ตอนที่ 93 สามีภรรยาคุยกัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 93 สามีภรรยาคุยกัน
ต๭นที่ 93 สามีภรรยาคุยกัน พอฮองไทเฮาได้รับสารจากเขาหาน นางกำกระดาษไว้อย่างแน่น แล้วก็พลันยิ้มออกมา ซุนกงกงเลยถามขึ้น:“ไทเฮา เป็นอย่างไรบ้าง?มีแผนการดีๆมั้ยพ่ะย่ะค่ะ?“ ฮองไทเฮายิ้มออกมาทันที:“มี นางได้แผนที่ดีแล้ว ก็ยังเป็นนางที่ฉลาดหลักแหลม ห้ามเรื่องการแต่งงานของเสี้ยโลว่เยว่กับองค์รัชทายาท เพื่อให้เสี้ยเฉิงเสี้ยงเข้าไปร่วมมือกับหมุยเฟย ถ้าเป็นอย่างนั้นเสี้ยเฉิงเสี้ยงก็จะไม่สามารถไปร่วมมือกับเหลียงไถ้ฝู้ได้ และพวกเขาสองคนต่างเป็นคนคุมเชิง ช่างดีจริง เป็นอย่างที่เจ้าพูดเอาไว้ไม่มีผิด มิน่านางถึงได้ให้เจ้าอยู่ที่นี่ คอยอยู่ข้างๆข้า“ ซุนกงกงยิ้มอ่อน“ตอนนี้ไทเฮาต่างหากที่เป็นนายของข้า“ “เพียงแต่“ฮองไทเฮาดูลังเลอะไรบางอย่างขึ้นมา”แผนนี้เป็นเพียงแผนสุดท้ายที่เอาไว้แก้ไขปัญหา แล้วปัญหาที่เราเจอในตอนนี้ละ?ขุนนางต่างพากันกดดันข้าอยู่แบบนี้ องค์ชายแปดก็จะกลับมา ปัญหานี้เราจะแก้ไขยังไงกัน?“ นางก้มลงอ่านดูสารอีกครั้ง มั่นใจว่าไม่ได้เขียนอะไรอีก ซุนกงกงจึงพูดขึ้น:“ในเมื่อนางไม่ได้พูดอะไร ก็แสดงว่าไม่มีอะไรต้องห่วง“ “เจ้าหมายความว่า?“ฮองไทเฮาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความสงสัย “คนที่สำคัญคือเสี้ยหลีโม่“ซุนกงกงพูดขึ้นพลางอมยิ้ม ฮองไทเฮามองดูจดหมายอีกครั้ง ในมุมของกระดาษได้พูดขึ้นเสี้ยหลีโม่ ดูเหมือนว่าเสี้ยหลีโม่ต้องเข้าตานางแล้วอย่างแน่นอน “แล้วตอนนี้ข้าควรจะทำอย่างไร?“ฮองไทเฮาพูดขึ้น ซุนกงกงเข้าไปพยุงนางนั่งลง:“ท่านไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เสแสร้งแกล้งป่วยไปก็พอ ใครขอเข้าเฝ้าก็ห้ามเจอ ถึงแม้ฮองเฮามาแล้วก็ให้ขวางนางไว้ที่หน้าตำหนัก พวกเขาอยากคุกเข่า ก็ให้คุกเข่าต่อไป ถ้าพวกเขาเหนื่อยแล้วก็จะแยกย้ายกันเอง “ “แต่ว่า....“ “ไม่มีแต่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ถ้าหากว่ามีอะไรมากกว่านี้ นางก็คงเขียนไว้ในจดหมายแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางไม่พูดอะไร ก็หมายความว่าเราไม่ต้องสนใจพ่ะย่ะค่ะ“ ฮองไทเฮาพยักหน้า แล้วก็มองจดหมายนั่นอีกครั้ง แล้วก็ย้ำสามคำนั้น“เสี้ยหลีโม่?“ นางเงยหน้าขึ้นมามองซุนกงกงแล้วพูดขึ้น:“เสี้ยหลีโม่คนนี้ นางมีความอดทนมากขนาดนั้นเลยหรือ?ที่สามารถต่อกรกับคนของจวนเฉิงเสี้ยงได้?“ “ที่นางพูดแบบนี้ แสดงว่านางต้องมีเหตุผลของนาง“ซุนกงกงตอบอย่างมั่นใจ ฮองไทเฮาจึงตอบรับคำหนึ่ง“ถ้าพูดแบบนี้แล้ว ข้าก็จะไม่สนใจอะไรมาก“ บรรยากาศข้างนอกตำหนัก ขุนนางสามสิบกว่าคนก็ยังคงคุกเข่าอยู่หน้าตำหนัก ทุกคนโดนแดดจ้าส่องลงมา จนทำให้รู้สึกมึนเหมือนจะเป็นลม พวกแม่ทัพนั้นก็ดีหน่อย แต่พวกขุนนางที่เอาแต่อ่านหนังสือก็เริ่มจะทนกันไม่ไหวแล้ว เหงื่อก็เปียกชุดจนหมด รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว และก็มีบางคนที่เริ่มสั่นไปมา เหลียงไถ้ฝู้แปลกใจอย่างมาก ไม่คิดว่าฮองไทเฮาจะพยายามอดทนได้นานขนาดนี้? และอีกอย่างทางฝั่งของจวนเฉิงเสี้ยงก็เคลื่อนไหวแปลกๆ นายหญิงก็ได้กำชับคนอย่างเคร่ง ใครที่จะเข้าไปในจวน ถ้าเป็นคนนอกต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นใครมาจากไหน ถึงสามารถเข้าไปในจวนได้ แน่นอนว่าคนที่เข้าใจก็จะดูออกว่าที่นางทำแบบนี้ เป็นการป้องกันหนอนบ่อนไส้ เสี้ยห้วยจุนก็คือเฉิงเสี้ยงตอนนี้เป็นคนที่กุมอำนาจไว้ เมื่อก่อนถูกอ๋องซื่อเจิ้งคุมอยู่ จนหมดคมไปเลย แต่ว่าตอนนี้อ๋องซื่อเจิ้งได้จากไปแล้ว อย่างนั้นเขาเองก็แค่รอวันที่จะสั่งสมอำนาจกลับมาอีกครั้ง พอสักพักนึงก็มีหลายคนเข้ามาให้ความช่วยเหลือ สนมในวังหลังมีมากมาย ต่างก็หวังว่าลูกตัวเองจะได้รับใช้เขาบ้าง ถึงจะไม่ถึงขั้นได้ปกครองบ้านเมือง แต่แค่ได้รับความไว้ใจจากเฉิงเสี้ยง แล้วรอไปสักปีสองปี ก็จะเริ่มมีอำนาจขึ้นมาเอง และอาจจะสามารถไปแย่งชิงกับองค์รัชทายาทที่ไม่มีความสามารถอะไรเลย ตอนนี้จวนเฉิงเสี้ยงก็ขึ้นตรงกับองค์รัชทายาท นายหญิงก็เลยไม่ให้สนมคนไหนเข้ามาในจวนอีก เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องบาดหมางกันขึ้น วันนี้หมุยเฟยได้รับสั่งให้คนออกจากตำหนักเพื่อมาที่จวนเฉิงเสี้ยง นายหญิงกลับปฏิเสธการขอพบของนาง แล้วยังบอกให้คนของหมุยเฟยกลับไปบอกนางว่า ให้ส่งตัวของเสี้ยฮ่าวหรานออกมา หมุยเฟยรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดี จึงคิดอยากจะช่วยเฉิงเสี้ยง แต่คิดไม่ถึงว่าคนของนางจะโดนไล่กลับมา นางจึงโมโหอย่างหนัก แล้วก็พลันถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ:“นางบอกให้ข้าส่งตัวเสี้ยฮ่าวหรานกลับไปงั้นหรือ?ไร้สาระ หลังจากที่เสี้ยฮ่าวหรานมาที่นี่ครั้งก่อน เขาก็ไม่ได้กลับมาอีก จะให้ส่งอะไรกลับไป?“ คนในวังก็พูดตามที่หมุยเฟยบอกให้มารายงาน ตานางกลับไม่เชื่อ คิดว่าหมุยเฟยต้องการจะกักขังเขาเอาไว้ในตำหนัก เพื่อที่จะเอามาบีบบังคับจวนเฉิงเสี้ยง นางจึงพูดกับคนที่มาส่งข่าวอย่างเสียงแข็ง“เจ้ากลับไปบอกหมัยเฟย ถ้าเสี้ยฮ่าวหรานต้องการจะอยู่ที่นั่นเท่าไหร่ก็ได้ อยากอยู่ตลอดชีวิตเลยก็ได้ ยังไงซะมันก็เป็นของตัวไร้ประโยชน์“ นายหญิงที่พูดออกมาแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่านางรังเกียจเสี้ยฮ่าวหราน เพราะถึงยังไงก็เป็นคนนึง ที่นางพูดแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้จวนเฉิงเสี้ยงถูกหมุยเฟยควบคุม และก็ทำให้หมุยเฟยรู้ว่า ถึงนางจะกักตัวเสี้ยฮ่าวหรานไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ยังไงจวนเฉิงเสี้ยงก็ไม่ยอมให้นางควบคุมได้ง่ายๆ พอหมุยเฟยได้ยินแบบนั้นก็พลันโมโหถึงขีดสุด“ปกติเวลาที่ต้องการให้ข้าช่วยอะไร พูดดีอย่างงั้นอย่างงี้ พอตอนนี้เห็นองค์รัชทายาทจะได้ขึ้นครองราชย์ กลับหันมาแว้งกัดข้า ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้นางไม่ได้เอาหลินหลินไปซ่อนไว้ที่ไกลๆ แล้วก็บอกว่าข้าเป็นคนวางแผน เพื่อประกาศให้คนอื่นรู้ว่าจวนเฉิงเสี้ยงกับนางได้เป็นศัตรูกันแล้ว แล้วนางก็จะได้ไปเข้าร่วมกับเหลียงไถ้ฝู้และองค์รัชทายาท น่ารังเกียจ!ช่างเป็นตระกูลที่น่าเลือดยิ่งนัก หากว่าองค์รัชทายาทหลงรักเข้าจริงๆก็ช่างเป็นความโชคร้ายของเขายิ่งนัก หวังว่าเสี้ยหลีโม่จะกลับมากระฉากหน้ากากของคนพวกนั้นออก แล้วดูว่าด้านในนั้นเป็นสีแดงหรือสีดำกันแน่“ หมุยเฟยเองก็ทำได้แค่โวยวายเท่านั้น แต่สถานการณ์ตอนนี้ก็ทำให้นางหมดหวังจริงๆ องค์ชายสามเหลืออีกแค่สองสามปีก็จะได้รับการแต่งตั้งแล้ว แล้วตัวนางเองตอนนี้ก็มีอำนาจอยู่บ้าง ถ้าหากว่าองค์รัชทายาทได้ครองราชย์จริง คนที่จะโดนคนแรกก็น่าจะเป็นนางและองค์ชายสาม นางเองก็ไม่มีทางเลือกถึงได้ส่งคนไปที่จวนเฉิงเสี้ยง คิดว่าจะสามารถพึ่งพาความเป็นญาติได้ คิดไม่ถึงว่าจะโดนปิดประตูใส่แบบนี้ เจอก็ไม่ให้เจอ ช่างทำกับนางใจดำยิ่งนัก คนในวังพูดแนะนำ:“หมุยเฟยเหนียงเหนียง ข้าว่าท่านไปหาองค์หญิงใหญ่ไม่ดีกว่าหรือเพคะ คนในวังนี้ยังไม่มีใครกล้าทำอะไรนาง หากว่านางยินยอมที่จะช่วยเหลือองค์ชายสาม พวกเราก็จะมีทางรอดนะเพคะ“ หมุยเฟยคิดอยู่พักนึง นางเองก็ไม่ค่อยได้ไปหาซือถูจิ้งบ่อยเท่าไหร่ ใครจะรู้ว่านางจะช่วยหรือไม่ช่วย? แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นางจึงส่งคนไปเชิญองค์หญิงใหญ่ออกมาจากตำหนัก ซือถูจิ้งตอนนี้ก็เอาแต่ไปตามหาซือถูเย้น คนของหมุยเฟยเองก็ไม่สามารถจะตามหานางพบ นางจึงหมดหวังทันที ขนาดอี๋เฟยนางก็ไปล่วงเกินมาแล้ว แล้วนางจะสามารถพึ่งพาใครได้? ลองเปรียบกับหมุยเฟยแล้ว ตอนนี้จวนเฉิงเสี้ยงดูเหมือนทำอะไรก็ราบรื่นไปหมดทุกอย่าง เสี้ยเฉิงเสี้ยงมองเห็นอนาคตอย่างชัดเจน ฮองเฮาคนต่อไปก็คือลูกสาวของตัวเอง เพราะเหตุนี้ เขาจึงทำดีกับหลิงหลงฮูหยินดีขึ้นมาหน่อย อยู่ดีๆวันนี้เขาก็มาที่ลานเสี้ยจื้อ ทั้งที่ไม่เคยมาเลย แล้วก็พูดดีกับหลี่ซื่ออย่างมาก สองคนสามีภรรยา ความสัมพันธ์ที่ไม่เคยคุยกันมาและเฉยชาตลอดสิบเวลานับสิบปี นี่เป็นครั้งแรก ที่สามารถนั่งคุยกันได้แบบนี้ ช่วงไม่กี่วันมานี้เขาเองก็คิดไตร่ตรองอยู่หลายเรื่อง พอนึกถึงตอนนั้น ตอนที่ตัวเองไปหาอ๋องอานชินแล้วทำอะไรบุ่มบ่ามเกินไป ตอนที่แต่งหลี่ซื่อเข้ามาในบ้าน ในใจของนางเองก็รู้ดี ดังนั้นที่วันนี้เขาจึงมาที่นี่ “ได้ยินว่าร่างกายเจ้าไม่ค่อยดี ข้าเลยนำยาชั้นดีมาให้ ดูแลตัวเองดีๆด้วยนะ“เสี้ยเฉิงเสี้ยงมองหลี่ซื่ออย่างเขม่ง ในใจก็ถอนหายใจอย่างถี่ อายุขนาดนี้ใบหน้าของนางก็ยังไม่มีรอยอะไร รอยต่างๆตลอดสิบกว่าปีมานี้ สำหรับนางแล้ว ราวกับว่าเป็นแสงวิบวับที่สาดผ่านไป หลี่ซื่อพูดขึ้น:“ขอบใจมาก!“นางพูดขึ้นมาโดยไม่มีทีท่าขัดขืนใดๆ สีหน้านิ่งเงียบ ดูไม่ออกว่านางมีอารมณ์ยังไง 
已经是最新一章了
加载中