บทที่33 เธอจะหาเรื่องกันหรือไง
1/
บทที่33 เธอจะหาเรื่องกันหรือไง
สัญญาร้ายของประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
บทที่33 เธอจะหาเรื่องกันหรือไง
บ๗ที่33 เธอจะหาเรื่องกันหรือไง สวี่เยว่หรูกลั้นใจ แค่เธอคิดถึงคำพูดพวกนั้นของเผยลี่เชิน ไฟก็แทบจะลุกโชนขึ้นจากหัว เธอสู้ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ได้ตรงไหน? หากไม่นับพื้นฐานทางครอบครัวแล้ว การศึกษา รูปร่างหน้าตาล้วนเชิดหน้าชูตาได้ทั้งนั้น! ทำไมพอไป๋เสว่เอ๋อร์มาแล้วเธอจึงกลับกลายเป็นคนที่ถูกเมินไปเสียได้? ถึงอย่างไรเผยลี่เชินเองก็เป็นรุ่นพี่ที่จบสายตรงจากมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอ ไม่นึกเลยว่าในสายตาของเขาตอนนี้เธอไม่อาจเทียบกับเด็กใหม่ด้วยซ้ำ! สวี่เยว่หรูยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เธอกำประกาศในมือแน่น สาวเท้าไปยังห้องทำงานของไป๋เสว่เอ๋อร์โดยไม่ตริตรอง ผลักประตูเข้าไปโดยไม่แม้แต่จะเคาะประตู ไป๋เสว่เอ๋อร์นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานกำลังศึกษาจดหมายขอโทษอยู่ ได้ยินเสียงจึงเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เห็นสวี่เยว่หรูก็ผงะไปชั่วครู่ “เลขาสวี่มีอะไรเหรอคะ?” สวี่เยว่หรูพุ่งมาอย่างดุดัน ย่ำรองเท้าส้นสูงตรงดิ่งยังหน้าโต๊ะทำงาน กระแทกใบประกาศลงบนโต๊ะอย่างกราดเกรี้ยว เสียงดัง “ปัง” ไป๋เสว่เอ๋อร์ตกใจจนสะดุ้ง ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ปราดสายตาไปยังใบประกาศ พอเห็นตัวอักษรขนาดใหญ่ที่ส่วนบนสุด “ตารางแผนการไปดูงานโปรเจกต์หนานไห่” ถึงได้เข้าใจ โดยไม่รีรอให้อีกฝ่ายพูดอะไร สวี่เยว่หรูถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ไป๋เสว่เอ๋อร์ เธอนี่สามารถเหลือเกินนะ! เข้าบริษัทยังไม่ถึงสัปดาห์ก็ได้ติดตามประธานเผยไปต่างเมืองแล้ว! มีสิทธิ์อะไร?” ไป๋เสว่เอ๋อร์คิดไม่ถึงว่าสวี่เยว่หรูจะมีปฏิกิริยารุนแรงเพียงนี้ เธอถอนหายใจลึก ไม่อยากทำให้เรื่องบานปลาย จึงอธิบายอย่างใจเย็น “อาจเป็นเพราะประธานเผยเห็นว่าฉันเพิ่งเข้ามา อยากพาฉันไปศึกษางาน จึงพาฉันไปด้วยมั่งคะ อีกอย่างเลขาสวี่เองก็มีประสบการณ์การทำงาน รู้วิธีการจัดการปัญหาต่าง ๆ มากมาย ประธานเผยออกไปทำงานต่างเมือง ให้คุณอยู่ดูแลบริษัทจึงจะวางใจได้” ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่แสดงอาการโกรธขึ้ง ทั้งยังพูดจาอ่อนหวานน่าฟัง ทำให้อารมณ์ขุ่นเคืองจวนเจียนจะระเบิดของสวี่เยว่หรูเย็นลงอย่างมาก พริบตานั้น สวี่เยว่หรูจ้องมองผู้หญิงตรงหน้า พลันสัมผัสได้ถึงความห่างชั้นระหว่างตนเองกับไป๋เสว่เอ๋อร์ ตั้งแต่แรกที่ไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าเผยซื่อมา ไม่ว่าเธอจะสร้างความลำบากให้อีกฝ่ายแค่ไหน ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ไม่ออกอาการโกรธเคือง แม้กระทั่งตอนนี้ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ยังอดกลั้น พูดจาอย่างนุ่มนวลด้วยเหตุผล ควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเมื่อตอนที่เธอได้ยินว่าไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกลงโทษ อุตส่าห์วิ่งไปดูอีกฝ่ายโดนหัวเราะเยาะ แต่แม้ยามไป๋เสว่เอ๋อร์ถูพื้นด้วยไม้ม็อป เธอก็ยังคงมีรัศมีบางอย่างที่ไม่อาจเก็บซ่อนได้มิด… หรือว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่าการเลี้ยงดูสั่งสอน? ทันใดนั้นสวี่เยว่หรูกำหมัดแน่น จดจ้องหญิงตรงหน้าด้วยแววตาวาววาบ ความรู้สึกต่ำต้อยกว่าพลันบังเกิดขึ้นมาในใจอย่างห้ามไม่อยู่ เธอกัดฟันกรอด หันร่างแล้วเดินออกไปจากห้องทำงานของไป๋เสว่เอ๋อร์อย่างรวดเร็ว นาทีนั้น สวี่เยว่หรูได้ตระหนักว่า เด็กหญิงที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีตั้งแต่เล็กจนโตนั้น ต่อให้เธอพยายามแค่ไหนก็ยังไม่อาจเทียบเคียงได้ ท่วงท่าแบบนั้น การเลี้ยงดูแบบนั้น ราวกับความงามที่ไร้รูปแบบ แทรกซึมอยู่ในสายเลือด ใคร ๆ ต่างสามารถสัมผัสได้ทว่าไม่อาจเลียนแบบได้ภายในชั่วเวลาสั้น ๆ สวี่เยว่หรูกลับไปยังห้องทำงานของตนเอง ความรู้สึกต่ำต้อยและริษยาผสมผสานกันปนเป ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธเกลียด ทำไมเธอถึงได้เกิดมาในชนชั้นคนธรรมดา! แต่ใครบางคนกลับได้เติบโตมาในบ้านเรือนที่อบอุ่น ราบรื่นไปหมดทั้งการทำงานและใช้ชีวิต ในที่สุดเธอก็เข้าใจคำพูดพวกนั้นของเผยลี่เชิน และพลันเข้าใจด้วยว่าแม้ตระกูลไป๋จะล้มละลาย เธอก็ยังไม่อาจเทียบเคียงไป๋เสว่เอ๋อร์ได้อยู่ดี! สวี่เยว่หรูกัดริมฝีปากล่าง ขยำประกาศที่อยู่ในมือแน่นขึ้นแล้วปาลงบนพื้นเต็มแรง เธอไม่สน! ไม่สนว่าไป๋เสว่เอ๋อร์จะเกิดมาจากไหน! เธอจะไม่ยอมให้หล่อนแซงหน้าเธอไปได้เด็ดขาด! …… ความเกลียดชังนั้น แปรเปลี่ยนเป็นพิษร้าย ส่งผลต่อเธออย่างรุนแรง เพียงชั่วพริบตาความเกลียดชังที่มีต่อชีวิต ความแค้นเคืองต่อสังคม กลับกลายมาเป็นความริษยาต่อไป๋เสว่เอ๋อร์! สวี่เยว่หรูจ้องมองก้อนกระดาษบนพื้น แค่นเสียงหัวเราะเย็นออกมาทันควัน เธอจะคอยดูว่าในอนาคต ระหว่างเธอกับไป๋เสว่เอ๋อร์ ใครจะได้กดหัวใคร! ก่อนส่งจดหมายขออภัยให้ฟางหรงเทียน ไป๋เสว่เอ๋อร์ติดต่ออานโหรวด้วยตนเอง เมื่อมั่นใจว่าฟางหรงเทียนอยู่ในห้องทำงานแล้วจึงตรงไปหา พอเดินมาถึงประตู เธอถือจดหมายขอโทษไว้ในมือแน่น ถอนหายใจยาวแล้วเอื้อมมือเคาะประตู มีเสียงดังออกมาจากภายในห้อง “เข้ามา” ไป๋เสว่เอ๋อร์ผลักประตูเข้าไป ตอนแรกยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า ทว่าเมื่อเธอมองเห็นใครอีกคนนั่งอยู่ในห้อง ใบหน้าเปื้อนยิ้มก็พลันนิ่งสนิท เผยอี้พิงโซฟาอย่างสบายอารมณ์ เห็นได้ชัดว่านึกไม่ถึงว่าคนที่ผลักประตูเข้ามาคือไป๋เสว่เอ๋อร์ เขาหน้าเปลี่ยนสี หันไปมองทางอื่นอย่างรวดเร็ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ปรับรอยยิ้มบนใบหน้า มองยังฟางหรงเทียนแล้วเอ่ยเสียงเบา “รองประธานฟางคะ ฉันมาหาท่านเพื่อมอบจดหมายขออภัยค่ะ” ฟางหรงเทียนสีหน้าเรียบเฉย ไม่คิดจะหันมามองเธอแม้แต่น้อย เขาตอบ “อืม” เสียงเย็น “วางลงสิ” ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลอยู่ชั่วขณะ สาวเท้าไปข้างหน้า ตั้งใจจะวางจดหมายขออภัยลงบนโต๊ะ ทันใดมีเสียงดังขึ้นมาจากด้านข้าง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “ทำแบบนี้ไม่เห็นถึงความจริงใจ ถ้าจะขออภัยก็ต้องอ่านให้ฟังต่อหน้าสิ?” คนที่จะเสนออะไรแบบนี้ได้ ก็มีแต่เผยอี้เท่านั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์ถือจดหมายในมือแน่นขึ้น ไม่เอ่ยอะไร เพียงแต่เงยหน้าขึ้นมองฟางหรงเทียน รอฟังคำสั่งจากเขา ฟางหรงเทียนนิ่งไปชั่วขณะ พลันมองยังไป๋เสว่เอ๋อร์ “งั้นเธออ่านแล้วกัน ฉันเองก็ขี้เกียจจะเปิดดู” ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดฟันกรอด รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนเธอมา เธอไม่ได้คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ เธอรู้ตัวว่าเธอเขียนด้วยความจริงใจ ทว่าเมื่อต้องอ่านให้ฟังต่อหน้า ก็ยังรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่ดี ฟางหรงเทียนเห็นเธอนิ่งไปเนิ่นนาน จึงอดเอ่ยขึ้นมาไม่ได้ “ไม่อ่านก็ออกไปซะ อย่ามาทำเสียเวลาตรงนี้” ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่มีทางเลือกนอกจากกลั้นใจอ่าน เธอสูดหายใจลึก ยกจดหมายในมือขึ้นมา เอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “ท่านรองประธานฟางที่เคารพ เนื่องด้วยความผิดพลาดของดิฉัน จึงทำให้เกิดผลกระทบต่อกำไรของบริษัท อีกทั้งยังทำให้ความพยายามของท่านต้องเสียเปล่า ด้วยเหตุนี้ดิฉันจึงต้องขออภัยอย่างที่สุด…” จดหมายฉบับหนึ่งไม่สั้นนัก ไป๋เสว่เอ๋อร์เองก็ไม่ได้รีบร้อนอ่าน ทว่าท่วงท่าและน้ำเสียงแสดงถึงความจริงใจอย่างเพียงพอ ในที่สุดคิ้วขมวดของฟางหรงเทียนจึงเริ่มคลายลงบ้าง เมื่ออ่านจนถึงตอนท้าย ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังไม่ลืมโค้งคำนับเขาอย่างนอบน้อม การกระทำเช่นนี้นับว่าเป็นแบบอย่างในการขออภัย ก่อนหน้านี้ลูกน้องของเขาล้วนกระทำผิดและถูกลงโทษมาไม่น้อย ทว่าไม่มีใครคิดถึงการเขียนจดหมายขออภัยหลังจากได้รับการลงโทษ ไป๋เสว่เอ๋อร์นับว่าเป็นคนแรก ฟางหรงเทียนเสียงอ่อนลง “เอาล่ะ ครั้งนี้ถือว่าแล้วไป ภายหลังต้องตั้งใจทำงานให้มาก วางจดหมายลงแล้วไปได้” ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้น ก็กุลีกุจอวางจดหมาย จนฟางหรงเทียนยิ้มออกมา หลังจากขอบคุณแล้วก็หันร่างจากไป นาทีที่หันหลังกลับ เธอเห็นเผยอี้นั่งอยู่บนโซฟา กำลังเก็บโทรศัพท์มือถือที่ยกประจันหน้าเธออยู่พอดี ใบหน้านั้นมีรอยยิ้มที่ไม่อาจอธิบายได้ซ่อนอยู่ หรือว่าเผยอี้จะบันทึกขั้นตอนการขออภัยของเธอเอาไว้? เธอลอบกำหมัดแน่น ต่อหน้าฟางหรงเทียนไม่อาจแสดงอาการออกไป จึงทำได้แค่เพียงสาวเท้าออกจากห้องทำงาน หลังจากออกมาแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังรู้สึกติดค้างบางอย่างอยู่ภายในใจ ถ้าหากเผยอี้นำเอาคลิปวิดีโอที่ถ่ายเธอไว้ไปเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตจะทำยังไง? ทุกวันนี้ตระกูลไป๋ก็มีเรื่องเสียหายมากมาย เธอไม่อยากให้คลิปนั้นถูกเผยแพร่จนส่งผลกระทบต่อตระกูลไป๋ให้เสื่อมเสียมากขึ้นอีก อย่างไรเสียเธอและแม่ก็ยังคงต้องใช้ชีวิตต่อไป ผู้คนชอบติฉินนินทา เธอเข้าใจจุดนี้ดี ไป๋เสว่เอ๋อร์คิดแล้วคิดอีก สุดท้ายจึงยืนเฝ้าประตูห้องฟางหรงเทียนรอให้เผยอี้ออกมา สิบนาทีจากนั้น ประตูถูกเปิดออกดัง “แกร๊ก” เผยอี้เดินออกมาจากห้องทำงาน เงยหน้าขึ้นเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ สีหน้านิ่งเฉย เขาทำราวกับมองไม่เห็นเธอ สาวเท้าเดินไปอีกทาง ไป๋เสว่เอ๋อร์ใจระทึก ก้าวไปขวางทางเขาไว้ เผยอี้หยุดฝีก้าว มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นอย่างไร้ความอดทน “ไป๋เสว่เอ๋อร์ จะหาเรื่องกันหรือไง?”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่33 เธอจะหาเรื่องกันหรือไง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A