออก เปลี่ยนเป็นชุดของชาแนลสีเบจ ตั้งแต่ชั้นในยันชั้นนอกเป็นตัวใหม่ทั้งหมด รวมไปถึงชุดชั้นในก็ไซส์พอดีตัวเธอเป๊ะ ไป๋เสว่เอ๋อร์อดจะคิดดีไม่ได้ เผยลี่เชินมีผู้หญิงทั้งหมดกี่คน ถึงจะสามารถคุ้นเคยกับขนาดของผู้หญิง และเดาได้แม่นยำขนาดนี้กัน? เธอออกมาจากห้องนอน เดินไปดูที่ห้องรับแขกก็ไม่เห็นร่างของเผยลี่เชิน เลยต้องถามคนรับใช้ ถึงได้รู้ว่าเขาอยู่ที่ห้องสมุด ไป๋เสว่อเอ๋อร์จ้องถาดในมือของคนรับใช้ มันเป็นชาที่พึ่งชงมาใหม่ๆ เธอเลยถามขึ้น “เอาไปให้ประธานเผยใช่ไหม?” “ใช่ค่ะ” “เอามาให้ฉัน ฉันกำลังมาหาเขาอยู่พอดี” ไป๋เสว่อเอ๋อร์หยิบถาดมาถือไว้เมื่อสาวใช้ชี้ทางให้ตรงไปยังชั้นสอง เดินมาถึงหน้าห้องสมุด เธอยกมือขึ้นมาเคาะประตู เมื่อได้ยินเสียงอีกคนตอบกลับมาก็ถึงจะเปิดประตูเข้าไป เผยลี่เชินกำลังพลิกดูเอกสาร หญิงสาวค่อยๆเดินไปที่ด้านหน้าโต๊ะ ค่อยๆวางถาดที่มีน้ำอยู่ที่มุมโต๊ะ หลังจากนั้นเธอก็หยิบถ้วยชามาเทชา และวางมันลงไปข้างมือของอีกคน เมื่อเห็นว่ามันมีอะไรไม่ถูกต้องเผยลี่เชินจึงเงยหน้าขึ้นมา ทันทีที่เห็นไป๋เสว่อเอ๋อร์ มองดูทุกการเคลื่อนไหวของเธอ ก็ทำเอาเขายกคิ้วขึ้นมา “คิดออกแล้วเหรอ?” ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ได้ตอบกลับไปในทันที กลับกันเธอดันถ้วยชาไปยังด้านหน้าของอีกคน ก่อนเสียงนุ่มจะเอ่ยขึ้น “ประธานเผย ดื่มชาก่อน” เผยลี่เชินมองเธออย่างสนใจ “ไป๋เสว่เอ๋อร์ คุณไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมาทำอะไรแบบนี้ มีอะไรก็พูดมาเถอะ” เธออุตส่าห์เทชาให้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนเรื่องทำข้อตกลงจะแกร่งกว่าเขาเสียอีก ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มขำ “แน่นอนว่าไม่มีอะไรสามารถซ่อนได้จากประธานเผย ฉันตกลงข้อตกลงนั่น แต่ว่าฉันมีข้อกำหนดเพิ่มเติม” “ว่ามาสิ” “ฉันหวังว่าประธานเผยจะพอมีงานให้ฉันทำสักที่ ให้ฉันได้ไปตั้งตัวตั้งหลักในเผยซื่อ อย่างน้อยมันก็จะทำให้ฉันใช้ชีวิตธรรมดากับแม่ของฉันได้” เผยลี่เชินเอื้อมมือไปคว้าชามาจิบอย่างไม่พูดอะไร จริงๆแล้วเขาคิดไว้แล้วให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ทำงานที่นั่น แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะเสนอตัวเธอเอง “ได้ จัดการเรื่องของไป๋ซื่อเสร็จ ก็มารายงานที่บริษัท ฉันจะให้คนจัดการงานของเธอให้” ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่คิดว่าเผยลี่เชินจะเห็นด้วยอย่างง่ายดาย เธอยิ้มให้ชายคนนั้น และกล่าวเอ่ยขอบคุณออกมา “ขอบคุณค่ะท่านประธาน” ทันทีที่ชายหนุ่มได้ยินอีกคนเรียกตัวเองแบบนั้นก็อดจะตาเป็นประกายไม่ได้ “งั้นถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันขอตัว” ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดขึ้นก่อนจะหันเตรียมก้าวเท้าออกไป “อย่าขยับ” เสียงของเขาทำเอาเธอชะงักแทบจะในทันที เธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับเผยลี่เชิน เมื่อเห็นสีหน้าไม่ค่อยดีนักของอีกคนก็ทำให้ใจมันสั่นแปลกๆ “ประธานเผย...” เผยลี่เชินลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวไป๋เสว่เอ๋อ ดวงตาจ้องเธออย่างลึกซึ้ง “ทีหลัง นอกจากในที่บริษัท เวลาอื่นไม่ต้องมาเรียกว่าฉันว่าประธานเผย” หญิงสาวตะลึงไปกว่าครึ่งวินาที “งั้น จะให้ฉันเรียกคุณว่าอะไร?” เผยลี่เชินหยุดไปสักครู่นึง ก่อนจะหันตัวกลับและทิ้งประโยคไว้ “ก็แล้วแต่คุณจะเรียก”
已经是最新一章了
加载中