ตอนที่ 52 หลักฐานเสียง
1/
ตอนที่ 52 หลักฐานเสียง
สัญญาร้ายของประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 52 หลักฐานเสียง
ตนที่ 52 หลักฐานเสียง ชีพจรของไป๋เสว่เอ๋อร์กระตุก ชะงักงันไปชั่วขณะ สองมือยันแผ่นอกเขาโดยสัญชาตญาณ “ฉะ...ฉันเปล่า” เวลาอย่างนี้ เผยลี่เชินหรือจะเชื่อคำพูดของเธอ เขาฉีกยิ้มราวปีศาจ เอนไปยังเธออย่างเชื่องช้า “ทำไม? เมื่อคืนนี้ยังไม่พออีกเหรอ?” เมื่อคืนนี้...พอพูดถึงเมื่อคืนนี้ใบหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็แดงซ่านขึ้นมาทันที เมื่อคืนนี้เขาช่างราวกับสัตว์ป่า ร้องขอตลอดเวลาไม่สิ้นสุด พลิกเหวี่ยงเธอไปมาจนเธอแทบไม่มีแรงเหลือถึงจะยอมหยุดพัก แล้วจะบอกว่าไม่พอได้ยังไง… “พอค่ะ...ประธานเผย เราไปพบรองนายกเทศมนตรีกันดีกว่า...ขืนไม่รีบไปเกรงว่าจะสายเอานะคะ……” เผยลี่เชินได้ยินเข้า ขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วปล่อยมือจากเธอ เขาถอยหลังไปครึ่งก้าว เงยหน้ามองกระจกที่อยู่ด้านข้างเพื่อจัดชายเสื้อให้เรียบร้อย ไป๋เสว่เอ๋อร์รอดพ้น อดแอบถอนหายใจยาวไม่ได้ ขณะที่กำลังตบหน้าอกตัวเองอยู่นั้น ก็มีเสียงทุ้มต่ำลอยมาจากด้านข้าง “ไม่ต้องรีบร้อน รอจัดการธุระเสร็จก่อน แล้วเราค่อยมาคิดบัญชีกัน” ไป๋เสว่เอ๋อร์ย่นคิ้ว เงยหน้าขึ้นประสานสายตากับชายที่อยู่ในกระจกพอดิบพอดี เขายิ้มเหมือนไม่ยิ้ม ทำเอาเธอยิ่งมีสีหน้าหวาดหวั่น ไป๋เสว่เอ๋อร์วุ่นวายสับสนในใจ แอบกัดริมฝีปาก ดูท่าคราวหน้าอย่าไปยั่วโมโหเขาง่าย ๆ ท่าจะดีกว่า ทั้งสองคนออกเดินทางตอนสิบนาฬิกา พอถึงสถานที่ที่นัดไว้กับลู่ผิงชวน ก็มีคนตรงมารับพวกเขาเข้าไปในลิฟต์ เพื่อขึ้นไปยังห้องรับรองชั้นบน ไป๋เสว่เอ๋อร์กับเจิงหงตามหลังเผยลี่เชิน ยืนกันฝั่งละข้าง เมื่อพวกเขาเข้าไปในโรงแรม ก็อดรู้สึกเครียดขึ้นมาไม่ได้ ลู่ผิงชวนคนนี้ อย่างไรเสียก็เป็นถึงรองนายกเทศมนตรีเมืองหนานไห่ ได้ขึ้นมานั่งตำแหน่งนี้ย่อมหมายความว่าเขามีความสามารถ ต้องเป็นบุคคลที่รับมือได้ยากกว่าลู่ชิงอวี่อย่างแน่นอน บริกรนำพวกเขาไปจนถึงหน้าประตูห้องรับรอง ทางฝั่งซ้ายขวาของประตูห้องมีบอดีการ์ดสองคนยืนอยู่ ทั้งสองมีภาพลักษณ์เคร่งขรึม หนึ่งในบอดีการ์ดมองมายังเจิงหงหลายครั้ง เอ่ยปากพูดกับเผยลี่เชิน “ขออภัยด้วย เขาเข้าไปข้างในไม่ได้” คนที่ฝึกวิชาจะดูออกว่าอีกฝ่ายมีทักษะหรือไม่ พวกเขากวาดตามองครั้งเดียวก็เห็นได้ชัดว่าเจิงหงมีสถานะอะไร เจิงหงเอ่ยปากพูด “ผมเป็นคนขับรถ ทำไมจะเข้าไปด้วยไม่ได้?” บอดีการ์ดอีกฝ่ายพูดอย่างไม่เกรงใจ “ในห้องไม่จำเป็นต้องขับรถ จะเอาคนขับเข้าไปทำไม?” เจิงหงถึงกับหน้าเปลี่ยนสี ไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยปาก เผยลี่เชินก็กล่าวด้วยเสียงต่ำ “พอได้แล้ว นายรออยู่ข้างนอกแล้วกัน” เจิงหงได้ยินอย่างนั้น ก็ตกปากรับคำ เดินไปอีกทาง บอดีการ์ดจึงยอมถอยไปอีกฝั่ง ผลักประตูเปิดให้เผยลี่เชินและไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าไป ห้องรับรองถูกตบแต่งอย่างหรูหรา ตรงกลางห้องคือโต๊ะกลมขนาดนั่งได้สิบคนวางอยู่ มีอาหารจัดเรียงเต็มโต๊ะ คนคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าต่าง หันหลังให้ทั้งสองคน ลู่ผิงชวนนั่นเอง พอเขาได้ยินเสียง ก็ค่อย ๆ หันตัวมา ร่างของเขาไม่สูงนัก จอนผมสองข้างมีสีเทาแซม อายุราวสี่สิบกว่าปี สีหน้าแจ่มใส ดวงตาสองข้างสดใสเป็นประกาย สายตาของเขากวาดตามองมายังเผยลี่เชินและไป๋เสว่เอ๋อร์อย่างรวดเร็ว แล้วจึงมาหยุดนิ่งที่เผยลี่เชิน ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรก็หัวเราะออกมาเสียก่อน ลู่ผิงชวนก้าวเท้ายาวมาข้างหน้า เป็นฝ่ายเข้ามาต้อนรับ “ประธานเผย เผยลี่เชิน สมดังสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น!” ใบหน้าของเผยลี่เชินเปื้อนยิ้ม สาวเท้าไปข้างหน้าเพื่อจับมือกับเขา เอ่ยทักทายเสียงดัง “สวัสดีรับท่านรองนายกเทศมนตรี ได้ยินชื่อเสียงมานาน” หลังจากเอ่ยทักทายกันแล้ว ลู่ผิงชวนก็เผยมือเชิญให้ทั้งสองนั่งลง “นั่งเถอะ ไม่ต้องพิธีรีตองมากนัก อยากพบประธานเผยมานาน ครั้งนี้ได้ยินว่าคุณอยู่เมืองหนานไห่ จึงได้ติดต่อมาหาคุณทันที” เผยลี่เชินยิ้มแย้มนั่งลง ปราศจากท่าทีกระตือรือร้นแต่ก็ไม่ถึงกับเย็นชา “ในฐานะคนรุ่นใหม่อย่างผมควรจะเป็นฝ่ายติดต่อไปจึงจะถูก ให้ท่านเป็นฝ่ายติดต่อมาก่อน ช่างเสียมารยาทจริง ๆ” เผยลี่เชินพูดพลาง ยกแก้วเหล้าบนโต๊ะ อวยพรให้แก่ลู่ผิงชวนก่อน “เพื่อเป็นการขออภัย เหล้าแก้วนี้ถือว่าผมลงโทษตัวเองนะครับ” เผยลี่เชินพูดจบ ก็ยกแก้วดื่มรวดเดียวจนหมด ลู่ผิงชวนหัวเราะพลางโบกมือไปมา “เกรงใจไปแล้ว ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นหรอก ในเมื่อทุกคนต่างมีเวลา จะมาพบกันตอนไหนก็ย่อมได้” เขาพูดพลางยกแก้วเหล้าในมือ “ประธานเผย ผมควรจะแสดงความเคารพให้คุณหนึ่งแก้ว ได้ยินว่าเมื่อคืนนี้หลานชายไม่เอาไหนของผมก่อความวุ่นวายให้คุณหรือ?” เขาเป็นฝ่ายเปิดประเด็นถึงเรื่องนี้ เผยลี่เชินมีสีหน้านิ่ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเชื่องช้า “ไม่ถึงกับวุ่นวายหรอกครับ คุณชายลู่เพียงเล่นไพ่กับผมไม่กี่ตา แล้วลงเดิมพันกันเท่านั้น” เผยลี่เชินหยิบขวดเหล้าที่อยู่ด้านข้างขึ้น รินลงแก้วของตนเอง ลู่ผิงชวนจับตามองทุกการกระทำของเผยลี่เชิน แสร้งทำขึงขัง เอ่ยเสียงเย็น “ผมแค่รู้ว่าเขาทำเรื่องไม่ดี! ประธานเผยวางใจได้ ผมจะอบรมสั่งสอนเขา ไว้คราวหน้าจะพาเขาไปขอขมาต่อหน้าคุณ!” “จะขอขมาหรือไม่นั้นไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ว่าเมื่อคืนผมเดิมพันกับคุณชายลู่ไว้” เผยลี่เชินวางขวดเหล้าในมือลง ก้นขวดแก้วกระทบกับผิวโต๊ะกระจก ส่งเสียง “แกร๊ก” ดังบาดหู ลู่ผิงชวนเลิกคิ้ว มองยังเผยลี่เชิน แสร้งทำเป็นสงสัย “เดิมพัน? ไม่ทราบว่าเดิมพันอะไรกัน ทำไมประธานเผยไม่เล่าให้ผมฟังสักหน่อยล่ะครับ?” ไป๋เสว่เอ๋อร์นั่งอยู่ข้าง ๆ มองทั้งสองคน อดรู้สึกตึงเครียดตามไม่ได้ ตั้งแต่เธอเข้ามาในห้องรับรองก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมนุษย์ล่องหน มาในตอนนี้บรรยากาศกดดันยิ่งขึ้น เธอยิ่งไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เป็นไปไม่ได้ว่าลู่ผิงชวนจะไม่รู้เห็น ที่เขาแสดงออกอยู่ในตอนนี้ ก็เพื่อทดสอบเผยลี่เชิน ใช่ว่าเผยลี่เชินจะไม่เข้าใจข้อนี้ เขามองยังลู่ผิงชวน ยิ้มที่มุมปาก เอ่ยเสียงเบา “เรื่องรายละเอียดการเดิมพัน ผมไม่ขอพูดซ้ำสอง” เขาหันไปมองยังไป๋เสว่เอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง ออกคำสั่งแผ่วเบา “เอาปากกาอัดเสียงในกระเป๋าออกมา” ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินแล้วนิ่งไป มองตามสายตาของเผยลี่เชินที่เหลือบไปยังกระเป๋าถือ แล้วเปิดกระเป๋าอย่างงุนงง ทว่ากลับเจอปากกาอัดเสียงอยู่ในกระเป๋าจริง ๆ เขาเอาใส่เข้าไปข้างในตั้งแต่เมื่อไหร่? เธอไม่เห็นรู้เรื่อง! แม้ไป๋เสว่เอ๋อร์จะประหลาดใจ แต่ก็รู้ดีว่าไม่ใช่เวลาตั้งคำถาม เธอหยิบปากกาอัดเสียงออกมาอย่างว่าง่าย จากนั้นมองไปยังเผยลี่เชิน รอฟังคำสั่งจากเขา เผยลี่เชินพยักหน้ามาทางเธอ ไป๋เสว่เอ๋อร์กดปุ่มที่อยู่บนปากกาอัดเสียง วินาทีต่อมา ก็มีเสียงดังออกมาจากข้างใน “ฉันไม่ว่างมาเสียเวลากับเผยซื่ออย่างพวกแกหรอกนะ วันนี้มาตกลงกัน หากฉันแพ้ ฉันจะปล่อยมือจากที่ดินนั่น แต่ถ้าหากนายแพ้ นายต้องปล่อย---” “นอกจากที่ดินผืนนั้นแล้ว นายต้องยอมให้คุณไป๋อยู่กับฉันหนึ่งคืน” “......” บทสนทนาของพวกเขากับลู่ชิงอวี่ภายในห้องรับรองเมื่อคืนนี่เอง เสียงไม่ดังไม่ค่อยจนเกินไป เพียงพอให้คนที่อยู่ภายในห้องได้ยินอย่างชัดเจน จากนั้นก็มีอีกเสียงหนึ่งตามมา “ฉันไม่สนเรื่องลูกผู้ชายอะไรหรอก วันนี้ฉันจะบอกให้รู้ไว้ ที่ดินนั่นนายอย่าหวังจะเอาไปได้ ผู้หญิงคนนี้ก็ต้องทิ้งเอาไว้เหมือนกัน!” นี่คือคำพูดที่ลู่ชิงอวี่พูดไว้หลังจากเล่นไม่ซื่อ เห็นได้ชัดว่าไฟล์เสียงนี้ถูกตัดแต่ง คำพูดที่คัดเลือกมาคือคำพูดที่แสดงภาพให้เห็นชัดเจนที่สุด การเดิมพันเป็นสิ่งที่ลู่ชิงอวี่เสนอขึ้น ของเดิมพันก็เป็นเขาวางเอง สุดท้ายคนที่เล่นไม่ซื่อก็คือเขา เรื่องนี้หมายความว่าอย่างไร ไม่จำเป็นต้องอธิบาย ปากกาอัดเสียงในมือของไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกเปิดฟังเนิ่นนาน เธอไม่รู้เลยสักนิดว่ามีไฟล์เสียงนี้ ทว่าเผยลี่เชินกลับบันทึกไว้อย่างละเอียด แถมยังตัดต่อเสียงอัดใส่ไว้ในปากกา ตอนนี้มีหลักฐานเด่นชัด ต่อให้ลู่ชิงอวี่อยากหาที่พึ่งก็ทำไม่ได้แล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์เพิ่งเข้าใจเป็นครั้งแรกว่าอะไรคือการรู้จักปรับตัวทุกสถานการณ์ อะไรเรียกว่าประจวบหมาะ เผยลี่เชินกระทำสิ่งใดก็ตาม ล้วนเต็มไปด้วยความละเอียดลออถี่ถ้วน ไป๋เสว่เอ๋อร์คิดพลางเงยหน้ามองยังชายหนุ่ม รู้สึกชื่นชมจากก้นบึ้งของหัวใจ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 52 หลักฐานเสียง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A