ตอนที่ 40เป็นขิงหรือพริกแก่   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 40เป็นขิงหรือพริกแก่
ต๭นที่ 40เป็นขิงหรือพริกแก่ ตอนที่งานเลี้ยงในวังเลิกเมื่อคืนนั้น เป็นเวลาดึกมากแล้ว ใกล้เวลาปิดกุญแจประตูวัง เพราะเป็นองค์ชายที่โตเป็นหนุ่มและได้รับพระราชทานตำหนักนอกวังแล้ว หากไม่มีรับสั่งจากฮ่องเต้ก็ไม่สามารถอาศัยในวังได้ ฉะนั้นเป่ยจื่อห้าวจึงไม่มีเวลาพูดคุยกับลี่เฟย ได้แต่รีบออกจากวังไปโดยเร็ว คิดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้แล้วเขารู้สึกเป็นกังวลยิ่งนัก วันถัดมาจึงรีบเข้าวังแต่เช้ามืดเพื่อไปหาพระมารดา พอเข้าไปในตำหนักลี่เฟย ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันอึมครึม คนรับใช้ของตำหนักก็ล้วนแล้วแต่แสดงสีหน้าหวาดกลัว ทำงานก็ยิ่งระวังกันตัวแจไม่กล้าผิดพลาด กลัวว่าตัวเองจะโดนทำโทษ ตอนที่เป่ยจื่อห้าวเดินเข้าไป ลี่เฟยกำลังขว้างแจกันใบหนึ่งลงกับพื้นอย่างเกรี้ยวกราด มองอีกทีก็เห็นว่าทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยของเกลื่อนกระจัดกระจาย ยังดีที่ฮ่องเต้ไม่ได้เสด็จมาวังหลัง หากทรงทอดพระเนตรเห็นแบบนี้แล้ว คงรับไม่ได้ที่ลี่เฟยต่อหน้าทำทีเป็นคนใจกว้าง มีเมตตากับทุกคนแล้วกลับมาทำตัวเป็นแบบนี้ ลี่เฟยพอเห็นบุตรชายของตัวเอง ก็รีบถลึงตามองไปทางคนรับใช้ “มัวอึ้งทำไมอยู่ ยังไม่รีบไสหัวออกไปอีก” คนรับใช้ในตำหนักต่างตกใจรีบเดินก้มหน้าออกไป แล้วปิดประตูจนสนิท คนรับใช้ตำหนักอื่นล้วนอิจฉาคนรับใช้ของตำหนักลี่เฟย พูดชมลี่เฟยว่าเป็นคนดีมาก ไหนเลยจะรู้ถึงด้านในที่แท้จริง “ท่านแม่อย่าได้โกรธไปเลย ยิ่งโกรธจะยิ่งทำร้ายร่างกายนะครับ” เป่ยจื่อห้าวรีบพูดปลอบโยนนาง “หึ…..ตอนนี้ข้ายังต้องมาห่วงร่างกายตัวเองอีกหรือ โอกาสดีๆแบบเมื่อคืนวานแท้ๆ ไม่เพียงเราจะกำจัดรัชทายาทได้ แต่ยังจะลากเสียนเฟยลงน้ำได้ด้วย แต่กลับถูกยัยคนต่ำช้าจางยวี่โหร่วนั่นทำแผนพังหมด คราวหน้าคงไม่มีโอกาสดีๆแบนี้อีกแล้ว” รัชทายาทสมองทึบไร้ความสามารถ แต่หากเขายังอยู่ ฮ่องเต้ย่อมไม่มีวันมอบตำแหน่งรัชทายาทให้องค์ชายอื่นแน่ ถ้าหากเป็นแบบนี้บุตรชายของนางเท่ากับไม่มีหวังไปตลอดกาล แล้วยังเสียนเฟยอีก ที่จริงสถานะในวังของเสียนเฟยไม่ได้สูงเทียบเท่านาง เพียงแค่ให้กำเนิดพระธิดาก็ได้ตำแหน่งพระสนมไปครอง นั่งชูหน้าชูตาเทียบเท่าตัวเอง ช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ฮ่องเต้ไม่ค่อยได้เสด็จมาที่วังหลัง แต่มาเมื่อใดก็มักไปอยู่ที่ตำหนักของนาง ลี่เฟยมองนางเป็นเหมือนเสี้ยนหนามตำตา พอคิดถึงว่าตัวเองต้องคิดหาวิธีการอย่างยากเย็น ลอบเตรียมแผนลับๆ อุตส่าห์คิดแผนการอันแยบยลทียิงนัดเดียวก็ได้นกสองตัวแบบนี้ได้อย่างยากเย็น แต่มาบัดนี้ทุกอย่างกลับพังจนหมดสิ้น พอพูดถึงเรื่องนี้ เป่ยจื่อห้าวก็รู้สึกโมโหอย่างยิ่ง แต่เขายังไม่เข้าใจบางเรื่อง “จางยวี่โหร่วสมควรตายยิ่งนัก มาทำแผนของพวกเราพังหมด แต่ลูกไม่เข้าใจเลย หรือนางจะรู้ว่าในเหล้ามีพิษ ถึงได้ไปปัดถ้วยเหล้าของรัชทายาทจนหก?” ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงล่ะก็ เรื่องก็จะยิ่งหนักหนากว่าเดิม ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลจางกับเสียนเฟย เป็นที่รู้กันดีของขุนนางทั่วราชสำนัก การที่พวกเขาให้ร้ายเสียนเฟยเช่นนี้ หากจางยวี่โหร่วรู้เข้าแล้ว ถ้าเช่นนั้นตระกูลจางก็ย่อมต้องรู้ด้วยเช่นกัน หากให้จางไท่ซือรู้ว่าพวกเขาลอบลงมือแบบนี้ จะผิดใจกับตระกูลจางได้ ถ้าถึงตอนนั้นจะเกิดผลร้ายแรงอย่างยิ่ง “จะเป็นไปได้ยังไงกัน? เรื่องนี้ข้าทำปิดเป็นความลับอย่างที่สุด ไม่มีทางที่ใครจะรู้แผนได้แน่ จางยวี่โหร่วคนนั้นเป็นแค่หญิงแพศยา ไม่รู้จักยางอาย กล้าให้ท่ารัชทายาทต่อหน้าธารกำนัล แผนของเราต้องมาโดนทำลายเพราะโชคชะตาแท้ๆ” ถึงตอนนี้ ลี่เฟยก็ยังมั่นใจอยู่ดีว่านี่เป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น แผนการของนางไม่มีทางรั่วไหลไปได้แน่นอน เพียงแต่นางไม่เข้าใจว่า จางยวี่โหร่วถึงกับไม่สนชื่อเสียงตัวเอง จงใจทำอย่างเปิดเผยถึงขนาดนั้น ตั้งใจล้มตัวลงไปที่ร่างของรัชทายาท ยังดีที่รัชทายาทฟังข่าวลือของจางยวี่โหร่วแล้วนึกรังเกียจนาง หากรัชทายาทเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้ด้วย เรื่องคงจบไม่ง่ายแน่ เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า ฮ่องเต้ต้องการให้จางยวี่โหร่วได้แต่งงานกับรัชทายาทมาตลอด เพียงแต่ถูกพวกเขาชิงตัดหน้าได้ก่อน หากจางยวี่โหร่วเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาตอนนี้จริง ฮ่องเต้ก็อาจหวังดีต่อรัชทายาททำเรื่องที่ทุกคนไม่คาดคิดขึ้นมาก็เป็นได้ เป่ยจื่อห้าวคิดตามก็เห็นเป็นเช่นนั้น มารดาทำงานระวังตัวตลอด ไม่มีทางเหลือร่องรอยทิ้งไว้แน่ จางยวี่โหร่วก็เพิ่งเข้าวังมาเมื่อคืนวาน แม้แต่เสียนเฟยยังไม่รู้ระแคะระคาย นางยิ่งไม่มีทางรู้ได้ใหญ่ “ถ้างั้น…..ตอนนี้ทำยังไงดี?” เขารู้สึกแค้นจางยวี่โหร่วจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันขึ้นมา ยิ่งคิดถึงตอนที่นางทำการแสดงในงานเลี้ยงแล้ว เขาก็ยิ่งรู้สึกสับสนวุ่นวายใจ จางยวี่โหร่วในตอนนี้มีบางอย่างแปลกไปไม่เหมือนจางยวี่โหร่วคนเก่า เห็นอยู่ว่าไม่สมควรทำแต่ก็ยังทำ ทำให้คนเกิดความรู้สึกสับสนงงงวย แต่ก็ทำให้ทุกคนไม่อาจละสายตาไปจากนางได้ “จะทำอะไรได้ ได้แต่คิดหาวิธีใหม่ คิดแผนใหม่เท่านั้น ! ตระกูลจางยังไงก็ไม่โดนลงโทษ ส่วนจางยวี่โหร่วเจ้าต้องจับนางไว้ให้อยู่ ถึงนางจะเป็นหญิงหลายใจ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาก็ตาม เจ้าต้องแต่งกับนางให้ได้ แบบนี้ตระกูลจางจึงจะอยู่ในกำมือของเรา” ลี่เฟยกำชับกำชาอย่างแน่นหนา “นางเหมือนลูกไก่ในกำมือข้ามาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อก่อนก็ร้องห่มร้องไห้บอกว่าถ้าไม่ใช่ข้าก็จะไม่ยอมแต่งงานด้วย อีกเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น รออีกแค่ไม่นานแล้ว” เป่ยจื่อห้าวตอบด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ลี่เฟยเห็นท่าทางของเขาแบบนี้แล้ว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บใจที่บุตรชายไม่ได้ดั่งใจ “ถึงแม้นางจะชอบเจ้า เจ้าก็อย่านึกว่าจะนอนหลับได้สนิทใจ ดูอย่างเมื่อคืนวานสิ นางให้ท่ารัชทายาทไม่สำเร็จ ถูกผู้คนดูถูกเย้ยหยัน ชิงผินอ๋องยังรู้จักลุกขึ้นมา ออกปากปกป้องนาง แต่เจ้ากลับไม่ทำอะไร แบบนี้ต่อไปย่อมไม่เป็นผลดีกับเราแน่ ลี่เฟยเป็นผู้หญิง ย่อมต้องเข้าใจความใจอ่อนของผู้หญิงดี จุดอ่อนของผู้หญิง อยู่ตรงที่ขณะกำลังมีภัยก็มีคนยื่นมือเข้าช่วยเหลือ นางย่อมจดจำคนผู้นั้นได้ฝังใจ แม้ตอนนี้นางอาจจะชอบบุตรชายของนาง แต่ใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่เปลี่ยนใจเล่า เป่ยจื่อห้าวขมวดคิ้วด้วยความชิงชัง “แต่เมื่อคืนที่นางทำกิริยาไร้ยางอายนั่น จะให้ลูกออกหน้าได้ยังไงกัน ชิงผินอ๋องคนเดียวยังไม่พอ ยังจะให้ลูกทนดูนางสวมเขาต่อหน้าต่อตาตัวเองอีกหรือ?” ลี่เฟยเห็นเขาหุนหันพลันแล่นแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกไม่พอใจมาก รีบเตือนสติเขาว่า “ไม่ว่าเจ้าจะรังเกียจนางแค่ไหน ก็ห้ามแสดงออกเด็ดขาด แล้วก็ไม่ต้องไปใส่ใจชิงผินอ๋องด้วย ที่จริงเจ้าไม่ควรใส่ใจเลยด้วยซ้ำ จางยวี่โหร่วสำหรับพวกเราแล้ว เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่ใช้เพื่อชิงตำแหน่งฮ่องเต้เท่านั้น วันใดหากงานสำเร็จ หมากตัวนี้ก็จะไม่มีประโยชน์อีกต่อไป ถึงตอนนั้นจะจัดการกับนางยังไงก็ขึ้นกับพวกเราแล้ว ขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ด เป่ยจื่อห้าวหลังจากที่ลี่เฟยเตือนสติแล้ว ก็มีสีหน้าดีขึ้นมา “เรื่องเล่าลือของชิงผินอ๋องนั้นน่ากลัวนัก ทั้งยังเป็นโรคประหลาดอีก จางยวี่โหร่วไม่มีทางชอบเขาลงแน่ ข้อนี้ท่านแม่วางใจได้ แต่ลูกก็จะเชื่อฟังที่ท่านแม่กำชับ จะคอยไปเอาอกใจนางบ่อยๆ ทำให้นางมีแต่ข้าทุกลมหายใจ” เขาเป็นถึงโอรสฮ่องเต้ เรื่องอะไรต้องทุ่มเทใจให้ผู้หญิงแค่คนเดียว ถ้าคิดถึงเมียน้อยที่อยู่ในตำหนักของเขาแล้ว ก็ยังมีจ้าวซินซินที่คอยประจบเอาใจ แบบนั่นต่างหากที่เขาชอบ สิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุดคือการที่ตัวเองได้อยู่ในตำแหน่งสูงสุด ทุกคนจะได้ไม่กล้าดูถูกเขา ไม่กล้าที่จะไม่เห็นเขาในสายตา แต่เขาต้องได้นั่งบัลลังก์ฮ่องเต้เท่านั้น ถึงจะบรรลุตามที่ปรารถนาได้ ทำให้ผู้คนและขุนนางทั้งปวงยอมคุกเข่าให้ และเพื่อจะให้ถึงวันนั้น ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็สามารถอดทนทำได้ทุกเรื่อง 
已经是最新一章了
加载中