ตอนที่ 27 ผู้ชายที่อยู่ในคืนนั้นเป็นใครกันแน่   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 27 ผู้ชายที่อยู่ในคืนนั้นเป็นใครกันแน่
ต๭นที่ 27 ผู้ชายที่อยู่ในคืนนั้นเป็นใครกันแน่ กนกอรสะบัดมือ บอกเป็นนัยว่าจันวิภาไม่ต้องกังวล เมื่อได้ยินดังนั้น จันวิภาจึงเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก“ไปตรวจดูสักหน่อยเถอะ จะทำอย่างไงถ้าเกิดมีอาการอื่นนอกจากน้ำตาลในเลือดต่ำ? และที่นี่สุมิตรสามารถให้แพทย์ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดได้” กนกอรบ่ายเบี่ยงอีกครั้งหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่อาจจะเปลี่ยนใจจันวิภาได้ ดังนั้นจึงรับปากไป สุมิตรก็ไม่ได้ปฏิเสธ โทรศัพท์หาแพทย์พิเศษแล้วออกคำสั่งให้รอเขาอยู่ที่โรงพยาบาล จากนั้นจึงขับรถออกไปส่งกนกอรที่โรงพยาบาล จันวิภาเห็นสถานการณ์ดังนั้นจึงวางใจแล้วกลับเข้าห้องของตนเองไป กนกอรไม่เป็นอะไรก้พอ เรื่องของเขากับสุมิตร ไว้ค่อยแก้กันวันหลัง! เมื่อคิดเช่นนี้ ทันใดนั้นเองจึงนึกขึ้นมาได้ทันทีว่ากนกอรนั้นกลัวการไปโรงพยาบาลอยู่เสมอ ตอนที่ไปก่อนหน้านั้น มีแค่ตนเองกับพัชรีที่ไปเป็นเพื่อน จึงกังวลใจขึ้นมาอยู่เล็กน้อย เธอเลยเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้งหนึ่ง ออกไปโบกรถแล้วรีบไปโรงพยาบาลทันที สุมิตรกับกนกอรมาถึงโรงพยาบาลอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นหลังจากที่จันวิภาลงจากรถจึงเดินเข้าไปถามพยาบาลที่อยู่ตรงประตูว่ามุมิตรเดินไปทางไหนแล้ว จันวิภารีบขึ้นไปชั้นบน พยาบาลคนนั้นบอกแต่เพียงว่าอยู่ที่แผนกต่อมไร้ท่อชั้นสาม เธอไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน จันวิภาจึงวิ่งขึ้นไปชั้นสาม จากนั้นจึงมองหาสุมิตรกับกนกอรอยู่ในห้องของชั้นสาม ทันใดนั้นเอง จันวิภาก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวอยู่ตรงห้องผู้ป่วยที่อยู่ด้านข้าง เสียงนี้มันเหมือนกับเสียงที่เธอได้ยินอยู่ตรงบันไดมาก่อน และมันเป็นเสียงครางที่ราวกับจะขาดใจ จันวิภางุนงง จากนั้นจึงเดินไปที่ด้านหน้าของหน้าต่างทันที เพื่อต้องที่การจะดูข้างในห้อง เห็นแต่เพียงห้องคนไข้วุ่นยุ่งเหยิงเป็นอย่างมาก เสื้อผ้าถูกโยนออกไปกระจัดกระจาย จันวิภาเปลี่ยนมุมไปมองที่เตียงคนไข้ นั่นทำให้เธอสูดหายใจที่เย็นยะเยือกเข้าไปทันที เธอเห็นสุมิตรกับกนกอรทั้งสองคนกำลังเอนตัวอยู่บนเตียง กำลังมีความสัมพันธ์กันอย่างสนุกสนาน...... ภาพเช่นนี้......ทำให้จันวิภาถึงกับยืนอึ้งตะลึง ทันใดนั้นเอง เสียงครางของกนกอรก็ได้เข้าทะลุเข้ามาในรูหูของเธอ จันวิภาจึงจะได้สติกลับมา และมีท่าทีตอบสนอง เธอมองไปข้างในห้องผู้ป่วยอีกครั้งหนึ่ง ทันใดนั้นความโกรธก็ได้ลุกลามข้นมาทันที มันมากเกินที่จะทนแล้ว จันวิภาผลักประตูห้องผู้ป่วยอย่างรุนแรง จากนั้นจึงเดินเข้าไป ตระโกนออกมาด้วยความโมโห“พวกเธอสองคนทำอะไรกันหะ?!” สุมิตรและกนกอรหยุดชะงักลงทันที แล้วหันหน้าจ้องมองไปทางจันวิภา ใบหน้าของสุมิตรไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมามากมายนัก สีหน้ายังคงเย็นชา กนกอรมีอาการตกใจอยู่นิดหน่อย รูม่านตาเบิกกว้าง จันวิภากัดฟัน ภายในระยะเวลาอันสั้นนี้ไม่สามารถที่จะดูแลได้มากมายขนาดนั้น เธอเอ่ยปากพูดออกมาอย่างเงียบสงัด“กอร เธอออกไปก่อน ฉันมีเรื่องจะคุยกับสุมิตร” กนกอรรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว รีบสวมเสื้อผ้าให้เสร็จ จากนั้นจึงเดินออกไป หลังจากที่รอกนกอรเดินออกไป จันวิภาจึงจะเดินเข้ามาข้างหน้า จ้องมองสุมิตรอย่างเยือกเย็น กัดฟันจนแน่น สุมิตรก็มองเธออย่างเย็นชาเช่นกัน แต่กลับไม่มีคำพูดอะไรออกมา “นายคิดอะไรอยู่กันแน่? ทำร้ายแค่ฉันคนเดียวมันไม่พอใช่มั้ย ยังจะต้องดึงกนกอรเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีก?”จันวิภาถามด้วยความโมโห ด้วยน้ำเสียงแทบจะตะโกนออกมา แต่ทว่าสุมิตรกลับยักไหล่ขึ้นมา และไม่มีท่าทีตอบสนองอะไร เพียงแค่จ้องมองเธออย่างเยือกเย็นเพื่อดูว่าเธอยังจะพูดอะไรต่ออีก เมื่อจันวิภาเห็นเขาไม่พูด จึงโมโหยิ่งขึ้นไปอีก“ทำไม? ฉันพูดถูกงั้นหรอ? นายต้องการที่จะทำร้ายทุกคนที่อยู่รอบตัวฉันเลยหรือไง? นายเข้าใจไหม ว่านายเป็นสามีของฉัน พวกเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย!” สามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย?!สุมิตรอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอยู่ในใจ “ดังนั้น? เธออยากจะพูดอะไรกันแน่?”สุมิตรยิ้มขึ้นมา เขายิ้มแล้วเอ่ยถาม แทนที่จะถามคำถาม มันกลับเป็นการยั่วยุเสียมากกว่า สุมิตรชื่นชอบในการมองดูท่าทีที่โกรธเกรี้ยวของเธอ เธอช่างดูบ้าคลั่งและดุร้าย จันวิภางุนงง หายใจถี่ยิบ สุมิตรคนนี้ช่างไร้ยางอายเสียจริง! “ดังนั้น นายเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว นอกใจไปแอบมีอะไรลับๆกับพี่น้องของภรรยาตัวเอง นายไม่รู้จริงๆหรอไงว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่?” บรรยากาศในห้องผู้ป่วยดูราวกับจะแข็งตัวขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น เมื่อเห็นจันวิภามีท่าทีไม่พอใจ สุมิตรจึงไม่ได้อธิบายอะไรอีก และรู้สึกขำขันอยู่เล็กน้อย “ทำไม? หรือ“ภรรยา”ของฉันจะมาเอาใจฉันกับเพื่อนสนิทของเธอด้วย?”สุมิตรยกมุมปากขึ้นแล้วกล่าว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความขี้เล่น จันวิภากัดฟันจนแน่น โกรธเสียจนตัวสั่น จึงตระโกนด่าทอออกไป“นาย นายนี่มันไร้ยางอายจริงๆ!ทำไมนายถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้กันนะ!!!” สุมิตรเขยิบเข้ามาใกล้กับจันวิภา ลูบไปที่แก้มของเธออย่างเบาๆ แล้วเอ่ยปากพูดขึ้น“งั้นเธอมาแทนเพื่อนสนิทของเธอละกัน” พูดจบ มือของเขาก็เริ่มที่จะไม่อยู่นิ่ง จันวิภาสะดุ้งตกใจโหยง ตระโกนด่าออกไปทันที“สุมิตร!นายนี่สารเลวจริงๆ นายรู้มั้ยว่าอะไรเรียกว่าจริยธรรมน่ะหะ?” สุมิตรถลึงตามองอย่างดุดัน ถ้าหากว่าสายตาสามารถที่จะฆ่าคนได้แล้วล่ะก็ สุมิตรก็ไม่รู้ว่าฆ่าเธอไปกี่ครั้งแล้ว จากนั้น ท่าทีที่ตอบสนองต่อจันวิภากลับเป็นรอยยิ้มที่เยือกเย็นของสุมิตร เขาพูดกระซิบด้วยความโมโห“เธอกล้าพูดอย่างนี้กับผมหรอ จันวิภา ตัวเธอเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่บริสุทธิ์ มีสิทธิ์อะไรที่จะพูดอย่างทะนงตนเช่นนี้กัน? ก็ดี งั้นเธอบอกผมมาสิ ว่าที่จริงแล้วคืนแรกของเธอเสียให้ใคร?” จันวิภาใบหน้าขาวซีด มีความเก้อเขินอยู่นิดหน่อย เธอไม่อาจที่จะพูดได้ว่าได้ถูกแม่เลี้ยงของตนเองขายไปในคืนแรกของการแต่งงาน ผลลัพธ์คือเธอหลบหนีออกมาแล้ว แต่กลับถูกคนแปลกหน้าอีกคนหนึ่งแย่งชิงเอาไป? “ฉัน......ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร......”จันวิภากัดริมฝีปาก ผู้ชายในคืนนั้น เธอไม่ได้เห็นใบหน้าเขาอย่างชัดเจน สุมิตรตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา“เธอไปนอนกับคนอื่นและไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครงั้นหรอ? จันวิภา นี่เธอสารเลวขนาดไหนกัน เธอคิดว่าเธอพูดอธิบายเช่นนี้แล้วผมจะเชื่องั้นหรอ? อีตัวอย่างไงก็ยังเป็นอีตัวอยู่ดี!” “จะเชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของนาย ฉันพูดอธิบายไปแล้ว และไม่อยากพูดซ้ำอีกแล้ว”เรื่องของคืนนั้น มันไม่ใช่ความปรารถนาของเธอ สำหรับชายคนนั้น เธอไม่อยากที่จะเอ่ยถึงอีกต่อไป ประโยคนี้ของจันวิภาทำให้สุมิตรไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาฉุนเฉียวแล้วบีบคางของเธอเอาไว้จนแน่น พูดออกไปด้วยความโกรธ“แม้แต่คนที่นอนด้วยเธอก็ยังเห็นไม่ชัด จะนอนกับใครก็ได้งั้นหรอ? ผมนี่ประเมินความสามารถของเธอต่ำไปจริงๆ ดูเหมือนว่าผมจะคิดถูกแล้วที่ส่งเธอไปประมูล เธอนี่ร่วมสุขกับใครก็ได้จริงๆ” จันวิภาหน้าแดง ถูกสุมิตรพูดดูถูกถากถางเช่นนี้ มันช่างทำให้น่าอับอายและโกรธแค้นยิ่งนัก แต่กลับไม่สามารถที่จะตอบโต้อะไรได้เลย ดังนั้นจึงหุบปากเงียบ ก้มหัวลง แล้วไม่พูดถึงอีกต่อไป เมื่อเห็นจันวิภาที่มีท่าทางเช่นนี้ ภายในใจของสุมิตรจึงเกิดความรู้สึกกลัดกลุ้ม เพียงแค่คิดว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์ เธอพลีร่างกายให้ผู้ชายคนอื่น เขาก็โกรธจนคลั่งขึ้นมาทันที
已经是最新一章了
加载中