ตอนที่422แบล็คเมล์ด้วยภาพหลุด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่422แบล็คเมล์ด้วยภาพหลุด
ตอนที่422แบล็คเมล์ด้วยภาพหลุด "แต่ว่าผมยังรู้สึกกลัวอยู่"เด็กน้อยก้มมองมือเล็กของตนเองในใจเหมือนเก็บซ่อนอะไรอยู่ เตชิตไม่ได้เร่งรัดอะไรเขาใจเย็นค่อยๆปลอบเขาว่า"ไม่เป็นไรนะครับพ่ออยู่ตรงนี้ข้างหนูถ้าหนูเกิดกลัวขึ้นมาก็แค่ดึงชายเสื้อพ่อพ่อก็จะรีบพาลูกออกไปเลยดีมั้ย" ใจของธีมนต์ถูกคำพูดของชายหนุ่มปลอบให้คลายกังวลลงไปบ้างแม้ว่าจะยังคงมีความหวาดกลัวอยู่แต่เขาก็ยอมลงรถมากับเตชิต เมื่อเดินเข้าไปในบ้านคุณตาคุณยายของเขาก็นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกแล้วเมื่อได้ยินเสียงประตูก็อกๆแก๊กๆทั้งสองก็หันมาตามเสียงทันทีเตชิตที่สวมสูทสีน้ำเงินเข้มจูงมือธีมนต์เดินเข้ามาสีเสื้อของทั้งสองใกล้เคียงกันตากับคิ้วของธีมนต์เหมือนกับเตชิตมากดูก็รู้ว่าทั้งสองเป็นพ่อลูกกัน ท่าทีเมื่อได้พบกับเด็กน้อยครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนอย่างสิ้นเชิงเพราะพวกเขาต่างรู้แล้วว่าเด็กคนนี้ก็คือเหลนของเขาสองตายายหันไปยิ้มกับเด็กน้อยแล้วกวักมือเรียก"ธีมนต์มาหาตากับยายนี่มา" เตชิตได้ยินสรรพนามที่ทั้งสองใช้แทนตัวเองถึงกับชะงักในใจไม่รู้จะพูดอย่างไรแต่อย่างน้อยก็ดีกว่าครั้งก่อน เขากลัวว่าลูกจะประหม่าจึงจูงมือเขาเดินไปที่โซฟาตรงหน้าที่ผู่เฒ่าทั้งสองนั่งอยู่เขาชี้ไปที่ทั้งสองก่อนจะพูดด้วยเสียงนุ่มๆออกมาว่า"เรียกคุณตาทวดกับยายทวดซิลูก" ธีมนต์เรียกตามอย่างเชื่อฟัง "เก่งมากจ้ะ"คุณยายของเตชิตดีใจมากที่ได้ยินเด็กน้อยเรียกรีบเรียกแม่บ้านให้เตรียมผลไม้"รออีกแปบนะจ๊ะเดี๋ยวยายทวดจะให้หนูกินของอร่อยๆ" ฝั่งชายชราแม้จะไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจนแต่เมื่อได้ยินเด็กน้อยเรียกคุณตาทวดนัยตาก็ซ่อนความดีใจไว้ไม่มิดมองใบหน้าเล็กที่ช่างเหมือนกับเตชิตตอนเด็กๆเหลือเกินจนเหลือคำพูดออกมาแค่สองคำ"ดีดีจริงๆ" เมื่อได้เจอธีมนต์ผู้เฒ่าทั้งสองต่างก็มีความสุขมากจึงเอาของที่ดีที่สุดในบ้านมารับรองเขาตรงหน้าแต่เพราะเหตุการณ์ครั้งก่อนทำให้เด็กน้อยยังคงประหม่า ชายชราหยิบกล้วยขึ้นมาส่งให้เด็กน้อย"ไม่ต้องกลัวบ้านของตาทวดก็คือบ้านของหนู" ธีมนต์รับมาอย่างระแวดระวังพร้อมก้มศีรษะอย่างสุภาพ"ขอบคุณครับคุณตาทวด" ชายชราหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข"เก่งมาก" เตชิตมองทั้งสองคอยจัดแจงโน่นนี้เพราะอยู่ในบ้านก็มีสมาชิกตัวน้อยมาเพิ่มอีกคนพูดตามความจริงแล้วหลายปีมานี้เขาก็ไม่ได้รับการดูแลประคบประหงมแบบนี้มาก่อนถึงแม้ว่าสองตายายอาจจะทำอะไรไม่ดีเอาไว้แต่ก็ด้วยความสัมพันธ์ทางสายเลือดทั้งสองชอบธีมนต์ด้วยใจจริง ขอแค่แบบนี้ก็พอแล้วเตชิตในวัยนี้พร้อมแล้วทุกอย่างเวลานี้ขอแค่เพียงครอบครัวกับความสงบเท่านั้น เรื่องที่เตชิตพาธีมนต์กลับไปบ้านเก่านั้นไม่นานก็ถึงหูของประทินนักสืบเอกชนนำเรื่องนี้มาแจ้งกับหล่อนหลังจากที่หล่อนให้นักสืบตามความเคลื่อนไหวของเขามาสามวันวันนี้หล่อนคงจะต้องออกจากบ้านไปที่บ้านหลังเก่านั้นเสียแล้ว หล่อนเม้มปากแน่นนัยตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นสิ่งที่หล่อนทุ่มเทมาสามปีกว่านี้เทียบอะไรไม่ได้เลยกับเด็กคนหนึ่ง "นี่ตกลงคุณคิดจะทำอะไรหากสะกดรอยตามเขาต่อไปนี่โอกาสจะถูกจับได้ก็มีมากขึ้น"เสียงปลายสายเป็นเสียงผู้ชายที่พูดผ่านอุปกรณ์ดัดเสียงถามหล่อน ประทินดึงสติกลับมามองออกไปนอกหน้าต่างที่ค่อยๆมืดลงแผนร้ายในใจค่อยๆผุดขึ้นมา"จับตูดูความเคลื่อนไหวของเด็กคนนั้นให้ดีถ้าออกจากบ้านหลังนั้นเมื่อไหร่รีบรายงานฉันทันที" หลังจากวางสายประทินก็นั่งลงเงียบๆข้างเตียงสักพักจากนั้นก็ค่อยๆมองรอบกายมองการตกแต่งภายในห้องที่คุ้นเคยในใจมีความโศกเศร้าที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้แต่ความเศร้าและเจ็บปวดนี้ได้ถูกแปรเปลี่ยนกลายเป็นความแค้นที่ฝังลึกอยู่ในใจหล่อนไม่เพียงแค่อยากไขว่คว้าหาความสุขเท่านั้นแต่หล่อนยังต้องการตัวชายหนุ่มอีกด้วยมันยากนักหรืออย่างไร ไม่หากหล่อนไม่ได้ตัวเขาหล่อนก็จะยอมให้คนอื่นได้เขาไปเช่นกัน สามปีที่ผ่านมาในเมื่อหล่อนปล่อยมือไม่ได้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวที่จะทำลายมัน ประทินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดหารูปๆหนึ่งเป็นรูปผู้หญิงคนหนึ่งที่ช่วงบนเปลือยกำลังนัวเนียอยู่ผู้ชายที่เห็นใบหน้าไม่ค่อยชัดเจนเป็นภาพที่บัดสีบัดเถลิงยิ่งนัก หล่อนเลื่อนหาเบอร์โทรศัพท์ของเตชิตจากนั้นกดส่งรูปภาพนั้นไปให้เขามองดูภาพที่กำลังโหลดจนสมบูรณ์ความคั่งแค้นในใจรอที่จะระบายออกมาสิบนาทีหลังจากนั้นขายหนุ่มก็โทรมาหาหล่อน หล่อนมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่แสดงชื่อของสายที่โทรเข้ามานั่นทำให้หล่อนรู้สึกดีใจขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง หล่อนเฝ้ารอให้เขาโทรเป็นฝ่ายโทรหาก่อนมานานแสนนานแต่ก็ไม่เคยได้รับสายจากเขาจนมาวันนี้เขาเป็นฝ่ายโทรหาหล่อนแล้วแต่ก็ไม่พ้นเป็นเรื่องของนัชชา หล่อนสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะรับสาย"เตคะนึกไม่ถึงเลยนะคะว่าคุณจะเป็นฝ่ายโทรหาฉันก่อน" เสียงที่ฟังดูผ่อนคลายของหญิงสาวต่างกับเสียงชายหนุ่มที่ค่อนข้างเคร่งขรึมเหมือนวังน้ำวนในทะเลลึกผิดที่แฝงความน่ากลัว"ได้รูปมาจากไหน" ประทินชินเสียแล้วกับคำพูดตรงมาตรงไปไม่อ้อมค้อมของเขาเขาไม่เคยพูดอะไรมากมายกับหล่อนนอกเสียจากมีธุระสำคัญแต่ครั้งนี้อำนาจต่อรองอยู่ในมือหล่อนดังนั้นหล่อนไม่จำเป็นต้องรีบร้อน "เตคะครั้งก่อนที่คุณทำแบบนั้นกับฉันหน้าประตูคฤหาสน์คุณไม่รู้สึกเสียใจบ้างเลยเหรอคะ" "ผมถามคุณว่ารูปนั้นมาจากไหน" หล่อนหัวเราะออกมาเบาๆหัวเราะให้กับตัวเอง"คุณก็เป็นห่วงแต่เรื่องของนังนั่นใช่มั้ย" ปลายสายอีกฝั่งเขาไม่ได้มีความอดทนมากนักถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเป็นรูปที่ถูกตัดต่อขึ้นมาแต่เห็นแล้วเขาก็อดโมโหไม่ได้ "ผมจะถามอีกครั้งว่ารูปนี้มันมาจากไหน"เขาขบกรามแน่นน้ำเสียงแฝงการข่มขู่อยู่ในที ประทินเองก็กลัวว่าเขาจะรีบวางสายจึงตอบไปว่า"ภาพนี้ฉันได้มาจากคนๆหนึ่งถ้าหากคุณสนใจล่ะก็ออกมาพบฉันหน่อย" "ภาพตัดต่อ"ชายหนุ่มหัวเราะเสียงเย็นทุกคำที่เขาพูดเหมือนออกถูกแช่ด้วยน้ำเย็นๆ มาถึงตรงนี้ประทินเองก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว"ถึงต่อให้เป็นภาพตัดต่อจริงๆถ้าฉันปล่อยภาพนี้ออกไปก็คงไม่เป็นผลดีกับนัชชาและลูกเท่าไหร่นะคะ" เตชิตคิดว่าหล่อนคงจะเสียสติไปแล้วเห็นแก่ตระกูลบุญชูเขาจึงเอ่ยปากเตือนหล่อนว่า"คุณทำแบบนี้เคยคิดถึงผลที่จะตามมามั้ย" "เตคะคุณคิดว่าตอนนี้ฉันจะมีอารมณ์ไปคิดถึงคนอื่นอีกเหรอไม่มีที่ไหนสนใจฉันแล้วฉันจะไปสนใจคนอื่นทำไมกัน" คำพูดของประทินเหมือนกับคนที่พยายามดิ้นรนด้วยแรงเฮือกสุดท้ายเพื่อจะเอาชีวิตรอดทุกๆคำพูดเหมือนถูกเตรียมไว้หมดแล้ว ความจริงแล้วเขาไม่อยากจะสนใจใยดีอะไรกับเกมเล็กๆของหล่อน แต่เพราะว่ามันเกี่ยวพันกับนัชชาเขาไม่ยุ่งไม่ได้"แล้วคุณต้องการอะไร" "ฉันไม่ได้ต้องการอะไรก็แค่อยากพบและพูดคุยกับคุณให้ชัดเจน"หล่อนแทบจะไม่ต้องคิดก็โพล่งออกไปว่า"ขอแค่ให้ฉันได้พบคุณภาพนี้ก็จะไม่ถูกปล่อยออกไปเมื่อเราคุยกันรู้เรื่องแล้วฉันก็จะไม่ไปวุ่นวายกับพวกคุณอีก" เตชิตไม่เชื่อในคำสัญญาของหล่อนเท่าไหร่นักแต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาคิดว่าหล่อนพูดถูกก็คือพวกเขาควรจะพูดคุยกันอย่างน้อยก็ทำให้ภาพนี้ไม่ต้องหลุดออกไปและเรื่องนี้ก็จะทำให้เขาลงมือคิดบัญชีกับตระกูลบุญชูได้อย่างสนิทใจ หลังจากคิดพิจารณาแล้วเตชิตก็ตอบตกลงที่จะพบหล่อน"ที่ไหนเมื่อไหร่" "ร้านกาแฟอำพันเลขที่24ถนนศิลาฉันจะรอคุณมาตอนนี้เลย"พูดจบหล่อนยังกำชับเขาอีกว่า"คุณมาคนเดียวนะคะห้ามพาคนอื่นมาด้วย"
已经是最新一章了
加载中