บทที่15 ประกาศล้มละลาย
1/
บทที่15 ประกาศล้มละลาย
สัญญาร้ายของประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
บทที่15 ประกาศล้มละลาย
บ๗ที่15 ประกาศล้มละลาย แล้วแต่เธอจะเรียก? แล้วเธอจะรู้ได้ไงว่าเรียกยังไงเขาถึงจะพอใจ? ลี่เชิน? โจวโจว? ชื่อเรียกแต่ละชื่อผุดออกมาจากสมองของไป๋เสว่เอ๋อร์ ทำเอาเธอรู้สึกนึกรังเกียจ ช่างมันๆ ก็เรียกชื่อปกติก็พอแล้วนั่นล่ะ …… จากบ้านเผยลี่เชินจนกลับมาถึงบ้าน ไป๋เสว่เอ๋อร์ถอดรองเท้าเปลี่ยนที่หน้าประตูบ้าน ก่อนจะมองไปทั่วแต่ก็ไม่มีแต่เงาคุณแม่ไป๋ของเธอ วันนี้เธอตกลงทำข้อตกลงกับเผยลี่เชิน ซึ่งก็คือต้องยอมปล่อยไป๋ซื่อ การตัดสินใจครั้งนี้ แน่นอนว่าเธอจะต้องบอกแม่ของเธอมันถึงจะสมบูรณ์ ส่วนพ่อของเธอนั้น ก็ต้องค่อยๆว่ากันต่อไปทีละขั้นตอน ท้ายที่สุดเมื่อจะต้องเลือกการเอาชีวิตรอด กับเรื่องที่ต้องเผชิญของไป๋ซื่อ แน่นอนว่าเธอจะต้องเลือกรีบจัดการกับความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานของเธอก่อน “แม่คะ?” ไป๋เสว่อเอ๋อร์เดินขึ้นบันไดไปด้วย เรียกไปด้วย วนไปรอบก็ยังไม่เจอร่างของอีกคน สุดท้ายเธอก็เลยเดินลงไปข้างล่าง เข้าห้องครัวอย่างคิดที่จะทำอะไรกินดีแทน แม่ของเธอเคยใช้ชีวิตที่มีเกียรติมั่งคั่งและร่ำรวยมาก่อน แต่ก่อนจะคอยมีแต่คนรับใช้มาคอยดูแลจะทำอะไรก็ไม่แม้แต่จะต้องลงมือทำด้วยตนเอง แต่ตอนนี้ตระกูลไป๋ล้มละลาย คนรับใช้ก็ออกไปกันหมด แม่ของเธอก็เลยเริ่มที่จะลองเข้าครัว แต่สิ่งที่เธอพอจะพยายามทำได้บ้างกลับไม่ใช่การต้มเส้นก๋วยเตี๋ยว แต่กลับข้าวต้มเปล่าๆแค่นั้นเอง แต่สำหรับไป๋เสว่เอ๋อร์ เธอชำนาญในเรื่องเปียโน, การเขียนอักษร, และการวาดภาพ จริงๆแล้วก็ไม่เคยเข้าครัวมาก่อน แต่ตอนนี้สถานการณ์นั้นบังคับให้เธอต้องทำมัน เธอคงต้องยอมรับว่าแม้ว่าจะไม่รู้อะไรแต่ก็ยังหัวรั้นทำมัน ในขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังติดตามการสอนเกี่ยวกับการทำไข่กวนบนโทรศัพท์มือถือของเธอ ทั้งมือก็พยายามตอกไข่อยู่ ไม่ทันที่เธอจะได้เปิดเตา เสียงก็ดังมาจากข้างนอก เธอวางมือในสิ่งที่ทำอยู่ก่อนจะออกไปและมองเห็นแม่ของเธอที่กลับออกมาจากข้างนอก “แม่ออกไปไหนมาคะ?” คุณแม่ไป๋มองเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์เดินออกมาจากห้องครัวก็อดจะแปลกใจไม่ได้ ก่อนจะตอบกลับไป “ม แม่... แม่ไปติดต่อกับพวกเพื่อนเก่าของแม่หลายๆคน ไปลองดูว่าพวกเขาพอจะช่วยบริษัทของเราได้บ้างไหม” เพื่อน? เท่าที่ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้ เพื่อนๆของไป๋ซื่อ ทันทีที่เราตกชะตากรรมลำบากพวกเขาก็เปลี่ยนหน้าเร็วเสียยิ่งกว่าเปลี่ยนหน้าหนังสือ ไม่มีใครที่จะให้ความช่วยเหลือได้สักคน หญิงสาวสูดลมหายใจตั้งสติ ก่อนจะเดินเข้าไปหา เอื้อมมือจับมือผู้เป็นแม่ก่อนจะบีบมันเบาๆ “แม่คะ หนูมีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกแม่” เมื่อคนเป็นแม่เห็นสีหน้าลูกสาวเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด สีหน้าก็เปลี่ยนมาเป็นจริงจัง “เสว่เอ๋อร์ ลูกบอกแม่มาตรงๆว่าลูกหาคนมาช่วยพวกเราได้แล้วหรือไม่?” “แม่คะ หนูพูดตามตรงเลยนะ ไป๋ซื่อตอนนี้มันพังไปแล้ว นอกจากเหลือแต่เพียงชื่อ ที่เหลือก็ไม่มีอะไร...” “ลูกกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร?” ทันใดนั้นสีหน้าของคุณแม่ไป๋ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง “ลูกก็ไปหลงเชื่อข่าวลือที่ข้างนอกเขาพูดกันใช่ไหม! อะไรพัง! บริษัทยิ่งใหญ่จะตายอยู่ๆจะมาพูดว่ามันเหลือแต่ชื่อ ทุกอย่างพังไปแล้วปล่อยให้พังอย่างที่ว่างั้นเหรอ!” ใบหน้าคนโตกว่าเปลี่ยนแทบจะทันที ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เธอหายใจเข้าลึกๆก่อนจะอธิบายอย่างอดกลั้น “แม่คะ ฟังหนูก่อน ตอนนี้ทางธนาคารกำลังเร่งพวกเรา ถ้าเรายังไม่มีอะไรไปคืนเขาบ้านเราก็จะถูกยึด และถ้าเรารอจนถึงตอนนั้นเราก็ไม่มีอะไรเหลืออีกต่อไปแล้ว!” “ยังมีพ่อไง ตอนนี้พ่อจะเป็นยังไงบ้างก็ยังไม่รู้ เรายังต้องใช้เงินเพื่อไปช่วยเขา ถ้าไป๋ซื่อพังพินาศ เราก็จะยิ่งพังเข้าไปอีก!” ยิ่งคุณแม่ไป๋ได้ยินว่าบ้านจะถูกยึดไปขาย ยิ่งทำให้สติแตกมากกว่าเดิม “แล้วเราจะทำยังไง เสว่เอ๋อร์ บ้านนี้ไม่สามารถไม่มีมันได้แล้ว ไม่งั้นเราจะไปซุกหัวนอนที่ไหน!” “แม่คะ อยู่ในป่ายังไงก็ไม่กลัวว่าไม่มีฟืน ตอนนี้เราทำได้แค่ประกาศเรื่องบริษัทล้มละลาย แล้วเลิกกิจการซะ หลังจากนั้นเราก็มาหางานทำกัน เพื่อรักษาชีวิตเราเอง” หน้าตาคนเป็นแม่ไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วเธอก็ทำได้แค่ถอนหายใจ “เฮ้อ ตอนนี้ก็คงทำได้แค่นี้ ไม่มีทางอื่นให้เลือกแล้วล่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์จ้องมองสภาพแตกสลายของแม่ของเธอ ในใจเธอรู้สึกละอายใจไม่น้อย เธอซบใบหน้าลงที่ไหล่ของคนเป็นแม่ก่อนจะกระซิบเสียงเบา “แม่คะ วางใจเถอะนะ หนูจะพยายามเพื่อที่แม่จะอยู่อย่างสุขสบาย...” ตอนนี้เธอเองก็ไม่มีทางเลือก เธอเคยอยู่จุดสูง ซ้ำยังเป็นคนมีชื่อเสียงคนหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้เธอก็ไม่สามารถขายตนเองเพื่อที่จะเอาชีวิตรอด หลังจากได้รับการยื่นขอล้มละลายจากศาล ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงเข้าบริษัทและทำตามกระบวนการ แต่ว่าข่าวลือเรื่องล้มละลายกลับกระฉ่อนไปทั่วอยู่แล้ว พนักงานกำลังจะสูญเสียงานของพวกเขาและพวกเขาเริ่มไม่พอใจแล้วเมื่อตอนนี้มีข่าวลือว่าทรัพย์สินของบริษัทไม่เพียงพอที่จะจ่ายเงินชดเชยและมันก็ยิ่งทำให้พวกเขาปั่นป่วน ทันทีที่ไป๋เสว่อเอ๋อร์เดินเข้ามาก็ได้ยินหลายๆคนคุยเรื่องนี้ ถึงขั้นที่กล้าที่จะคุยเรื่องนี้กันต่อหน้าเธอ หญิงสาวจัดการติดต่อแผนกการเงินของบริษัท ก่อนจะรีบเปิดประชุมอย่างเร่งด่วน การประชุมพึ่งเริ่มไปได้แค่ครึ่งทาง ด้านนอกก็ส่งเสียงวุ่นวายขึ้น ไป๋เสว่เอ๋อร์เหลือสายตามองไปยังเลขาข้างตัว ก่อนจะออกคำสั่ง “ส้ง ออกไปดูซิว่าเกิดอะไรขึ้น” “รับทราบค่ะ” เลขาจัดการลุกขึ้นหันตัวเดินออกไปจากห้องประชุม ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมองไปยังหัวหน้าของแผนกการเงินที่กำลังรายงานสถานการณ์ทางการเงินของบริษัท ก่อนจะบอกให้เขาพูดต่อ หลังจากต้องมานั่งฟังคำพูดและข้อมูลที่เป็นมืออาชีพมากมาย ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เริ่มที่จะปวดหัว หญิงสาวยกมือขึ้นขมวดคิ้วมุ่น “ผู้จัดการอู๋ นอกจากค่าใช้จ่ายพวกนั้นคุณช่วยพูดถึงเรื่องเงินสำรองที่เหลือจะเพียงพอสำหรับการจ่ายเงินชดเชยของพนักงานที่เหลืออยู่ได้ไหม?” ผู้จัการอู๋ดูลังเล แต่นั่นมันก็ยากที่จะซ่อน “ถ้าหากรวมพนักงานประจำและพนักงานระยะสั้นทุกคนพนักงานประจำแต่ละแผนกและผู้จัดการของแผนกต่างๆเงินทุนที่เรามีอยู่ในปัจจุบันนั้นไม่เพียงพอ ... "” ยังไม่ทันที่ผู้จัดการอู๋จะว่าจบ เสียงด้านนอกดังขึ้นดังขึ้นและประตูก็เปิด "ปัง" ขึ้นมา เลขาส้งรีบเปิดประตูวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก แล้วรีบผลักประตูล็อค ว่าเอ่ยขึ้น "ไม่ดีแล้วประธานไป๋! พนักงานข้างนอกโวยวายใหญ่แล้ว! " “อะไรนะ?” ไป๋เสว่เอ๋อร์สั่นขึ้นมาทันที หลังหญิงสาวเหยียดตรง ก่อนจะรีบผลุดลุกขึ้น “ทำไมถึงโวยวายขึ้นมาได้? ฉันไม่ได้ให้พวกเธอไปอธิบายเรื่องพวกนี้ให้เขาฟังก่อนหรอกเหรอ?” “แต่พวกเขาไม่ฟังเลย!” เลขาส้งก็ไม่มีวิธีแก้ไขแล้วเหมือนกัน ทันใดนั้น หัวหน้าทั้งหลายกับเลขาทั้งห้องประชุมก็ต้องหน้าตาตื่น บางคนที่อยู่นอกห้องประชุมกระแทกประตูอย่างหนักและมีเสียงต่าง ๆ ปะปนกัน แต่บางคำก็ได้ยินเสียงแผ่วเบา “เปิดประตู ท่านไป๋ คุณจะต้องออกมาแถลงการณ์กับเรา” “ฉันทำงานให้ไป๋ซื่อมา7-8ปีแล้ว! จะมาคิดจะไล่ก็ไล่ไม่ได้นะ! เปิดประตู!” “ใช่! ตอนบริษัทมีปัญหาพวกเราก็อยู่ไม่ได้หนีไปไหน ตอนนี้ค่าชดเชยก็ไม่ให้! ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน?!” “……” ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินคำพูดเหล่านั้น สมองก็แทบระเบิดแตกเป็นเสี่ยงๆ เธอกัดฟันกำหมัดแน่น ตอนนี้พ่อเธอไม่อยู่ แน่นอนว่าเธอจะต้องจัดการกับมันเพียงลำพัง สุดท้าย เธอก็ลุกไปยืนอยู่ตรงหน้าประตูก่อนจะเอ่ยกับเลขาของตัวเอง “ส้ง เปิดประตู” “ไม่ได้นะคะท่านประธาน! คุณไม่เห็นเหรอว่าพวกเขาเป็นอย่างไร! ไม่รู้ว่าเปิดมาจะมาต่อยตีกันที่นี่หรือเปล่าก็ไม่รู้!” “เรียกรปภ. เถอะ!” คนที่พึ่งรายงานการประชุมเมื่อครู่อย่างผู้จัดการอู๋ก็เอ่ยขึ้นมา เลขาส้งส่ายหน้า ราวกับจะสื่อว่ามันไร้ประโยชน์ “รปภ.ก็อยู่ร่วมกับพวกเขาข้างนอก...” “แล้วจะทำยังไง? พวกเราจะปล่อยให้พวกเขาโวยวายแบบนี้ต่อไปไม่ได้! งั้นก็เรียกตำรวจเลยแล้วกัน!” “ไม่ได้!” ไป๋เสว่เอ๋อร์ปฏิเสธในทันที ภ้าหากว่าเรียกตำรวจมาล่ะก็ เวลานั้นพนักงานของบริษัททุกคนคงจะผิดหวังเข้าไปใหญ่ และเรื่องก็จะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้ ตอนนี้สิ่งที่สามารถทำได้นั้นก็คือการที่เธอเผชิญหน้ากับมัน ต้องบอกพวกเขาให้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน! “เปิดประตูเดี๋ยวนี้!” เสียงของไป๋เสว่เอ๋อร์แข็งขึ้นในทันที “ฉันจะออกไปคุยกับพวกเขา!”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่15 ประกาศล้มละลาย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A