ตอนที่ 59 ไปหาอ๋องอานชิน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 59 ไปหาอ๋องอานชิน
ต๭นที่ 59 ไปหาอ๋องอานชิน เมื่อเฉิงเสี้ยงเสี้ยได้ยินประโยคนี้ ก็รู้สึกราวกับถูกน้ำเย็นๆราดใส่หัว จนหนาวสั่นไปทั้งตัวอย่างไรอย่างนั้น เขากัดฟันกรอด แววตาฉายแววเกลียดชังออกมา เมื่อนึกถึงหลี่ซื่อที่แอบรักกับอ๋องอานชินลับหลังเขา ทำไมความโทสะของเขาถึงยังไม่มอดดับลงสักที เขากระโดดลงจากรถม้าทันใด ก่อนจะหันไปสั่งคนขับรถม้า “เจ้าไปส่งนางก่อน เปิ่นเสี้ยงยังมีเรื่องต้องทำ” หลิงหลงฮูหยินเปิดม่านออกมา แล้วตะโกนใส่เขาว่า : “เจ้าจะไปไหน?” เฉิงเสี้ยงเสี้ยค่อยๆหายตัวไปท่ามกลางฝูงชน ! หลิงหลงฮูหยินปล่อยมือจะม่าน แล้วลูบแก้มที่เป็นรอยแดงด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความเกลียดชังว่า : “เจ้าช่างโง่เสียจริง แม่นางเช่นนี้ จะไปรักเจ้าได้ยังไง?” เฉิงเสี้ยงเสี้ยพุ่งตรงไปยังจวนอ๋องอานชิน ด้วยความที่ตัดสัมพันธไมตรีกับอ๋องอานชินมาหลายปีแล้ว ทั้งสองคนจึงแทบจะไม่ได้ไปมาหาสู่กันเลย แต่ในตอนที่เสี้ยหลีโม่เข้าพิธีอภิเษกสมรส เขาก็ยังส่งบัตรเชิญไปให้กับอ๋องอานชินด้วย เขาคือคนที่ไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้ง ทั้งสองคนจึงไม่สามารถเป็นสหายกันได้เหมือนแต่ก่อน ไม่กลายเป็นศัตรูต่อกันก็ดีมากที่สุดแล้ว หลายปีผ่านไป เขาและหลี่ซื่อก็ได้ตกลงอยู่ในสถานการณ์นี้ หลังจากผ่านพ้นความสุขแรกเริ่มไป เขาก็เคยเกิดความรู้สึกผิดต่ออ๋องอานชิน แต่ ถึงจะผ่านมาหลายปีขนาดนี้แล้วก็ตาม แต่คนๆเดียวที่นางรักอยู่ในใจมาตลอดก็คืออ๋องอานชิน ช่างขบขัน เขาคือคนที่น่าขบขันผู้นั้น น้ำเสียงนี้ ทำยังไงเขาก็ไม่มีทางกลืนมันลงไปได้ หลายปีมานี้เฉิงเสี้ยงเสี้ยได้แปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์อย่างช่ำชอง หากโดยปกติแล้ว เขาไม่สามารถออกไปหาอ๋องอานชินได้ แต่วันนี้เขาได้รับการโจมตีมากพอแล้ว หรือพูดได้ว่าในช่วงเวลานี้ เขาได้รับการยั่วยุแล้ว ตั้งแต่ตอบตกลงที่จะอภิเษกสมรสกับอ๋องเหลียง เขาก็ได้ตกลงสู่วังน้ำวน เสี้ยหลีโม่ถอนหมั้น ได้ทำลายชื่อเสียงเกียรติยศของเขาอย่างมาก แผนการของซือถูเย้นในวันนี้ ทำให้เขาน่าอับอายอย่างมาก เขามองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าฮองไทเฮาและฮองเฮาล้วนแล้วแต่ใช้สายตาเยาะเย้ยมองมาทางเขา เพราะเขาเลือกหลิงหลง รักหลิงหลง แต่เรื่องที่ทำให้เขาไม่สามารถอดทนมันได้ที่สุดก็คือภาพวาดผืนนั้น ซูหลิงหลงได้ส่งมอบให้เขาเป็นของขวัญแทนใจ เดิมทีมันเป็นของอ๋องอานชิน คือสิ่งที่ภรรยาของเขาส่งมอบให้กับอ๋องอานชิน เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ได้พลิกผันชีวิตของเขาไป ในช่วงเวลาที่ออกมาจากวัง เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่เฉิงเสี้ยงเสี้ยที่มีเกียรติศักดิ์เหลือคณานับอีกแล้ว เขาไม่อาจอดทนกับความรู้สึกคับอกคับใจนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขายิ่งไม่อาจทนรับได้หลายปีมานี้ เขาคิดมาโดยตลอดว่าเขาคือคนที่แย่งชิงความรักมาจากอ๋องอานชิน เขาคือผู้ชนะ แต่สุดท้ายก็พบว่า เขาเป็นคนที่โง่เขลาผู้นั้นมากที่สุด เขาเดาไม่ผิด ที่หลี่ซ่วยหยุ่นแต่งงานกับเขา ก็เพราะขัดคำสั่งของพ่อแม่ไม่ได้ แท้จริงแล้วนางอยากแต่งงานกับอ๋องอานชินมากกว่า ทำไมเขาถึงได้โง่ขนาดนี้? ในปีนั้นมีช่วงเวลาหนึ่งที่เขาเชื่อว่าหลี่ซื่อเคยรักเขา เมื่อนึกย้อนกลับไปในวันนี้ กลับรู้สึกว่าไม่ว่าใครก็ต่างเลือกอ๋องอานชิน ไม่เลือกเขา อ๋องอานชินคือคนที่โดดเด่น มีฐานะและมีเกียรติ มีทักษะการสงครามอันเลื่องลือ มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับนาง ใครจะไม่เชือกคนที่มีความโดดเด่นเช่นนั้นกันละ? เมื่อมาถึงจวนอ๋องอานชิน นายประตูที่เห็นเขาเดินมาอย่างน่าเกรงขาม จึงรีบเดินเข้ามา “เฉิ้งเสี้ยงเสด็จแล้วหรือพะยะคะ?” “ท่านอ๋องอยู่ไหม?” เฉิงเสี้ยงเสี้ยถามขึ้นพร้อมกับกำหมัดไว้ทั้งสองข้าง นายประตูจึงพูดว่า : “อยู่พะยะคะ ท่านอ๋องโปรดรอสักครู่ ข้าน้อยจะเข้าไปรายงานสักหน่อย” “ไม่จำเป็นต้องรายงาน!” เฉิงเสี้ยงเสี้ยผลักประตูห้องแล้วเดินบุ่มบ่ามเข้าไปทันที นายประตูประหลาดใจ จึงได้รีบวิ่งตามเข้าไป อ๋องอานชินกำลังฝึกซ้อมดาบอยู่ในบริเวณลานบ้านพอดี เมื่อเห็นเฉิงเสี้ยงเสี้ยเสด็จมา เขาก็เก็บดาบ ใบหน้าอันหล่อเหลาดูสุขุมไม่มีทีท่าว่าจะแสดงอาการไม่พอใจออกมาสักนิด “เจ้ามาทำไม?” นายประตูจึงรีบตามเข้ามา แล้วรีบพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง เฉิงเสี้ยงเขา......” อ๋องอานชินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า “เจ้าออกไปก่อน!” “พะยะคะ!”นายประตูชำเลืองตามองไปทางเฉิงเสี้ยงเสี้ยแวบหนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัวถอยออกไป หลังจากที่นายประตูออกไปแล้ว เฉิงเสี้ยงเสี้ยก็เดินบีบเข้าไปก้าวหนึ่ง แววตาโกรธเคืองราวกับเปลวไฟที่กำลังแผดเผา ใบหน้าผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนนั้นได้แสดงอาการบิดเบี้ยว แฝงไปด้วยความเกลียดชังและโหดร้าย “ซือถูจื่อ เจ้ามันหลอกลวง!” อ๋องอานชินหัวเราะออกมา “อยากจะพูดอะไรก็พูดออกมา เปิ่นหวางไม่อยากเห็นหน้าเจ้า” เฉิงเสี้ยงเสี้ยได้เดินบีบเข้าไปทีละก้าวๆ อ๋องอานชินค่อยๆชักดาบออกมาอย่างช้าๆ แล้วชี้ไปทางบนหน้าอกของเขา สายตาเคร่งขรึม “หยุด!” เฉิงเสี้ยงเสี้ยกำดาบไว้ สายตาฉายแววโกรธเคืองไม่ลดลงแต่อย่างใด : “17 ปีแล้ว ที่เจ้าลักลอบเป็นชู้กันกับนางลับหลังข้า เจ้าคิดว่าข้าโง่นักหรือ? เจ้าชายผู้สง่างาม ทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ เจ้าไม่รู้จักอายบ้างหรือ?” อ๋องอานชินเก็บดาบแล้วโยนลงไปบนพื้นทันที จากนั้นก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือข้างหนึ่งได้ตบลงไปบนหน้าของเฉิงเสี้ยงเสี้ย ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า : “บังอาจ ใครอนุญาตให้เจ้าดูถูกนาง?” เฉิงเสี้ยงเสี้ยพุ่งเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็ใช้หมัดข้างหนึ่งชกไปบนหน้าอกของอ๋องอานชิน แต่ด้วยความที่ใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติมั่งคั่งร่ำรวยมาหลายปี ศิลปะการต่อสู้ของเขาจึงได้ปล่อยทิ้งว่างไปนาน จะไปเป็นคู่ต่อสู้ของอ๋องอานชินได้อย่างไรกัน? แค่สองกระบวนท่า เขาถูกอ๋องอานชินจับเอาไว้ แล้วผลักไปข้างหน้าจนล้มลงไปกองกับพื้น อ๋องอานชินมองลงไปทางเขาด้วยสายตาดูถูกจากด้านบน ชุดยาวอินทรีดำโบกสะบัดตามแรงลม ใบหน้าที่เย็นชาได้แสดงความเคร่งขรึมออกมา “เสี้ยห้วยจุน เจ้าวุ่นวายมากพอหรือยัง? วุ่นวายมากพอแล้วก็ไสหัวไปให้พ้นหน้าเปิ่นหวาง” เฉิงเสี้ยงเสี้ยยืนขึ้น แล้วหัวเราะฮ่าฮ่าออกมาทันที “หัวใจของเจ้าไม่เคยปล่อยวางจากหลี่ซ่วยหยุ่นเลย ถึงแม้ว่านางจะแต่งงานกับข้าแล้วก็ตาม เจ้าก็ยังเฝ้ารำพันถึงนาง ซือถูจื่อนะซือถูจื่อนะ เจ้าจะไม่มีความหวังไปตลอดชั่วชีวิตนี้ เพราะต่อให้นางตาย นางก็จะเป็นผีอยู่ในจวนเฉิงเสี้ยงของข้า ” เสียงหัวเราะที่โศกเศร้าใจของเขา ได้แสดงออกถึงความรู้สึกผิดที่พูดไม่ออก หากไม่รู้มาก่อน ก็ยังคิดว่าคนที่ต้องแบกรับความทรมานมาตลอดหลายปีนี้คือเขา ในขณะที่อ๋องอานชินมองไปทางเขา ในก้นบึ้งของหัวใจของเขาก็ได้ก่อเกิดความรู้สึกร้อนใจและโทสะขึ้นมา ใต้หล้านี้ ทำไมถึงได้มีคนต่ำช้าไร้ยางอายเช่นนี้กัน? หยุ่นเอ๋อ เจ้าเลือกคนแบบไหนกันแน่? “ออกไป!”อ๋องอานชินเก็บดาบขึ้นมา แล้วเดินไปโดยไม่หันกลับไป มือข้างหนึ่งกำหมัดไว้ สีหน้าที่ดูเหนื่อยหน่ายได้ปรากฏกลิ่นอายแห่งการสังหารออกมา องครักษ์2-3คนได้เดินเข้ามา จากนั้นก็จับเฉิงเสี้ยงเสี้ยให้ยกขึ้นแล้วโยนออกไป หนึ่งในองครักษ์ได้พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า : “เฉิงเสี้ยงเสี้ย จะกำเริบเสิบสานก็ดูสถานที่ด้วย ถึงแม้ว่าท่านอ๋องของเราไม่เคยข้องเกี่ยวกับราชสำนัก แต่ก็ใช้ว่าจะมีใครจะมาเข้ามากล่าวโทษเช่นนี้ได้นะพะยะคะ” เมื่อพูดจบ ก็หมุนตัวเดินเข้าไป ก่อนจะปิดประตูลง เฉิงเสี้ยงเสี้ยถูกดูถูกเหยียดหยามถึงขีดสุด ตรงกันข้ามกลับใจเย็นลง ภายในจิตใจมีเพียงความคิดเดียว นั้นคือความอัปยศทั้งหมดในวันนี้ เขาต้องกลับไป อันดับแรก เขาไม่ทางปล่อยหลี่ซื่อและเสี้ยหลีโม่ไปได้ แต่ ก่อนจัดการหลี่ซื่อและเสี้ยหลีโม่ ยังมีอีกหนึ่งคน ที่ต้องอธิบายให้เขาฟัง จวนเฉิงสี้ยง! เฉิงเสี้ยงเสี้ยนั่งอยู่ต่อหน้าของหลิงหลงฮูหยินด้วยใบหน้าเคร่งขรึม หลิงหลงฮูหยินเพิ่งจะเสวยโอสถไป ท่าทางดูเหมือนตกอยู่ในที่นั่งลำบาก “เจ้ายังมีเรื่องอะไรปิดบังข้าอยู่อีกไหม?” เฉิงเสี้ยงเสี้ยจ้องเขม็งไปทางหลิงหลงฮูหยินด้วยสายตาเคร่งขรึม พร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ำเสียงทุกข์ใจ หลิงหลงฮูหยินกลัวท่าทางเช่นนี้ของเขามาก ตั้งแต่แต่งงานเข้ามาในจวนเฉิงเสี้ยงหลายปี เขารักถนอมนางมาโดยตลอด แทบจะไม่เคยประจบประแจงเอาใจเพื่อขอความรักเลยแต่อย่างใด นางคิดไม่ถึงว่าเพียงวันเดียว เขาจะเปลี่ยนเป็นอีกคนขนาดนี้ “ไม่มีแล้วเพคะ ไม่มีแล้วจริงๆเพคะ” หลิงหลงฮูหยินอธิบายพร้อมกับร้องห่มร้องไห้ออกมา “ทำไมข้าถึงต้องทำเช่นนี้ ท่านเคยคิดบ้างไหม? หากไม่ใช่เพราะว่ารักท่าน ข้าจะทำเช่นนี้ทำไม? คนเข้ามาตามจีบข้า ไม่ขาดแคลนแม้แต่ขุนนางในวัง ข้าปฏิเสธทุกคน เพื่อท่านคนเดียว วันนั้นท่านยังไม่เป็นเฉิงเสี้ยง แต่ข้ากลับทุ่มเทความรัก ความรักนี้ ถึงตอนนี้ท่านยังไม่เข้าใจอีกหรือเพคะ? ใช่ ไม่ผิด จริงๆแล้วท่านไม่ได้มีความปราดเปรื่องอะไรนัก แต่ข้าก็รักท่านสุดหัวใจ” อัพเดทครั้งต่อไป 29/12/2019
已经是最新一章了
加载中