บทที่39 เจรจาราบรื่น   1/    
已经是第一章了
บทที่39 เจรจาราบรื่น
บ๗ที่39 เจรจาราบรื่น ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลเล็กน้อย ก่อนค่อย ๆ วางมือของตนลงไป เผยลี่เชินออกแรงดึงตัวเธอขึ้นมาจากพื้น เอ่ยอย่างเย็นชาโดยไม่รอให้อีกฝ่ายพูด "ทรุดลงต่อหน้าฉันไม่เป็นไร แต่หากอยู่ข้างนอก ล้มลงแบบนี้ทำให้เสียชื่อในฐานะคนของฉัน"  ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดริมฝีปาก ดึงมือตัวเองจากชายหนุ่มกลับอย่างรวดเร็ว หันตัวสวมกับเสื้อผ้าจนเสร็จเรียบร้อยโดยไม่พูดอะไร ชั่วโมงต่อมา พวกเขาทั้งสองออกเดินทางมุ่งตรงไปยังโรงแรมข้าง ๆ เพื่อพบซุนปิน  สถานที่นัดคือร้านกาแฟข้างล็อบบี้โรงแรมที่ซุนปินพักอยู่ ทว่าเวลาผ่านไปสามนาทีแล้วไป๋เสว่เอ๋อร์ยังไม่เห็นเงาของซุนปิน เผยลี่เชินนั่งอยู่บนโซฟา สีหน้าสงบนิ่งราวไม่ทุกข์ร้อนใด ๆ ขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลว่าจะต้องโทรศัพท์หาซุนปินหรือไม่ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นในเวลานั้นเอง "เลขาไป๋ ต้องขอโทษจริง ๆ ครับ มีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ตอนนี้ผมต้องไปทำธุระกับหัวหน้า ด่วนมาก เกรงว่าคงไม่อาจไปพบคุณ"  ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้ว "ประธานซุน เรานัดกันเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอคะ ตอนนี้ฉันกับประธานเผยอยู่ในร้านกาแฟข้างล็อบบี้ของโรงแรมคุณแล้วค่ะ” ซุนปินมีน้ำเสียงรู้สึกผิด "เลขาไป๋ เอาอย่างนี้แล้วกัน ผมจะไปที่นั่น แล้วอธิบายสถานการณ์ให้ประธานเผยฟังเอง" ไป๋เสว่เอ๋อร์ตั้งท่าจะพูด พลันเห็นชายอายุราวสี่สิบปีมากับชาวต่างชาติร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง มือถือโทรศัพท์ กำลังพูดคุย ไป๋เสว่เอ๋อร์ประสานสายตากับเขาแล้วเข้าใจได้ทันทีว่าเขาก็คือซุนปิน ซุนปินเองก็รู้ทันทีว่าเป็นเธอ มองมายังเธอแล้วโบกโทรศัพท์ไปมา แล้ววางสาย ต่อมาเขาให้คนต่างชาติข้างกายนั่งลงยังที่นั่งด้านหลัง แล้วสาวเท้ามายังพวกเขา กว่าเขาจะมาถึง ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็อธิบายสถานการณ์ให้เผยลี่เชินฟังหมดแล้ว ซุนปินยิ้มแย้ม เป็นฝ่ายเข้ามาทักทายกับประธานเผยก่อน "ประธานเผย ได้ยินชื่อเสียงมานาน ผมคือซุนปินผู้ดูแลหนานไห่อสังหาริมทรัพย์ เคยได้ยินรองประธานฟางพูดถึงคุณมาก่อน ได้พบกันวันนี้ บุคลิกช่างโดดเด่นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ!"  เผยลี่เชินลุกขึ้น ยื่นมือไปแสดงความเคารพ "สวัสดีครับประธานซุน อุตส่าห์เจียดเวลาธุระสารพันมาพบผม ช่างเป็นเกียรติเหลือเกิน" ซุนปินร้องขึ้น" ประธานเผย ขออภัยด้วยจริง ๆ! เลขาไป๋โทรศัพท์มาหาผมหลายต่อหลายครั้ง ผมเองก็ตัดสินใจจะมาพบ แต่ไม่นึกว่าจู่ ๆ นายใหญ่ของเราจะมาในวันนี้ ต้องให้ผมไปร่วมงานเลี้ยงกับเขา น่ากลัวว่าวันนี้เราคงไม่อาจคุยกันได้สะดวก"  ไป๋เสว่เอ๋อร์กวาดสายตามองไปยังชายต่างชาติที่นั่งอยู่ไม่ไกล แล้วพลันนึกได้ว่าเคยอ่านประวัติการก่อตั้งบริษัทหนานไห่ อสังหาริมทรัพย์ ผู้ก่อตั้งบริษัทหนานไห่อสังหาริมทรัพย์คนแรกเป็นชาวต่างชาติ หรือว่าจะเป็นชายคนนี้?  "ประธานซุน เผยซื่อของเรากับหนานไห่อสังหาริมทรัพย์เคยติดต่อกันมาหลายครั้งแล้ว คุณเองก็คุ้นเคยดี ครั้งนี้ที่เรามาก็ไม่ได้ตั้งใจจะรั้งคุณให้เสียเวลา ถ้าหากคุณไม่สะดวกก็ขอเวลาสัก 15นาที แต่ถ้าไม่สะดวกจริง ๆ เราก็ไม่บังคับ"  เผยลี่เชินเอ่ยด้วยความสุภาพและให้ความเคารพ ต่อให้ซุนปินมีประสบการณ์ยาวนานก็ไม่สามารถเอ่ยปฏิเสธออกมาตรง ๆ เขามองยังเผยลี่เชินแล้วหันไปมองยังชาวต่างชาติที่ห่างไปไม่ไกล ท่าทีลังเลเล็กน้อย "คือ… หัวหน้ากำลังรอผมผมอยู่ ดูสิครับ…" ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นเขาตั้งท่าจะถอนตัวอีก จึงรีบเอ่ยเสียงเบา "ประธานซุนคะ เราเข้าใจว่าคุณกลัวเจ้านายของคุณจะเสียเวลา ถ้าอย่างไรขอโอกาสเรา ได้ไต่ถามความเห็นของเจ้านายคุณ ถ้าหากเขาตกลงให้เวลาเราสักสิบห้านาที เราก็คุยกันสักเล็กน้อย แต่ถ้าหากเป็นเรื่องด่วนจริง ๆ พวกเราจะไม่ทำให้ลำบากใจอีก ว่ายังไงคะ?” คำพูดนี้ของเสว่เอ๋อร์ ทำให้คำปฏิเสธของซุนปินถูกพับกลับไป เขามองไป๋เสว่เอ๋อร์ แล้วมองเผยลี่เซิน “ก็ได้ครับ นายของพวกเราเป็นคนอิตาลี ไม่ถนัดภาษาจีนนัก ผมจะช่วยพวกคุณถามความเห็นเขาดูก่อน หากเขายอมให้เวลา ผมก็จะมาคุยกับพวกคุณ” ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มแย้ม เอ่ยเสียงเบา “ประธานซุน ฉันพอเข้าใจภาษาอิตาลีค่ะ ถ้าอย่างไรให้ฉันไปถามความเห็นเขาดีไหมคะ? แบบนี้น่าจะดูจริงใจกว่า?” ซุนปินตกตะลึง เขาลังเลอยู่สักพัก แล้วจึงพยักหน้า “ได้ครับ” ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มให้เขา แล้วก้าวเดินไปยังชายต่างชาติคนนั้น ซุนปินดูท่าไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่ จึงรีบร้อนตามไป เผยลี่เชินมองรอยยิ้มอย่างมั่นใจของหญิงสาว ครุ่นคิดในสมอง การกระทำของเธอเมื่อครู่นั้นเหนือความคาดหมายสำหรับเขา น้ำเสียงหนักแน่น ท่วงท่ามั่นใจ เขาก้าวเท้าตามไป พอเข้าใกล้ก็ได้ยินหญิงสาวใช้ภาษาอิตาลีสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนหน้านี้เขารู้มาว่าเธอจบสาขาภาษาต่างประเทศ เอกภาษาฝรั่งเศสและเยอรมัน แต่เขาไม่นึกว่าเธอจะสามารถพูดภาษาอิตาลีได้เหมือนกัน ก่อนนี้เธอถ่อมตนว่าพอเข้าใจภาษาอิตาลี ทว่าพิจารณาจากน้ำเสียงและความเร็วแล้ว เธอไม่ได้เข้าใจเพียงเล็กน้อย แต่กลับพูดได้คล่องแคล่วทีเดียว ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดกับ Chris ชาวต่างชาติคนนั้นหลายประโยค ทั้งยังจับมือกัน แววตาที่Chrisมองยังเธอเปล่งประกายสดใส ยิ้มบางเอ่ย “คุณไป๋ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ผมไม่ได้ยินภาษาอิตาลีมานานแล้ว แถมภาษาอิตาลีของคุณยังมีสำเนียงเนเปิลบ้านเกิดของผมอีกต่างหาก” “บอกคุณตามตรงนะคะ ครูต่างชาติของฉันสมัยมหาวิทยาลัยมาจากเมืองเนเปิลค่ะ บางทีฉันได้ยินเขาพูดสำเนียงเนเปิลบ่อยครั้ง ฟังไปนานเข้า ก็เลยติดปากมาเองโดยธรรมชาติ…” เรื่องราวช่างบังเอิญเหลือเกิน เนื่องจากเธอสามารถพูดภาษาอิตาลีได้อย่างคล่องแคล่วจึงทำให้ใกล้ชิดกับชายผู้ห่างไกลบ้านเกิดคนนี้ได้ แถมยังมีสำเนียงเมืองเนเปิลที่ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยขึ้นมาอีก ไป๋เสว่เอ๋อร์คุยสัพเพเหระกับChris ทว่าไม่ลืมเรื่องธุระ เธออธิบายให้Chrisฟังถึงเจตนาที่มา แล้วยังแนะนำให้เขารู้จักเผยลี่เชินที่อยู่เคียงข้าง Chrisมองไปยังเผยลี่เชินทันที สลับคำพูดเป็นภาษาอังกฤษเพื่อคุยกับเขาด้วยน้ำเสียงจริงใจ “สวัสดีครับคุณเผย ผมคือChris เป็นผู้ก่อตั้งหนานไห่อสังหาริมทรัพย์ ได้ยินจากคุณไป๋ว่าคุณมีความสนใจที่ดินผืนหนึ่งของเรา หากมีเวลาเราสามารถพูดคุยกันได้” สายตาของเผยลี่เชินเปล่งประกายประหลาดใจทันควัน เขาคาดไม่ถึงว่าไป๋เสว่เอ๋อร์พูดกับChrisเพียงไม่กี่ประโยค ก็ทำให้อีกฝ่ายยินดีคุยเรื่องโปรเจกต์กับเขา สีหน้าของเผยลี่เชินสงบนิ่ง แนะนำตัวกับChrisอย่างมีมารยาท ขณะเดียวกันก็อธิบายเจตนาของตนอย่างคร่าว ๆ  Chrisดูไม่ร้อนรนอย่างซุนปินเลยแม้แต่น้อย กลับชักชวนให้เผยลี่เชินนั่งลงค่อย ๆ คุยกัน ซุนปินที่อยู่ด้านข้างยังประหลาดใจเล็กน้อย จนฉวยโอกาสหาช่องว่างขณะพวกเขาคุยกันพูดเตือนขึ้นประโยคหนึ่ง “boss เรายังต้องไปร่วมงานเลี้ยงหนึ่งนะครับ ถ้าหากไม่เดินทางตอนนี้จะสายเกินไป” Chrisโบกมือไปทางเขา “งานเลี้ยงนั่นไม่ได้สำคัญอะไร ไปสายหน่อยไม่เป็นไรหรอก” ซุนปินไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ จึงเพียงแต่รอข้าง ๆ ด้วยความอดทน Chrisคุยกับเผยลี่เชินอย่างออกรส สี่สิบนาทีกว่าหลังจากนั้น การเจรจาก็จบลง เผยลี่เชินลุกขึ้น จับมือกับChris ต่างฝ่ายต่างอำลากัน แล้วเขาตามไปส่งChrisและซุนปินพร้อมกับไป๋เสว่เอ๋อร์ หลังจากเห็นรถของพวกเขาจากไปแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ลอบถอนใจอย่างเงียบ ๆ การพบปะเจรจาคืนนี้จบลงอย่างสวยงามกว่าที่เธอคิดไว้ทีเดียว 
已经是最新一章了
加载中