ตอนที่ 92 ของขวัญลึกลับ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 92 ของขวัญลึกลับ
ต๭นที่ 92 ของขวัญลึกลับ กิตติก็ไม่ได้โมโห เพียงแต่เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่า “เมื่อก่อนเป็นเพราะว่างจนจิตใจสับสนวุ่นวาย มีกำลังแต่ไม่มีที่ใช้ ตอนนี้ความกดดันในการทำงานสูง อ้อ ใช่แล้ว เรื่องของเธอฉันสามารถช่วยจัดการให้เธอได้ พรุ่งนี้เธอก็มารายงานตัวที่บริษัทได้แล้ว แต่มีจุดนึงที่เธอจะต้องระวัง ห้ามแต่งตัวโป๊โดยเด็ดขาด” “ทำไมจะไม่ได้ หรือแม้แต่เรื่องนี้คุณก็คิดจะมาบงการฉันหรือไง คุณนึกว่าฉันยังเป็นขวัญชีวีเมื่อสามปีก่อนอยู่อีกหรอ?” ขวัญชีวีไม่แยแส รู้สึกไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง กิตติลุกขึ้นจากร่างกายของขวัญชีวี เริ่มใส่เสื้อผ้า แล้วเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “นี่ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี เพราะว่าในบริษัทมีตัวประหลาดที่รังเกียจผู้หญิงแต่งตัวโป๊ที่สุด หากเธอคิดที่จะเป็นเลขาตามติดเขาแล้วล่ะก็ จำเป็นต้องเรียนรู้เส้นทางสายอนุรักษนิยมนี่ให้ได้เสียก่อน" ขวัญชีวีลุกขึ้นมานั่งด้วยความตกใจ "ความหมายของคุณก็คือ ผู้จัดการใหญ่บริษัทCL กรุ๊ปของพวกคุณชอบผู้หญิงอนุรักษนิยม?" "ทำไม ยังไม่ได้ไปทำงาน ก็คิดอยากจะอ่อยผู้จัดการใหญ่แล้วงั้นหรอ?” กิตติสวมเสื้อผ้าเสร็จ ก็ยื่นมือข้างหนึ่งออกไปบีบหน้าอกที่อวบอิ่มของเธอ จากนั้นก็เคล้นคลึงอย่างรุนแรง ขวัญชีวีกัดฟันทนความเจ็บ แล้วกัดไปบนแขนของเขาทีหนึ่ง "ฉันอยากจะอ่อยใครก็อ่อย คุณ ควบคุมฉันไม่ได้!" สายตาของกิตติอึมครึมขึ้น “วางใจเถอะ มีฉันอยู่ เธอก็รับไม่ไหวแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไปปรนนิบัติรับใช้ชายคนอื่นอีก" พูดจบ เขาก็จัดเนกไทเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้องไป "ไอ้สารเลว!" ขวัญชีวีด่าไล่ตามเงาหลังของกิตติที่เดินออกจากห้องไปอย่างแรง แล้วล้มตัวที่เปลือยเปล่าลงนอนหงายอยู่บนเตียงกว้าง มองนิ่งไปบนฝ้าเพดานอย่างเหม่อลอย ขวัญชีวีก็ไม่เข้าใจเช่นเดียวกันว่าตนเองในตอนนี้มีความรู้สึกแบบไหนกันแน่ หลังออกมาจากโรงแรมบีทู กิตติก็กลับมาที่บริษัทอีกครั้ง เพราะว่าเขายังต้องทำงาน เพียงแต่ว่า วันนี้ผู้จัดการใหญ่มีธุระส่วนตัวที่ต้องจัดการ ไม่ได้อยู่ในบริษัท ดังนั้นเขาถึงสามารถแอบขี้เกียจสักหน่อยได้ หลังจากจัดการกับเรื่องใกล้ตัวส่วนหนึ่งที่สำคัญเสร็จ กิตติก็มายังห้องทำงานของกิรณา แม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าเลขาของผู้จัดการใหญ่ ในบริษัทCLกรุ๊ปแห่งนี้ สามารถเรียกได้ว่าอยู่ใต้ล่างคนเพียงคนเดียว แต่อยู่สูงกว่าคนนับหมื่น แต่จะเอาเด็กใหม่ที่แม้แต่ยังไม่ได้ผ่านช่วงทดลองงานก็ถูกตัดทิ้งย้ายเข้ามาในบริษัทใหม่อีกครั้ง นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะพูดลอยๆออกมาคำเดียวก็จะสามารถทำได้ อย่างไรเสียบริษัทCLกรุ๊ปก็เป็นบริษัทใหญ่ข้ามชาติที่มีการบริหารจัดการที่เข้มงวดมากบริษัทหนึ่ง นี่จำเป็นต้องผ่านผู้จัดการฝ่ายบริหารสำนักงานกิรณาด่านนี้เสียก่อน "ผู้จัดการกิรณาครับ!" กิตติเคาะประตูห้องทำงานของกิรณาผู้จัดการฝ่ายบริหารสำนักงาน แล้วเดินเข้าไปด้วยใบหน้าที่ดูสุภาพเรียบร้อยและมีมารยาท กิรณาที่กำลังก้มหน้าจัดการกับเอกสารเงยศีรษะขึ้นตามเสียงเรียก พอเห็นว่าเป็นกิตติ ก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้นว่า "คุณเลขากิตติ มีธุระหรอคะ?" "อยากจะเข้ามาถามเสียหน่อยน่ะครับว่าวันนี้คุณยังจะต้องทำโอทีอีกหรือเปล่า?" กิตติเดินไปยังด้านหน้าของกิรณา แล้วนั่งลงบนโต๊ะทำงานของเธอแบบตามอำเภอใจเป็นอย่างยิ่ง กิรณายักไหล่ “นี่ยังต้องถามอยู่อีกหรอ โอทีเป็นการบ้านที่ฉันจำเป็นต้องทำในทุกวัน” ในบริษัทCLกรุ๊ป ทุกวันคนที่มาเช้าที่สุดคือเธอกิรณา คนที่กลับช้าที่สุดก็คือเธอกิรณาเช่นเดียวกัน ดังนั้นเธอสามารถอาศัยเพียงแค่ความเป็นผู้หญิงบอบบางและอ่อนแอคนหนึ่ง นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบริหารสำนักงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ CL กรุ๊ปนี้ได้อย่างมั่นคง ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลอย่างแน่นอน “คุณจะมีสักวันที่ไม่ต้องทำโอทีกลับบ้านเร็วหน่อยไม่ได้เลยหรือไงกัน?” กิตติโน้มตัวลง มือทั้งสองข้างยันไว้ตรงที่วางมือบนเก้าอี้ใหญ่ของผู้จัดการที่กิรณานั่งอยู่ แล้วประชิดตัวเข้าหาเธอ เอ่ยร้องเรียกด้วยนัยน์ตาที่แสนอ่อนโยน “ที่รัก วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานสามปีของเรา คุณลืมแล้วหรอ?” ใช่แล้ว กิรณาคือภรรยาของกิตติ พวกเขารู้จักกันในงานดูตัวเมื่อสามปีกก่อน จากนั้นแต่งงานกันแบบสายฟ้าแลบภายในหนึ่งสัปดาห์ หลังจากแต่งงาน กิตติก็ได้ลาออกจากตำแหน่งครูประจำชั้นมัธยมปลายในทันที ภายใต้การประคับประคองช่วยเหลือของกิรณา บวกกับตัวเขาเองก็มีความสามารถอยู่บ้าง ไม่ช้าก็ได้นั่งในตำแหน่งหัวหน้าเลขาของผู้จัดการใหญ่แห่งบริษัทCLกรุ๊ป พูดได้ว่า เขากิตติมีเจิดจรัสในวันนี้ได้ อย่างไรก็หนีไม่พ้นความเป็นภรรยามากความสามารถของกิรณานี้ได้อย่างแน่นอน พอกิรณาได้ยินกิตติเรียกเธอที่รักในห้องทำงาน ก็ตื่นตระหนกรีบมองออกไปทางด้านนอก จากนั้นก็จ้องไปที่กิตติด้วยความขุ่นเคืองพลางเอ่ยขึ้นว่า "บอกไปกี่ครั้งแล้วคะ ว่าอยู่ในบริษัทอย่าเรียกฉันว่าที่รัก ถูกคนอื่นได้ยินเข้า ก็ต้องเกิดเรื่องขัดแย้งขึ้นมาอีก คุณต้องรู้นะคะว่าบนเรซูเม่ของคุณและฉันต่างก็เขียนสถานะว่าโสด" ในโลกของหน้าที่การงานมีกฎที่ถูกตั้งขึ้นอย่างไม่เป็นลายลักษณ์อักษรเป็นอย่างยิ่งอยู่ข้อหนึ่ง คนที่สถานภาพโสด ไม่ว่าจะเป็นช่องว่างในการเจริญเติบโตหรือความรวดเร็วในการขึ้นตำแหน่งต่างก็สูงกว่าผู้ที่แต่งงานแล้วทั้งสิ้น ดังนั้นกิรณากับกิตติจึงไม่ลังเลเลยที่จะเลือกปิดบังการแต่งงาน ในยุคที่อะไรก็จริงๆหลอกๆ หลอกๆจริงๆนี้ การปิดบังเรื่องแต่งงาน ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าแปลกอีกต่อไป กิตติเบ้ปากเล็กน้อยอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ แล้วเอ่ยขึ้นว่า "ในใจของคุณหน้าที่การงานสำคัญกว่าผมเสมอ" กิรณาเริ่มรู้สึกจนปัญญา จากนั้นเอ่ยขึ้ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงว่า "กิตติ คุณอย่าโวยวายสิคะ พวกเราเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แน่นอนว่าต้องเอาเรื่องงานมาไว้ข้างหน้า วันครบรอบแต่งงานอะไรกัน พวกเราไม่ต้องการความโรแมนติกอะไรนั่น อย่างมากที่สุด วันนี้ฉันเลิกงานกลับบ้านก่อนสี่ทุ่ม โอเคไหมคะ?" ในเรื่องอายุกิตติยังอ่อนกว่ากิรณาสามปี ดังนั้น มีหลายครั้งที่กิรณาจะต้องปฏิบัติต่อกิตติราวกับโอ๋น้องชายคนเล็กยังไงอย่างงั้น ก็เหมือนกับในตอนนี้ "งั้นก็ได้!" กิตติก็ทำท่าทีจนปัญญาเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วเอ่ยขึ้ยว่า "ผมมีของขวัญอย่างหนึ่งจะมอบให้กับคุณ ขอเพียงแค่คุณยอมรับ ผมก็จะไม่โกรธ และวันนี้ผมก็จะนั่งทำโอทีเป็นเพื่อนคุณด้วย" "ของขวัญอะไรคะ?" กิรณาถามขึ้นอย่างระแวงปนสงสัย "คุณหลับตาสิ" ใบหน้าของกิตติยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มต่อไป 
已经是最新一章了
加载中