ตอนที่ 106 หาเรื่องตาย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 106 หาเรื่องตาย
ต๭นที่ 106 หาเรื่องตาย กิรณาออกไปจากโรงอาหาร เธอเดินไปที่ออฟฟิศของกิตติพร้อมกับอาหารที่ห่อไว้ “คุณเลขากิตติ อยู่ไหมค่ะ?” พอกิรณาเดินมาถึงหน้าออฟฟิศ เธอก็เคาะประตูอย่างเบาๆ กิตติกับขวัญชีวีที่กำลังทำอะไรกันในออฟฟิศพอได้ยินเสียงคนเคาะประตู ตกใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกิตติ สีหน้าเขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ กิตติถอยออกจากตัวขวัญชีวีอย่างไม่ลังเล แต่งหน้าแต่งตัวอย่างรวดเร็วฉับไว และก็นำขวัญชีวีที่กำลังแก้ผ้าอยู่ไปแอบที่ข้างล่างโต๊ะทำงาน เอาเก้าอี้หนังแท้ของเขามาบังไว้ ค่อยเดินไปเปิดประตู “ผู้จัดการณา มีอะไรไหมครับ” กิตติพยายามที่จะใช้ถ้อยคำทางการในการพูด เพราะเขากลัวว่าขวัญชีวีที่แอบอยู่ข้างล่างโต๊ะรู้เรื่องภรรยาของเขาแล้ว จะมุดออกมาปั่นป่วน ถึงเขาจะชอบร่างกายของขวัญชีวี แต่คนที่เขารักคือกิรณาภรรยาของเขา เพราะว่ากิรณาเป็นผู้หญิงและภรรยาที่ผู้ชายยอมทุ่มเทความรักให้ นอกจากบ้างานแล้ว กิรณาแทบจะไม่มีข้อเสียอะไรเลย กิรณาตกใจกับสีหน้าที่เคร่งขรึมของกิตติ ปกติพอไม่มีคน กิตติจะชอบเซ้าซี้เธอ เรียกเธอว่าเมียจ๋าเมียจ๋า มือทั้งคู่ก็ชอบหยอกเล่นและจับโน่นจับนี่ แต่ครั้งนี้… แต่ว่า แบบนี้ก็ดี เธอจะได้ไม่ต้องกังวลเพื่อนร่วมงานมาเห็น ถึงเวลานี้ ไม่คิดเลยว่ากิรณาจะไม่รู้สึกว่ามีอะไรแปลกไป หรือ นี่ก็คือที่เขาชอบพูดกัน ผู้หญิงที่ฉลาดและทำงานเก่ง ความฉลาดทางอารมณ์มักจะเป็น 0 “ฉันเห็นคุณไม่ได้ไปกินข้าว เพราะฉะนั้น เลยเอาข้าวมาฝาก” กิรณายิ้มและยื่นข้าวที่อยู่บนมือให้กิตติ “ขอบใจ!” กิตติยื่นมือรับข้าว ดวงตาแสนดีที่เสแสร้ง ก็ได้เปลี่ยนเป็นความรู้สึกผิด แต่เสียดายที่หนังตาเขากลบอยู่ กิรณาไม่มีทางที่จะเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของเขา “คุณยุ่ง ฉันไปก่อนล่ะ” กิรณายิ้มและพยักหน้า ก่อนที่จะหันหลังและเดินจากไป “กิรณา...” กิตติเผลอเอ่ยออกมา เมื่อมองไปที่รอยยิ้มที่สวยสะอาดของภรรยา “หืม?” กิรณาหันกลับมา มองไปที่กิตติ “มีอะไรอีกเหรอ?” “ไม่มีอะไร” กิตติรีบส่ายหัว ตอนนี้ กิรณาออกไปยิ่งเร็วยิ่งดี ทันใดนั้นเขาก็เริ่มด่าตัวเองในใจว่าทำไมเมื่อกี้ถึงทำอะไรโง่ๆไป กิรณาไม่ได้สงสัยอะไร หันหลัง และก้าวเดินออกไปอย่างนวยนาด กิตติปิดประตู มองไปบนมือที่มีข้าวอุ่นๆอยู่ ในใจรู้สึกหงุดหงิด ขณะนี้ พอขวัญชีวีเห็นว่าไม่มีคนแล้ว เธอก็คลานออกมาจากโต๊ะทำงาน เห็นกิตติจู่ๆเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอเลยพูดออกมาอย่างเสียอกเสียใจว่า “ผู้จัดการณาเป็นใคร? ฟังจากเสียงน่าจะเป็นหญิงแก่อายุ30กว่าปี ทำไมเขาถึงเอาข้าวมาให้ หรือว่า พวกคุณแอบรักกันเหรอ?” ขวัญชีวีไม่ได้ใช้ช่องทางที่ถูกต้องในการเข้าทำงาน เพราะฉะนั้น เธอเลยไม่เคยเจอกิรณาที่เป็นผู้จัดการฝ่ายบริหารสำนักงาน เมื่อได้ยินสิ่งที่ขวัญชีวีพูดแล้ว กิตติก็ขมวดคิ้ว เดินไปข้างหน้า ดึงที่คางของขวัญชีวี และพูดด้วยสีหน้าที่มืดหมองว่า “เธอว่าใครแก่นะ? อายุสามสิบแล้วไง? เธอรู้ไหม ถ้าเอาเธอเทียบกับเขา เธอก็คือผู้หญิงที่สถุนและไร้มารยาทที่เรียกมาบริการความสุขตอนไหนก็ได้ ส่วนเขา ก็คือเจ้าหญิงที่สวยสง่าเคร่งขรึมสูงส่ง เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเทียบกับเธอด้วยซ้ำ อย่าพูดว่าแค่เทียบกับนิ้วของเธอยังเทียบไม่ขึ้น จะถือรองเท้าให้เขา เธอยังไม่มีคุณสมบัติที่เพียงพอเลย” ขวัญชีวีไม่เคยได้ยินคำด่าที่โหดร้ายเท่านี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นคำด่าพวกนี้ยังมาจากปากของผู้ชายที่เพิ่งมีอะไรกันกับเธอ ในโลกนี้คงไม่มีคำด่ากราดไหนที่ถึงพริกถึงขิงจนทำให้ผู้หญิงจะเป็นบ้าได้ขนาดนี้แล้ว “กิตติ นายมันไอ้คนระยำ นายแม่งไม่ใช่ผู้ชาย ถ้าผู้หญิงคนนั้นมันดีขนาดนี้ แล้วทำไมนายไม่ไปหามันล่ะ จากนี้ไป นายอย่าคิดที่จะมาแตะต้องฉันอีก ไปตายซะ” ขวัญชีวีโกรธจนถึงที่สุดแล้ว เธอยกและโยนจานข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของกิตติลงบนพื้นอย่างโกรธแค้น แล้วยังใช้เท้าขยี้ไปอีกสองสามที ข้าวกลางวันที่มอบให้ด้วยความรักจากกิรณา เละเทะไปทั้งพื้นในทันที หารู้ไม่ เธอจะพังอะไรก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ห้ามพังข้าวกลางวันที่กิรณาตั้งใจเอามาเด็ดขาด และแล้ว กิตติก็โกรธขึ้นมา ตอนแรกเขาก็หงุดหงิดอยู่แล้ว พอโดนขวัญชีวียุแบบนี้ เขาก็โกรธจนบ้าคลั่ง “แม่งเอ้ย ไอ้กะหรี่ แค่ทำดีใส่นิดหน่อยก็คิดว่าตัวเองเป็นอะไรจริงๆเหรอ หาว่าฉันไม่ใช่ผู้ชาย ให้ฉันไปตาย เหอะ ฉันว่าเธอนั้นแหละหาเรื่องตาย” กิตติมือหนึ่งบีบไปที่คอของขวัญชีวีด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม อีกมือหนึ่งฉีกเสื้อขวัญชีวีขาดอย่างบ้าคลั่ง 
已经是最新一章了
加载中