บทที่36 นี่เหรอทำงานล่วงเวลา
1/
บทที่36 นี่เหรอทำงานล่วงเวลา
สัญญาร้ายของประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
บทที่36 นี่เหรอทำงานล่วงเวลา
บ๗ที่36 นี่เหรอทำงานล่วงเวลา ไป๋เสว่เอ๋อร์ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะตอบโต้โดยปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา “ไม่ได้หรอก” เธอกับเผยอี้ยุติความสัมพันธ์อย่างชัดเจนกันมานานแล้ว อีกทั้งตอนนี้เขายังมีจินจิงจิงอยู่ข้างกาย หากเธอไปกินข้าวกับเขาแล้วนั่นจะหมายความว่าอย่างไร? ไป๋เสว่เอ๋อร์แสดงท่าทียืนกรานขันแข็ง ไม่โอนอ่อนไปทางเผยอี้ที่โมโหจวนเจียนจะระเบิดแม้แต่น้อย กดปุ่มลงชั้นหนึ่งในทันที เผยอี้ข่มกลั้นความโกรธไว้ในใจ “ไป๋เสว่เอ๋อร์ เธอแน่ใจนะ?” เขารอเธออยู่ที่ห้องทำงานกว่ายี่สิบนาที ทั้งยังเลื่อนนัดกินข้าวเย็นกับจินจิงจิง แต่เธอกลับถือดีไม่ยอมแม้แต่จะไปกินข้าวด้วยกันกับเขา! ไป๋เสว่เอ๋อร์เบนสายตาไปทางอื่น จ้องมองตัวเลขลิฟต์ที่กำลังเคลื่อนตัวลง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เผยอี้ เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันนานแล้ว ฉันหวังว่าเราสองคนจะรู้ความต้องการของตัวเอง” รู้ความต้องการของตัวเอง? เผยอี้ทั้งโกรธทั้งขำ ยิ้มเยาะถามกลับ “แล้วเผยลี่เชินที่อยู่บนยอดหอคอยของเธอเขารู้ความต้องการตัวเองหรือเปล่า?” ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดริมฝีปาก ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ไม่นาน ลิฟท์ก็มาถึงชั้นหนึ่ง เมื่อประตูเปิดออก ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เดินออกไปโดยไม่รีรอ เผยอี้ยังไม่ยอมถอด ใจ ก้าวเท้าติด ๆ ตามไปถาม “ไป๋เสว่เอ๋อร์ บอกมาซิว่าระหว่างเราสองคนใครกันแน่ที่ไม่เข้าใจตัวเอง?” ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ฟังเสียง ยังไม่ทันถึงทางออกก็มองเห็นท้องฟ้าสีมืดทะมึนด้านนอกโถงล็อบบี้ ฝนตกเหรอเนี่ย? แต่เธอไม่ได้เอาร่มมานี่นา! ขณะเดียวกัน เผยลี่เชินนั่งอยู่ในรถด้านนอกบริษัท เลื่อนมือพลิกดูเอกสารบนแทบเล็ต คนขับรถอดรนทนไม่ไหว เอ่ยปากถามออกไป “คุณเผยครับ รอมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้วนะครับ” เผยลี่เชินตอบเสียงเรียบเฉย “ไม่ต้องรีบร้อน” พูดพลางเงยหน้าไปทางประตูใหญ่ของบริษัท เมื่อครู่ตอนเขาออกมาจากบริษัท ด้านนอกก็เริ่มฝนตกแล้ว พอนึกถึงหญิงสาวที่ทำงานล่วงเวลา จึงอยากรออยู่ด้านนอกอีกสักพัก จะได้ส่งเธอกลับบ้าน แต่นึกไม่ถึงว่า ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วเธอก็ยังไม่ออกมา ขณะที่เผยลี่เชินกำลังหันกลับ ตรงประตูโถงล็อบบี้ก็ปรากฏเงาร่างคนสองคน เขาเพ่งมองให้ชัด คิ้วขมวดมุ่นโดยไม่รู้ตัว ไป๋เสว่เอ๋อร์ยืนอยู่หน้าทางเข้าโถงล็อบบี้ กวาดตามองทั่วสี่ทิศ ทั้งข้างกายมีชายคนหนึ่งยืนอยู่ เห็นได้ชัดว่าเป็นเผยอี้ ห้องทำงานของไป๋เสว่เอ๋อร์กับเผยอี้ไม่ได้อยู่ชั้นเดียวกัน แล้วทั้งสองคนมาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร? พริบตานั้นแววตาของเผยลี่เชินเยือกเย็นลงอย่างมาก เขาจ้องมองคนสองคนตรงหน้าประตู ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ไป๋เสว่เอ๋อร์ยืนลังเลอยู่หน้าประตูใหญ่ชั่วครู่ หันร่างกลับไปยังห้องโถง เพียงไม่นานก็หยิบร่มออกมาคันหนึ่ง เผยอี้ตามหลังเธอออกมา ในมือมีร่มอีกหนึ่งคัน ไป๋เสว่เอ๋อร์ถือร่มลงบันไดมา เผยอี้เองก็สาวเท้าตาม… คนขับรถที่นั่งอยู่เบาะหน้าเองก็เห็นภาพนี้ ทั้งยังอดเอ่ยปากออกมาไม่ได้ “นั่นมันคุณไป๋กับคุณชายรองไม่ใช่เหรอครับ ดูสิครับคุณเผย…” เผยลี่เชินดึงสายตากลับ แววตาแฝงความเยือกเย็น ออกคำสั่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย “นายไปรับไป๋เสว่เอ๋อร์มาซะ บอกเธอว่าฉันกำลังรออยู่ในรถ” คนขับรถได้ยินแล้วตกปากรับคำทันที หยิบเอาร่มหนึ่งคันลงมาจากรถ เขารีบเดินไปหาไป๋เสว่เอ๋อร์ ขวางหน้าทางเดินของเธอ ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นพนักงานขับรถเข้า ก็แสดงอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด คนขับรถเอ่ยปากตรง ๆ “คุณไป๋ครับ คุณเผยกำลังรอคุณอยู่ในรถ” ไป๋เสว่เอ๋อร์หันมา ขณะเห็นรถที่เลือนราง คุ้นตาอยู่ท่ามกลางสายฝนไม่ไกลคันนั้น คิ้วก็ขมวดเข้าหากันอย่างไม่รุ้ตัว เธอกำร่มในมือแน่นขึ้น สาวเท้าตามคนขับที่เดินไปยังรถ เผยอี้ที่อยู่ข้าง ๆ สีหน้าหม่นลง “ไป๋เสว่เอ๋อร์ กลับมานี่!” ฝีเท้าของไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่สะดุดลงแม้แต่น้อย ยังคงเดินต่อไปข้างหน้า ไม่ว่าตอนนี้เผยอี้จะเป็นอย่างไร เขากับเธอก็ไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกันอีกแล้ว ทั้งคนที่มีอิทธิพลต่อเธอในตอนนี้ มีเพียงชายที่อยู่ในรถเท่านั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินตามคนขับไปยังด้านข้างรถ เธอดึงประตูเปิดแล้วขึ้นไปนั่ง หุบร่มในมือ ปิดประตูลง เมื่อหันหน้าไปก็พบสีหน้าตึงเครียดของเผยลี่เชิน ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดลมหายใจลึก ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ได้ยินอีกฝ่ายขึ้นเสียงใส่ “นี่เหรอทำงานที่เธอเรียกว่าทำงานล่วงเวลา? ไป๋เสว่เอ๋อร์?” หัวใจของไป๋เสว่เอ๋อร์หนักอึ้ง เงยหน้ามองไปยังเผยลี่เชิน “ฉะ...ฉันกับเผยอี้มีเรื่องต้องเคลียร์กันนิดหน่อย...เลยแวะไปหาเขา” เผยลี่เชินได้ยินเข้า หัวเราะเสียงเย็น “ไป๋เสว่เอ๋อร์ เธอกับเผยอี้ยังมีเรื่องอะไรที่ต้องเคลียร์กันลับหลังฉันอีกเหรอ?” แม้ใบหน้าเขาจะเปื้อนยิ้ม แต่ว่าสายตากลับเย็นยะเยียบ ไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกเขาจ้องมองเช่นนั้นจนสะท้านไปทั้งตัว ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี “วันนี้เธอฝ่าฝืนข้อห้ามที่ฉันเกลียดที่สุดถึงสองข้อ” ฝ่ายชายแผ่รังสีเย็นเยียบออกมาทั่วร่าง จนอุณหภูมิภายในรถให้ความรู้สึกหนาวเหน็บ เขาหันหน้ามา แววตาจ้องเขม็งยังไป๋เสว่เอ๋อร์ “ข้อแรก ฉันเกลียดคนโกหก ข้อสอง ฉันไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องของของฉัน” เขาพูดพลางฉายประกายเหี้ยมโหดออกมาจากแววตา เพียงชั่วครู่ก็ยื่นมือออกมา ตะครุบกรามของไป๋เสว่เอ๋อร์เอาไว้อย่างไร้ความปราณี “เธอควรจะรู้เอาไว้ ฉันมีอำนาจช่วยเหลือเธอได้ ก็สามารถเหยียบย่ำเธอได้เช่นกัน ฉะนั้น อย่ามาท้าทายความอดทนของฉัน และอย่าได้คิดฝันเฟื่องอีก เข้าใจมั้ย?” น้ำเสียงของเขายังคงอบอุ่น ไม่กดดันเร่งเร้า แต่ทุกถ้อยทุกคำราวกับแฝงไปด้วยการบังคับควบคุมอันไร้รูปร่าง ทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัว ไป๋เสว่เอ๋อร์ประสานตากับเผยลี่เชิน ไม่รู้เพราะความหนาวเย็นหรือความหวาดกลัว ทำให้ริมฝีปากของเธอสั่นเทา พริบตานั้น ฝ่ายชายปาดนิ้วมือเรียวยาวบนริมฝีปากเธออย่างรุนแรง ราวกับเป็นการลงโทษ จากนั้นจึงปล่อยเธอให้เป็นอิสระ เผยลี่เชินหันหน้ากลับไป ออกคำสั่งกับคนขับรถ “จอดรถข้างทาง ให้เธอลงไป” ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดลมหายใจลึก ตอนที่คนขับหยุดรถนิ่งสนิทข้างทาง เธอสั่นไปทั้งร่าง ผลักประตูลงไป เธอกางร่ม ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน เหลือบมองปลายเสื้อสูทของชายที่นั่งอยู่เบาะหลังรถด้วยใจหนักอึ้ง เอื้อมมือไปปิดประตูรถ ทว่ายังไม่ทันรอให้เธอเดินจากไป รถก็เคลื่อนตัวออกอย่างรวดเร็ว ภายในใจของไป๋เสว่เอ๋อร์หนาวเหน็บ เต็มไปด้วยความวุ่นวายสับสน เผยลี่เชินช่างเลือดเย็น ไร้หัวใจกว่าที่เธอคาดคิดนัก หากวันหนึ่ง เผยลี่เชินโกรธเธอ เกลียดเธอ อาจขับไสไล่ส่งเธอราวไร้ซึ่งหัวใจ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นนักธุรกิจ ความสัมพันธ์ที่มีต่อเธอก็เป็นเพียงความสัมพันธ์ที่ต่างฝ่ายได้ประโยชน์ การคาดหวังอะไรเกินกว่านั้นคงเป็นเพียงแค่ในจินตนาการ ไป๋เสว่เอ๋อร์ยืนถือร่มท่ามกลางสายฝน คิดฟุ้งซ่านต่าง ๆ นานา จนกระทั่งสายฝนชุ่มขาไปหมด จึงได้สติกลับคืนมา เธอเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่งตรงกลับบ้าน ทันทีที่ถึงบ้าน คุณแม่ไป๋เห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ก็อดบ่นพึมพำไม่ได้ “ทำไมถึงเปียกไปทั้งตัวอย่างนี้! รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเข้า อย่าปล่อยให้เป็นหวัดเชียว!” ไป๋เสว่เอ๋อร์วางร่มทิ้งไว้นอกบ้าน เอ่ยเสียงเบา “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แม่” เธอถอดรองเท้าไว้หน้าประตู เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็เห็นเครื่องใช้ในบ้านหลายชิ้นวางกองระเกะระกะ บนพื้นยังมีของจำพวกจานเปื้อนฟองสบู่วางอยู่ “แม่ ทำอะไรน่ะ?” ไป๋เสว่เอ๋อร์มองไปยังเฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮอกกานี สับสนงุนงง คุณแม่ไป๋เผยสีหน้ากระอักกระอ่วน “ก็เฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮอกกานีจากห้องทำงานของพ่อลูก แม่คิดว่าตอนนี้พวกเราไม่ต้องใช้มันแล้วเลยจะเอาไปขายแลกเป็นเงิน” ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้ว ลนลานตอบ “แต่ว่านี่มันเฟอร์นิเจอร์มะฮอกกานีที่พ่อรักที่สุดนะแม่ หากพ่อกลับมาล่ะก็…” เธอยังไม่ทันพูดจบ คุณแม่ไป๋ก็ชิงตัดบทเสียก่อน “พ่อของลูกคงยังไม่กลับมาอีกสักระยะ แต่เรายังต้องมีชีวิตต่อไปนะ! แทนที่จะเก็บข้าวของพวกนี้เอาไว้ในบ้าน สู้ขายมันทิ้งเสียดีกว่า เสว่เอ๋อร์ลูกว่า ข้าวของพวกนี้หรือชีวิตเราที่สำคัญกว่ากัน?” คำพูดของคุณแม่ไป๋ทำเอาไป๋เสว่เอ๋อร์พูดอะไรไม่ออก เธอกัดฟันกรอด มองดูเฟอร์นิเจอร์ชุดมะฮอกกานี แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอหันกลับไปมองยังคุณแม่ไป๋ “แม่ งั้นพวกเราเอาของพวกนี้ขายทิ้งไป เปลี่ยนเป็นเงินมาช่วยพ่อดีกว่า”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่36 นี่เหรอทำงานล่วงเวลา
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A