ตอนที่111 พวกเธอกำลังใจดูกันรึเปล่า   1/    
已经是第一章了
ตอนที่111 พวกเธอกำลังใจดูกันรึเปล่า
ต๭นที่111 พวกเธอกำลังใจดูกันรึเปล่า “แม่!” สีหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์เปลี่ยนไป “ตอนนี้หนูกำลังไปได้สวย ทำไมให้หนูลาออก อีกอย่างถ้าหนูลาออกแล้วเราสองคนจะอยู่ยังไง?” “เฮ้อ...เสว่เอ๋อร์! ลูกไม่ค่อยฟังที่แม่พูดเลย ถ้าหากลูกฟังแม่ ก็คงได้ลงเอยกับเผยอี้ไปนานแล้ว ลาออกจากงาน ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้!” พอได้ฟังคุณแม่ไป๋พูดเรื่องเธอกับเผยอี้ เธอก็รู้สึกปวดขมับขึ้นมาทันที อารมณ์ของเธอเปลี่ยนไป สีหน้าหมองลง ไม่พูดอะไรเลย คุณแม่ไป๋เห็นท่าทางเธอแบบนี้ จึงยื่นมือมาตบที่ไหล่ของเธอเบาๆ “เสว่เอ๋อร์คิดดูให้ดีนะ ถ้าพวกเราอาศัยใกล้ภูเขา ก็ไม่มีใครกล้ามาตอแยรังแกพวกเราสองแม่ลูกได้? พวกเราจะได้ไม่ต้องมีชีวิตที่ยากลำบาก” เผยลี่เชินยืนอยู่ที่ประตู ได้ยินเสียงมาจากในห้องทำให้หน้ามุ้ย ดูเหมือนคุณแม่ไป๋จะยึดมั่นในความคิดจับคู่ไป๋เสว่เอ๋อร์กับเผยอี้ ใจของเขาเหมือนถูกอัดแน่น ได้ยินสิ่งที่คุณแม่ไป๋พูดครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดก็หมดความอดทน “ก๊อก” เสียงเผยลี่เชินเคาะประตูแล้วเปิดออก ก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้อง คุณแม่ไป๋ได้ยินจึงหยุดแล้วหันไปมอง เห็นเผยลี่เชินเข้ามา เธอก็ถึงกับตัวแข็งทื่อ เผยลี่เชินกวาดสายตามองเธอทั่วร่าง แล้วหันไปพูดกับไป๋เสว่เอ๋อร์ วางอาหารเช้าที่อยู่ในมือ จากนั้นก็กางโต๊ะตัวเล็กวางไว้บนเตียง “เผย....ประธานเผย?” คุณแม่ไป๋เคยเจอเผยลี่เชินในงานเลี้ยงครั้งหนึ่ง ไป๋เจิ้งตงเคยแนะนำให้เธอรู้จักว่าเผยลี่เชินยังหนุ่มยังแน่น ร่ำรวย จิตใจดี ความสามารถเป็นเลิศ จนทำให้คุณแม่ไป๋ประทับใจ เผยลี่เชินได้ยินจึงมองเธอแล้วพยักหน้าแสดงการทักทาย “คุณนายไป๋” นี่ถือเป็นการทักทาย จากนั้นเขาก็ละสายตา แล้วก็นำอาหารเช้าวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับเตือนว่า “กินตอนร้อนๆ นะ” “คะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบรับ เงยหน้ามองเห็นใบหน้าของคุณแม่ไป๋ที่มองเขาด้วยความประหลาดใจ ไป๋เสว่เอ๋อร์แนะนำเผยลี่เชิน “แม่...เขาเป็นเจ้านายหนูคะ หนูทำงานอยู่กับเขา” สีหน้าของคุณแม่ไป๋เปลี่ยนไปนิดหน่อยพร้อมกับรอยยิ้ม “คิดไม่ถึงว่าเสว่เอ๋อร์จะทำงานอยู่กับประธานเผย ทำให้ประหลายใจจริงๆ !” เผยลี่เชินลุกขึ้นยืนพร้อมขยับมุมปากขึ้น ทำให้ดูเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม เงยหน้ามองคุณแม่ไป๋ “เมื่อสักครู่ผมได้ยินที่คุณนายไป๋พูดว่าต้องการให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ลาออก เป็นเพราะผมในฐานะเจ้านาย ทำเรื่องอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือครับ?” “ไม่ใช่....ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น” คุณแม่ไป๋หัวเราะกลบเกลื่อนทันทีทันใด เมืองไห่เฉิงไม่มีใครไม่รู้จักเผยลี่เชินว่าเป็นคนอย่างไร เมื่อก่อนเธอได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเขาพอสมควร เผยอี้เป็นแค่ลูกนอกสมรสของตระกูลเผย แต่เขาเป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเผย เอาทั้งสองสถานะมาเปรียบเทียบกัน ใครได้เปรียบใครเสียเปรียบดูไม่ยากเลย ดังนั้นคุณแม่ไป๋อยากให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ลงเอยกับเผยอี้ เพราะว่าอย่างแรกพวกเขาเคยคบกันมาก่อน มีความสัมพันธ์ที่ดีเป็นพื้นฐาน สองเผยซื่อเปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่แห่งเมืองไห่เฉิง ลมพัดแรงแค่ไหนก็ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ คิดไม่ถึงว่าเผยลี่เชินจะเป็นเจ้านายของไป๋เสว่เอ๋อร์ ถ้าเธอสามารถคว้าใจของเผยลี่เชิน ซึ่งเปรียบเหมือนไม้ใหญ่ของบริษัท เธอก็คงไม่คิดจับคู่ลูกสาวกับเผยอี้ “ประธานเผย เสว่เอ๋อร์น่าสงสารไม่รู้ว่าใครทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้ เพราะฉันเป็นห่วงลูกสาวถึงได้พูดแบบนี้ ถ้ารู้แต่แรกว่าเธออยู่ในความดูแลของคุณ ฉันก็วางใจ” ไป๋เสว่เอ๋อร์คาดไม่ถึงว่าใบหน้าของแม่จะเปลี่ยนได้เร็วขนาดนี้ ยิ่งคาดไม่ถึงว่าแม่จะแสดงท่าทางประจบประแจงเขา เผยลี่เชินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผมเป็นเจ้านายของไป๋เสว่เอ๋อร์ เธอได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ ผมต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว เรื่องนี้ผมกำลังตามสืบ แต่ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง.....” นำเสียงของเขาทำให้คนฟังแสดงท่าทางยากจะปฏิเสธ “เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไป๋เสว่เอ๋อร์กับน้องชายผมเผยอี้ ตามที่ผมเข้าใจทั้งสองต่างก็เลิกกันแล้ว นอกจากนี้เผยอี้ยังมีผู้หญิงอื่น การที่คุณนายไป๋จับคู่ระหว่างไป๋เสว่เอ๋อร์กับเผยอี้ ผมว่ามันไม่ถูกต้อง” ฟังจากน้ำเสียงที่ปรึกษาหารือกันแล้วมีความกดดันที่มองไม่เห็นซ่อนอยู่ สีหน้าของคุณแม่ไป๋ดูแข็งทื่อ ยิ้มเฝื่อนๆ “ที่แท้เผยอี้มีผู้หญิงอื่นแล้วแสดงว่าฉันไม่คิดให้รอบคอบก่อน ขอบคุณประธานเผยที่เตือนสติ ที่ฉันอยากให้เขาทั้งคู่ลงเอยกัน ก็เพราะอยากให้เสว่เอ๋อร์มีชีวิตที่ดี ใบหน้าของเผยลี่เชินแสดงความไปตามมารยาทแต่ก็แฝงด้วยรอยยิ้มแปลกๆ “ในเมื่ออยากให้เธอได้ดี ก็ต้องฟังความคิดของเธอซิครับ” “ใช่....ใช่ ฉันก็กำลังคิด” “งั้นพวกเธอคุยกันไปก่อนนะ ฉันไม่กวนพวกเธอแล้ว” เผยลี่เชินพยักหน้ารับ สายตาจับจ้องที่ไป๋เสว่เอ๋อร์แล้วหันหลังเดินจากห้องไป เสียงปิดประตูห้องวอร์ดจึงเริ่มเงียบ ผ่านไปสักพัก คุณแม่ไป๋หันมามองไป๋เสว่เอ๋อร์พร้อมกับพูดด้วยเสียงต่ำ “เสว่เอ๋อร์ ทำไมแม่ไม่เคยได้ยินลูกพูดเกี่ยวกับเผยลี่เชินเป็นเจ้านายลูก?” ไป๋เสว่เอ๋อร์ดื่มโจ๊ก ตอบด้วยเสียงเรียบๆ “แม่...ก็แม่ไม่เคยถามหนู” คุณแม่ไป๋ได้ยินจึงเงียบไปสักครู่ แล้วเดินไปนั่งที่ขอบเตียง ถามคำถามไป๋เสว่เอ๋อร์ “แม่ได้ยินน้าหรงพูดว่า ครั้งที่แล้วตอนมาโรงพยาบาลเห็นลูกมากับผู้ชายหล่อล่ำ ใช่เผยลี่เชินไหม?” ไป๋เสว่เอ๋อร์จับช้อนนิ่งชั่วขณะแล้วขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าปากของสวี่ลี่หรงจะไวขนาดนี้จนแม่ก็รู้เรื่องเข้าจนได้ เธอไม่อยากโกหก จึงพูดไปตามจริง “อืม” ดวงตาของคุณแม่ไป๋เป็นประกายยื่นมือมาจับมือของเธอไว้ ถามด้วยความตื่นเต้น “ลูกกำลังคบหาดูใจกับเผยลี่เชิน ใช่ไหม?” ไป๋เสว่เอ๋อร์ตะลึง รีบปฏิเสธทันควัน “เปล่า พวกเราแค่ทำงานร่วมกันเฉยๆ” “เสว่เอ๋อร์ ลูกยังมาโกหกแม่อีกหรือ? แม่เห็นก็รู้ทันทีว่าเขาปฏิบัติกับลูกไม่เหมือนลูกน้องทั่วไป มีเจ้านายที่ไหนออกไปซื้ออาหารเช้าแล้วมาส่งให้ลูกน้อง?” ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกแน่นที่ลำคอ ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี แต่ไม่สามารถบอกความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างเธอกับเผยลี่เชินได้ “แม่คิดมากเกินไป ครั้งที่แล้วไปทำงานต่างเมืองกับประธานเผยจนสำเร็จด้วยดี เขาจึงค่อนข้างดูแลหนูดี ก็เป็นเพราะงาน ครั้งนี้มาเกิดเรื่องอาจจะเกี่ยวกับงานในบริษัท แน่นอนว่าเขาก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้ คุณแม่ไป๋ได้ยินไป๋เสว่เอ๋อร์อธิบายเช่นนี้ รู้สึกผิดหวังจึงได้แต่ถอนหายใจ “แม่ก็นึกว่าหนูกำลังคบหาดูใจกับเขา.....” เธอพูดต่อ “แม่ว่าเขาก็ไม่เลวนะ ทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ หน้าที่การงาน หนูทำงานกับเขาทุกวันไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ?” ไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกเธอถามแบบนี้ เธอรู้สึกหวั่นไหวกับเผยลี่เชินไหม? ดูเหมือนจะมีหรืออาจจะไม่มี เธอเองก็ไม่แน่ใจ ยิ่งไม่เข้าใจความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ว่ามันเริ่มต้นที่ไหน เมื่อไร อย่างไร “แม่ หนูอยากพักผ่อน” เธอลดสายตา วางช้อนลง คุณแม่ไป๋เห็นเธอกินโจ๊กไปนิดเดียวจึงขมวดคิ้ว “เสว่เอ๋อร์ กินอาหารเช้าก่อน....” คุณแม่ไป๋อยู่เฝ้าไป๋เสว่เอ๋อร์ทั้งวัน พอท้องฟ้าเริ่มมืด ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงบอกให้คุณแม่ไป๋กลับบ้านไปพักผ่อน เผยลี่เชินจ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลเธอแล้ว และยังมีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่หน้าประตูห้อง ไป๋เสว่เอ๋อร์นอนอยู่บนเตียงทั้งวันรู้สึกตัวแข็งทื่อ หลังจากกินอาหารค่ำที่ป้าจางทำให้ เธอก็อยากออกไปเดินเล่นข้างนอก ไป๋เสว่เอ๋อร์สวมเสื้อโค้ทหนาๆ เดินออกมาจากห้องวอร์ด โดยมีบอดี้การ์ดคุ้มกันไม่ห่าง ไป๋เสว่เอ๋อร์อยู่คนเดียวรู้สึกเบื่อหน่ายจึงคุยกับบอดี้การ์ด “วันนี้ประธานเผยจะมาไหม?” หลังจากที่เผยลี่เชินจากไปตอนช่วงบ่าย จนถึงตอนนี้ก็ไม่เห็นหน้าเขาอีกเลย “ประธานเผยไม่ได้บอกไว้” บอดี้การ์ดดูเหมือนจะอายุยี่สิบกว่าๆ ไป๋เสว่เอ๋อร์ถามคำตอบคำ ไม่พูดอะไรมากกว่านี้ ไป๋เสว่เอ๋อร์มองเขาอย่างเคร่งขรึมแล้วยิ้มให้พร้อมกับถามเขา “เธอชื่ออะไร?” “โจ๋วฝัน” ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินชื่อจึงยิ้มออกมา “ชื่อไพเราะดี” ขณะที่เธอกำลังพูดจบ ก็เงยหน้ามองไปข้างหน้าพบกับใบหน้าที่ดูคุ้นเคย ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มแข็งทื่อ เธอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
已经是最新一章了
加载中