ตอนที่ 149 จุดประสงค์ของจางยวี่โหร่ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 149 จุดประสงค์ของจางยวี่โหร่ว
ต๭นที่ 149 จุดประสงค์ของจางยวี่โหร่ว จางยวี่โหร่วพูดต่ออีกว่า “ แบบนี้ดูเหมือนว่า คนที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการสังหารมีแค่องค์รัชทายาทคนเดียวเท่านั้น และไม่ได้ต้องการจะลอบสังหารพระชายาเลย ถึงขนาดจงใจหลีกเลี่ยงเธอ หรือพูดอีกอย่างคือ พระชายาทานยาแก้พิษล่วงหน้ามาก่อน ดังนั้นหลังจากที่ดื่มสุรามีพิษไปแล้วจึงไม่เป็นอะไร ” เมื่อเฉินซูเสียนได้ยินก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที และพูดเสียงแหลมคมออกมา “ จางยวี่โหร่ว นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร เจ้าต้องการใส่ร้ายว่าข้ากับฆาตกรคือพวกเดียวกันงั้นรึ? เจ้าอย่ามาพูดให้ร้ายคนอื่น ” “ ฮึ...พระชายา หากท่านไม่ได้ทำอะไรผิดจริง ก็ไม่ต้องกลัววิญญาณมาเคาะประตู ตอนนี้ข้าแค่เสนอข้อสงสัยอีกอย่างขึ้นมาเท่านั้น ท่านไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกเช่นนี้ เมื่อครู่ตอนนี้พระนางซูเฟยกับพระนางเสียนเฟยถูกสงสัย พวกเขาก็อธิบายตนเองอย่างใจเย็นไม่ใช่หรือ? ” น้ำเสียงของจางยวี่โหร่วมีความเหน็บแนมอย่างเห็นได้ชัด เมื่อนึกถึงว่าไม่กี่วันก่อนเธอยังทำตัวเย่อหยิ่ง พวกตำหนักเฉินกั๋วกงเชิดหน้าชูตา มีพรรคมีพวก และยังต้องการบดขยี้ตระกูลจางเพื่อเป็นที่หนึ่ง แต่ตอนนี้ท่าทางจนตรอกอย่างขีดสุดของเธอ มันทำให้คนรู้สึกมีความสุขจริงๆ และเธอคิดว่าตัวเองอธิบายแล้วมีประโยชน์งั้นหรือ? เธอในตอนนี้ก็เหมือนกับแมวที่โกรธจนระเบิดอารมณ์ออกมาตัวหนึ่ง แบบนี้จะยิ่งทำให้คนสงสัยง่ายขึ้นอีก ในขณะนั้น หมอหลวงก็ออกหน้ามาอธิบายสถานการณ์ “ พระชายาชิงผิน เกี่ยวกับพิษนกแคว้นตะวันตกนั้น ไม่มียารักษา ดังนั้นจึงไม่อาจมียาถอนพิษได้ ” นี่ไม่ได้นับว่ากำลังพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้เฉินซูเสียน เพื่อนแค่พูดความจริงตามหลักงานที่ยึดถือของผู้เป็นแพทย์เท่านั้น เฉินซูเสียนก็รู้สึกว่าตัวเองมีความมั่นใจขึ้นมาในทันที เธอร้องไห้และคลานไปยังตรงหน้าของฮ่องเต้เพื่อขอร้องความเป็นธรรม “ ฝ่าบาทเพคะ ฝ่าบาทต้องทวงความยุติธรรมให้หม่อนฉันนะเพคะ องค์รัชทายาทนั้นเป็นสามีของหม่อนฉัน ตอนนี้เขาถูกลอบทำร้ายจนเสียชีวิตอย่างผิดธรรมชาติ หม่อนฉันเสียใจเป็นอย่างมาก และตอนนี้ยังถูกคนว่าร้ายอีก ให้ข้าตายเสียยังจะดีกว่า ” แต่ฮ่องเต้กลับสีหน้าเคร่งขรึม มองเธอย่างเย็นชา ในสายตาเต็มไปด้วยความสงสัยอย่างลึกล้ำ สายตาน่าสงสัยแบบนั้นจริงจังมากกว่าตอนที่เขามองซูเฟยและเสียนเฟยเสียอีก เหตุใดพวกเขาดื่มเหล้าจากจอกเดียวกัน องค์รัชทายาทตายอย่างอนาถ แต่เธอกลับมีชีวิตอยู่อย่างดี นี่มันหมายความว่าเธอมีข้อสงสัยไม่ใช่หรือ? ฆาตกรที่ฆ่าคน รีบลงมือและยังสามารถหลีกเลี่ยงได้โดยเฉพาะ เห็นได้ชัดว่ามีปัญหาอย่างแน่นอน จอกเหล้านั้น จอกเหล้านั้นจะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน! ทันใดนั้นเขาก็ตวาดอย่างโมโหทันที “ พวกเจ้า นำจอกสุรานั้นมาให้ข้าเดี๋ยวนี้! ” เมื่อสืบสวนไปมา ตอนนี้ก็ได้มาสืบที่จอกเหล้าแล้ว ในใจของลี่เฟยจมลงและเริ่มใจไม่อยู่นิ่งเล็กน้อย ในแผนของเธอ เมื่อองค์รัชทายาทตายฮ่องเต้จะต้องโมโหมากอย่างแน่นอน แล้วค่อยให้หลันเชียงฆ่าตัวตายเพื่อทำลายพยานหลักฐาน และฮ่องเต้จะต้องตัดสินประหารชีวิตเสียนเฟยอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเธออีกต่อไปแล้ว จางยวี่โหร่วก็อ้อมค้อมไปมาอยู่นานสองนาน เพียงแค่เตือนฮ่องเต้เกี่ยวกับปัญหาของจอกเหล้าเท่านั้น ตอนนี้ในที่สุดเธอก็ช่วยซูเฟยกับเสียนเฟยโยนความผิดไปที่คนก่อน พวกเขาคงจะไม่เป็นอะไรแล้วในขณะนี้ เมื่อจอกเหล้าถูกนำมาดู ก็พบว่ามีหลายสิ่งอยู่ในนั้น จอกเหล้าเล็กๆใบหนึ่ง กลับมีเล่ห์กลอยู่ และยังสามารถแยกออกเป็นสองด้านได้ หมอหลวงหยิบเข็มเงินมาทำการทดสอบ เหล้าด้านหนึ่งไม่มีพิษ แต่อีกด้านหนึ่ง เข็มเงินกลับเปลี่ยนเป็นสีดำทันที นี่มันเป็นกลอุบายที่เหนือชั้นจริงๆ! ในตอนที่วางยาพิษ จะต้องเทเหล้าที่ไม่มีพิษให้เฉินซูเสียนแน่นอน แต่กลับเทเหล้าที่มีพิษอยู่จริงๆให้กับองค์รัชทายาท ดังนั้นถึงสามารถฆ่าองค์รัชทายาทจนตายอย่างอนาถได้ ฆาตกรคนนี้ ช่างจิตใจเหี้ยมโหดและชั่วร้ายจริงๆ ฮ่องเต้โกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว ตอนนี้เขาไม่มีใจจะไปคิดถึงปัญหาอื่นแล้ว สิ่งเดียวที่เขาต้องการจะรู้คือ เหตุใดฆาตกรคนนี้ถึงตั้งใจลงมือแค่องค์รัชทายาทเท่านั้น แต่กลับต้องการปกป้องเฉินซูเสียน พยายามอย่างหนักในการพัฒนาจอกเหล้าแบบนี้ แสดงให้เห็นถึงอะไร? ฆาตกร...จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเฉินซูเสียนอย่างแน่นอน! เขาเพียงแค่เกลียดตัวเองที่ในตอนแรกหาตัวผิดคน เดิมทีคิดว่าสามารถหาคนที่คอยสนับสนุนให้ลูกชายของเขาได้ หลังจากที่เขาสืบทอดราชบัลลังก์ก็จะสามารถช่วยเขาปกครองได้อย่างเต็มกำลัง สร้างรากฐานราชบัลลังก์ของเขาให้มั่นคง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นการส่งชีวิตของเขาไปตาย “ พวกเจ้า จับตัวพระชายาไว้ แล้วก็นังคนรับใช้ชั่วคนนี้ เข้าคุกไว้ด้วยกัน ทรมานให้หนักจนพวกมันคายความจริงออกจากปาก! ” ฮ่องเต้พูดด้วยความโกรธอย่างมาก เฉินซูเสียนรู้สึกช็อกไปทั้งตัว จนกระทั่งตอนที่องครักษ์สองคนจับเธอลากออกมาข้างนอก เธอถึงจะเริ่มดิ้นรนอย่างสุดชีวิต เมื่อครู่นี้กำลังสงสัยซูเฟยกับเสียนเฟยอยู่ไม่ใช่หรือ ตัวเธอเองก็รู้สึกว่าเธอเป็นคนที่น่าจะเป็นฆาตกรน้อยที่สุด แล้วทำไมถึงยังถูกสงสัยอีก? “ เหตุใดถึงต้องจับข้า ข้าไม่ใช่ฆาตกร ฝ่าบาทท่านไม่ยุติธรรมกับคนดีแบบนี้ได้อย่างไร? ” “ จางยวี่โหร่ว นังผู้หญิงชั่ว ต้องเป็นเจ้าแน่ๆ เป็นเจ้าที่ยุยงให้ฮ่องเต้จับข้า ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่ ” แต่ว่าเธอจะสู้แรงองครักษ์ทั้งสองคนได้อย่างไรกัน ไม่นานนักก็ถูกลากตัวออกไป ด้านนอกยังมีเสียงกรีดร้องและสาปแช่งของเธอดังลอยมา เฉินกั๋วกงตกใจจนมึนงง พอเขามีปฏิกิริยาโต้ตอบกลับมาก็รีบคุกเข่าขอยอมรับผิดและขอความเมตตาทันที “ ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ลูกสาวของกระหม่อมไม่มีวันจะทำเรื่องวางแผนทำร้ายองค์รัชทายาทได้ ฆาตกรจะต้องเป็นคนอื่นแน่ ฝ่าบาทจะใส่ร้ายคนดีแบบนี้ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ ” “ เงียบปาก ตอนที่องค์รัชทายาทดื่มเหล้าพิษ ลูกสาวของเจ้าและนังคนรับใช้ชั่วนั่นก็อยู่ในห้อง ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกนางสองคนไม่ได้วางแผนสังหารองค์รัชทายาท และคิดจะโยนความผิดมาที่ซูเฟยและเสียนเฟยอีก ” “ ไม่ นี่จะต้องเป็นกลอุบายแน่ ลูกสาวกระหม่อมไม่มีความกล้าที่จะทำเช่นนั้นอย่างแน่นอนนะพ่ะย่ะค่ะ! ” เฉินกั๋วกงพูดด้วยความตื่นตระหนกอย่างมาก ความกล้าของเฉินซูเสียนมีมากเท่าใด ฮ่องเต้นั้นย่อมรู้ดี เธอยังไม่ได้แต่งงานกับองค์รัชทายาท ก็หลอกใช้ให้องค์รัชทายาทไปช่วงชิงหลืนจือ จนเกือบจะก่อให้เกิดเรื่องใหญ่ ตอนนี้เป็นเพราะว่าฮ่องเต้ต้องการปกป้ององค์รัชทายาท ดังนั้นจึงไม่ได้สืบสวนเรื่องนี้ ที่จริงใครผิดใครถูก ตอนนั้นเขาก็รู้อยู่ในใจแล้ว จิตใจที่คิดจะแก้แค้นของเฉินซูเสียนนั้นมีมาก ในครั้งนั้นพ่ายแพ้แล้ว ยากที่จะรับรองได้ว่าเธอจะไม่ทำเรื่องชั่วร้ายอื่นๆได้อีก พอไตร่ตรองดูแล้ว มีหลายสิ่งที่น่าสงสัยอย่างมาก ในตอนแรกเฉินซูเสียนรักองค์ชายสองจนจะเป็นจะตาย ทำไมจู่ๆก็ขอพระราชโองการต้องการแต่งงานกับองค์รัชทายาท ก็เพียงแค่เพื่อการแก้แค้นเท่านั้น หากซูเฟยกับเสียนเฟยเป็นคนลงมือจริงๆ เช่นนั้นต่อให้พวกเขาต้องการลอบทำร้ายองค์รัชทายาท ก็ไม่มีวันที่จะปล่อยเฉินซูเสียนไป พอคิดๆดูแล้วพวกเขาสองคนนั้นน่าสงสัยน้อยกว่ามาก แต่ความน่าสงสัยของเฉินซูเสียนกลับมีมากกว่า ยากที่จะรับรองได้ว่าเธอรักองค์รัชทายาทไม่ใช่เพราะการแก้แค้น ดังนั้นตอนนี้จึงต้องการฆ่าองค์รัชทายาทและโยนความผิดให้ซูเฟยกับเสียนเฟย เขายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้มาก อารมณ์ของฮ่องแต่ในตอนนี้อยากจะหาที่ระบายความกลัดกลุ้มในใจ หากไม่สามารถหาฆาตกรได้ทันที เช่นนั้นเขาจะเบาใจได้อย่างไร? ประสบกับหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย ฮ่องเต้ยังจะมีใจมาพลิกไปพลิกมาเล่นต่อไปที่ไหนกัน ความจริงแล้วจางยวี่โหร่วไม่พูดถึงสาเหตุนี้ออกมาในตอนแรกก็เพราะแบบนี้ ถ้าหากพูดไปก็ชี้ให้เห็นว่าเฉินซูเสียนคือฆาตกร เช่นนั้นทุกคนก็จะรู้สึกว่ามีหลายแห่งที่ไม่เข้าท่า จากนั้นค่อยทำให้คนสงสัยเสียนเฟยกับซูเฟย เมื่อถึงตอนนั้นทุกคนก็จะถูกทำให้สับสนและรู้สึกว่าใครก็น่าสงสัย ในเวลานี้ก็จงใจใช้ความลึกลับในจอกเหล้ามาขยายสถานการณ์ จนทุกคนไม่มีแรงที่จะแยกแยะว่าอะไรคือถูกผิดแล้ว เฉินซูเสียนก็จะต้องถูจับตัวเข้าคุกเพราะเหตุนี้ ในความเป็นจริง กลยุทธ์สะเทือนจิตใจของจางยวี่โหร่วนี้ ใช้ได้อย่างถูกที่มาก ขั้นตอนต่อไป ก็คือทำลายฟางเส้นสุดท้ายในใจของฮ่องเต้ อารมณ์ที่เก็บไว้ในใจของเขาก็ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป ไม่ว่าเฉินซูเสียนจะกล่าวหาหรือไม่ ก็ต้องจับเธอไว้ก่อน ให้เป็นข้อสรุปของเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ในส่วนอื่นๆ ก็ต้องสืบสวนต่อไป เขาจะไม่มีวันปล่อยใครไปแม้แต่คนเดียว ... ตอนนี้เวลาล่วงเลยไปมากแล้ว และผู้ต้องสงสัยได้ชี้ขาดมาหนึ่งคนในขั้นแรกแล้ว สำหรับคนอื่นๆที่ยังไม่ถูกสงสัย ก็สามารถกลับไปก่อนได้ชั่วคราว ซูเฟยเห็นว่าฮ่องเต้ทุกข์ใจอย่างมากและต้องการอยู่เป็นเพื่อนเขา แต่เขากลับไล่ทุกคนออกไป อยู่ในห้องขององค์รัชทายาทต่ออยู่คนเดียว องค์รัชทายาทตายแล้ว ถึงแม้ทุกคนจะกลุ้มใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเศร้าใจกับเรื่องนี้จริงๆ ถึงแม้พวกเขาไม่ได้มีใจจะทำร้าย แต่ถ้าหากองค์รัชทายาทตายจริงๆ และเรื่องยังไม่มาเกี่ยวข้องถึงตัวของพวกเขาได้ เช่นนั้นล้วนเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับพวกเขา อีกทั้งตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว การตายขององค์รัชทายาทอนาถและน่ากลัวมาก ใครจะยอมอยู่ในห้องนี้กับคนตาย ดังนั้นฮ่องเต้ต้องการให้พวกเขาไป พวกเขายังจะไม่ไปได้หรือ? ดังนั้น คนที่ควรจะวังก็กลับวัง คนที่ควรจะออกนอกวังก็ออกนอกวัง ไม่นานคนที่อยู่ล้อมรอบวังตะวันออกก็แยกย้ายกันไป สายตาของหลินจือก็มองมาที่จางยวี่โหร่วบ่อยๆ ระหว่างทางออกจากวัง ตอนนี้เธอมีคำถามมากมายที่ต้องการถามจางยวี่โหร่วจริงๆ จางยวี่โหร่วรู้เรื่องที่องค์รัชทายาทจะตายในวันนี้ก่อนหน้านั้นแล้วใช่ไหม ดังนั้นเมื่อวานจึงพูดว่ารอดูอะไรสนุกๆ? ฆาตกรที่วางยาพิษ เป็นใครกันแน่ หรือว่าเป็นเฉินซูเสียนจริงๆ? แต่ว่าเธอคิดยังไงก็รู้สึกว่าเฉินซูเสียนไม่ใช่ฆาตกร! แต่ที่นี่เป็นพื้นที่ต้องห้ามในพระราชวัง นอกเสียจากว่าเธอไม่ต้องการชีวิตแล้วจึงจะพูดคุยปัญหานี้กับจางยวี่โหร่ว ก็ทำได้แค่เก็บคำถามนี้ไว้ในใจเท่านั้น เมื่อถึงประตูทางเข้าวัง หันยี่ฉีก็ประคองจางยวี่โหร่วขึ้นรถม้า ในตอนนั้นเธอถึงจะหันหน้ามามองหลินจือครั้งหนึ่ง ส่งสายตาวางใจให้เธอ จากนั้นก็เปิดม่านเข้าไป หลินจือคิดทบทวนดู เธอรอมีโอกาสคราวหน้าค่อยถามดีกว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดี องค์รัชทายาทตายอย่างกะทันหัน ฆาตกรก็ยังสืบหาไม่พบ พวกเขาทุกคนล้วนตกเป็นผู้ต้องสงสัย จะต้องมีสายตาจับจ้องอยู่ด้านหลังนับไม่ถ้วนอย่างแน่นอน ดังนั้นถึงแม้ว่าจะออกจากวัง เธอก็ไม่สะดวกที่จะไปสอบถามยวี่โหร่ว จะได้ไม่ถูกสงสัยอะไร สิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้ ก็คือรอสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์อย่างเงียบๆ ยวี่โหร่วยังไม่กังวล เธอจะกังวลทำไมกัน ตอนนี้เธอทั้งเชื่อใจและเคารพจางยวี่โหร่วจากใจจริง รู้สึกว่าเธอเก่งกาจมาก ราวกับขงเบ้ง เธอเคยพูดไว้ว่าคนเหล่านั้นที่ดูถูกเหยีดหยามเธอจะต้องได้รับบทลงโทษ ตอนนี้พวกเขาล้วนได้รับการลงโทษแล้ว องค์รัชทายาเสียชีวิตแล้ว เฉินซูเสียนถูกคิดว่าเป็นฆาตกรจนโดนจับเข้าคุก เธอรู้สึกได้ระบายความโกรธแค้นอย่างแรงจริงๆ! 
已经是最新一章了
加载中