บทที่32 หากไม่ใช่ลำเอียงแล้วจะให้เรียกว่าอะไร   1/    
已经是第一章了
บทที่32 หากไม่ใช่ลำเอียงแล้วจะให้เรียกว่าอะไร
บ๗ที่32 หากไม่ใช่ลำเอียงแล้วจะให้เรียกว่าอะไร เผยลี่เชินมีสีหน้าเย็นชา ก้าวเท้าเข้าไปยังโรงอาหาร ชั่วขณะนั้น ราวกับแสงสว่างรอบด้านส่องทาบทาลงมายังร่างเขาให้รู้สึกพร่างพราวตา คนบางคนเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ล้วนถูกผู้คนจับตามองตั้งแต่แรกพบ เขาเป็นคนประเภทนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์เองก็เช่นกัน เผยลี่เชินเงยหน้ามอง กวาดสายตาไปรอบด้าน จนกระทั่งพบผู้หญิงคนหนึ่งไกล ๆ ท่ามกลางฝูงคน เธอยืนอยู่ตรงนั้นอีกทั้งกำลังมองมายังเขาพอดี เผยลี่เชินยังคงไม่หยุดสายตา เขาเลื่อนมองผ่านตัวเธอไปอย่างรวดเร็ว หันร่างสาวเท้าไปทางหน้าต่างโรงอาหาร สายตาที่เขามองไปยังเธอนั้นราวกับเห็นคนแปลกหน้า ไม่สะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย หัวใจของไป๋เสว่เอ๋อร์บีบคั้น รู้สึกผิดหวังขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก การมากินข้าวที่โรงอาหารของเผยลี่เชินทำให้พนักงานทั้งหลายล้วนรู้สึกประหลาดใจ เพราะตั้งแต่ครั้งก่อนที่เผยลี่เชินมายังโรงอาหารเพื่อนำของขวัญมามอบให้ทุกคนในงานเลี้ยงฉลองประจำปีของบริษัทแล้ว นอกเหนือไปจากคราวนั้นเขาก็ไม่เคยปรากฏตัวที่โรงอาหารอีกเลย ไม่ใช่ว่ากับข้าวของโรงอาหารมีรสแย่ แต่เพราะเผยลี่เชินนั้นยุ่งเหลือเกิน ไม่ก็ต้องออกไปพบปะกับผู้คน ดังนั้นทุกคนจึงรู้สึกประหลาดใจมากที่เห็นเขาในบริษัท มีพนักงานจากแผนกผู้จัดการอยู่ข้าง ๆ เผยลี่เชิน หลังจากพวกเขาสั่งอาหารกันเรียบร้อยแล้วก็นั่งลงและเริ่มกินกัน จากมุมที่เผยลี่เชินนั่งอยู่ สามารถมองเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ตรงห้องน้ำได้อย่างชัดเจน ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่เพียงแต่ต้องทำความสะอาดตรงทางเข้า แต่ยังรับผิดชอบทำความสะอาดภายในห้องน้ำด้วย ยิ่งตอนนี้ผู้คนเข้ามามาก เธอยิ่งต้องเข้าไปทำล้างความสะอาดโถส้วมอันสกปรกบ่อยครั้ง ขัดอ่างล้างหน้าและพื้นห้องน้ำต่าง ๆ อีกทั้งหน้าที่ที่เธอต้องรับผิดชอบไม่ได้มีเพียงแค่ห้องน้ำหญิง แต่ยังต้องทำความสะอาดห้องน้ำชายทุก ๆ หนึ่งหรือสองชั่วโมง ทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งของป้าแม่บ้านล้วน ๆ ป้าแม่บ้านเป็นผู้ควบคุมดูแลไป๋เสว่เอ๋อร์ เวลาที่ห้องน้ำชายต้องทำความสะอาด ป้าแม่บ้านจะมาอยู่หน้าประตูตะโกนถามว่ามีใครอยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า จนมั่นใจแล้วว่าไม่มีจึงจะส่งไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าไปล็อกประตูแล้วทำความสะอาด เนื่องจากไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกลงโทษ ดังนั้นต่อให้ป้าแม่บ้านอยากช่วยก็ไม่กล้าเข้ามาช่วย เพียงได้แต่ช่วยเหลือเธอด้วยวิธีนี้ ครึ่งชั่วโมงต่อมา ผู้คนในโรงอาหารลดลงไปกว่าครึ่ง และต้องทำความสะอาดห้องน้ำชายอีกครั้ง เมื่อป้าแม่บ้านมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ในนั้นแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ถึงได้กล้าเข้าไปเก็บกวาด  ขณะที่เธอกำลังเตรียมล็อกกลอน ทันใดก็รู้สึกถึงแรงต้านอันหนักหน่วงจากประตู เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยความตกใจ จากนั้นจึงเห็นเผยลี่เชินผลักประตูเข้ามา ไป๋เสว่เอ๋อร์ตื่นตระหนก “คะ...คุณเข้ามาได้ยังไง?” เผยลี่เชินลงกลอนประตูอย่างรวดเร็ว จ้องมองเธอด้วยสายตาล้ำลึก  ไป๋เสว่เอ๋อร์มองชายที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกผิดบาปขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เธอทำความผิดลงไป เผยลี่เชินต้องรู้แล้วอย่างแน่นอน เธอหลุบตาลง เอ่ยเสียงต่ำ “ขอโทษค่ะ ฉันทำพลาดไป” ฝ่ายชายเปล่งเสียงดังลั่น “ไหนพูดสิ ทำพลาดตรงไหน” น้ำเสียงของเขาเหมือนทุกครั้ง ไป๋เสว่เอ๋อร์เองยังคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก เธอลังเลอยู่สักครู่จึงค่อยเอ่ยเสียงเบา “ฉันไม่ควรรับปากทำงานที่คนอื่นขอให้ทำโดยพลการ...” แม้ว่าในตอนนั้นเธอจะส่งข้อความหาเขา แต่ก็เป็นการรายงานหลังจากที่ได้ทำลงไปแล้ว เธอไม่ได้ถามความเห็นจากเขา เพียงแต่รายงานให้เขาทราบเท่านั้น เผยลี่เชินเลิกคิ้ว “แล้วยังไงอีก?” “ฉันไม่ควรเอาเอกสารให้เพื่อนร่วมงานโดยพลการและไม่ไต่ถาม” ไป๋เสว่เอ๋อร์จับไม้ถูพื้นไว้แน่น มืออีกข้างหนึ่งกำมุมเสื้อเอาไว้ รู้สึกกังวลจนแทบทนไม่ไหว เมื่อพูดจบ เธอช้อนตามองยังเผยลี่เชิน ฝ่ายชายยังคงแสดงสีหน้าเย็นชา “มีอีก” ยังมีอีก? นอกจากสองเรื่องนี้แล้ว เธอก็คิดถึงเรื่องอื่นไม่ออกจริง ๆ ไป๋เสว่เอ๋อร์ย่นคิ้ว พูดอะไรไม่ออกอยู่เนิ่นนาน เผยลี่เชินสีหน้าหม่นลงเรื่อย ๆ ในความคิดปรากฏภาพที่เห็นเธออยู่ในอ้อมกอดของตัวแทนจากประเทศเยอรมันในล็อบบี้โรงแรมตอนเที่ยงวัน เธอไม่ควรไปโอบกอดกับผู้ชายหน้าไหนลับหลังเขา ถึงจะเป็นเรื่องงานก็เถอะ “ยังมีเรื่องอะไรอีกเหรอคะ?” ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้ามองยังเผยลี่เชิน เผยลี่เชินเม้มปาก ไม่ได้พูดความในใจออกไป สายตาของเขามองยังใบหน้าน้อยของไป๋เสว่เอ๋อร์ ณ เวลานี้ เธอกำลังกัดริมฝีปาก ดวงตาเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ เผยลี่เชินถอนใจหนักหน่วง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หลังจากรับโทษแล้ว ไปขอโทษรองประธานให้ดี แล้วค่อยกลับไปทำงานต่อ” “ค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์รับคำ เธอมองเผยลี่เชินหมุนตัวผลักประตูจากไป ไกลขึ้นทุกที แอบรู้สึกโล่งใจขึ้นมา แต่ว่า เธอทำอะไรผิดกันแน่นะ? …… วันต่อมา ไป๋เสว่เอ๋อร์ทำความสะอาดห้องน้ำอีกวันหนึ่งก่อนจะได้รับแจ้งจากอานโหรวให้เธอเลิกทำ นี่ยังไม่ครบเวลาลงโทษสองวัน แต่ก็ทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้รู้ซึ้งถึงพนักงานในบริษัทหลากหลายรูปแบบ ราวกับว่าผู้คนนั้นล้วนยกยอผู้สูงส่งและเหยียดหยามคนที่ต่ำต้อยกว่า ดังนั้นคนส่วนใหญ่เมื่อมองมายังเธอ จึงล้วนนินทาและหัวเราะเย้ยหยัน ช่วงแรก ๆ เธอยังรู้สึกว่าคำพูดพวกนี้ช่างเสียดแทงหูเสียเหลือเกิน แต่ว่าพอฟังมากเข้า ก็เกิดความชินชาไม่รู้สึกอะไร พอใครคนหนึ่งไม่ได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรงอะไรมากมาย  พวกคนขี้นินทาเหล่านั้นก็ค่อย ๆ เลิกรากันไปเอง ไป๋เสว่เอ๋อร์กลับไปยังห้องทำงานของตัวเอง เขียนจดหมายขออภัยในทันที เพื่อเป็นการขอโทษฟางหรงเทียนจากใจจริง สวี่เยว่หรูได้ยินว่าไป๋เสว่เอ๋อร์กลับมาแล้ว กำลังตั้งใจจะไปเยาะเย้ยเธอที่ห้องทำงานสักสองสามประโยค ไม่นึกว่ายังไม่ทันออกจากประตูก็ได้รับคำสั่งจากเผยลี่เชินให้ไปเอาเอกสารประกาศเรื่องแผนการไปดูงานเมืองหนานไห่ในห้องทำงาน ซึ่งจะต้องประกาศให้รู้ทั่วกันในอีกไม่ช้า เพื่อพวกพนักงานจะได้ปรับเวลาส่งรายงานล่วงหน้ากัน สวี่เยว่หรูเดินเข้าไปยังห้องประธานด้วยใจระทึก เห็นเผยลี่เชินกำลังก้มหน้าทำงาน จึงเอ่ยขึ้นเสียงเบา “ประธานคะ ฉันมารับใบประกาศดูงาน” เผยลี่เชินยกมือขึ้นเคาะโต๊ะ เป็นสัญญาณให้เธอเข้ามารับไป เผยลี่เชินหยิบใบประกาศ  เมื่อเห็นชื่อเลขาผู้ติดตามที่พิมพ์อยู่บนแผ่นกระดาษก็ถึงกับชาไปทั้งร่าง เธอกระพริบตาซ้ำ ๆ แล้วจ้องดูอีกครั้ง “เลขาธิการผู้ติดตาม: ไป๋เสว่เอ๋อร์” เป็นไป๋เสว่เอ๋อร์จริง ๆ! สวี่เยว่หรูถือเอกสารไว้ในมือแน่น สีหน้าเคร่งเครียด เป็นไปได้อย่างไร? ไป๋เสว่เอ๋อร์เพิ่งเข้าบริษัทมาได้ไม่กี่วัน ทำไมเผยลี่เชินถึงให้เธอติดตามไปทำงานยังต่างเมืองด้วย? เผยลี่เชินได้ยินเสียงฝีก้าวหยุดลง เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังเยว่หรู เห็นสีหน้าซีดเผือดของเธอจึงเอ่ยปากถาม “มีปัญหาอะไรรึไง?” สวี่เยว่หรูหันร่างกลับมา เม้มริมฝีปากมองยังเผยลี่เชิน “ประธานเผยคะ ไปดูงานต่างเมืองครั้งนี้ท่านให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ติดตามไปหนานไห่ด้วยหรือคะ?” เผยลี่เชินวางปากกาเซ็นชื่อในมือลง เอนหลังพิงกับพนัก “ใช่ ไม่ได้เหรอ?” “ไม่ใช่ว่าไม่ได้ค่ะ…” สวี่เยว่หรูหัวเราะออกมาเล็กน้อย “เพียงแต่ฉันคิดว่าเธอเพิ่งเข้าบริษัทมา ไม่มีประสบการณ์กับงานประเภทนี้ ถ้าหากว่าเป็นฉัน…” “ผมมีวิจารณญาณของตัวเอง อันดับแรก เราต้องไปพบนักธุรกิจต่างชาติที่เมืองหนานไห่ และสาขาที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ถนัดก็เป็นภาษาต่างประเทศพอดี นอกจากนั้นโปรเจกต์ทางหนานไห่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการรับมือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาล ออกงานทางการหลากหลายรูปแบบ ไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกเลี้ยงดูสั่งสอนเป็นอย่างดีมาตั้งแต่เล็ก จึงเข้าใจการวางตัวในงานทางการประเภทนี้ ผมถึงเห็นว่าเธอเหมาะสม” เผยลี่เชินพูดออกมาเพียงไม่กี่คำ ทำเอาสวี่เยว่หรูหน้าถอดสี เวลาเผยลี่เชินชื่นชมไป๋เสว่เอ๋อร์ ก็เหมือนกับดูถูกว่าหล่อนไม่มีตัวตน! เธอไม่ใช่คนโง่ ต่อให้เผยลี่เชินไม่ชี้แจงให้ฟัง เธอก็ยังรู้สึกราวกับตัวเองถูกตบหน้าถึงสองฉาด สูญเสียซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรี สวี่เยว่หรูกัดปากพูด ข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้ “เข้าใจแล้วค่ะประธานเผย ฉันจะไปแจ้งให้ทุกคนทราบ” พอเธอพูดจบ ก็ออกจากห้องทำงานไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่มือคว้าประตูห้อง น้ำตาก็ไหลออกมาเป็นสาย ไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าบริษัทมาไม่กี่วัน ทั้งยังทำความผิดครั้งใหญ่ เผยลี่เชินยังให้หล่อนติดตามตนออกไปคุยงานต่างเมือง หากไม่ใช่ลำเอียงแล้วจะให้เรียกว่าอะไร!
已经是最新一章了
加载中