ตอนที่ 83 อย่าหาข้อแก้ตัวอีก
1/
ตอนที่ 83 อย่าหาข้อแก้ตัวอีก
สัญญาร้ายของประธานปีศาจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 83 อย่าหาข้อแก้ตัวอีก
ตนที่ 83 อย่าหาข้อแก้ตัวอีก “เสว่เอ๋อ!” ใบหน้าของแม่ไป๋เต็มไปด้วยความโกรธ ราวกับจะพูดบางอย่างออกมา ทว่าไป๋เสว่เอ๋อกลับหันหลังให้ทันที รีบเดินไปที่บันไดอย่างรวดเร็ว เพิ่งก้าวขึ้นบันไดไปได้เพียงสองขั้น น้ำตาของหล่อนก็ไหลรินลงมา หล่อนคิดไม่ถึงเลยว่า หลังจากที่ตระกูลไป๋เกิดปัญหาขึ้น เพื่อนมิตรที่เคยอยู่เคียงข้างกันเมื่อก่อนกลับเมินหน้าหนีกันไปหมด ทุกคนต่างมีท่าทีเปลี่ยนไป แม้กระทั่งแม่ของตัวเอง ยังเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้! สถานการณ์ของพ่อที่อยู่ในคุกตอนนี้เป็นยังไง ตัวหล่อนเองก็ไม่รู้เลย แต่ผู้เป็นแม่กลับให้หล่อนไปให้ที่พึ่งพิง.... หล่อนไม่ยอม! ไม่ว่าเมื่อก่อนพ่อจะเคยทำอะไร ยังไงเขาก็เป็นพ่อสายเลือด หล่อนจะไม่ทอดทิ้งเขาไปไหน หล่อนไม่ต้องการคนพึ่งพิง หล่อนเพียงอยากใช้ความสามารถของตัวเองมาทำให้ตระกูลไป๋เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เพียงเท่านี้เอง เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ไป๋เสว่เอ๋อตื่นขึ้นมา ไม่ได้ทานอาหารเช้า วางเงินสองพันหยวนไว้บนโต๊ะอาหารให้แม่ จากนั้นก็ออกจากบ้านไป เมื่อถึงบริษัท หล่อนทำงานยุ่งตลอดทั้งเช้า เริ่มจากประชุม ทั้งยังทำรายงานสรุป ไป๋เสว่เอ๋อแทบจะไม่มีเวลาว่างเลย ใกล้ถึงเวลาเที่ยง หล่อนนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานจองโต๊ะที่ร้านอาหารให้เผยลี่เชินและประธานบริษัทการเงินฝู้ฉัย วันนี้ต้องโทรไปยืนยันกับทางร้านอีกครั้ง หล่อนโทรศัพท์ไปอีกครั้ง หลังจากคอนเฟิร์มที่นั่งและอาหารกับทางร้านแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด หล่อนนำแท็บเล็ตไปที่ห้องทำงานของเผยลี่เชินเพื่อย้ำตารางงานหลังจากนี้ให้เขา “ประธานเผยคะ วันนี้ตอนเที่ยงมีนัดทานข้าวกับประธานอู๋หัวหน้าบริษัทการเงินฝู้ฉัย ออกเดินทางจากออฟฟิศไปถึงร้านอาหารญี่ปุ่นใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง รออีกสักครู่ก็สามารถออกเดินทางได้เลยค่ะ” เผยลี่เชินที่กำลังเปิดอ่านเอกสาร ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา แต่ออกเสียงตอบรับ “ครับ” ไป๋เสว่เอ๋อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยปากถามขึ้น “ประธานเผยคะ มีเรื่องอะไรจะให้จัดการเพิ่มไหมคะ?” เผยลี่เชินได้ยินไป๋เสว่เอ๋อถามจึงเงยหน้าหันไปมองหล่อน ชะงักลงครู่หนึ่ง “วันนี้ไปกินเลี้ยงกับผมตอนเที่ยง” หลังจากกลับมาจากเมืองหนานไห่ เผยลี่เชินออกไปกินเลี้ยงด้านนอกกับเลขาคนอื่นตลอด หล่อนยังไม่เคยได้ไปร่วมกินเลี้ยงกับเขา น้ำเสียงของไป๋เสว่เอ๋อแฝงไปด้วยความดีใจ รีบตอบรับทันที “โอเคค่ะ” หลังจากรอเผยลี่เชินจัดการงานเสร็จ พวกเขาก็ออกเดินทางตรงไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นทันที นัดกับผู้ช่วยของอีกฝ่ายไว้ตอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง เผยลี่เชินกับไป๋เสว่เอ๋อเพิ่งถึงร้านอาหาร หลังจากบอกชื่อผู้ที่จองล่วงหน้าไว้ก็มีพนักงานที่สวมชุดกิโมโนญี่ปุ่นมาต้อนรับเดินนำไปที่ห้องวีไอพี ไป๋เสว่เอ๋อเดินไปพร้อมถามเขาด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา “ประธานเผยคะ ต้องการให้ฉันโทรถามผู้ช่วยของประธานอู๋ว่าตอนนี้ถึงไหนแล้วไหมคะ?” ขณะเผยลี่เชินกำลังจะพูด พนักงานที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นเสียก่อน “ห้องวีไอพีแปดมีแขกมาแล้วนะคะ มาถึงเจ็ดแปดนาทีแล้วค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อได้ยินเช่นนั้น ไม่ได้พูดอะไรต่อ จะว่าไปแล้ว ประธานอู๋ฝ่ายบริษัทการเงินฝู้ฉัยคงจะมาก่อนแล้ว ทั้งสองเดินตามพนักงานไป เดินเลี้ยวไปตรงทางเดิน เดินต่ออีกไม่กี่ก้าว ไป๋เสว่เอ๋อมองเห็นผู้ชายสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องวีไอพีไม่ไกลมากนัก เผยลี่เชินก็มองเห็นเช่นกัน เขารีบเดินตรงไป พูดจาทักทาย “ประธานอู๋ ถึงหน้าประตูแล้วทำไมถึงไม่เข้าไปล่ะครับ?” ไป๋เสว่เอ๋อเพิ่งรู้ว่าผู้ชายสองคนนี้เป็นผู้ช่วยของประธานอู๋กับเขานี่เอง แต่ทว่าสีหน้าของประธานอู๋ดูไม่สู้ดีนัก เหมือนกับว่าไม่ค่อยมึความสุข ประธานอู๋ได้ยินเขาพูดทักทายเช่นนั้น เดินก้าวขึ้นมาใกล้มากขึ้น มองไปที่เผยลี่เชิน พูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจ “ประธานเผย คุณกับผมทำงานร่วมกันมาตั้งหลายครั้งแล้ว ถ้าพวกคุณตระกูลเผยไม่พอใจอะไรกับฝ่ายบริษัทการเงินฝู้ฉัย ทำไมถึงไม่พูดกันต่อหน้า? ทำไมต้องใช้วิธีแบบนี้มากลั่นแกล้งผม?” เผยลี่เชินขมวดคิ้วชนกัน รีบเอ่ยปากถาม “ทำไมประธานอู๋ถึงพูดแบบนี้? เข้าใจผิดอะไรรึเปล่าครับ” ไป๋เสว่เอ๋อเหงื่อออกไปทั้งตัวยืนอยู่ด้านข้าง เห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร “เข้าใจผิด? ประธานเผย ผมไม่มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับคุณมากนัก ทัศนคติแบบพวกคุณนี่นะ ผมว่า การร่วมงานครั้งนี้ไม่ต้องมาพูดกันแล้ว!” ประธานอู๋ส่ายมือ เดินออกไป “ประธานอู๋....” เผยลี่เชินเดินตามไป กำลังจะถามขึ้นอีกครั้ง ผู้ช่วยของประธานอู๋กลับมายืนกั้นตรงหน้าเข้าไว้ “ประธานเผย ขอโทษนะครับ คุณกับประธานอู๋ของพวกเราเคยเจอกันเป็นการส่วนตัวหลายครั้งแล้ว คุณก็รู้ดีว่าเอวและขาของเขาไม่ค่อยสะดวกในการเคลื่อนไหว ไม่สามารถนั่งขัดสมาธิได้ ยังจะเจตนาจองร้านแบบญี่ปุ่น นี่ไม่ถือว่าตั้งใจทำให้ประธานอู๋ต้องลำบากงั้นเหรอครับ?” เมื่อเขาพูดจบ กลับหลังหันเดินตามประธานอู๋ออกจากร้านไปทันที เผยลี่เชินขมวดคิ้ว มองดูประธานอู๋และผู้ช่วยเดินเลี้ยวหายไป สีหน้านิ่งขรึม ไป๋เสว่เอ๋อเพิ่งตั้งสติได้ หล่อนเงยหน้ามองไปที่เผยลี่เชิน รู้สึกกระวนกระวายจนเกรงกลัวไปหมด ร้านอาหารร้านนี้หล่อนเป็นคนจอง หล่อนไม่รู้เลยสักนิดว่าขาของประธานอู๋เคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก.... หล่อนยังไม่ทันได้เรียบเรียงคำพูด เผยลี่เชินก็หันมามองหล่อนเรียบร้อยแล้ว “ร้านอาหารร้านนี้เธอเป็นคนจองเหรอ?” ไป๋เสว่เอ๋อกัดฟัน สบตามองไปที่สายตาอันเยือกเย็นของฝ่ายชาย พยักหน้าลง หล่อนกำมือแน่น รวบรวมความกล้าเงยหน้าขึ้นมองเขา เอ่ยปากพูดอธิบาย “ฉันไม่รู้ว่าขาของประธานอู๋เคลื่อนไหวไม่สะดวก...เลขาสวี่ให้ฉันจองโต๊ะเท่านั้น ไม่ได้บอกอย่างอื่น...” เผยลี่เชินเชิดหน้าขึ้น เห็นได้ชัดว่ากำลังอดกลั้นความโกรธ เขาค่อยๆหันมา น้ำเสียงเย็นชา “ไป๋เสว่เอ๋อ น้ำที่ไหลออกไปแล้วจะเก็บกลับมาไม่ได้แล้ว ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่ต้องหาเหตุผลอะไรมาเป็นข้อแก้ตัวแล้ว” เสียงของเขาหนักแน่นและนุ่มลึก ทุกทุกคำกระแทกเข้าไปในใจของไป๋เสว่เอ๋อ หล่อนเงยหน้าขึ้น เห็นเผยลี่เชินเดินออกไปข้างนอกแล้ว ตอนนั้นเองหล่อนรู้สึกผิดขึ้นมาทันที หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หล่อนพยายามจัดการอารมณ์ตัวเอง ออกมาจากร้านอาหารพบว่าเผยลี่เชินได้ออกไปแล้ว ความรู้สึกผิดหวังเสียใจแผ่ซ่านไปทั้งหัวใจ หล่อนยังไม่ได้ทานข้าวก็รีบกลับไปที่บริษัททันที บังเอิญเจอกับสวี่เยว่หรูที่เพิ่งกลับจากทานข้าวหน้าประตูลิฟต์พอดี เมื่อสวี่เยว่หรูเห็นหล่อน ตั้งใจหัวเราะขึ้นพลางถาม “เธอไปกินเลี้ยงกับประธานเผยไม่ใช่เหรอ? ทำไมกลับมาเร็วจังเลยล่ะ?” ไป๋เสว่เอ๋อมองดูใบหน้าที่กำลังหัวเราะมองมาที่หล่อน แอบกำมือไว้แน่น หล่อนพยายามอดกลั้นความโมโหเอาไว้ ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เลขาสวี่ ประธานอู๋ฝ่ายบริษัทการเงินฝู้ฉัยไม่ได้ชอบทานอาหารดิบ ใช่รึเปล่า?” “ครั้งที่แล้วฉันไปพบประธานอู๋กับประธานเผย เขาสั่งสเต็กเนื้อแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ เขาพูดเองว่าชอบอาหารที่ดิบนิดหน่อย ดังนั้นฉันถึงได้บอกเธอแบบนั้นไง มีอะไรรึเปล่า? ” ความชอบระดับความสุกดิบในการทานสเต็กกับชอบหรือไม่ชอบทานอาหารดิบมันคนละเรื่องกัน สวี่เยว่หรูบอกหล่อนว่าประธานอู๋ชอบทานอาหารดิบ คนปกติก็ต้องนึกถึงอาหารญี่ปุ่น และร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีระดับส่วนใหญ่ก็มีการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะต้องนั่งแบบขัดสมาธิบนเสื่อทาทามิ ไป๋เสว่เอ๋อสูดหายใจเข้าลึก ถามขึ้นอีกครั้ง “งั้นเรื่องขาของประธานอู๋ที่เคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก เธอรู้รึเปล่า?” สวี่เยว่หรูพยักหน้า ยอมรับอย่างไม่ปิดบังอะไรทั้งสิ้น “รู้สิ” หล่อนชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นมองไป๋เสว่เอ๋อด้วยสาตาที่เหยียดหยาม “ทำไมเหรอ? เธอไม่รู้งั้นเหรอ? ฉันคิดว่าเธอรู้ซะอีก!” ไป๋เสว่เอ๋อกัดฟัน จับชายเสื้อไว้แน่น พูดอะไรไม่ออก หล่อนมาทำงานที่ตระกูลเผยไม่นานนัก ข้อมูลรายละเอียดของคู่ค้าที่ทำธุรกิจร่วมกับตระกูลเผยหล่อนยังไม่คุ้นเคยดีนัก แต่สวี่เยว่หรูกลับบอกข้อมูลเธอเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ตั้งใจหาเรื่องเธอแน่นอน แต่ยังไงก็ยังหาจุดอ่อนของสวี่เยว่หรูไม่ได้ หล่อนเป็นคนจองร้านอาหาร ไม่ได้ทำความเข้าใจกับข้อมูลหรือรายละเอียดของฝ่ายตรงข้ามให้รอบก่อนก็ถือเป็นความผิดพลาดของหล่อน ไม่สามารถไปโทษคนอื่นได้ สวี่เยว่หรูมองดูท่าทางของไป๋เสว่เอ๋อ รู้สึกลำพองใจสะใจ “ไป๋เสว่เอ๋อ เธอคงไม่ได้ไปทำอะไรผิดพลาดมาใช่ไหม?” ไป๋เสว่เอ๋อเชิดหน้ามองตรงไปที่ผู้หญิงตรงหน้า น้ำเสียงไม่พอใจ พยายามทำสีหน้าให้เป็นมิตรต่อสวี่เยว่หรู “เลขาสวี่ ถ้าเธอมีปัญหาอะไรกับฉัน พูดต่อหน้าฉันได้นะ แต่ขอร้องเถอะ ต่อไปอย่าใช้วิธีเยี่ยงนี้มาปฏิบัติต่อฉันอีก” สวี่เยว่หรูได้ยินเช่นนนั้น ถอดสีหน้าทันที พูดด้วยความเยาะเย้ย “ปฏิบัติต่อเธอ? ไป๋เสว่เอ๋อ เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกันงั้นเหรอ?”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 83 อย่าหาข้อแก้ตัวอีก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A