บทที่ 40 เลี้ยงฉันสักแก้วได้ไหม
1/
บทที่ 40 เลี้ยงฉันสักแก้วได้ไหม
สัญญาร้ายของประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
บทที่ 40 เลี้ยงฉันสักแก้วได้ไหม
บ๗ที่ 40 เลี้ยงฉันสักแก้วได้ไหม เพราะหันหน้าไปโดยไม่ตั้งใจ จึงประสานสายตากับดวงตาล้ำลึกของชายหนุ่มเข้าพอดี ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดลมหายใจลึก แอบนึกคาดเดาอารมณ์ของเขา “ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าเธอพูดภาษาอิตาลีได้?” เผยลี่เชินหันมา ท่าทางสนอกสนใจ “ฉันมีความสนใจในด้านภาษาน่ะค่ะ เมื่อก่อนตอนไปเที่ยวอิตาลีก็รู้สึกตกหลุมรักประเทศนี้ ดังนั้นพอกลับมาก็เลยหาครูต่างชาติมาสอน” มุมปากเผยลี่เชินยิ้มขึ้น ท่าทีผ่อนคลายกว่าเมื่อครู่มากทีเดียว เขาก้าวเดินพลางเอ่ยเสียงเรียบ “เมื่อกี้ทำได้ไม่เลว” นับเป็นคำชมที่หาได้ยากยิ่ง ไม่ทันรอให้ไป๋เสว่เอ๋อร์เอ่ยปาก เขาก็พูดต่อ “อยากได้รางวัลอะไรล่ะ?” ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินตามเขาออกจากร้านกาแฟ ยิ้มแย้มอยู่เงียบ ๆ ด้วยสถานการณ์ของเธอตอนนี้ สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคืออยากให้พ่อกับแม่สุขสบาย นอกเหนือไปจากนี้ก็ไม่คาดหวังอะไรอีก สองคนเดินเคียงกันออกจากล็อบบี้โรงแรม เผยลี่เชินไม่ได้ยินไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบคำเป็นนาน ก้าวเดินไปสักพัก คิ้วที่ขมวดก็คลายลง รอคอยคำตอบจากเธอ ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้าเห็นเผยลี่เชินอารมณ์ดี จึงลังเลอยู่ชั่วขณะ ก่อนเอ่ยปากลองเชิงดู “ถ้ายังไง เลี้ยงฉันสักแก้วได้ไหมคะ?” ค่ำคืนในเมืองหนานไห่นั้นแตกต่างจากไห่เฉิง บรรยากาศมีความเข้มข้นกว่า แสงท้องฟ้าหม่นสลัวทำให้ผู้คนอดนึกอยากดื่มสักแก้วไม่ได้ เผยลี่เชินได้ยินอย่างนั้น รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เลิกคิ้วขึ้น พลันหัวเราะเสียงต่ำ “ดื่มเหล้าได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าดื่มมากไปอย่าคิดว่าฉันจะส่งเธอกลับ” น้ำเสียงแฝงด้วยอารมณ์หยอกล้อช่วยทำให้บรรยากาศระหว่างคนสองคนมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกนิด พอออกมาจากโรงแรมของซุนปิน โรงแรมของพวกเขาก็อยู่ด้านข้าง หลังจากกินอาหารง่าย ๆ ที่ภัตตาคารในโรงแรมแล้ว ทั้งสองคนก็ตรงไปยัง bearbar ที่ชั้นใต้ดินของโรงแรม บรรยากาศในบาร์ค่อนข้างดี หลังจากเลือกที่นั่งตรงมุมบาร์ได้แล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ตรงไปสั่งวิสกี้ แววตาของเผยลี่เชินแสดงอาการตกตะลึง แต่ขณะเดียวกันในใจก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นสนอกสนใจมากขึ้นไปอีก เขาอยากจะดูว่าคุณหนูตระกูลไป๋จะคอแข็งสักแค่ไหน ไป๋เสว่เอ๋อร์ถอดเสื้อนอกของตัวเองออก เผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตคอวีติดลูกไม้ภายใน ทันทีที่วิสกี้มาเสิร์ฟ เธอก็เขย่าแก้วในมือแล้วจิบเบา ๆ จากมุมของเผยลี่เชิน สามารถเห็นเส้นโค้งเว้าอันงดงามของลำคอและปลายจมูกที่เชิดขึ้นเล็กน้อย เขายังไม่ทันเก็บสายตากลับ หญิงสาวก็หันหน้ามา ชั่วแวบที่สายตาประสาน ทั้งสองต่างชะงักงันชั่วขณะ ไป๋เสว่เอ๋อร์ถือแก้วแน่นขึ้น มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เปิดประเด็นแฝงนัยหยอกเย้า “เผยลี่เชิน ถ้าหากคราวนี้เราไม่ได้โปรเจกต์หนานไห่ กลับไปบริษัทจะเป็นยังไงคะ?” แววตาของเผยลี่เชินเป็นประกายเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ราวกับได้ยินเรื่องตลก “ไป๋เสว่เอ๋อร์ ใครบอกเธอว่าเราจะแพ้?” ไป๋เสว่เอ๋อร์ดื่มอึกหนึ่ง คิ้วที่ขมวดมุ่นค่อยคลายลง “ฉันแค่บอกว่าถ้า คนเราทำผิดพลาดได้เสมอไม่ใช่เหรอคะ?” ก่อนหน้านี้ ภาพพจน์ของเผยซื่อที่มีต่อเธอนั้นคือแม่ทัพผู้นำชัยชนะแห่งตลาดธุรกิจ แต่ว่าหลังจากที่เธอเข้ามายังเผยซื่อแล้ว รู้สึกว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น พวกเขาเองก็มีผิดพลาดบ้าง เจอเรื่องยากลำบากบ้าง เช่นการพัฒนาโปรเจกต์หนานไห่ หลายต่อหลายคนในบริษัทของเขาเคยลงมือแต่ก็ไม่เคยสำเร็จ เผยลี่เชินยกแก้วเหล้าด้วยท่วงท่าสง่างาม เอ่ยเนิบนาบ “ทำผิดก็ไม่เห็นเป็นไร ประเด็นอยู่ที่ต้องเรียนรู้ หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผิดพลาดซ้ำสอง หากจัดการโปรเจกต์หนึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่ข้อผิดพลาดเล็กน้อย แต่การกระทำบางอย่างนับเป็นความผิดร้ายแรง เมื่อเกิดขึ้นแล้วไม่อาจแก้ไข” ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินเข้า พลันรู้สึกจิตใจห่อเหี่ยว คำพูดไม่กี่คำของเผยลี่เชินทำให้เธอนึกถึงพ่อและตัวเองโดยไม่มีสาเหตุ ความผิดที่พ่อทำลงไปนั้นร้ายแรง แล้วทางเลือกของเธอ...ก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจกลับไปแก้ไขด้วยหรือเปล่า? เธอคิดพลาง ดื่มเหล้าในแก้วหมดโดยไม่รู้สึกตัว จึงเรียกบาร์เทนเดอร์ให้นำเหล้ามาเติมให้เธออีก เผยลี่เชินหรี่ตาลงเล็กน้อย มองดูการกระทำของหญิงสาวแล้วสามารถมองทะลุประโปร่งไปถึงความคิดในใจของเธอ เขาเอ่ยเสียงเรียบ “เหล้าช่วยแก้ปัญหาอะไรไม่ได้หรอก” เมื่อครู่เหล้าตกถึงกระเพาะ ตอนนี้ช่วงท้องของเธอจึงเริ่มอุ่นร้อนขึ้นมา อาจเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ช่วงเวลานี้เธอจึงไม่รู้สึกเป็นกังวลเท่าไหร่แล้ว “ชีวิตคนเราหากมีสติอยู่ตลอดทุกนาทีจะรู้สึกเหนื่อยแค่ไหนกันนะ? บางครั้งก็ต้องปล่อยตามอารมณ์บ้างรึเปล่า?” เธอพูดพลางเลิกคิ้วมายังเผยลี่เชิน โดยไม่ทันได้รอให้เผยลี่เชินพูดอะไร เธอมองชายหนุ่มแล้วหัวเราะออกมา “เผยลี่เชิน คุณช่างเป็นชายหนุ่มที่มีสติซะเหลือเกิน…” คำพูดของเธอแฝงนัยเย้ยหยันกึ่งหนึ่ง ล้อเลียนกึ่งหนึ่ง ทำให้คนฟังแยกไม่ออกว่าเป็นคำชมหรือดูหมิ่น เผยลี่เชินมองหญิงสาวกำลังถือแก้วเหล้า มุมปากยกขึ้น ดูแล้วผู้หญิงคนนี้คออ่อนกว่าที่เขาคิดไว้มากทีเดียว ยังไม่ทันถึงสองแก้ว เธอก็ปลดปล่อยความคิดพูดทุกสิ่งที่อยู่ในใจแล้ว เหล้าไม่กี่แก้วตกถึงท้อง หน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ร้อนผ่าวขึ้นมา เธอรู้สึกว่าหัวหนักอึ้ง แต่จิตใจกลับโล่งสบาย เธอไม่ได้ดื่มเก่งอะไรเลย ทั้งไม่ได้ดื่มบ่อยด้วย แต่หลังจากเกิดเรื่องกับตระกูลไป๋ ค่ำคืนนี้เป็นครั้งแรกที่ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง ไป๋เสว่เอ๋อร์มองด้านข้างของชายหนุ่ม เห็นแก้วในมือเขา ถึงได้รู้สึกตัวว่าแก้วที่สองในมือเขายังดื่มไม่หมด เวลานั้นเธอไม่คิดถึงอะไรอื่น มองไปยังชายหนุ่มแล้วหัวเราะออกมาสองที “เผยลี่เชิน ทำไมฉันรู้สึกว่าคุณดื่มไม่เก่งเท่าฉัน” เผยลี่เชินช้อนตามองหญิงสาวใบหน้าแดงก่ำหัวเราะคิกคักขณะจ้องมายังเขา มุมปากยกขึ้นเป็นหยักโดยไม่รู้สึกตัว เขากำลังจะพูด ทันใดก็เห็นหญิงสาวยกมือ ส่งสัญญาณให้บาร์เทนเดอร์เติมเหล้าอีกแก้ว เขายื่นมือไปรั้งข้อมือเธอไว้โดยไม่ลังเล คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “ทำไม? ตั้งใจว่าคืนนี้ไม่เมาไม่เลิกงั้นเหรอ?” ไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกเขารั้งไว้อย่างนั้น ร่างกายจึงเอนเอียงไปทางเขา เดิมทีระยะห่างของเก้าอี้บาร์นั้นใกล้ไม่เบา มาตอนนี้ไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกเขาดึง ร่างท่อนบนจึงพิงไปยังบนตัวของชายหนุ่ม ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังไม่เมาเสียทีเดียว เพียงแค่ใจกล้าขึ้นมาเพราะฤทธิ์เหล้าเท่านั้น เมื่อรู้สึกสับสนจึงใจกล้าขึ้นมาอีกนิด ขณะที่เธอกำลังจะผละตัวออกมาจากเผยลี่เชิน โทรศัพท์ที่อยู่บนบาร์หินอ่อนก็พลันสว่างวาบขึ้นมา หน้าจอโทรศัพท์มือถือส่องสว่างพลางสั่นสะเทือน ไป๋เสว่เอ๋อร์พิงตัวอยู่ใกล้โต๊ะ จึงมองเห็นชื่อคนโทรเข้าได้ถนัดตา--หย่าหาน โทรศัพท์ดังอยู่หลายครั้ง เผยลี่เชินยังไม่มีทีท่าจะรับสาย ไป๋เสว่เอ๋อร์เลิกคิ้วมองชายหนุ่ม “ไม่รับเหรอคะ?” เผยลี่เชินมองหน้าจอด้วยสายตาเรียบเฉย “ไม่ต้องรับ” หย่าหานคนนี้ ถ้าหากเธอจำไม่ผิด คงจะเป็นเหอหย่าหาน ผู้หญิงคนนั้นที่เธอเจอในบาร์โยวหลันครั้งก่อน โทรศัพท์ตัดสายไปเอง แต่ไม่นานก็ดังขึ้นอีกครั้ง ไป๋เสว่เอ๋อร์มองโทรศัพท์สั่นสะเทือนไม่หยุด ขมวดคิ้วเข้าหากัน โดยไม่คิดอะไรเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดปุ่มรับสาย “ฮัลโหล?” อีกฝ่ายชะงักงันไปชั่วขณะอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นมีเสียงเย็นชาของผู้หญิงลอยมาตามสาย “เธอเป็นใคร? ลี่เชินล่ะเขาอยู่ไหน?” ไป๋เสว่เอ๋อร์เหลือบมองเผยลี่เชิน ดวงตาฉายแววหยอกล้อ จงใจเลียนน้ำเสียงอีกฝ่ายตอบกลับไป “ลี่เชินเหรอ? ตอนนี้เขาไม่สะดวกรับสาย รอเขาว่างแล้วฉันจะเตือนให้เขาโทรกลับไป…” เผยลี่เชินได้ยินชื่อของตัวเองออกมาจากปากของหญิงสาว แล้วภายในอกหวั่นไหว แววตายากบ่งบอกถึงความรู้สึก เสียงของเธอเพิ่งจะเงียบลง อีกฝ่ายก็ตัดสายโทรศัพท์ดัง “แกร๊ก” ไป๋เสว่เอ๋อร์มองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสาย แบมือออกราวกับไม่มีเรี่ยวแรง วางโทรศัพท์กลับไปยังตำแหน่งเดิม วินาทีต่อมา ข้อมือของเธอถูกฝ่ามือกว้างอันร้อนแรงคว้าไว้ แววตาของเผยลี่เชินลึกล้ำ เขาออกแรงรั้งหญิงสาวเข้าหาตนเอง “เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าอะไร?”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 40 เลี้ยงฉันสักแก้วได้ไหม
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A