บทที่19 ตั้งใจ
บ๗ที่19 ตั้งใจ
ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมองสถานที่ที่เขาส่งสัญญาณความหมายให้ตรงเข้าไป ความหมายกำกวมของเขาช่างชัดเจน การที่จะไปยืนตรงนั้นถ้าในสถานที่อื่นเธอจะไม่มีปัญหาแน่ แต่กับตอนนี้นั้นเป็นเวลาทำงาน วันแรกที่เริ่มงานเธอก็ไม่อยากจะถูกคนอื่นจับได้เรื่องความสัมพันธ์อันเป็นความลับของเธอกับเผยลี่เชิน แม้มันจะคลุมเครือมากก็ตาม
เธอมองตอบกลับไป เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ “คุณมีอะไรก็บอกตรงนี้เลยก็ได้ค่ะประธานเผย ฉันได้ยิน”
เมื่อได้ยินเผยลี่เชินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ ดื้อดึงไม่น้อยเลยจริงๆ
เขาไม่ยอมแพ้ ยกมือแตะโต๊ะข้างตัว “มานี่ มาเอาแก้วไปเปลี่ยนกาแฟแก้วใหม่ให้ฉัน”
ไป๋เสว่เอ๋อร์มองตามไปแล้วก็เห็นแก้วกาแฟที่อยู่บนโต๊ะอีกคนจริงๆ เธอถอนหายใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปใกล้
เธอพึ่งจะเดินมาถึงข้างโต๊ะไม่นาน มือยังไม่ทันได้จับแก้วกาแฟนั้น ชายหนุ่มด้านข้างก็เอื้อมมือมาคว้าเอวเธอเข้าเสียได้
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตกใจเสียจนเกือบร้องออกมา เธอรีบมองไปยังประตูหน้าต่าง ยังดีที่ประตูถูกปิดไว้ แต่หน้าต่างถูกเปิดไว้ตั้งครึ่งบาน! ถ้ามีคนเดินมาตรงหน้าต่างนี่ก็เห็นชัดแล้วว่าในห้องกำลังเกิดอะไรขึ้น!
ไป๋เสว่เอ๋อร์สองมือกำหน้าอกเผยลี่เชินแน่น น้ำเสียงสั่นเสียจนน่าหดหู่ “ประธานเผย!นี่มันเวลางานนะคะ!”
“แน่นอนว่าฉันรู้” ชายหนุ่มไม่ได้คัดค้าน แต่กลับใช้ดวงตาจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าซึ่งดูเป็นการกระทำตรงข้ามคำพูด “แต่เธอแน่ใจเหรอว่าเธอเป็นแบบนี้ไม่ใช่ว่าเพราะตั้งใจ?”
เขาเอ่ยขึ้น มือก็ยกขึ้นไล้ไปตามหน้าอกของเธอแผ่วเบา
ไป๋เสว่เอ๋อร์ก้มหัวลงมองตาม ก่อนจะต้องตื่นตระหนกเมื่อเห็นว่ากระดุมบนเสื้อของเธอปลดออกไปเม็ดนึง แต่นั่นก็มากพอที่จะเห็นความเปลือยเปล่าของผิวหนัง...
เธอรีบยกมือขึ้นเพื่อปกปิดหน้าอกของเธออย่างรวดเร็วแล้วตะโกนลั่นขึ้นมา "ฉัน ... ฉันเปล่านะ!"
น่าจะเป็นเมื่อกี้ที่เธอกับเผยอี้เจอกันเมื่อสักครู่ ตอนที่เขาฉุดลากเธอเลยไม่ได้ระวังกระดุมเลยเผลอออกจากรังไปหนึ่ง เธอสาบานเลยว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ! และยิ่งงต้องมาเผชิญสายตาขี้เล่นของชายหนุ่มตรงหน้า เธอก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง เพราะไม่ทันไรหน้าเธอก็แดงก่ำเข้าเสียแล้ว
เผยลี่เชินปล่อยเธอเป็นอิสระ หน้าตากลับมาระคนจริงจัง “คราวหน้าไม่ต้องใส่ชุดนี้แล้ว”
มันไม่ใช่การต่อรอง แต่มันคือการบังคับ มันเป็นน้ำเสียงที่ไม่อนุญาตให้เธอปฏิเสธ
ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดปาก ก่อนจะรีบติดกระดุมให้เรียบร้อย แล้วรีบหยิบแก้วกาแฟตรงหน้า “เข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยวฉันไปทำกาแฟมาให้”
เมื่อหญิงสาวพูดจบก็รีบพาร่างตัวเองออกไป ทันทีที่ออกมาจากห้องทำงานของอีกคนและปิดประตูได้ ก็ถอนหายใจออกมาทันที
ไม่พูดไม่ได้แล้ว เธอเคยดูถูกงานพวกนี้มาก่อน แต่การที่ต้องอยู่ในห้องกับเผยลี่เชินแค่เพียงสิบนาทีก็ทำเอาเธอแทบหายใจไม่ออก
ก่อนหน้านี้ที่พี่หงพาเธอเดินดูรอบๆนี่ เธอรู้ว่ามีห้องทำเครื่องดื่มอยู่ และมันเอาไว้ทำให้เผยลี่เชิน
ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบเดินเข้าไป มันมีทั้งที่ชงชา เครื่องชงกาแฟ เมล็ดกาแฟนำเข้า และเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล ทั้งยังมีตู้ไวน์เล็กๆอยู่ ตรงหน้าต่างมีโต๊ะกับโซฟาเล็กๆสองตัว สภาพห้องนี้ถือว่าน่านั่งเลยทีเดียว เพราะว่ามีทุกอย่างพร้อมเพรียง
หญิงสาวทำท่าจะชงกาแฟแต่สุดท้ายก็หยุดมือท่าทางมีความลังเล
เมื่อกี้เธอลืมถามเจ้านายเธอไปเลยว่าชอบกาแฟอะไร ถ้าจะกลับไปถามตอนนี้ล่ะก็ มันก็ดูเป็นความคิดที่ไม่ดีนัก ไป๋เสว่เอ๋อร์มองดูแก้วในมือก่อนที่ไม่กี่วินาทีต่อมาก็ใช่ความกล้า ตุ่มนิ้วก้อยลงในแก้วและชิมรสมัน
เอสเปรสโซ่ใส่น้ำตาล
แค่ชิมเธอก็รู้รส ก่อนจะเทชากาแฟเย็นที่เหลือลงพร้อมจะทำแก้วใหม่
“คุณเป็นใคร?”
เสียงมาจากตรงประตู ไป๋เสว่เอ๋อร์หันกลับไปมองก่อนจะเพ่งดูรอบๆ
มีหญิงสาวที่ใส่ชุดเหมือนเธอ ดูเหมือนจะอายุยี่สิบกว่าๆเหมือนกัน ดวงตาสีผลแอพพริค็อทสุกสว่าง ผมยาวปล่อยสลวย ความยามของมันกำลังพอที่จะขับความสง่าให้อีกคน
ไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังจะอ้าปากเอ่ยตอบ แต่หญิงสาวตรงหน้าก็ว่ามาก่อนแทน “ใครอนุญาตให้เธอมาที่นี่? นี่มันเป็นที่ของประธานเผยไม่รู้หรือยังไง!”
อายุก็ไม่ได้มาก แต่คำพูดคำจาก็ไม่ได้เด็ก “ปล่อยแก้วในมือเธอลง และไสหัวไป! เป็นพนักงานแผนกไหน? คนอื่นไม่อยู่ก็คิดที่จะมาอ่อยท่านประธานงั้นเหรอ หน้าหนาเสียจริง!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกว่ามาหลายประโยคอย่างไม่ทันได้อ้าปาก ดวงตาของเธอหยุดที่หน้าอกหน้าใจของอีกฝ่ายที่มีชื่อติดอยู่ ก็ทำให้เข้าใจถึงหน้าที่การงานของอีกฝ่าย
“เลขาประธาน สวี่เยว่หรู”
ที่แท้ก็เลขาของประธานเผยอีกคนนี่เอง ก่อนหน้านี้ก็ทันได้ยินหลัวหงบอกว่าเขามีเลขาอยู่หลายคน คิดไม่ถึงเลยว่าแป๊ปเดียวก็ได้เจอเข้าแล้ว
“มองอะไร! ฉันไล่ให้ไปไม่ได้ยินหรือไง?”
สวี่เยว่หรูมองหาป้ายที่หน้าอกของไป๋เสว่เอ๋อร์ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น “เธออยู่แผนกไหนกันแน่ ป้ายชื่อก็ไม่ติด ยังจะมาโผล่ถึงที่นี่!”
เธอยอมรับว่าเธอก็ไม่ได้ติดป้ายจริงๆ วันนี้เธอพึ่งมาถึง ตอนที่พึ่งรายงานตัวหลัวหงแจ้งแล้วว่าน่าจะสักวันสองวันถึงจะได้ป้ายชื่อกับบัตร
“ฉันคือไป๋เสว่เอ๋อร์ เลขาใหม่ ยินดีที่ได้รู้จัก” ไป๋เสว่เอ๋อร์ส่งยิ้มให้กับสวี่เยว่หรู ก่อนจะยื่นมือไปทำความรู้จักก่อน
สวี่เยว่หรูตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเธอก็มองขึ้นๆลงๆอย่างใช้ความคิด และในไม่ช้าเธอก็ได้คำตอบว่าผู้หญิงที่คุ้นเคยต่อหน้าเธอคือไป๋เสว่เอ๋อร์สาวน้อยผู้เคยร่ำรวยที่เพิ่งล้มละลาย
แล้วทำไมเธอถึงมาโผล่ที่นี่ได้? และยังจะมาแย่งตำแหน่งเธออีก!
สวี่เยว่หรูพยายามควบคุมสติ มือก็เอื้อมไปทำความรู้จัก “คุณใช่เจ้าของไป๋ซื่อที่แสนร่ำรวยนั่นใช่ไหม? ทำไมถึงมาทำงานที่เผยซื่อของพวกเราได้?”
ดูเหมือนสวี่เยว่หรูจะถามแบบสบาย ๆ แต่นัยน์ตาของเธอดูชัดเจนแจ่มแจ้งไม่น้อยว่าไม่พอใจเท่าไหร่ ไป๋เสว่เอ๋อร์มองที่เธอและไม่โกรธเธอรีบอธิบายเบาๆตอบกลับว่า "ร่ำรวยหรือไม่ร่ำรวย สุดท้ายฉันก็เป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น ฉันได้มีโอกาสมาทำงานกับเผยซื่อถือว่าช่างโชคดีที่ได้รับโอกาสนี้ หวังว่าพี่สวี่คงจะไม่คิดมากเพราะฉันก็แค่เด็กมาใหม่ ฝากตัวด้วยนะคะ"
คำพูดสวยหรูของไป๋เสว่เอ๋อร์ทำเอาเธอตกใจไม่น้อย ก่อนสวี่เยว่หรูจะเอ่ยตอบกลับไป “อายุเราก็ไม่ห่างกันเสียเท่าไหร่ ไม่ต้องเรียกพี่สวี่หรอก ฉันไม่ค่อยชิน เรียกชื่อฉันเฉยๆก็พอ”
“โอเคค่ะ”
แม้ทั้งสองจะได้ทำความรู้จักแล้ว แต่แน่นอนว่าสวี่เยว่หรูก็ยังไม่ได้คิดจะดีกับเธอ สายตาของอีกคนจ้องมองมาที่แก้วกาแฟนั่น ก่อนจะเอ่ยถาม “ทำกาแฟให้ประธานเผยครั้งแรกเหรอ?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้า
“ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่นม” สวี่เยว่หรูทิ้งคำพูดไว้ ก่อนจะกลับหลังเดินออกจากห้องไป
ไป๋เสว่เอ๋อร์ดูลังเลเล็กน้อย สายตามองตามอีกคนไป แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาก็เรียกสติตัวเองกลับคืน
เมื่อกี้เธอใช้มือชิมรสชาติกาแฟของอีกคนไปแล้ว แน่นอนว่ามันใส่น้ำตาล ถึงจะไม่มากแต่ก็ถือว่าใส่ งั้นแล้วทำไมสวี่เยว่หรูถึงบอกเธออย่างนั้น “ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่นม อย่างนั้นเหรอ?”
ไม่มีทางน่ะ เธอตั้งใจงั้นเหรอ?
ไป๋เสว่เอ๋อร์ล้างถ้วยในมือให้สะอาด ก่อนจะเอาไปวางจัดการเลือกกาแฟก่อนจะกดปุ่มด้วยความลังเลในใจเล็กน้อย
รอกาแฟเสร็จ เธอก็มาให้ความสนใจน้ำตาลด้านข้าง คิดอีกทีก่อนจะใส่เข้าไปสองช้อน
ทันทีที่ทำเสร็จ เธอก็ยกแก้วกาแฟในมือตรงไปยังห้องประธานทันที
เธอยกมือขึ้นเคาะประตู ก่อนจะเปิดเข้ามา วางถ้วยกาแฟไว้ที่ด้านขวามือของเผยลี่เชินและถอยไปอยู่อีกด้าน
เผยลี่เชินกำลังอ่านแปลเอกสาร เมื่อเห็นว่ากาแฟมาแล้วก็เอื้อมมือยกขึ้นดื่ม และก็หันกลับไปสนใจทำงานต่อ
เมื่อเห็นท่าทางของอีกคนไม่ได้มีปัญหาอะไรกับรสชาติของมันก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ดูเหมือนคนที่ชื่อสวี่เยว่หรูคิดจะหลอกเธอจริงๆ