ตอนที่24 กระวนกระวายใจ สุมิตรที่อเสียการควบคุม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่24 กระวนกระวายใจ สุมิตรที่อเสียการควบคุม
ต๭นที่24 กระวนกระวายใจ สุมิตรที่อเสียการควบคุม เสียงที่พึ่งจะตกลงมา จันวิภาก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่อยู่รอบตัวสุมิตรเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที เธอจึงมีความรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่เล็กน้อย และอยากที่จะอ้าปากเพื่อพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับหายไปอีกครั้งหนึ่ง สุมิตรพูดขึ้นอย่างเย็นชา“ถ้าเธอไม่ยอมก็ไสหัวไป ไม่ต้องมายืนเป็นอนุสรณ์แห่งความบริสุทธิ์อยู่ต่อหน้าฉัน เธอนี่เป็นคนอย่างไงกันนะ หึ ฉันยังมองไม่ออกอีกงั้นหรอ?” “นาย.....”จันวิภาอยากที่จะโต้เถียงกับสุมิตร แต่เมื่อคิดถึงกนกอรขึ้นมาแล้ว จึงจำต้องอดกลั้นต่อไป“งั้นเปลี่ยนเงื่อนไขสักข้อนึงได้มั้ย? จะอะไรก็ได้ นอกจากอันนี้!” “ถ้าไม่เอาใจฉัน ก็ไสหัวไป ไสหัวไปพร้อมกับเพื่อนของเธอ!”ทันใดสั้นสุมิตรก็บ้าคลั่งขึ้นมาทันที คิดไม่ถึงเลยว่าจันวิภาจะโต้กลับคำพูดที่เขาด่าเธอ จันวิภาตกใจจนกระโดดเหยงขึ้นมาทันที ก้าวถอยไปข้างหลังอยู่สองก้าว แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว หลังจากทำการต่อสู้ทางความกันอยู่ยาวนาน จึงจับไปที่มุมของเสื้อผ้าจนแน่น กัดที่ริมฝีปากแล้วเดินตรงไปข้างหน้า จากนั้นจึงเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ฉัน....ฉันรับปากนาย แต่นายต้องให้กนกอรอยู่ต่อไป..... ” “หึ.....” นัยน์ตาของสุมิตรเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที“ดีมาก จันวิภา ในที่สุดเธอก็ยอมรับแล้วว่าตนเองคือผู้หญิงร่าน?” เมื่อได้ฟังคำพูดของสุมิตร จันวิภาจึงแทบอยากที่จะเปิดประตูเดินออกไป แต่ทว่าเพื่อเพื่อนสุดที่รักของเธอกนกอรแล้ว เธอจึงไม่สามารถที่จะทำตามอำเภอใจได้ คาดไม่ถึงเลยว่าเมื่อเห็นจันวิภาที่ยังไม่ได้ไปไหน สุมิตรจึงโกรธอย่างคลุ้มคลั่งขึ้นมา เขาเดินไปหาจันวิภาทันที บีบข้อมือของเธอ แล้วโยนเธอลงบนเตียงที่อยู่ข้างๆ จันวิภากัดฟันเอาไว้จนแน่น รู้สึกได้ถึงแกงกดทับของสุมิตรกำลังคืบคลานเข้ามา ไม่กล้าแม้จะลืมตาขึ้น ปล่อยให้สุมิตรขยับไปมาตามอำเภอใจ แต่ทว่าสุมิตรจะพึงพอใจได้อย่างไรกัน เขาพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา“ครางออกมาให้ผมฟังหน่อย!” “......”คำตอบที่ตอบเขากลับเป็นความเงียบสงัด จันวิภาไม่สนใจคำพูดของสุมิตร กัดริมฝีปากเอาไว้ ไม่พูดออกมาและไม่อ้าปาก สุมิตรเพิ่มแรงใส่ให้ลึกขึ้นในทันที พูดด้วยน้ำเสียงที่ทั้งกระหายเลือดและหนาวเหน็บ“จันวิภา ผมต้องการให้เธอเอาใจผม!ครางออกมาเดี๋ยวนี้ เพื่อนของเธอถึงจะอยู่ต่อไปได้!” น้ำตาของจันวิภาไหลหยดลงมาอย่างไม่มีเหตุผล หากเป็นตอนปกติแล้ว เธอไม่มีทางที่จะรับปากสุมิตรอย่างแน่นอน แต่ทว่าเพื่อกนกอรในวันนี้แล้ว เธอจึงทำได้เพียงแค่อ้าปากออกมา แล้วส่งเสียงร้องครางออกมาอย่างแผ่วเบา “นังร่านเอ๊ย!” สุมิตรคลุ้มคลั่งเป็นอย่างมากแล้วโกรธแค้นอย่างถึงที่สุด การเรียกร้องที่บ้าระห่ำ จนถึงที่สุดจึงพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “ข้อเรียกร้องของเธอ ผมรับปากแล้ว” พูดจบ จึงได้เรียกสาวใช้เข้ามา ออกคำสั่งให้พวกเธอเก็บกวาดห้องของกนกอร จันวิภาล้มลงอยู่บนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง สีหน้าขาวซีด แม้กระทั่งแรงที่จะด่าสุมิตรที่ไร้ยางอายก็ไม่มีเหลือเลย แต่เมื่อมองสุมิตรออกคำสั่งให้คนทำความสะอาดห้องให้กนกอร จากนั้นจึงได้วางใจ เมื่อตอนที่จันวิภาเกิดความรู้สึกเศร้าโศกเสียใจ ทันใดนั้นเองจึงได้มีมือข้างหนึ่งบีบคางของเธอเอาไว้ สุมิตรมองเธอลงมาจากที่สูง“เธอควรที่จะมีความสุขนะที่การทุ่มเทของเธอมันมีค่า อย่างน้อยเพื่อนของเธอก็ยังอยู่ จริงไหม?”น้ำเสียงของเขาเปี่ยมไปด้วยความเยาะเย้ยและถากถาง จันวิภาถลึงตาจ้องมองสุมิตรอย่างโหดเหี้ยม หากวันนี้ไม่ได้ทำเพื่อกนกอรแล้วล่ะก็ แม้ถึงตายเธอก็ไม่มีทางที่จะยอมทำตามความปรารถนาของสุมิตรอย่างแน่นอน สุมิตรยังคงหัวเราะเยาะจันวิภาอยู่ ก้มศีรษะลงมองเธอ“ครั้งหน้าตอนที่เธอเอากับผม ร่างกายก็ต้องช่วยๆกันหน่อย ไม่งั้นมันจะไม่ง่ายนะ!” “มันจะไม่มีครั้งที่สองอีก!”ในที่สุดจันวิภาก็พูดออกมาอย่างไร้ความอดทน เธออดกลั้นเอาไว้และไม่มองไปทางสุมิตรอีก แล้วหันหลัง “จะไม่มีครั้งที่สองอีก?”ด้านหลังของเธอเป็นเสียงที่เหยียดหยามของสุมิตร“เธอนี่ไม่ดูเลยว่าตัวเองเป็นใคร สกปรกแค่ไหน? ไม่ใช่แม้แต่ผู้หญิงพรหมจารี นังร่าน!แต่มันก็ไม่สำคัญ เธออย่ามาพูดให้มันมากเกินไป มันมีเวลาที่เธอยังต้องการผมอยู่” จันวิภาโกรธเสียจนหน้าแดงไปถึงใบหู เมื่อเห็นสุมิตรกำลังสวมใส่เสื้อผ้า จึงลุกขึ้น รีบสวมใส่เสื้อผ้าแล้วเตรียมตัวออกไป เสียงหัวเราะเยาะของสุมิตรที่เกิดได้อย่างถูกที่ถูกเวลาดังขึ้นมาอีกครั้ง “จันวิภา เธอจะเสแสร้งว่าเคารพรักตัวเองไปจนถึงเมื่อไหร่กัน? หากเธอรั้งเอาไว้ไม่ไหวแล้ว ต้องจำไว้ว่าต้องบอกผมล่วงหน้านะ!” ถอนหายใจออก จันวิภามองผ่านสุมิตรไป หลังจากสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว จึงเดินตรงออกจากห้องไป ความอึดอัดใจ โมโห อับอาย ทุกข์ระทม ปวดร้าว......ที่มีต่อสุมิตร น้ำตาของจันวิภาตกลงมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดอย่างถึงที่สุด..... อย่างไรก็ตาม เธอกลับไม่พบว่า สีหน้าของสุมิตรหลังจากที่เธอหันตัวเดินออกไป ได้เปลี่ยนเป็นอึมครึมขึ้นมาทันที เขากวาดสิ่งของทุกอย่างที่วางอยู่ด้านบนโต๊ะชงชาจนตกลงสู่พื้นอย่างระเนระนาด กระแทกหมัดเข้าไปที่กำแพงอย่างรุนแรง สายตาอึมครึม ราวกับจะถูเปลวไฟแผดเผา “จันวิภา ยัยผู้หญิงต่ำช้า เธอมีความทะนงตนขนาดไหนกันนะ ต้องเสแสร้งจนถึงตอนนี้เลยหรือไง?” สุมิตรโมโห ราตรีนี้ แม้แต่ตัวของเขาเองก็ยังไม่เคยเจอ ตนเองที่ควบคุมตัวไม่ได้มาก่อน …… จันวิภาลงไปที่ชั้นล่างอย่างจนตรอก เธอจัดการกับเสื้อผ้าของตนเองอยู่เล็กน้อย เมื่อหันศีรษะมองกลับไปจึงพบว่าห้องของสุมิตรได้ถูกปิดลงแล้ว จึงจะไปหากนกอรด้วยรอยยิ้มที่เข้มแข็ง กนกอรนั่งรอจันวิภาอยู่ข้างในห้องมาโดยตลอดด้วยท่าทีร้อนรน หลังจากเห็นจันวิภาเข้ามาแล้วเธอจึงรีบถลันไปข้างหน้าอย่างรีบเร่ง เพียงแค่ได้ยินจันวิภาเอ่ยปากพูด“กอร เธอวางใจนะ เธอสามารถอยู่ที่นี่ต่อได้”พูดจบ เธอจึงยิ้มให้กนกอร กนกอรได้ยินคำพูดนี้จึงรู้สึกปลื้มปีติเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเห็นสีหน้าของจันวิภาที่ขาวซีดอยู่นิดหน่อยแล้ว จึงเอ่ยปากขึ้นถาม “จัน เธอเป็นอะไรไป?” “ฉันสบายดี ไม่เป็นไร ฉันอยากออกไปเดินเล่นหน่อยน่ะ เธอไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ” จันวิภาพูดอย่างหมดแรง กนกอรรู้สึกตะหงิดใจ แต่ว่าก็ไม่ได้ปฏิเสธไป แล้วพยักหน้า ดังนั้นจันวิภาจึงจูงมือกนกอรเดินออกไป ออกไปจากบ้านวิบูลย์ธนภัณฑ์ จิตใจของเธอย่ำแย่ พากนกอรเดินไปอย่างไร้จุดมุ่งหมาย พวกเขาทั้งสองเดินอยู่บนถนนที่ด้านข้างติดกับสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง พวกเขาทั้งสองเดินตรงไปในสวนสาธารณะ ฟากฟ้ายิ่งมืดมดลงเรื่อยๆ “จัน พวกเรากลับกันเถอะ?”กนกอรพูด จันวิภาส่ายหัว ยกเปลืองตาขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง“กอร เราเดินกันต่อเถอะ ฉันอยากอยู่สงบๆ” แท้จริงแล้วเธออยากจะพูดขึ้นว่า เธอทุกข์ระทมเป็นอย่างมาก ภายในใจรู้สึกโศกเศร้า มันช่างโศกเศร้าเสียจริง......แต่เพียงแค่จะอ้าปาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ก็ยังโชคดี ที่เธอยังมีเพื่อนสนิทคอยอยู่เป็นเพื่อน! สุมิตรลงมาจากชั้นบน เดิมทีนั้นเขาคิดว่าจันวิภากับเพื่อนของเธอจะนั่งอยู่ในห้องอาหารชั้นล่าง แต่มันกลับว่างเปล่าไร้ผู้คน เขาขมวดคิ้วขึ้นมา สุมิตรจึงเอ่ยปากพูดขึ้น“เรียกจันวิภากับเพื่อนของเธอมากินข้าวชั้นล่าง” พูดจบ สุมิตรจึงนั่งลงอยู่ทางด้านหน้าของโต๊ะ และได้ยินเสียงของสาวใช้ตอบด้วยความเคารพ“นายน้อย คุณผู้หญิงกับคุณคนนั้นออกไปแล้วค่ะ” “ออกไปแล้ว? ตอนไหนกัน”สุมิตรสีหน้าอึมครึมเล็กน้อย
已经是最新一章了
加载中