ตอนที่ 46 หนังสือหยินนั้นเป็นของฉันนะ
1/
ตอนที่ 46 หนังสือหยินนั้นเป็นของฉันนะ
วิวาห์ร้าย แต่งกับผี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 46 หนังสือหยินนั้นเป็นของฉันนะ
ตอนที่ 46 หนังสือหยินนั้นเป็นของฉันนะ หลังจากจ้าวซิ้วกลับไปแล้ว ฉันก็ค่อยๆขึ้นเตียงซุกใต้ผ้าห่มดังเดิม ฉันเกลี้ยกล่อมตัวแต่ไม่หยุด จ้าวซิ้วคนนั้นจิตใจโหดเหี้ยม ทำชั่วไว้มากมายฆ่าคนไปแล้วตั้งสามคน ถ้าไม่รีบจัดการตอนนี้จะต้องเป็นภัยต่อโลกมนุษย์อย่างแน่นอน แต่ทว่า พอเห็นจ้าวซิ้วตรงหน้าคนนี้แล้วนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะใจอ่อน ฉันคิดเรื่องนี้วนไปวนมาจนค่อยๆเผลอหลับไป กลางดึกคืนนั้น ฉันก็เห็นภาพของจ้าวซิ้วก่อนที่เธอจะเดินออกไปอีกครั้งแล้วกันมาพูดกับฉันว่า “ พรุ่งนี้นะ พาฉันไปหาหนังสือหยินนั้น ฉันเข้าไปเองได้ ไม่ต้องห่วงอะไรหรอก” วันที่สอง ฉันเลยพยายามหาข้ออ้างต่างๆที่จะพาจ้าวซิ้วกลับหอกับฉัน เพราะวันนี้อากาศดีมากๆ กำลังคิดอยู่เลยว่าอากาศแบบนี้น่าจะกางร่มกลับไป คนอื่นจะได้ไม่ต้องถามอะไรเยอะแยะ ใครจะไปรู้ว่าเจ้าของโรงรับจำนำคนนั้นให้ร่มมา มันคือร่มที่คนทั่วไปจะมองไม่เห็นเรา เนื่องด้วยฉันสภาพจิตใจยังไม่ค่อยดีนัก ของดีแบบนี้ฉันก็ไม่รู้วิธีใช้มันอีก จ้าวซิ้วก็เดินมาปลอบใจว่า “นี้เป็นของจากยมโลก ไม่แปลกที่เธอจะใช้ไม่เป็น แต่ต้องระวังนะอย่าเอาไปใช้สุ่มสี่สุ่มห้าละ” กลับถึงหอแล้ว เยนหนานก็รีบเข้ามากอดฉัน “เฉินน่อ เธอหายไปไหนมา มีแฟนอยู่ข้างนอกมหาลัยงั้นเหรอ หายไปสะนานมาก คิดว่ากลับบ้านไปแต่งงานสะแล้วนะเนี่ย” ฉันยิ้มอ่อนๆให้ พร้อมทั้งลูบหลังเบาๆ ทั้งหันไปทักทายพี่จิงและอันอัน ฉันแสร้งทำเป็นจะปิดประตู แล้วก็รีบส่งสายตาให้จ้าวซิ้วรีบเข้ามา พร้อมทั้งหุบร่มเก็บเอาไว้ “เฉินน่อ เวลาที่ผ่านมาเธอต้องมีความสุขมากแน่ๆเลย อย่าพึ่งรีบกลับเลยน้า อยู่ที่นี่สักสองสามวันก่อนสิ” จิงเป็นเหมือนพี่ใหญ่สุดก็ว่าได้ พูดอะไรคล้ายแม่ฉันไปสะหมดเลย ตอนแรกกะว่าจะพูดเล่นสักหน่อย แต่นึกขึ้นได้ว่าที่มาเพราะมีธุระจำเป็น เลยพูดตัดบทกลับไปแล้วรีบไปที่โต๊ะหนังสือ วินาทีนั้น อันอันที่กำลังนั่งแต่งหน้าอยู่ก็พูดขึ้นมาว่า “เฉินน่อ เธอนานๆจะกลับมาสักที อยู่นี่ก่อนไม่ได้เหรอ ไปกินข้าวกัน ฉันจะเป็นเจ้ามือเองวันนี้!” พูดจบ อันอันก็วิ่งมาหาฉันพร้อมทั้งคว้ามือฉันไปเหมือนกับน้องสาวกำลังจับมือฉันยังไงยังงั้น ฉันมองไปที่จ้าวซิ้วอย่างจนปัญญา จ้าวซิ้วหัวเราะออกมาพร้อมทั้งบอกกับฉันเบาๆว่า “ไปสิ” ฉันไม่สามารถที่จะไม่สนใจจ้าวซิ้วอีกคนนึงได้ เพราะจ้าวซิ้วอีกคนยังคงลอยนวลอยู่ด้านนอก ถึงแม้ว่าครั้งที่แล้วจะโดนเทียนปู้หยู่เล่นงานไปจนหนัก คงจะไม่สามารถที่จะรักษาตัวได้ไวขนาดนั้นหรอกมั้ง อีกทั้งจ้าวซิ้วคนนี้ทั้งบอบบาง อ่อนแอฉันเลยอดไม่ได้ที่จะกังวลว่ากลัวอะไรจะเกิดขึ้นกับเธอ ฉันทำได้แค่รับปากกับอันอันไป เพราะถึงยังไงก็จะออกไปตามหาหนังสือหยินแล้ว เปิดเพียงหน้าแรก จ้าวซิ้วก็เอามือวางลงบนหนังสือหยิน แต่กลับมีแสงสีทองสว่างออกมาตามมือของจ้าวซิ้ว ฉันตกใจกลัวว่าเพื่อนอีกสามคนจะเห็น จ้าวซิ้วเห็นท่าทีของฉันจึงพูดปลอบใจว่า “ไม่ต้องห่วง พวกเขาไม่เห็นหรอก” จู่ๆก็มีมือวางลงบนไหล่ของฉัน ฉันตกใจไปครู่หนึ่ง รีบกันกลับไปดูว่าใครกัน อ่อ เยนหนานเองเหรอ “เธอทำฉันตกใจเลยเนี่ย” ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก ถึงแม้พวกเราจะกลับมาที่โลกคนเป็นแล้วก็ตาม แต่ทว่าฉันก็ยังคงระแวงตลอดเวลาอยู่ดี ไม่ใช่เพียงเพราะว่าโลกคนเป็นไม่มีเทียนปูหยู่หรอกนะ แต่เป็นเพราะฉันไม่รู้ว่าจ้าวซิ้วอีกคนอยู่ที่ใดถ้าไม่ระวัง ก็อาจจะเป็นโอกาสที่เธอจะเข้ามาทำร้ายฉันได้ “เธอทำอะไรอยู่หน่ะ ไปกินข้าวกันได้แล้ว” เยนหนานลากฉันเพื่อจะไปกินข้าว พี่จิงจึงหัวเราะกับภาพตรงหน้า แล้วสายหัวเบาๆ อันอันจึงเข้าไปลากพี่จิงต่อเป็นทอดๆ เวลานั้นจ้าวซิ้วเข้าไปในหนังสือหยินเรียบร้อยแล้ว หน้ากระดาษสีดำนั่นก็ปรากฏร่างของเธอแค่ครึ่งบน เธอหัวเราะกับท่าทีของพวกฉัน พร้อมทั้งโบกมือเป็นเชิงบอกว่าให้ไปเถอะ ฉันเลยหาอะไรมาปิดหนังสือเอาไว้ แล้วเดินไปกับพวกเยนหนานฉันมองไปที่เยนหนานอย่างพินิจพิเคราะห์ มองแล้วดูไม่ออกว่าเธอเป็นคนเชิญวิญญาณไม่รู้ว่าโดนอะไรไปกระตุ้นเข้า แต่ชั่งเถอะ ครั้งก่อนที่เยนหนานร้องไห้ออกมาเป็นเพราะว่าจ้าวซิ้วบังคับให้เธอทำ “เยนหนาน ครั้งก่อนที่เราไปหอนั้นหน่ะ ตอนนี้เป็นไงแล้วเหรอ” “หอไหน ? เฉินน่อ เธอมึนหรือเปล่า พวกเรามีหอพักเดียวเองนะ ไม่กลับมานาน ครั้งก่อนอาจารย์เช็คชื่อเธอหน่ะ ฉันยังช่วยปลอมเป็นเธอแล้วตอบว่ามาแล้วอยู่เลยนะ” ดูทรงแล้ว เยนหนานลืมเรื่องที่เกือบจะฆ่าจ้าวเซียวไปสะหมดแล้ว ฉันจึงถอนกายใจออกมาเบาๆ ดีแล้วละ ฉันเบาใจเรื่องเยนหนานไปแล้วหนึ่งคน หลังจากพวกเรากินข้าวเที่ยงกันเสร็จแล้ว อันอันก็ลากฉันไปช็อปปิ้งอีกทั้งร้องเพลงคาราโอเกะในตอนบ่าย เมื่อฉันเตรียมตัวจะกลับ อันอันก็ดึงมือฉันเอาไว้แล้วมองอย่างอ้อนวอนมาที่ฉันพร้อมทั้งพูดว่า “เฉินน่อ นานๆเธอจะกลับมาสักที อยู่เที่ยวกับพวกฉันก่อนไม่ได้เหรออ” พี่จิงและเยนหนานก็เห็นดีเห็นงามกับอันอันไปด้วย ฉันก็ทำได้แค่เออออห่อหมกตามไปก็เท่านั้น ฉันรู้ดีว่า เพื่อนของฉันทั้งสามคนยังคงจำเหตุการณ์เสียชีวิตของจางเจียเยียได้อย่างดี แต่ทว่าต่อหน้าฉันพวกเขาไม่แม้แต่ถามถึงมันสักคำ ทุกคนรู้ดี เพราะเรื่องนี้ฉันจึงถูกโรงเรียนปฏิบัติกับฉันเหมือนคนผิด นั้นจึงทำให้ฉันต้องไปสืบหาความจริงกับซูหลินอย่างไรละ พูดถึงเรื่องนี้ ตอนที่ฉันไปสืบหาหลักฐานนั้นเป็นความรับผิดชอบของฉันแต่เพียงคนเดียว อีกอย่างมันก็ไม่ได้จำใจอะไรขนาดนั้น แต่ก็นะ เพื่อนก็ทำให้ได้แต่เพียงเท่านี้ ฉันรู้สึกขอบคุณพวกเขามาก หลังจากนั้น อันอันก็ติดลมจนจะพาฉันไปคลับให้จงได้ปะ ทำให้ฉันรู้สึกขอบคุณที่ตอนนั้นรู้สึกเสียใจขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ไม่รู้ว่าอันอันดื่มไปเยอะแค่ไหน ตอนที่เราออกมาท้องฟ้าก็มืดลงเสียแล้ว ยังดีนะที่รอบๆมีไฟสว่างอยู่มาก แต่ทว่าจากสายตาของฉัน ทุกอย่างดูคล้ายกับดาวดวงเล็กๆเต็มไปหมด เด็กสาวสี่คนร้องเพลงจนกลับมาถึงหอพัก หลังจากเมาแล้วนั้นก็ทำให้ฉันลืมไปเลยว่าฉันมาทำอะไรล้มตัวลงบนเตียงก็รู้สึกง่วงมากอย่างบอกไม่ถูก ภายใต้ความเงียบนั้น ฉันรู้สึกว่าร่างกายฉันมันไร้เรี่ยวแรงเสียจริง รู้สึกเหมือนค่อยๆลอยขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ฉันลืมตาด้วยความมึนงง แต่ทว่ากลับพบว่าตัวเองลอยเคว้งอยู่ในที่มืด ภายใต้มึนงงนั้น ฉันรู้สึกว่ามีแสงสีทองสว่างวาบขึ้นมาตรงด้านหน้า ฉันค่อยๆชะโงกหน้าขึ้นไปดู ทันใดนั้นก็มีลมพัดอยู่ตรงเท้าของฉัน ไม่กี่วิถัดมา ฉันก็มาอยู่ตรงที่วัตถุส่องแสงสีทองตรงหน้า ฉันค่อยๆหรี่ตามองให้ดี นั้นมันหนังสือหยินของฉันนี่ ขณะที่ฉันกำลังจะเปิดดูนั้น ทันใดนั้นหนังสือหยินก็เหมือนกับกำลังโดนควบคุมเปิดเองโดยอัตโนมัติ ทำให้บาดนิ้วฉันที่เอื้อมมือไปมะกี้ ฉันกำลังจะชักมือกลับ แต่ทว่ากลับรู้สึกเหมือนมีแรงที่มองไม่เห็นกำลังดึงมือฉันไว้ ทำไงก็ไม่ขยับ แล้วเลือดก็ค่อยๆไหลออกมาจากบาดแผล ฉันคิดว่ามันต้องเป็นเพราะเวทมนต์หรืออะไรสักอย่างแน่ๆ ได้แต่ยืนมองเลือดที่ไหลออกมาเป็นสายเล็กๆ ไหลไปตามหน้าปกของหนังสือหยิน หน้าปกของหนังสือหยินเป็นรูปสัตว์ แต่ฉันไม่เคยเห็นมันเลยตั้งแต่แรกเลือดของฉันค่อยๆร่างออกมาเป็นรูปเริ่มจากฟัน ค่อยๆวาดจนครบทั้งตัวแสงสีทองค่อยๆเปลี่ยนกลายเป็นแสงสีแดง แสงนั้นสว่างเกินไปจนทำให้ต้องหลับตาลง ฉันค่อยๆเปิดตามองภาพที่อยู่ตรงหน้า แผลเล็กๆของฉันมันได้สมานลงแล้ว อีกทั้งหน้าปกของหนังสือหยินก็กลายเป็นรูปสัตว์ร้าย “เหอะ เหอะ” มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาจากด้านหลังฉัน ฉันรีบเอาหนังสือหยินแอบไว้ด้านหลังพร้อมทั้งรีบหันไปมอง พอฉันเห็นว่าเป็นเทียนปูหยู่ ฉันจึงโล่งอก ลดความระวังตัวลง “นี่ฉันเอง ไม่ต้องกังวลไป” ได้ยินดังนั้น ฉันจึงรู้สึกไม่เข้าใจในตอนแรก ถึงแม้เทียนปูหยู่เห็นท่าทีงงงวยของฉัน แต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา แล้วก็อธิบายให้ฉันฟังอย่างใจเย็นว่า “หนังสือหยินนี่ หลังจากได้เลือดจากใครแล้วคนนั้นก็จะเป็นเจ้าของหนังสือนี่ทันที เธอเป็นเจ้าของมันแล้วนี่” เทียนปูหยู่พูดมาถึงตรงนี้ฉันยังคงไม่เข้าใจอยู่ และก็ไม่เข้าใจมากขึ้นด้วย “หนังสือหยินนี่ ไม่ใช่ของนายหรอกเหรอ ทำไมให้ฉันง่ายจัง นายไม่ต้องการมันแล้วเหรอ” หลังจากเขาได้ยินคำถามฉัน จู่ๆก็หัวเราะออกมา “เดี๋ยวนะ แล้วของเธอมันก็เหมือนของฉันไม่ใช่เหรอ” ฉันรู้ว่าหน้าฉันต้องแดงมากแน่ๆ ฉันพยายามที่จะปิดหน้าที่แดงเหมือนลูกเชอรี่ของฉันด้วยการหันหลังแล้วไปสนใจหนังสือแทน แต่ทว่าเขากลับเข้ามาโอบเอวฉันเอาไว้แล้วพูดว่า “เธอเข้าไปพัวพันกับเรื่องอันตราย ฉันก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว แต่ด้วยฐานะของฉันในตอนนี้ก็ทำอะไรมากไม่ได้ ทำได้แค่มาปกป้องเธอด้วยตัวเองยังไงละ” ถึงแม้ว่าร่างกายของเทียนปูหยู่จะไม่ได้เย็นเฉียบเหมือนเช่นเคย แต่ทว่าฉันกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ฉันปล่อยให้เขากอดฉันอย่างนั้น ไม่มีบทสนทนาใดๆ ฉันจึงเอนหลังไปซบอกเขา “เอาเถอะ กษัตริย์อยู่ที่นี่นานมากไม่ได้ หนังสือนี่เธอก็ดูแลมันดีๆละ มีปัญหาอะไรก็ลองเปิดอ่านดูนะ” พูดจบ ฉันก็รู้สึกว่าด้านหลังของฉันมันว่างเปล่า ฉันหันหลังกลับไปมองก็พบว่าเทียนปูหยู่ไปแล้ว แต่ในใจฉันกลับรู้สึกเหงาหงอยอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันยอมรับกับสถานะ ภรรยาของเทียนปู้หยู่ บทบาทคนกับวิญญาณจะอยู่ด้วยกันได้เหรอ ต่อไปจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ฉันพยายามที่จะเลิกคิดอะไรฟุ้งซ่าน ฉันนั่งลงเพื่อพยายามที่จะเปิดหนังสือเล่มนี้เหมือนทุกครั้ง แค่ครั้งนี้ฉันไม่ต้องหลับตาเพื่อจินตนาการหรือโดนอะไรชักนำให้คิดตามอีกแล้ว หนังสือหยินอยู่ด้านหน้าและฉันกำลังจะเปิดมันทีละหน้า และมันก็ไม่เหมือนกับทุกครั้งเพราะครั้งนี้มีตัวอักษรตัวใหญ่สีทองโผล่ขึ้นมา แต่สิ่งที่ทำให้ฉันตกใจมากกว่านั้นคือมีกลุ่มควันสีแดงพวยพุ่งออกมาจากหนังสือคล้ายกับลมหาบใหญ่ กลุ่มควันเหล่านี้ค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างเป็นคนและคนนั้นก็ยิ้มให้ฉัน ฉันถึงตระหนักได้ว่า นั้นคือจ้าวซิ้ว “เฉินน่อ ฉันรู้วิธีจะกำจัดฉันอีกคนนึงแล้ว” ได้ฟังคำนี้ทีไรฉันรู้สึกเสียใจทุกครั้งไปคล้ายกับใช้ประโยชน์จากเขาแล้วก็กำจัดเขาทิ้งก็ไม่ปาน ไม่สิ เหมือนเอาเขามาทรมานมากกว่านะ จ้าวซิ้วเหมือนจะอ่านใจฉันออก จึงเดินมาหาฉัน พร้อมทั้งพูดว่า “เฉินน่อ ฉันไม่โทษเธอหรอกนะ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 46 หนังสือหยินนั้นเป็นของฉันนะ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A